เล่ห์ลวงบ่วงซาตาน
บทที่ 6
คุณปู่
“สวยใช่ไหม” ประโยคคำถามนั้นให้ดาวเหนือหันไปมอง กำนันยศกำลังเดินมาหาด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ สวย” เด็กน้อยเอ่ยตอบออกไป
“ปู่ชอบมานั่งเล่น จิบน้ำชาที่นี่บ่อยๆ ไปๆ ไปนั่งคุยกันสักหน่อย” กำนันยศจับที่บ่าเล็กๆ ของดาวเหนือ ท่านสัมผัสได้ว่าเด็กน้อยมีอาการเกร็งจึงพูดเบาๆ ให้อีกฝ่ายหายเกร็ง
“ไม่ต้องกลัวปู่หรอกนะ เธออาจจะยังเด็กแต่ก็คงรู้เรื่องราวทุกอย่าง เรื่องครอบครัวของเธอ ปู่ขอโทษนะ ปู่เองก็ทำไม่ดีเอาไว้กับครอบครัวของหลาน” คนพูดถอนใจเฮือกใหญ่ ทำให้ดาวเหนือต้องเงยหน้ามองด้วยความสงสัย
กำนันยศไม่ใช่คนโง่ เขาให้หมอตรวจดีเอ็นเอดูแล้วว่าดาวเหนือเป็นลูกของยอดชายจริงหรือเปล่า ผลปรากฏว่าใช่ เขาจึงยอมรับเป็นหลานแต่โดยดี อีกทั้งดาวเหนือก็ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เพราะไม่งั้นก็คงตายไปแล้ว ถือว่าบุญคุณใหญ่หลวงนัก ชีวิตคนเราตายครั้งเดียว ไม่มีใครตายแล้วฟื้นหรอก รอดมาได้ถือว่ายังมีบุญ ดังนั้นท่านจึงอยากตอบแทนบุญคุณ อุปการะหลานสาวมาเลี้ยงให้ดีอย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่คราแรก
“มานั่งกินขนมกับปู่ก่อน เดี๋ยวให้คนยกขนมกับน้ำหวานเย็นๆ มาให้” กำนันยศสั่งสาวใช้ให้นำขนมอร่อยๆ กับน้ำหวานเย็นๆ มาให้เด็กน้อย
“ขนมเค้ก เคยกินไหม” กำนันยศเอ่ยถาม ดาวเหนือก็ส่ายหน้าไปมา
“เป็นเค้กช็อกโกแลต ธนิดาเขาชอบ เขาว่าอร่อย เลยซื้อติดบ้านเอาไว้ เธอลองชิมดูสิ”
ดาวเหนือกล้าๆ กลัวๆ ไม่ค่อยกล้าตักกิน แต่กำนันยศก็พยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม บอกว่าให้กินเถอะ นั่นทำให้เด็กน้อยกล้าตักมาชิมดูว่าอร่อยแค่ไหน
เค้กนุ่มละมุนลิ้น รสชาติของช็อกโกแลตกลมกล่อม หวานมันอร่อยจนอยากกินอีกเยอะๆ ทำให้เด็กน้อยตักกินอีกเป็นคำที่สองและสามตามมาเรื่อย ๆ จนพร่องไปเกือบครึ่ง พร้อมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ที่ระบายบนใบหน้า
“น้ำหวานเย็นๆ กินแล้วจะได้สดชื่น เธอคงหิวเพราะนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ต้องรอคนในครัวทำอาหารกันก่อน เสร็จแล้วจะได้กินด้วยกัน”
“ขอบคุณค่ะ” ดาวเหนือยกมือไหว้กำนันยศ รู้สึกว่าท่านก็ดูใจดีเหมือนกัน ไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างก่อนหน้า
“วันนั้นปู่ขอบใจอีกครั้งนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่สอนว่าให้ช่วยเหลือคนที่ลำบากค่ะ เราจะได้บุญ” ประโยคนั้นทำให้กำนันยศนึกสะท้อนใจไม่น้อย มารดาของดาวเหนือสอนลูกได้ดี แตกต่างจากพิมพ์จันทร์ลูกสะใภ้ที่ท่านอยากได้นักหนา
“แม่ของเธอช่างเป็นคนดีจริงๆ เลยนะ” กำนันยศถอนใจ
“วันนั้นเธอไปตามคนมาช่วยแล้วหายไปเลย ปู่คิดว่าจะตายเสียแล้ว” กำนันยศเท้าความถึงเรื่องวันนั้น แต่ก็ยังนึกขอบใจเด็กน้อยอยู่เช่นเดิม เพราะท่านกำลังจะขาดใจตายอยู่ในหลุม ถ้าไม่เพราะเด็กน้อยใช้ไหวพริบ กัดฟันช่วยเขาขึ้นมาได้ เขาก็คงจะไม่รอด ตายไปแล้วนั่นเอง
“หนูไปตามคนมาช่วยค่ะ แต่ไม่มีใครเชื่อ หาว่าหนูเป็นหัวขโมย จะเข้าไปขโมยของในบ้าน” ดาวเหนือพูดอย่าง
“หมายความว่ายังไง” กำนันยศขมวดคิ้วขณะเอ่ยถาม
“วันนั้นหนูวิ่งมาที่บ้าน เจอกับธนิดาเลยบอกว่าคุณปู่กำลังบาดเจ็บให้ช่วยบอกคนในบ้านหรือไปตามคนมาช่วยหน่อย แต่ธนิดาหาว่าดาวเหนือโกหก แถมยังไปตามสาวใช้มาตีดาวเหนือด้วย พอคุณยอดชายกับคุณพิมพ์จันทร์ออกมา ก็ต่อว่าดาวเหนือเป็นหัวขโมย แล้วก็ตบดาวเหนือค่ะ” เธอไม่เคยกล้าเรียกยอดชายว่าพ่อ เพราะเขามิได้ปรารถนาให้เธอเรียก
“มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆ เหรอ”
“ใช่ค่ะ หนูไม่ได้โกหก” มารดาสอนให้พูดความจริง เธอก็เล่าทั้งหมด ไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย
“กำนันคะ มีโทรศัพท์ค่ะ” สาวใช้เข้ามารายงาน กำนันยศจึงเอ่ยขอตัวจากเด็กน้อยชั่วครู่
“นั่งกินเค้กกับน้ำหวานไปก่อนนะ เดี๋ยวปู่มา”
“ค่ะ” เด็กน้อยรับคำ ตักเค้กรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย
“คุณแม่ นั่นมันนังดาวเหนือนี่คะ มันกินเค้กช็อกโกแลตร้านโปรดราคาแพงของหนูได้ยังไง มันกล้าดียังไง หนูไม่ยอมนะคะคุณแม่ ไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอม!”
สองแม่ลูกที่เดินเข้ามาในสวนดอกไม้หลังบ้านชะงัก พอพิมพ์จันทร์ได้ยินบุตรสาวพูดเช่นนั้น ก็รีบเดินเร็วๆ เข้าไปจิกหัวของเด็กน้อยขึ้นมาด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
“โอ๊ย!” ดาวเหนือร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บและตกใจเป็นอันมาก
“แกกล้าดียังไงมากินเค้กช็อกโกแลตราคาแพงของลูกสาวฉัน คายออมมา คายออกมานังเด็กชั้นต่ำ นังลูกเมียน้อย นังกาลกิณี”
พิมพ์จันทร์ทั้งจิกผม ทั้งทุบตี บีบคางจนดาวเหนือสะลัก สำรอกเค้กออกมาเป็นก้อนๆ ไอติดกันจนหูตาแดงไปหมด น้ำหูน้ำตาไหล เค้กแทบติดคอตาย
“นังดาวเหนือ แกมันเป็นพวกหัวขโมย แกขโมยเค้กของฉันกินอย่างนั้นเหรอ” ธนิดาเข้าไปทำร้ายดาวเหนืออย่างบ้าคลั่ง ดาวเหนือพอตั้งสติได้ก็ถีบเข้าตรงยอดอกของธนิดาเต็มแรง
“โอ๊ย!” ธนิดาร้องเสียงหลง หงายหลังล้มลงก้นจ้ำเบ้า
“แม่จ๋า มันทำหนู” ธนิดาร้องไห้จ้า รีบฟ้องมารดาใหช่วยจัดการในทันที
“นังเด็กสารเลว มึงกล้าทำลูกกูเหรอ อย่าอยู่เลยมึง ตายเสียเถอะ” พิมพ์จันทร์ตรงเข้าไปทำร้ายดาวเหนือด้วยความโกรธที่อีกฝ่ายทำร้ายลูกสาวของตน แต่คราวนี้ดาวเหนือไม่ยอมให้ทำฝ่ายเดียว เธอตั้งหลักได้ก็รีบหลบ ก่อนจะกระโดดกัดแขนของพิมพ์จันทร์เต็มแรง
“โอ๊ย! นังเด็กเปรต เจ็บนะโว้ย! เป็นหมาหรือไง” เพราะโดนกัดจนจมเขี้ยว ทำให้พิมพ์จันทร์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด สะบัดแขนจนหลุดจากการกัดของเด็กน้อย
ดาวเหนือรีบถอยหนีไปตั้งหลัก พิมพ์จันทร์ตรงเข้าไปกระชากผมของดาวเหนือ แล้วทำท่าจะตบสั่งสอนให้เลือดกบปาก แต่เสียงประกาศิตของพ่อสามีก็ทำให้เธอต้องง้างมือค้าง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพิมพ์จันทร์!” เสียงนั้นทำให้ดาวเหนือรีบดิ้นหนี วิ่งไปหลบหลังกำนันยศในทันที รู้ว่าตอนนี้กำนันยศคือที่พึ่งเดียวของเธอ
“คุณพ่อ! ห้ามพิมพ์ทำไมคะ”
“แล้วเธอกำลังจะทำอะไร ตบเด็กอย่างนั้นเหรอ”
“ก็นังเด็กเปรตนี่มันทำร้ายลูกสาวของพิมพ์ มันเตะ ธนิดาจนกระเด็น”
“จริงเหรอดาวเหนือ” กำนันยศหันไปถาม ทำให้พิมพ์จันทร์แทบจะกรีดร้อง ที่พ่อผัวไม่เชื่อตน ยังต้องหันไปถามนังเด็กนั่นอีก จะรักจะหลงอะไรกันนักหนา ถ้าขืนให้มันอยู่ที่นี่ ต่อไปคงยกทรัพย์สมบัติให้มันจนหมด
ดาวเหนือสวยเหมือนแม่ เค้าความสวยนั้นไม่แตกต่างจากมารดาเลย แม้มารดาจะสติไม่ดี แต่ใครๆ ก็รู้ว่าอนงค์นางสวยจับจิตจับใจขนาดไหน โตขึ้นไม่แน่กำนันยศไม่มีเมีย เพราะเมียตายมานนาหลายปี อาจจะอยากเป็นเฒ่าหัวงู อยากเคลมเด็กที่อุปการะเลี้ยงดูเอาไว้ก็ได้ เรื่องที่จะรับมันเป็นหลายอีกคน เธอก็ไม่คิดหรอกว่าจะอยากรับเป็นหลานจริงๆ เพราะนังแม่มันสำส่อน ผู้ชายมากมายล้อมหน้าล้อมหลัง ที่ท้องโย้ก็ไม่รู้ลูกใคร กำนันยศเองก็คงไม่คิดหรอกว่าดาวเหนือเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเอง
“จริงค่ะ แต่คุณพิมพ์จันทร์จิกผมหนูก่อน แล้วธนิดาก็เข้ามาทำร้าย หนูเลยป้องกันตัว” เธอเล่าไปตามจริง เมื่อมีโอกาสได้พูดก็ต้องพูด
“เธอทำเด็กมันก่อนเหรอพิมพ์”
“แล้วมันกล้าดียังไงมากินเค้กช็อกโกแลตของยายดา หนูก็ต้องจัดการสั่งสอนมันน่ะสิคะ”
“ฉันเป็นคนสั่งให้คนยกมาให้ดาวเหนือกินเองแหละ เธอมีปัญหาอะไร”