เล่ห์ลวงบ่วงซาตาน
บทที่ 5
ชีวิตท่ามกลางคนใจร้าย
พิมพ์จันทร์กัดฟันกรอด เธอคิดว่าพอดาวเหนือโตขึ้นอีกหน่อย จะส่งคนไปข่มขืนให้ท้องโย้ไม่มีพ่อ เพราะมันอยู่กระท่อมหลังบ้านแบบนั้นไม่มีใครไปยุ่ง เธอจะจัดการทรมานมันให้หนัก ให้มันหาผักหาหญ้า หาเผือกหามันกิน ไม่ให้เรียนหนังสือ แต่ไม่คิดเลยว่าชะตาชีวิตจะเล่นตลกถึงเพียงนี้ มันดันไปช่วยเหลือพ่อสามีของเธอจนกลายเป็นผู้มีพระคุณ ต้องตอบแทนพาเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน
มันน่าเจ็บใจนัก!!!
หลังเสร็จสิ้นงานศพของทับทิม ญาติซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของเธอ เด็กน้อยก็เอาแต่นั่งใจลอยอยู่ในกระท่อมเก่าๆ ที่ตัวเองอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้
กระท่อมหลังนี้อยู่ด้านหลังของบ้านกำนันยศ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่อันโอ่อ่า สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ทุกวันเธอจะต้องตื่นแต่เช้าไปช่วยงานในครัว กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจานและช่วยทำกับข้าว หั่นผัก กว่าจะได้กินอาหารก็อาบเหงื่อต่างน้ำ
พอสาวใช้ในบ้านแบ่งอาหารมาให้ก็ดีใจ แต่ถ้าวันไหนโดนสองแม่ลูกแกล้งไปหาผักหาหญ้ากินเองก็อด เธอไม่เข้าใจว่าทำไมชีวิตจะต้องเจอกับอะไรแบบนี้
ย้อนไปก่อนที่มารดายังไม่เสียชีวิต บิดาเคยมาหามารดาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยไยดีเธอเลย เสื้อผ้าสวยๆ ดีๆ หรือของกินดีๆ ก็ไม่เคยซื้อให้กิน หรือเอาอะไรมาฝากเลย แตกต่างจากธนิดาที่ได้ทุกอย่างราวเนรมิต
ภวังค์ความคิดของเด็กน้อยจบลงเมื่อได้ยินเสียงของกำนันยศ เอ่ยขึ้น
“คิดอะไรอยู่ นั่งใจลอยเชียว”
“ค่ะ”
“ไปอยู่ที่บ้านใหญ่ด้วยกัน ต่อจากนี้ไปไม่ต้องตื่นมาทำงานแล้วนะ ปู่จะส่งให้หลานเรียนเอง หากไม่ได้หลาน ปู่คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้อีก” บุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ ท่านก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ
“ปู่เหรอคะ” ประโยคของเด็กน้อยเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ใช่ ต่อจากนี้ไปเรียกฉันว่าปู่ ฉันจะรับเธอเป็นหลานเธอจะเป็นหลานของฉันจริงๆ จากสายเลือดของยอดชายหรือไม่ ฉันไม่สน แต่ฉันจะรับเธอเป็นหลาน มีสิทธิ์เท่าเทียมกับธนิดาทุกประการ ฉันจะแบ่งทรัพย์สมบัติที่เธอควรจะได้รับให้เธอนะดาวเหนือ” ประโยคนั้นทำให้ดาวเหนือรู้สึกทั้งตกใจและดีใจไม่น้อย ไม่คิดว่าตนเองจะโชคดีถึงเพียงนี้
ดาวเหนือตามกำนันยศไปอยู่ที่บ้านใหญ่ เธอได้รับสายตาเกลียดชังจากทุกคนในบ้านส่งมาให้ เมื่อร่างเล็กๆ กอดกระเป๋าใบเก่าคลานเข้าไปนั่งบนพื้นขัดเงาราคาแพงของบ้านเรือนไทยหลังใหญ่
“ให้คนจัดห้องหรือยังพิมพ์จันทร์” กำนันยศเอ่ยถามลูกสะใภ้
“โอ๊ย! จัดห้องอะไรกันล่ะคะ ใครจะไปว่าง ทุกคนยุ่งกันจะตาย” พิมพ์จันทร์สะบัดเสียงอย่างไม่พอใจเป็นอันมาก ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจที่นังเด็กที่เกลียดแสนเกลียดจะได้ดิบได้ดี เกลียดแม่มันยังไง เธอก็เกลียดลูกมันร้อยเท่าพันเท่า เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าถึงยอดชายจะระแวงว่าอนงค์นางจะมีชู้หรือลักลอบได้เสียกับผู้ชายอื่น ก็ปรารถนานังผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้นอยู่เสมอ ถึงได้พาเข้ามาอยู่ในบ้าน ให้บำเรอกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ตายไปแล้วก็ยังจะมีลูกของมันเป็นหอกข้างแคร่ ขวางหูขวางตาคอยจะชุบมือเปิบทรัพย์สมบัติของพ่อสามีเธออยู่อีก
“แต่พ่อสั่งเอาไว้แล้ว”
“คุณพ่อก็พามันไปอยู่เรือนคนใช้ทางด้านหลังสิคะ ย้ายจากกระท่อมสับปะรังเคมาอยู่เรือนคนใช้ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“พิมพ์จันทร์” กำนันยศเรียกลูกสะใภ้เสียงหนัก
“หนูขอแนะนำคุณพ่ออีกอย่างนะคะ ให้มันทำความสะอาดห้องเอง มันเป็นขี้ข้าเหมือนคนอื่น จะมาทำตัวเสมอนายบ้านนี้ไม่ได้ จะใช้ให้คนโน่นคนนี้ทำงานรับใช้ไม่ได้หรอกนะคะ”
กำนันยศถึงกับถอนใจเมื่อได้ยินประโยคของลูกสะใภ้
“อีกอย่างฉันจะบอกแกเอาไว้ด้วยว่าอย่ามาตีตัวเสมอธนิดาลูกสาวของฉัน แกมันเป็นเพียงแค่ยาจก ไม่ใช่ดอกฟ้าเหมือนลูกฉัน” พิมพ์จันทร์หันไปถลึงตาใส่ ก่อนจะจูงมือของลูกสาวตัวน้อยให้เดินตามออกไป
ธนิดาหันมาเบ้ปากใส่อย่างชิงชัง ดาวเหนือเห็นแล้วรู้สึกไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้อีกต่อไปแล้ว แต่เธอยังเด็กไม่รู้ว่าจะหนีไปอยู่ที่ไหน
“ผมก็ต้องขอตัวก่อนนะครับพ่อ ผมมีธุระ”
“ธุระของแกคือไปบ่อนน่ะเหรอ เพลาๆ ลงบ้างเถอะ ทั้งไก่ชน วัวชน แพ้ทีละหลายๆ แสน จะหมดตัวเอาได้” นี่คือสิ่งที่กำนันยศเป็นกังวลในขณะนี้
“เงินเรามีตั้งมากมาย จะแพ้เป็นแสนเป็นล้านขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงหรอกครับ” ยอดชายตอบแล้วเดินลงจากบ้านไป เรียกลูกน้องคนสนิทมาขับรถให้อย่างหงุดหงิด
กำนันยศได้แต่ถอนใจเฮือกใหญ่ หันไปที่เด็กน้อยที่นั่งกอดกระเป๋าเอาไว้แน่นด้วยความเวทนา
“ตามปู่มานี่สิ” กำนันยศพาเด็กน้อยไปที่ห้องพัก
“สุรีเธอช่วยปัดกวาดเช็ดถูห้องให้ดาวเหนือด้วยนะ ต่อไปดาวเหนือจะมาอยู่บ้านใหญ่กับฉัน ฉันแจ้งทุกคนไปแล้วว่าดาวเหนือจะมาอยู่ในฐานะหลานสาวของฉันอีกคนเหมือนธนิดา ทุกคนต้องช่วยกันดูแลดาวเหนือ เพราะดาวเหนือถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณช่วยเหลือชีวิตฉันเอาไว้”
“ค่ะกำนัน” สุรียิ้มรับ พอลับหลังกำนันยศไปแล้ว สุรีก็ไปนำอุปกรณ์ทำความสะอาด ทั้งไม้กวาด ไม้ขนไก่ ผ้าขี้ริ้ว อุปกรณ์ถูพื้นมาให้กับเด็กน้อย
“ห้องของแก แกก็ทำเองแล้วกัน จะมาใช้คนในบ้านนี้ไม่ได้หรอกนะ แกไม่ได้เป็นนาย แต่เป็นแค่ขี้ข้าเข้าใจไหม” ถึงกำนันยศจะบอกว่ารับดาวเหนือเป็นหลานอีกคนอย่างเป็นทางการ แต่สุรีเป็นคนของพิมพ์จันทร์ นายสาวไม่ชอบใคร เธอก็ไม่ชอบคนนั้นด้วย
“ค่ะ” ดาวเหนือรับคำ เธอไม่อยากมีปากเสียงหรือมีปัญหากับใครให้มากความ อะไรทำได้ก็อยากจะทำเอง เขาไม่เต็มใจจะทำให้ เธอจะไปบังคับได้อย่างไรกัน เธอเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ เท่านั้น
“ดีแล้ว คนอื่นเขาก็ยุ่งกัน ไม่มีเวลามารับใช้เด็กจรจัดอย่างแกหรอก เจียมกะลาหัวเอาไว้เสียด้วย” ประโยคของสุรีทำให้ดาวเหนือกำมือแน่น ถ้าไม่เพราะเธอเป็นกำพร้า โดนด่าแบบนี้เธอจะกระโดดกัดสุรีให้จมเขี้ยวเลย
ดาวเหนือกวาดห้องถูห้องจนเหนื่อย มองสำรวจห้องอีกครั้ง พบว่ามันสะอาดเอี่ยมแล้ว
ห้องพักของเธอกว้าง มีห้องน้ำในตัว มีตู้เสื้อผ้า มีเตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง ทำให้เด็กน้อยรู้สึกอุ่นใจที่อย่างน้อยก็มีที่ซุกหัวนอนดีๆ ไม่ใช่กระท่อมหลังเก่าที่มีรูรั้วเต็มไปหมด
เธอถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำอาบท่าและเดินออกไปจากห้อง กลิ่นของอาหารในห้องครัวทำให้เธอรู้สึกหิวจนต้องลูบท้องไปมา ไปชะเง้อคอมองก็เห็นว่าคนรับใช้ของบ้านกำลังทำอาหารกันอย่างแข็งขัน
“มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ คิดจะมาขโมยของหรือไงฮะ” สุรีตวาดลั่น ทำเอาคนรับใช้คนอื่นๆ หันมามองเป็นตาเดียวกัน
“เปล่าจ้ะ หนูแค่จะมาช่วยทำงาน มีอะไรให้ทำบ้างจ๊ะ”
แกนี่นะจะทำงาน ถ้ากำนันรู้เข้าพวกเราได้ถูกด่าน่ะสิ จะไสหัวไปไหนก็ไปเถอะ จะมาทำให้คนอื่นเขาวุ่นวายทำไม” สุรีไล่ตะเพิด ดาวเหนือรีบวิ่งหนีออกมาอย่างตกใจ เพราะอย่างไรเธอก็ยังเด็ก ขืนทำให้ผู้ใหญ่ไม่พอใจได้โดนตบเลือดกบปากแน่ ๆ สุรียิ่งเหมือนนางยักษ์อยู่ด้วย
พอวิ่งออกมาพักใหญ่ก็หยุดหอบหายใจเพราะเหนื่อย พอมองไปรอบกายก็เห็นว่าเป็นสวนดอกไม้
“ว้าว! ทำไมที่นี่สวยจัง” เธออ้าปากค้างมองไปรอบกายที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังมีผีเสื้อมากมายโบยบินอยู่ในสวน บรรยากาศดี อากาศสดชื่นทำให้เด็กน้อยเผยยิ้มกว้างในทันที เธอไม่เคยเฉียดกลายเข้ามาตรงสวนดอกไม้กว้างขวางของบ้านใหญ่ มาทำงานก็แค่ก้นครัวหรือปัดกวาดเช็ดถูบันไดบ้าน ก่อนจะเดินกลับกระท่อม พอได้เห็นอะไรสวยๆ แบบนี้ก็รู้สึกดีไม่น้อย