บทที่ 4
ฝันอันไกลห่าง
“ทีนี้เข้าใจหรือยังว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณขัดคำสั่งของผม”
“ฉันจะไปหาลูก”
“และหลังจากนี้คุณจะไม่มีสิทธิ์กอดพวกเขาอีก!”
แมทเทียสจับร่างเล็กหมุนกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ลักษณ์นาราเจ็บที่ข้อนิ้วทั้งห้ายังไม่หาย มันทั้งชาและรวดร้าวจนเธออยากกลั้นใจ นึกไม่ถึงว่าเขาจะร้ายกาจและเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัสและรับรู้ หญิงสาวเม้มปากแน่นทั้งที่น้ำตายังไหลขณะร่างสูงใหญ่จับไหล่บางทั้งสองไว้แน่น ใบหน้าคมคร้ามขึ้งเคียดตลอดเวลา นัยน์ตาของเขาขุ่นข้นและเป็นประกายวาวโรจน์
“ยังมีบทลงโทษอีกเยอะถ้าคุณอยากลองดีกับผม”
“คุณใจร้ายมาก แมท” เธอเสียงแห้ง “ปั๊บกับปุนต์เป็นลูกของฉัน ลูกเป็นของฉัน”
“คุณจะไม่มีวันได้ครอบครองพวกเขา!” เขาเค้นเสียงหนัก “ขนาดคุณท้องยังใช้ลูกเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ผมไม่อยากคิดว่าถ้าวันหนึ่งลูกโตขึ้นคุณจะใช้พวกเขาแลกกับอะไรที่คุณอยากได้ถ้าไม่ใช่เงิน!”
“คิดอะไรบ้าๆ!...ฉันเป็นแม่และจะไม่มีวันทำอะไรอย่างที่คุณคิด”
“อ้อเหรอ...แล้วที่ผ่านมานั่นคุณทำอะไร ที่หลอกเอาเงินแม่ผมไปนั่นไม่ใช่เอาลูกมาเป็นข้ออ้างเพื่อหาผลประโยชน์หรอกรึ”
“ฉันจะไม่อธิบายอะไรคุณ”
“และผมก็จะไม่ฟัง!”
แมทเทียสผลักร่างบางจนเซลงไปนั่งบนเก้าอี้ก่อนที่เขาจะโถมตัวตามลงไป ยันแขนข้างหนึ่งบนพนักและอีกข้างจับปลายคางหญิงสาวบีบมันจนแน่นเพื่อบังคับให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นเผชิญกับเขา ร่างบอบบางหายใจหอบเพราะทุกการกระทำของผู้ชายที่เธอเคยรักเขาสุดหัวใจเต็มไปด้วยความคั่งแค้นและปราศจากความปราณี
“ต่อแต่นี้คุณต้องฟังผมและอย่าได้คิดว่าจะทำในสิ่งที่คุณคาดหวังอย่างเมื่อก่อน ลูกจะเป็นสิทธิ์ของผมคนเดียว และถ้าอยากลองดีหรือคิดขัดคำสั่งผมตอนนี้คนที่เสียใจสุดคือแม่ของคุณ”
“แมทเทียส”
ชายหนุ่มยิ้มร้าย ใบหน้าหล่อเหลาราวกับอาบรอยยิ้มของจอมซาตานที่กำลังแผ่รัศมีความโหดร้ายออกมาเต็มคราบ
“หึ! ดูท่าทางแม่ของคุณรักหลานแฝดมากและผมคิดว่าเธอยังไม่รู้เรื่องนี้ เรื่องที่เธอได้เห็นหน้าเด็ก ๆ เป็นครั้งสุดท้าย คนแก่น่ะมีจุดอ่อนอยู่เรื่องเดียวคือความเสียใจ ถ้าเธอรู้เรื่องที่ไม่ทันตั้งรับกะทันหันล่ะ”
“คุณมันร้ายกาจ”
“ยังน้อยกว่าผู้หญิงต่ำทรามอย่างคุณ!”
“อ๊า!”
ลักษณ์นาราร้องลั่นเมื่อแมทเทียสบีบสันกรามเล็กของเธอรุนแรง เรียวปากอิ่มระริกสั่นแต่หญิงสาวตอบโต้เขาด้วยการกรีดปลายเล็บลงบนหลังมือแกร่ง เธอจิกมันลงไปเต็มแรงแต่แล้วปากที่อ้าเผยอกลับถูกปิดด้วยปากหยักหนาที่กระแทกลงมาและกดไว้จนแน่น นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อความเจ็บแปลบซ่านจากกลีบปากด้านในแผ่ลงไปถึงปลายคาง มันเป็นความเจ็บปวดอย่างสุดประมาณเมื่อร่างบางรู้สึกถึงความอุ่นร้อนจากกธารโลหิตที่ไหลจากปากลงไปถึงลำคอ
“แมท!”
เสียงกรีดร้องทำให้แมทเทียสผงะ ลักษณ์นาราหมดความอดทนที่จะกดกลั้นตัวเองเพราะเขาทำเธอเจ็บจนทนแทบไม่ไหว แต่เมื่อใบหน้าคร้ามเข้มเลื่อนออกไปและปากของเธอเป็นอิสระเต็มที่หญิงสาวกลับใช้จังหวะนั้นโต้กลับในทันที
เผียะ!
ร่างบอบบางตวัดฝ่ามือลงบนแก้มของเขาแต่ไม่เต็มแรงเพราะเขาคร่อมอยู่เหนือเธอแต่การกระทำของหญิงสาวถือว่าร้ายแรงกว่าการตอกกลับด้วยคำพูดนับพันเท่า แมทเทียสนิ่งงันแม้แทบไม่รู้สึกรู้สาถึงแรงปะทะจากฝ่ามือบางหากก็ยิ่งทำให้โทสะของเขาปะทุแรงยิ่งกว่าระเบิดนับพันลูก ชายหนุ่มลูบบนแก้มข้างที่โดนฝ่ามือของหญิงสาวเบา ๆ ลักษณ์นาราจ้องหน้าเขาเขม็งแต่นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เสี้ยวหนึ่งของความรู้สึกชายหนุ่มดิ่งลงเล็กน้อยเมื่อเห็นคราบเลือดแดงเถือกหลั่งจากกลีบปากบวมเจ่อ หากก็ไม่เทียบความชิงชังที่ยิ่งถั่งโถม เขาขบกรามแน่นทั้งไม่ยอมพูดอะไรเลยก่อนก้มหน้ากลับลงไปหาเธออีกครั้ง คราวนี้มือแกร่งทั้งสองคว้าข้อมือของลักษณ์นาราไว้แล้วกดลงข้างลำตัวของเธอ ปากหยักฉกวูบลงไปและบดเบียดบนเรียวปากอิ่มเพื่อซ้ำลงบนแผลเดิม
“อือ...อือ”
ลักษณ์นาราแอ่นร่างเพื่อตอบโต้ความกักขฬะของแมทเทียส แต่เธออ่อนแรงเกินไปทำได้แค่ส่งเสียงร้องในลำคอเมื่อความเจ็บร้าวระลอกใหม่โหมใส่ยิ่งกว่าคลื่นคลั่ง เขาเหมือนพายุหมุนที่ฉุดเธอลอยคว้างขึ้นสู่ใจกลางของความเคียดแค้น บีบคั้นและในเวลาเดียวกันก็เหมือนฉีกกระชากร่างบอบบางออกเป็นล้านชิ้นด้วยการยัดเยียดความทรมานสุดแสน ลิ้นหนาร้อนรนในปากเปียกชื้นของหญิงสาว จุ่มจ้วงและคุกคามด้วยการล้วงลึกหนแล้วหนเล่าให้เธอยิ่งปวดร้าวเกินจะทน และเมื่อเขาเลื่อนปากออกลักษณ์นาราก็ถึงกับอ่อนยวบ เธอหมดแรงและเหมือนจะเป็นลม ในหูอื้ออึงและเจ็บไปหมดในลำคอ เธอได้ยินเสียงหนักเค้นจากลำคอของแมทเทียส
“นี่แค่สั่งสอน คุณยังไม่รู้ว่าเวลาผมโกรธจะเป็นยังไง!”
ร่างสูงใหญ่ขยับห่างออกเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าร่างเล็กอยู่ในสภาพไร้กำลังตอบโต้ ชายหนุ่มค่อย ๆ คลายมือที่กุมมือเรียวบางไว้แน่นออกแต่เมื่อเป็นอิสระลักษณ์นาราจึงรวบรวมกำลังเท่าที่มีเงื้อมือขึ้น
เผียะ!...เผียะ!