ตอนที่ 15

1152 คำ
“แล้วนี่อะไร...หนูเอาอะไรติดมือมาด้วย” แอเรียลล่าถามเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นถุงกระดาษที่ลักกษมีหิ้วไม่ยอมวาง หนูน้อยยกขึ้นพลางเปิดให้ดู “เพื่อนของปุ๊บปั๊บ” “ปั๊บชอบแต่งตัวให้ตุ๊กตา ปุนต์ไม่เล่นหรอก ปุนต์เป็นผู้ชายฮับ...ปุนต์เล่นเครื่องบิน” ลักษณ์อธิบายขณะแอเรียลล่าก้มมองตุ๊กตาของหลานสาวอย่างสนใจ “ตุ๊กตานี่เหรอ...อืม...ชุดสวยดีนะ” “มี๊ขาตัดให้ ตัดให้ใหม่ทุกวัน” แอเรียลล่าเหลือบมองลักษณ์นาราด้วยแววตาเหยียดชังก่อนเอ่ยกับหลานสาว “แต่ถ้าหนูมาอยู่ที่นี่อิยาย่าจะซื้อตุ๊กตาตัวใหม่ให้ บาร์บี้แสนสวย ราคาแพงกว่าตุ๊กตาถูก ๆ พวกนี้หลายเท่า อยากได้ชุดแบบไหนฉันจะให้เลขาส่วนตัวที่บริษัทจัดแจงให้หมด” “ไม่เอาค่ะ” ลักษมีส่ายหน้า “ปุ๊บปั๊บไม่เอาตัวใหม่...จะเอาที่มี๊ขาซื้อให้ ตัดชุดให้ใหม่ทุกวัน” เสียงยืนยันของเด็กหญิงทำให้คนนำเสนออึ้งไป แม่หนูน้อยน่ารักดูไร้เดียงสาแต่ก็แน่วแน่เสียจนคนเป็นย่าชักหลงใหลในท่าทีที่ราวกับถอดพิมพ์เรื่องนิสัยไปจากตัวเองลึก ๆ แอเรียลล่ายกยิ้มน้อย ๆ และคิดว่าหลานสาวของเธอยังใหม่ต่อวัฒนธรรมของที่นี่แต่นานไปก็คงจะชินได้เอง สักครู่ลักษมีก็จูงมือน้องเดินกลับไปหาแม่ ทั้งสองกอดร่างบอบบางไว้แน่น ลักษณ์นาราเกือบจะยกแขนขึ้นกอดตอบแต่กลับต้องยั้งไว้เมื่อนึกถึงข้อตกลงที่แมทเทียสตีกรอบเธอไว้ก่อนหน้า และลูกสาวตัวน้อยก็อยู่ในสายตาคมปลาบของเขาที่มองตามตลอดเวลา ชายหนุ่มเหลือบมองสามแม่ลูกและได้ยินเสียงลักษมีออดอ้อนแม่ว่า “มี๊ขา...คืนนี้มี๊ขานอนกับปุ๊บปั๊บนะคะ” “อ้า...เอ้อ...” “คุณย่าจัดห้องไว้ให้ลูกแล้วนะลีอา” แมทเทียสแทรกขึ้นแต่น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนทว่าแววตาที่จ้องมองลักษณ์นารากลับเหี้ยมเกรียมในที ลักษมีทำหน้าไม่เข้าใจ “แต่ทุกคืนปุ๊บปั๊บนอนกะมี๊ขานิคะ” “มี๊ขาจะนอนกับลูกนะคะ” หญิงสาวรับปากทั้งที่รู้ว่ามันขัดต่อข้อตกลงที่แมทเทียสตั้งไว้ ที่นี่เธอเหมือนนกตัวเล็กในกรงเหล็กเล็กแคบและพร้อมจะบีบรัดตัวเธอให้ตายทุกเมื่อ แม้แต่จะหายใจก็ยังอึดอัดแต่เธอก็จำต้องทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะกลัวลักษมีจะตื่นตกใจ แมทเทียสดึงมือหนูน้อยให้เธอหันกลับมายังเขา ชายหนุ่มโน้มใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปใกล้ “แต่ต่อไปลูกกับน้องต้องหัดนอนคนเดียว...เอ้อ...ตอนนี้อาจจะนอนด้วยกันสองคน แต่ต่อไปต้องแยกกันนอนนะคะรู้ไหม” “ทำไมละคะ?” “เพราะจะเป็นการฝึกให้เด็กได้รู้จักอิสระและความกล้าหาญ” ลักษมีส่ายหน้า แววตายังไร้เดียงสาเพราะไม่เข้าใจคำอธิบายนั้นแต่น้องชายกลับพยักหน้าและบอกมารดาว่า “ปุนต์เข้าใจฮับ” “เข้าใจว่างาย” ลักษณมีหันไปถามน้อง “ก็เข้าใจว่า...ถ้าพวกเราโต...พวกเรา...ต้องนอนคนเดียว” “แต่ปุนต์ยังม่ายโต ปุนต์ต้องนนอนกับพี่” ลักษมีชี้นิ้วเข้าหาตัว “ปุนต์โตแล้วนะ” “โอเคค่ะ...ปุนต์โตแล้วแต่ยังนอนฝันร้ายอยู่เลยนะคะ” ลักษณาราแทรกการสนทนาระหว่างพี่น้อง พอได้ยินอย่างนั้นลักษมีก็รีบพยักหน้า “จริงด้วยๆ...ปุนต์ชอบละเมอ ต้องให้พี่นี่งาย...กอดทุกคืน” คำพูดด้วยเสียงแจ๋วๆ ของลักษมีทำให้แมทเทียสรู้สึกแปลกใจหากทว่าเขากลับไม่พูดอะไรนอกจากมองสามคนแม่ลูกคุยกันท่ามกลางสายตาของแอเรียลล่าและคาลิสต้าซึ่งมองหนูน้อยทั้งสองอย่างนึกเอ็นดู เธอเองก็อยากรู้ว่ามีเด็กน้อยสองคนน่ารักน่าชังขนาดนี้อยู่ในบ้านแล้วนายหญิงจะรู้สึกเช่นไร ขณะนั้นลักษณ์นารามองเด็กแฝดแล้วเม้มปากแน่น หัวใจดวงนั้นแทบขาดเพราะแค่นี้เธอก็สงสารลูกจับหัวใจ เด็กหญิงยังเล็กเกินไปที่จะเข้าใจความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เธอเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนหวาน “ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ถ้ายังไงคืนนี้มี๊ขาจะนอนเป็นเพื่อนลูกก่อนนะคะ” “มี๊ขาสัญญา?” ลักษมีเสียงสูงและยกนิ้วก้อยขึ้นให้แม่เกี่ยวนิ้วก้อยอย่างทุกครั้งเวลาสัญญาต่อกัน ลักษณ์นารายิ้มทั้งดวงตารื้นน้ำเกี่ยวก้อยเล็ก ๆ ของลูกน้อยทั้งคู่เบา ๆ นั่นเองทำให้ทั้งลูกสาวและลูกชายของเธอยิ้ม ลักษมีจูงมือน้องกลับไปนั่งที่เดิม แอเรียลล่ามองคนทั้งสามที่พูดคุยกันตามประสาแม่ลูก แล้วความรู้สึกที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นก็วาบออกมาจากจิตใต้สำนึก ยิ่งมองเด็กสองคนที่แม้มีสายเลือดของชาวเอเชียอย่างลักษณ์นาราแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณลักษณะแทบทุกกระเบียดมากเกินกว่าครึ่งนั้นได้รับการถ่ายทอดมาจากแมทเทียสมากเสียจนคนเป็นย่าไม่อาจต้านทานต่อความหวั่นไหว แต่อีกด้านหนึ่งสำหรับเธอแล้วข้อรังเกียจลูกสาวแม่บ้านที่เคยมีมากมายเท่าใดถึงตอนนี้มันก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงและยิ่งนึกเจ็บใจที่แม้ว่าหลายปีฝ่านไปทำอย่างไรก็หาทางให้แมทเทียสลืมลูกสาวของรัชนีไม่ได้เสียที หลังจากมื้ออาหารผ่านไปและลักษมีเริ่มเรียนรู้การกินอาหารแบบกรีกที่ไม่คุ้นเคยซึ่งทำให้หนูน้อยทั้งสองทั้งเต้นตื่นและประหลาดใจ โดยเฉพาะลักษณ์ แฝดน้องที่ยอมให้พ่อเอาอกเอาใจด้วยการตักอาหารและขนมอร่อย ๆ ให้ ส่วนลักษมีได้แต่จ้องมองแมทเทียสตลอดเวลาหากดูหมือนว่าเด็กน้อยยังคงคลางแคลงใจต่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิตและการมายังที่อยู่ใหม่ซึ่งหนูน้อยยังไม่เข้าใจว่าที่แห่งนี้อาจเป็นที่อยู่ไปตลอดชีวิต เมื่ออิ่มท้องแมทเทียสจึงหันไปบอกเด็กทั้งสองว่า “ลีอา...คาลิน...ลุงจะพาพวกหนูไปดูห้องนอนที่คุณย่าจัดไว้ให้” ทั้งลักษมีและลักษ์พยักหน้า “คุ...คุงลุง” “ฮับ...คุงลุง” “อืม...แต่ก่อนอื่นลุงอยากให้หนูเรียกลุงว่า ดี๊ขา...อย่างที่มี๊ขาให้หนูเรียกคุณพ่อของหนู...จะได้ไหม” “แล้วถ้าดี๊ขากลับมาละคะ” “ลุงก็จะบอกให้ดี๊ขาของลูกเข้าใจ” “จริงนะคะ...สัญญา?”  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม