คนนี้ฉลามชอบ
ผมชื่อฉลาม เป็นลูกชาย และหลานชายเพียงคนเดียวของทั้งสองบ้าน
ทั้งสองบ้าน!
หลายคนอาจจะกำลังสงสัย ว่าทำไมผมถึงมีสองบ้าน เหตุผล เพราะบ้านหลังที่หนึ่งคือบ้านแม่ ส่วนบ้านหลังที่สอง คือบ้านของพ่อ แน่นอนครับ พ่อกับแม่ผมแยกทางกัน เหตุผลมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ จะถามพ่อ เวลาที่เห็นสายตาของพ่อที่แอบมองแม่ เอาตรงๆ ผมดูออก ว่าพ่อรักแม่แค่ไหน พอคิดจะถามแม่ ก็นึกขึ้นได้ว่า กับเรื่องบางเรื่อง หากเจ้าของเรื่องเลือกที่จะเงียบ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่จะรื้อฟื้นมันขึ้นมา
พอถามปู่และถามย่า แม้กระทั่งจะถามตาหรือว่าถามยาย คำตอบที่ผมได้ ท่านก็แค่บอกว่า อยากให้ผมรู้ไว้ ว่าทุกคนรักผมที่สุดในโลก
เอาเถอะครับ ไม่ว่าพ่อกับแม่จะเคยเจออุปสรรค หรือผ่านอะไรกันมาบ้าง แต่สิ่งที่ผมเห็นอยู่ในตอนนี้ คือทั้งสองครอบครัว ยังรักและสามัคคีกัน เท่านั้นผมก็โอเคแล้ว
มาที่เรื่องของผมกันบ้าง ผมที่ชื่อฉลาม ในตอนนี้ อายุ23ปี เรียนอยู่ที่ มหา'ลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่าบาส ก็อย่างที่บอก ชีวิตของผมมันแฮปปี้ทุกอย่าง ถูกสนับสนุนให้เรียนกันเต็มที่ทั้งสองบ้าน เอาจริงๆ ผมไม่ได้ต่างจากคนที่เพอร์เฟคสุดๆ คนหนึ่งเลย
ลูกคนเดียว หลานคนเดียว รักที่ทุกคนมี ผมได้รับแบบเต็มที่เลย!
"ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ชอบขนาดนั้น ควรเข้าไปจีบแล้วไหม"
ผมยิ้มอีกแล้วเหรอเนี่ย ทำไมต้องยิ้มทุกทีที่เจอคนนี้ด้วยวะ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ สวยไปหมด ผมสีดำ ยาวมากๆ ตามสเปค หน้าหวาน ปากนิด จมูกหน่อย เรียบร้อยสุดๆ แล้วแบบนี้ใครจะไปหยุดยิ้มได้ลง
"ฉลาม ไอ้หลาม!"
"เออ เสียงดัง" ผมหันไปทำหน้าดุใส่คนข้างๆ แซวอยู่นั่น ที่กับคนที่มันแอบชอบ ผมไม่เห็นแซวมันแบบนี้ ซ้ำยังปล่อยให้มันแอบมองเขาแต่โดยดี
"อย่ามาทำหน้าดุแบบนี้ นี่เพื่อนเว้ย เพื่อนหวังดี เพื่อนอยากให้เพื่อนมีเมีย!"
"ไร้สาระ" ผมปรายตามองเพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะดึงสายตาไปยังรุ่นพี่คนนั้นอีกครั้ง หายไปแล้วว่ะ พลาดเลย กว่าจะได้เจอ คิดถึงอยู่ตั้งนาน
คิดถึงอีกแล้วเหรอวะ ทำไมผมถึงต้องใช้คำพูดแปลกๆ แบบนี้กับผู้หญิงคนนั้นตลอดเลย
ผมโสด ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีใคร ผมไม่เคยใช้คำว่าคิดถึงกับผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงคนนั้น คนที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็ยังคิดถึงอยู่ดี
เธอชื่อ หมวยลี่ เป็นรุ่นพี่ผมหนึ่งปี ยังยืนยันคำเดิมว่าสวย เป็นถึงดาวคณะขนาดนั้น ไม่สวยก็บ้าแล้วไหม
"เหม่ออีกแล้วเหรอวะ กูว่ามึงหนัก แบบนี้ต้องจีบแบบจริงจัง"
"ไร้สาระ งานจะทำปะ"
"ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเลยนะ ส่องเฟซ ส่องไอจี แบบนี้เขาเรียกว่าคลั่งรัก!"
"ไร้สาระ"
"ถ้ามึงไม่จีบ งั้นกูจีบนะ"
"พูดเยอะ น่ารำคาญว่ะ"
"เออ งั้นกูขอภาวนา ให้มึงถูกแย่งภายในพริบตา"
"ไอ้บ้านี่" ผมตวัดหางตามองแรงใส่เพื่อนทันที ปากไม่ดี ปากเสีย ไอ้หมอนี่มันน่ารำคาญที่สุดเลย
"ทำหน้าดุอีกแล้วอะ กูล้อเล่นน่า แค่หวังดีเท่านั้นเอง" ผมส่ายหน้าไปมา พลางก้มมองงานที่ยังค้างตามเดิม อีกนิดเดียวก็จะเสร็จอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดที่ว่า ไอ้เจ้าบาสมันมัวแต่พูดเรื่องที่มันน่ารำคาญ
"คนทุกคนมีหวังนะเพื่อน ถ้าเราเอาแต่แอบมอง แล้วเมื่อไหร่จะได้เป็นเจ้าของวะ"
"เขาอาจจะมีแฟนแล้ว"
"แล้วไหนวะแฟน แฟนมี แฟนพี่เขาต้องมา แต่นี่อยู่แค่กับเพื่อนตลอดเลยนี่หว่า ก็อาจจะแปลว่าแฟนไม่มี"
"เมื่อไหร่จะเลิกพูดถึงเรื่องนี้"
"มึงไม่อยากสมหวัง มึงไม่อยากได้เขาเป็นแฟน?"
ผมหลบสายตา พร้อมกับถอนหายใจออกมา ใครจะไม่อยากได้วะ แต่ก็อย่างว่า บางที เขาอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้
"เอางี้ ลองก่อนไง ถ้าใจตรงกันก็ได้เขาเป็นแฟน"
"แล้วถ้าใจไม่ตรงกัน?"
"ก็ถือว่าเสี่ยงดวงก็แล้วนะ น่านะ อยากเห็นเพื่อนมีแฟนบ้าง" ไอ้เจ้าบาสอมยิ้มและทำหน้ายุส่ง ไม่รู้เหมือนกัน ว่าการมีแฟนมันเป็นแบบไหน แต่เห็นคนอื่นเขาไปดูหนัง ไปกินข้าว หยอกล้อ มุ้งมิ้งกัน มันก็น่ารักดีนะ ถ้าเป็นผมกับพี่คนนั้น ก็คงดี
หรือผมจะลองจีบดูวะ!
คิดหนักเป็นบ้า ใครจะไปกล้าวะ!
แต่ ถ้าผมไม่กล้า มันจะมีหวังเหรอวะ พ่อสอนให้เป็นคนที่กล้าแสดงออกนี่นา!
แต่ถ้าแสดงออกแล้วเขาไม่โอเคล่ะ ผมจะผิดหวังแค่ไหน
แต่แม่สอนว่า เป็นลูกผู้ชาย นอกจากจะกล้าแสดงออก ยังต้องกล้ายืดอกยอมรับความจริงนี่หว่า ชอบก็ต้องบอกว่าชอบ ถึงเขาจะปฏิเสธ ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขานี่หว่า
"เอาน่าไอ้หลาม รู้ว่าเสี่ยง แต่ของมันต้องลอง มึงดูนั่น" และแล้วไอ้เจ้าบาสก็ชี้นิ้วไปที่อีกด้าน
ให้ตายเถอะภาพที่เห็น คือพี่คนนั้น นั่งอยู่บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนใต้คณะ มีเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลัง คุยอะไรกันไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ยิ้มสวยชะมัด ยิ้มแต่ละที่ ผมนี่แทบละลาย ชอบอะ อยากได้ชะมัด
"แค่มองแล้วต้องยิ้มตามขนาดนั้น ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองหน่อยครับเพื่อน"
"..."
"มึงก็รู้ ว่ากูไม่เคยยุมึงเรื่องนี้ แต่กับคนนี้ กูรู้ดี ว่าเพื่อนหลามชอบพี่เขาแค่ไหน"
"เราเด็กกว่า เขาจะชอบเราเหรอวะ"
"เอาน่า เด็กกว่าก็มีหัวใจ เด็กแล้วไง สุดท้ายตัวก็โตกว่าอยู่ดี"
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะมองกลับไปยังทิศทางเดิม
"สัส" ผมเผลออุทานออกมาอย่างตกใจ หัวใจตกลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม อยู่ดีๆ ตากลมโตคู่นั้นก็หันกลับมามองสบตากัน ทำไมมือแข็งวะ สายตาก็ดึงออกมาจากตรงนั้นไม่ได้ ใจสั่น ใจมันเต้นแรงมาก ผมควรหันหน้าหนี ผมควรทำลายหลักฐาน ว่ากำลังแอบมองเขาอยู่ตั้งนานสองนาน แต่ให้ตายสิ สายตาไม่สามารถละออกมาจากตรงนั้นได้เลย
แล้วให้ตายดิ อยู่ดีๆ เขาก็ส่งยิ้มมกลับมา ก่อนที่เขาและเพื่่อนของเขาจะลุกเดินออกไปจากตรงนั้นพร้อมกัน
"ขะ เขายิ้มให้กูว่ะบาส"
"..."
"จริงๆ นะเว้ย เมื่อกี้เขายิ้มให้กู" ตื่นเต้นจังวะ เผลอพูดเสียงดังมาก จนคนรอบข้างหันมา แล้วไงอะ เคยรู้สึกตื่นเต้นกับอะไรมากๆ แบบนั้นไหมล่ะ ผมในตอนนี้อะนะ รู้สึกแบบนั้นเลย
"หรือกูควรจีบเขาวะ"
"..."
"ไอ้บาส มึงว่ากูควรลองปะ เอาแบบ ลองให้รู้ๆ กันไปเลยไง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ช่าง ขอให้ได้บอกว่ากูชอบเขามาก เท่านั้นเป็นพอ"
"คือกูยุตั้งนาน ไม่ได้ผลอะไรสักอย่าง แค่เขามองมึง แล้วยิ้มที่มุมปาก มันทำให้ใจมึงเปลี่ยนได้ขนาดนั้นเหรอวะ"
"กูชอบเขานี่หว่า คนอะไรวะ แค่เห็นหน้า ใจก็เต้นแรงเป็นบ้าเลย"
"ฮ่าๆ เอาเถอะ กูขอให้มึงสมหวัง เริ่มจีบเมื่อไหร่กันดี"
"วันนี้ เดี๋ยวกูจีบรุ่นพี่คนสวยคนนั้นวันนี้เลย!"