บทที่ 16 ข้อตกลง

1397 คำ
ม้าอัคคีเพลิงตัวนี้เดิมทีนอกจากซุนโหวและฮูหยินใหญ่แล้วมันไม่ยอมให้ผู้ใดขี่ แต่ด้วยความเชี่ยวชาญและเก่งกาจของท่านแม่ทัพ สัมผัสอัคคีเพลิงและขี่มันวนเพียงไม่กี่รอบเขาก็สามารถปราบพยศมันลงได้แล้ว ซุนโหวชื่มชมแม่ทัพใหญ่ยิ่ง คนผู้นี้คือเทพสงครามอย่างแท้จริง เขาเองก็ได้เรียนรู้จากโจวซีฉือมาไม่น้อย มือหนึ่งของเขายังจับมือของซุนหลีเอาไว้ พลางปลอบเบา ๆ “ไม่ต้องกลัว ท่านแม่ทัพเชี่ยวชาญเรื่องม้า เจ้าจะได้ขี่มันอย่างสบาย แต่เดิมพี่เคยคิดจะสอนเจ้าแต่เพราะสงครามทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับเจ้าอย่างที่ใจคิด” ในสมองของซุนหลีกำลังคิดถึงเรื่องของตนเอง บุรุษสองคนนี้คิดทำสิ่งใดกันแน่ “ซุนหลี ได้ยินหรือไม่ หืม” น้ำเสียงอ่อนโยนดังอยู่ข้างหู ซุนหลีจึงได้สติ นางหันไปถามเขาทันใด “ท่านพี่ บอกข้ามาเถิดว่าท่านตกลงอันใดกับท่านแม่ทัพเจ้าคะ” ซุนโหวยิ้ม ดวงตายังจ้องไปที่ม้าอัคคีเพลิงที่พุ่งทะยานสุดกำลัง โดยมีท่านแม่ทัพนั่งสง่างามอยู่บนนั้นด้วยสายตาชื่นชม “ข้าไม่มีสิทธิ์ถามเจ้าและพูดสิ่งใด ท่านแม่ทัพจะบอกเจ้าเอง จำไว้ว่าหากเขาถามสิ่งใด หลีเอ๋อร์ของพี่ต้องทบทวนหัวใจเป็นอย่างดี อย่าได้ตัดสินใจเพราะทำตามคำสั่ง หรือเพราะสงสารผู้ใด สำหรับพี่แล้วขอเพียงเจ้ามีความสุขพี่ก็ยินดีที่สุดแล้ว” ซุนหลียิ่งร้อนรน นางไม่เข้าใจที่เขาเอ่ย แต่ด้วยฐานะของเขายามนี้เมื่อท่านแม่ทัพพูดว่าจะเป็นฝ่ายบอกนางเอง แน่นอนว่าซุนโหวย่อมไม่ขัดคำสั่ง เขาหันมาลูบศีรษะของนางแผ่วเบาก่อนจะกระชับมือแน่นแล้วดึงนางให้เดินตามไปที่จุดขึ้นม้า “ตามพี่มาเถิด ท่านแม่ทัพรออยู่” “ท่านพี่ข้ากลัว” “ไม่ต้องกลัว แล้วเจ้าจะรู้สึกสนุก” ซุนหลีพยักหน้า นางเดินตามซุนโหวไปเรื่อย ๆ ท่านแม่ทัพบังคับให้อัคคีเพลิงวิ่งกลับมาที่เดิม ม้าลดความเร็วของฝีเท้า ส่งเสียงดัง ฮี้ ฮี้ แล้วหยุดอยู่ตรงจุดขึ้นมาพอดี ท่านแม่ทัพลูบหลังอัคคีเพลิงเบา ๆ ให้มันสงบลง จากนั้นจึงเอื้อมมือไปรับซุนหลี นางยังไม่ทันได้เหยียบโกลนขึ้นม้าร่างเล็กก็ถูกซุนโหวยกขึ้นจากพื้นแล้วส่งนางให้โจวซีฉือ เขารับนางมาราวกับรับกระสอบนุ่ม วางนางไว้บนหลังม้า จู่ ๆ ซุนหลีก็ครางออกมา “ซี้ด” “หืม เป็นอะไร” คนทั้งสองต่างมองหน้านาง ซุนหลีอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่นางไม่รู้ว่าเสียงร้องครางของนางเพียงคำเดียวจะทำให้บุรุษทั้งสองบังเกิดอาการร้อนรุ่ม บางสิ่งบางอย่างกลางร่างกายแข็งชันขึ้นทันใด แม่ทัพโอบรอบร่างของนางเอ่ยถามเสียงเบา “ยังใส่ชุดตัวในที่ฮูหยินเตรียมให้หรือ” นางยิ่งอายที่เขาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าพี่ชาย จึงไม่ได้ตอบออกไป โจวซีฉือจึงเอ่ยเบา ๆ “เห็นเจ้าเดินสบาย นึกว่าไม่ได้ใส่เสียแล้ว ตอบข้ามาเจ้าใส่หรือไม่ได้ใส่” แม้จะอับอาย แต่นางก็ยังตอบเสียงเบาราวยุงบิน “ตรงกลางกางเกงที่สวมมิได้เย็บไข่มุกหรือแท่งหยกเล็ก แต่กลับเย็บตะเข็บให้แข็งกว่าส่วนอื่น เวลาข้านั่งเช่นนี้เหมือนกำลังถูกเสียดสีตรงส่วนนั้นเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็เลยทำให้เจ้ารู้สึก” นางพยักหน้า “ท่านแม่ทัพ ให้ข้าลงเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว” คำพูดของนางที่กล่าวออกมา ซุนโหวล้วนได้ยิน นั่นเป็นเพราะว่าโจวซีฉืออยากให้เขาได้ยินเช่นกัน ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว มองร่างขาวผ่องในอ้อมกอดของโจวซีฉือ ใบหน้างามล้ำแดงระเรื่อ ยังมีสีหน้าบิดเบี้ยวในยามที่โจวซีฉือขับ ช่างน่ารักเป็นอย่างยิ่ง ซุนโหวกลัวว่านางจะอับอาย ซุนหลีไม่เหมือนฮูหยินใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์รักมานานหลายปี กลัวว่าท่านแม่ทัพจะทำให้นางตกใจจนล้มป่วย “ท่านแม่ทัพ นางจะไม่ไหวนะขอรับ ซุนหลีบอบบางกว่าที่ท่านคิด” โจวซีฉือมองหน้าซุนโหว เขาหัวเราะเบา ๆ “ข้าอิจฉาที่เจ้าได้ขี่ม้ากับฮูหยินของข้า ยามนี้ข้าก็จะทำให้เจ้าอิจฉาที่ข้าได้ขี่ม้ากับซุนหลีเช่นกัน พวกเราสองคนถือว่าหายกันแล้ว” ทุกการกระทำของซุนโหวที่ลงมือจัดการฮูหยินใหญ่จนน้ำแตกคาหลังม้านั้น โจวซีฉือได้ยินมาทั้งหมดแล้ว เขาเพียงแต่ต้องการทำตามเพื่อสร้างความตื่นเต้น ซุนหลีหวีดร้องด้วยความตกใจทั้งตื่นเต้นเมื่อม้าทยานออกไปอย่างรวดเร็ว ซุนโหวจึงได้แต่มองตามคนทั้งสองดวงตาละห้อย เขาจะทำสิ่งใดได้เล่านอกจากรอคอยให้ซุนหลีเมตตาตอบรับเขาเอาไว้ในใจสักคน ไม่ว่านางจะให้เขาอยู่ในตำแหน่งใด ขอเพียงได้อยู่กับนางเขาล้วนยอมทั้งหมด หลังจากถูกท่านแม่ทัพชวนเล่นผาดโผนบนหลังม้าจนน้ำของนางแตกไปถึงสองครั้ง ร่างของซุนหลีก็ระทวยอยู่ในอ้อมกอดของเขา และในยามนั้นท่านแม่ทัพก็ยังได้ถามนางคำหนึ่ง “หากเจ้ารักซุนโหว ข้าไม่หวงห้าม” “ใจของข้าหรือเจ้าคะ ท่านแม่ทัพให้ความสำคัญด้วยหรือเจ้าคะ” “ย่อมสำคัญข้าเป็นคนที่มีความยุติธรรมกับผู้อื่นเสมอ” “ซุนหลีเป็นของท่านแล้ว ไม่อาจปันใจให้ผู้อื่นเจ้าค่ะ” แน่นอนว่านางตอบเอาใจเขา ทั้ง ๆ ที่ในหัวใจของนางนั้นยังมีซุนโหวอยู่เต็มส่วน หากนางโตเร็วกว่านี้ หากไม่มีสงคราม หลังจากซุนโหวหย่ากับภรรยานางยังเคยคิดจะสารภาพความรู้สึกของตนเองให้เขาได้รับรู้ แม่ทัพใหญ่ล้วงมือเข้าไปคลึงเต้าของนางจนหัวนมหดเป็นแข็งเป็นไต “อ๊ะ...” นางครางแผ่วเมื่อนิ้วของเขาขยับไม่หยุด ความเสียวซ่านที่บัดนี้นางได้นั่งทับของแข็งของเขาเสียดสีจุดกระสันของนางให้ซ่านสยิวกระทั่งทะลักไปถึงท้องน้อย “เจ้าเคยได้ยินเรื่องฝ่าบาทของข้าหรือไม่” “เรื่องอันใดเจ้าคะ” นางบิดกายขยับส่วนนั้นให้สัมผัสกับเขาแนบชิดยิ่งขึ้น “เรื่องที่ฝ่าบาทมักจะแบ่งปันนางสนมให้ขุนนางเสพสุขเสมอ ยิ่งผู้ใดทำความชอบฝ่าบาทยิ่งคัดสนมที่งดงามและร่านร้อนให้ปรนนิบิต และยังมีรสนิยมความชอบที่จะร่วมรักกับนางสนมคนนั้นกับขุนนางที่รักอีกด้วย หากใครได้รับคัดเลือกนั่นหมายความว่าเขาคนนั้นมีความสำคัญต่อฝ่าบาทเป็นอย่างมาก” “ทะ ท่านแม่ทัพหมายความว่าท่านอยากแบ่งปันข้าให้ท่านพี่หรือเจ้าคะ” “ข้าเล่าเพียงเท่านี้เจ้าคงเข้าใจแล้วว่าข้าหมายความถึงสิ่งใด ซุนโหวรักเจ้า อีกทั้งเจ้าก็รู้ว่าเขาคือผู้มีพระคุณต่อข้า และยังเป็นคนที่ข้าชื่นชอบที่สุด ด้วยอายุของข้าที่มากเพียงนี้ อนาคตไม่แน่ว่าอาจจะต้องฝากจวนให้เขาช่วยดูแล และเจ้าทั้งฮูหยินด้วยเช่นกัน” “ทะ ท่านแม่ทัพ” “หากเป็นซุนโหว ข้าก็ยินดี แล้วเจ้าเล่ารักเขาหรือไม่ ยินดีหรือไม่หากข้าทำเช่นนั้น” “ข้า อื้อ ท่านแม่ทัพเจ้าขา” มือหยาบหนาของเขารุกเข้าไปในกางเกง สัมผัสความอ่อนนุ่มและเนียนลื่นมืออันเกิดจากน้ำหวานที่นางเพิ่งแตกออกมาไม่นาน ทุกครั้งที่ม้าขยับก้นนางต้องยกสูงขึ้นและกระแทกลงมาบดเบียดกับแท่งหยกของเขา นางถูกกระแทกร่องเสียวไปเรื่อย ๆ ยังมีมือของท่านแม่ทัพที่ควักเต้าของนางออกมาแล้วก้มลงมาดูดอย่างกระหาย เขาทำบนหลังม้าตัวนี้ อย่างไม่อายฟ้าดิน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม