เสื้อของนางหลุดลุ่ย ลมหนาวพัดเอื่อยเฉื่อยแต่สตรีที่อยู่บนหลังม้ากลับรู้สึกร้อนจนอยากจะดึงอาภรณ์ออกเสียให้หมด
“ซี้ด อูย ท่านแม่ทัพเจ้าขา อย่าดูดตรงนี้สิเจ้าค่ะ ท่านพี่ของข้ายังอยู่ตรงนั้น ข้าอายนะเจ้าคะ เขาเห็นพวกเรา”
“เพราะเขาอยู่ตรงนั้นข้าจึงอยากทำให้เขาดู ยิ่งเขาเห็นข้ายิ่งมีอารมณ์อยากยิ่ง อา ถันของเจ้าช่างหวานใหญ่ล้นดั่งที่ฮูหยินชื่นชมไม่ผิด ยิ่งได้กินเต็มปากเต็มคำเช่นนี้ยิ่งหวานอร่อย ครางสิ ครางดัง ๆ ให้ท่านพี่ซุนโหวของเจ้าได้เย็น ให้เขาอยากเย่อเจ้าเหมือนที่ข้าได้ทำ”
“ซี้ด เสียวเจ้าค่ะ อ้า ซี้ด ซี้ด ท่านแม่ทัพทำให้ข้าเสียวไม่ไหวแล้ว”
คำกระตุ้นเร้าเช่นนี้ยิ่งทำให้ภาพในความคิดของซุนหลีกระเจิดกระเจิง
“เจ้าลองคิดสิ ว่าในยามที่ข้าทำเช่นนี้กับเจ้าแล้วยังมีซุนโหวค่อย ๆ ลูบร่างของเจ้าอยู่เช่นกัน เจ้าจะสนุกและเสียวมากเพียงใด เสียวเป็นสองเท่าจนเท้าทนไม่ไหวต้องหลั่งน้ำหวานมาให้ข้ากิน”
นิ้วโป้งของเขาวนคลึงที่ติ่งเสียวของนาง ในขณะที่นิ้วกลางค่อย ๆ สอดเข้าไปในรูรักแล้วขยับเร็ว ๆ ทั้งใช้ลิ้นตวัดเลียหัวนมสีแดงสดอย่างอร่อย
“ซี้ด ท่านแม่ทัพ อ่อย ข้าเสียว เสียว เจ้าค่ะ”
“เจ้าดูสิ ข้าแค่พูดเรื่องของซุนโหวเจ้าก็รัดนิ้วข้าเพียงนี้ อืม เจ้าอย่าปฏิเสธอข้าอีกเลย เจ้าอยากได้เขาใช่หรือไม่ ข้าจะขยี้เจ้าแรง ๆ จนกว่าเจ้าจะยอมรับ เจ้าอยากให้ซุนโหวเลียตรงนี้ให้เจ้าหรือไม่ ตรงนี้หากลิ้นของเขาแตะแล้วเลียเบา ๆ จะทำให้เจ้าเสียวมากยิ่งขึ้น ราวกับเจ้ากำลังโบยบินอยู่บนสวรรค์”
ซุนหลีถูกเขาปลุกปั่นจนสมองขาวโพลน นางคิดถึงบทรักของชายสองคนที่ช่วยกันปรนเปรอแล้วยิ่งรู้สึกเสียวจนติ่งสั่น
“อ้า อื้อ ขยี้ตรงนั้นแรงเหลือเกินเจ้าค่ะ อ้า ข้าน้อย ซี้ด หลีเอ๋อร์ อยากเจ้าค่ะ อยากให้ท่านพี่เลียตรงนั้น อื้อ ยอมแล้วเจ้าค่ะ ยอมรับแล้ว ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ ซี้ด ซี้ด อ้า”
นิ้วของเขากระแทกเข้ารูรักเร็วขึ้น ในขณะที่ปากอมเต้าของนางแล้วดูดจนเปียกฉ่ำ ร่องหวานของนางตอดนิ้วของเขาระรัว
“ติ่งสั่นเลยหรือ อ้า ร่องรักก็ตอดเก่งเหลือเกิน ชอบใช่หรือไม่ อื้ม เช่นนั้นก็แตกออกมาสิ แตกบนหลังม้านี่อีกครั้ง”
ท่านแม่ทัพดึงแท่งหยกใหญ่ของตนเองออกมา แล้วฉีกกางเกงตัวในที่บางเฉียบของนางบริเวณร่องรักเป็นรูกว้าง
เขายกร่างบางขึ้นมาเล็กน้อยแล้วกดทับแท่งหยกของตนเองลงไปจนสุดลำ
“ซี้ด อ้า”
ซุนหลีร้องออกมาทันใด
แม่ทัพใหญ่ร้อง ย๊า ออกมา สองขาขนาบแนบข้างหลังม้ากระตุกบังเ**ยนแล้วสั่งให้อัคคีเพลิงเร่งฝีเท้า
ม้าวิ่งเร็วเป็นอย่างยิ่ง ทำให้สตรีที่กลัวการขี่ม้าเช่นซุนหลีตกใจ และบังเกิดความรู้สึกเสียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อยามที่ม้ากระแทกทำให้ร่างของนางกระเด้งขึ้นลง
อา เสียวจนแทบขาดใจตาย
อัคคีเพลิงวิ่งวนเช่นนี้อยู่หลายรอบ พร้อมกับเสียงร้องครางของคนทั้งคู่
ร่องเสียวของนางบีบรัดตอดเขาแน่นในทุกครั้งที่บดลงมาทำให้บังเกิดความเสียวแทบขาดใจ
ร่องเสียวหดเกร็งรัดแท่งหยกจนเขารู้สึกว่ามันแทบจะขาดกลางไปเสียแล้ว
“อ้า ดียิ่ง แน่นเหลือเกิน จะเสร็จแล้ว อ๊า”
คนทั้งสองครางออกมาพร้อมกันเมื่อน้ำแตกพุ่งกระจาย
น้ำเสียงของเขาค่อนข้างแหบพร่าแต่ชวนให้หลงใหล ร่างกายของซุนหลีกระตุกเกร็งและปลดปล่อยน้ำรักออกมาคาแท่งหยก
“ซี้ด เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว ซี้ด อ้า แตกแล้ว”
ท่านแม่ทัพสั่งให้ม้าหยุดวิ่งแล้วเดินช้า ๆ ซุนหลีตัวอ่อนระทวยหลังจากหลั่งน้ำ แท่งหยกของเขายังคงยัดอยู่ในร่องรักของนางเช่นเดิม ในยามที่ม้าเดินเป็นจังหวะจึงทำให้เสียวโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง
นางครางเบา ๆ ในลำคอ
“อ่อย ซี้ด อ่อย อ่อย”
ท่านแม่ทัพยัดนิ้วข้าปากของซุนหลี นางกลืนนิ้วของเขาทันใดทั้งดูดทั้งเลียราวกับมันคือแท่งหยกอันใหญ่โต
จากนั้นเขาก็ก้มลงมาจูบ ลิ้นของนางจึงสลับเลียนิ้วของเขาแล้วสลับมาจูบแลกลิ้นร้อนและรูดอย่างดูดดื่ม
ฝีมือการจูบและเลียของนางนั้นเก่งกาจยิ่งนัก เป็นเพราะฝึกการดูดมานานนับปี
“เจ้าสลับใช้ปากเก่งยิ่ง ฮูหยินฝีกเจ้ามาเป็นอย่างดีจริง ๆ”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
“นอกจากฮูหยินของข้าแล้วก็มีเจ้าที่ทำให้ข้าติดใจได้เช่นนี้”
“ท่านแม่ทัพยอมรับข้าแล้วหรือเจ้าคะ”
“หากเจ้ายินยอม ข้าก็ยอมรับข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นอนุของข้าเพื่อที่ฮูหยินและเจ้าจะได้สบายใจ เพราะฮูหยินมีปัญหาสุขภาพไม่อาจมีบุตรได้ นางจึงหมายมั่นให้เจ้าคลอดบุตรแทนนาง ต่อไปก็ลำบากเจ้าแล้ว”
“แต่ซุนหลีไม่เข้าใจ หากท่านยินยอมให้ข้ารักกับท่านพี่ เช่นนั้นหากข้าตั้งท้องจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นลูกของผู้ใด”
“เจ้าไม่ต้องห่วงไป เจ้าจะไม่ตั้งครรภ์กับซุนโหวแน่นอน นี่คือข้อตกลงระหว่างข้ากับเขา แคว้นของข้ามียาชนิดหนึ่งที่ทำให้บุรุษไม่อาจมีบุตรสืบสกุลได้ เขารักเจ้ามากขอเพียงได้อยู่ข้างกายเจ้า เขาไม่สนใจสิ่งอื่นใดทั้งนั้น”
นางมองไปที่ซุนโหวที่ยืนที่เดิม รู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“เพราะข้าหรือเจ้าคะ”
“อืม เพราะเจ้า เช่นนั้นเจ้าสมควรรักเขาให้มากเช่นกัน”
ซุนหลีตื้นตันใจยิ่งนัก นางไม่คิดว่าตนเองจะโชคดีเพียงนี้ ทั้งฮูหยินใหญ่ ท่านแม่ทัพ และซุนโหว ล้วนแต่ดีกับนางจนซุนหลีไม่รู้ว่าจะตอบแทนพวกเขาเช่นไร
“บุญคุณของท่านแม่ทัพ ซุนหลีไม่รู้ว่าจะตอบแทนเช่นไร”
“ไม่ยากเลยสักนิด ตั้งครรภ์ให้ข้าแล้วปรนนิบัติข้าอย่างที่เจ้าทำ เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว”
ซุนหลีซู้ดปาก เมื่อเขาขยำเต้าของนางแล้วคลึงมือวน
“เจ้าค่ะ ซุนหลีจะไม่ทำให้ท่านแม่ทัพผิดหวัง”
เขาขี่อัคคีเพลิงไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อนเมื่อหันไปมองตรงจุดขึ้นม้าก็ยังพบว่าซุนโหวยังยืนอยู่ตรงนั้นเช่นเดิม
สถานที่ฝึกม้าวันนี้ปลอดคน เพราะซุนโหวรู้ว่าท่านแม่ทัพกำลังทำสิ่งใด เขาจึงสั่งให้ทุกคนออกไปจนหมดแล้วรอบกายของเขานอกจากม้าที่อยู่ในคอกของตนเองแล้วจึงไม่มีผู้ใดอีก
โจวซีฉือพาซุนหลีมาหยุดอยู่ตรงตำแหน่งจุดขึ้นมา เขายิ้มให้ซุนโหวแล้วล้วงมือลึกเข้าไปในกางเกงของซุนหลี ทำให้นางร้อนเร่าและเปล่งเสียงครางโดยไร้ความละอายต่อหน้าซุนโหวอีกครั้ง
แท่งหยกร้อนผะผ่าวกำลังถูกนางนั่งทับและครูดถูไถไปมา ร่างกายร้อนรุ่มคล้ายถูกไฟรุม บริเวณนั้นเปียกชื้นชุ่มฉ่ำ
ปากร้องครางไม่หยุด ลืมสิ้นความกระดากอายแม้ว่าจะมีใครอีกคนอยู่ตรงนี้
ท่านแม่ทัพทั้งล้วงทั้งขยี้ขยำคนงามในอ้อมกอดจนร่องรักเปียกฉ่ำ นิ้วมือของเขายังคลึงเม็ดเสียวจนนางน้ำหวานไหลราดแตกออกมาอีกครา
โจวซีฉือรู้สึกว่าสาวน้อยในอ้อมกอดของตนเองช่างร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง เขาเพียงลูบ ๆ คลำ ๆ ร่างกายของนางแค่เล็กน้อยนางก็ชุ่มฉ่ำพร้อมรับ
สตรีที่ฮูหยินเตรียมไว้ให้ช่างร่านรักยั่วเย้าถูกใจเขาเสียจริง
ภายในกางเกงของซุนโหวนั้นกำลังมีบางสิ่งบางอย่างที่แข็งจนทำให้เขาทรมานเป็นอย่างยิ่ง ภาพที่เห็นทำให้เขาแทบอยากจะควักแท่งหยกออกมาแล้วจัดการช่วยเหลือตนเอง
ท่านแม่ทัพจับเอวเล็กคอดกิ่วของซุนหลีเอาไว้ด้วยมือสองข้าง ก่อนจะบอกกับซุนโหวว่า
“รับนางให้ดี”
“กรี้ด”
ซุนโหวตกใจยิ่งนักเมื่อร่างบางของซุนหลีถูกโจวซีฉือโยนลงจากหลังม้า เขารีบกระโดดไปรับนางเอาไว้ ซุนหลีเองก็หวีดร้องออกมาด้วยความตกใจแทบสิ้นสติ
หลังจากโยนคนเสร็จโจวซีฉือก็ควบม้าวิ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว แท่งหยกของเขาอ่อนตัวลงแล้วหลังจากที่ได้ปล่อยน้ำรักออกมาเมื่อสักครู่
ยามนี้เขาเพียงคิดปล่อยให้คนสองคนอยู่ด้วยกัน จากนั้นโจวซีฉือค่อยตามไปร่วมสนุกด้วยในภายหลัง
บัดนี้ซุนหลีตกอยู่ในอ้อมกอดของซุนโหวแล้ว ร่างของนางมิได้ตกลงบนพื้นอย่างที่คิด นางจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
นางเงยหน้ามองเขาแล้วเอ่ยว่า
“ขอบคุณท่านพี่”
ทว่าสายตาของซุนโหวนั้นช่างร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง เขากำลังกวาดไล้สายตาไปทั่วใบหน้า และร่างกายช่วงบนของนางที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยจนเห็นถันข้างหนึ่งโผล่ออกมาอย่างน่าอาย
นางขยับรีบดึงเสื้อของตนเองขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า
“ท่านพี่จ้องข้าเช่นนี้ข้าอายนะเจ้าคะ ปล่อยข้าลงเถิด”
นางจัดเสื้อผ้าของตนเองจนเรียบร้อย ในขณะที่ซุนโหวไม่ยอมปล่อยนาง ตรงกันข้ามเขากลับกระชับอ้อมแขนแล้วพานางเดินไปที่ป่าท้ายโรงเลี้ยงม้า
“จะพาข้าไปที่ใดเจ้าคะ”
น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน
“ไปให้ห่างสายตาคนอื่น”