บทที่3.1

1685 คำ
ผมกลับมาถึงบ้านตอนค่ำในสภาพที่เรียกได้ว่ายังเป็นจุดสนใจของคนรอบข้างอยู่ แต่ผมไม่แคร์ว่าจะถูกมองยังไง เพราะตอนนี้ผมต้องการเจอหน้าเกล ยัยผู้หญิงแพศยาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเจ็บตัวแบบนี้ “เอย์!” ผมหลุดจากความคุกรุ่นในตอนที่แม่หันมาเจอผมถอดรองเท้าพอดี ท่านเบิกตาโพลงก่อนจะวิ่งเข้ามากอดผมทั้งน้ำตา จริงสิ...ผมไม่ได้กลับบ้านตั้งสามวัน โทรศัพท์มือถือก็พังยับเยินจนใช้งานไม่ได้ ถึงจะเป็นเหตุสุดวิสัยแต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ารู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทำให้แม่เป็นห่วง “หายไปไหนมา! ทำไมสภาพเยินแบบนี้ล่ะลูก ฮึก” หลังจากกอดรัดผมจนหนำใจ แม่ก็ใช้นัยน์ตาคู่สวยสำรวจสภาพผมอย่างเป็นห่วง ผมยืนนิ่ง...มองใบหน้าเปรอะคราบน้ำตาของท่าน “เอย์มีเรื่องกับอรินิดหน่อยครับแม่ ไม่เจ็บเลย” ผมใช้คำพูดที่เหมือนว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ และท่านไม่ควรเก็บมาคิดให้รกสมอง จริงๆ ตอนเรียนมัธยมผมก็อันธพาล มีเรื่องไปทั่ว ศัตรูรอบทิศรอบทาง วันๆ หนึ่งได้แผลกลับมาไม่ต่ำกว่าสิบจุด ผมโดนแม่ดุทุกวัน แน่นอนว่าผมเคยคิดจะอยู่อย่างสงบเหมือนกัน แต่เมื่อมีคนมาหาเรื่อง...จะให้ผมยืนอยู่เฉยๆ ก็ไม่ใช่ “รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงขนาดไหน แจ้งความคนหายก็แล้ว ติดใบประกาศก็แล้ว แต่ก็ยังไม่มีเบาะแส!” ยิ่งพูดแม่ก็ยิ่งสะอึกสะอื้น ผมเลยถอนหายใจออกมาแล้วเข้าไปสวมกอดท่านซะเอง ผมเกยคางไว้เหนือไหล่บาง หลับตาลงประมาณสิบวินาที “เอย์แค่พักรักษาตัวที่บ้านเพื่อน” ผมจะไม่บอกท่านว่าสามวันที่ผ่านมาอยู่กับกิ่ง ครอบครัวนั้นไม่ใช่สิ่งที่แม่จะดีใจเมื่อได้ยิน การที่ผมพักฟื้นอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยตลอดระยะเวลาสามวันเต็ม อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีใครหาตัวผมเจอ “เจ็บมากไหมลูก...” แม่เหมือนจะโกรธที่ผมหายไป แต่สภาพผมมันคงน่าสงสารเกินกว่าจะดุลง “ไม่เจ็บครับ เอย์แข็งแรง” ผมยิ้มแล้วหอมแก้มท่านหนึ่งฟอด “ดีแล้วจ้ะ คนที่ทำเอย์...ถ้าอยากให้แม่แจ้งตำรวจบอกได้นะ” Past event “ทำไมเอย์ยังไม่กลับบ้าน” “เอย์ถูกทำโทษน่ะ พอดีไปต่อยรุ่นพี่จนฟันร่วง” นายอชิระในชุดนักเรียนไม่เป็นระเบียบ ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลตอบคำถามผู้หญิงคนหนึ่งแล้วยักไหล่เนือยๆ ราวกับสิ่งที่เจอมาและทำอยู่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ส่วนผู้หญิงคนนั้นคือเกล เกวารินทร์ เด็กเรียนดีหน้าตาน่ารัก แต่ซื่อบื้อไม่ทันคนจนถูกเพื่อนในห้องกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ “อ๋อ” เกลพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดห้องเก็บอุปกรณ์กีฬาตามที่ได้รับมอบหมาย ความจริงเธอเองก็ถูกทำโทษเหมือนกัน เหตุผลแค่...ทำเสื้อนักเรียนของลูกผอ.เลอะ เธออยากอธิบายเรื่องทั้งหมด แต่เพราะไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โต ไม่อยากให้เรื่องถึงหูพ่อกับแม่จนทำให้พวกท่านเครียดเลยเลือกที่จะอดทน “มันค่ำแล้วนะ เดี๋ยวเอย์ทำเอง เกลกลับบ้านไปเถอะ” เอย์ที่ยกของอยู่อีกฟากเหลือบมองผู้หญิงตัวเล็กแล้วถอนหายใจพรืด กินข้าวบ้างไหมวะนั่น อย่าให้ได้เป็นแฟนนะ...จะจับขุนให้อ้วนเลย “ไม่ได้ เกลไม่เอาเปรียบคนอื่น” เกลส่ายหน้าไปมา คำพูดคำจาดูเป็นเด็กดีจนเอย์นึกแปลกใจว่าทำไมคนที่ดูไร้พิษภัยขนาดนี้ถึงถูกทำโทษได้ “อือ แล้วแต่เลย” เอย์หันมาสนใจในส่วนของตัวเองต่อ ทว่าระหว่างนั้นก็ไม่ลืมชำเลืองตามองยัยแว่นตัวผอมแห้งไปด้วย เอาจริงๆ เขาไม่ได้รู้จักเธอดีนัก แต่ด้วยความที่เจอกันเป็นประจำเวลาถูกอาจารย์ทำโทษ เขาเลยรู้สึกสนิทสนมกับเธอไปโดยปริยาย ซึ่งเขารู้ดีว่าเธอคงไม่อยากสนิทกับเขาเท่าไหร่ “เอย์มองทำไม?” เกลที่หันมาแล้วพบว่าเอย์กำลังจ้องมองอยู่อดแปลกใจไม่ได้จึงถามขึ้น ฉุดไอ้เด็กหัวเกรียนจอมเกเรออกจากภวังค์แทบจะทันที “ปะ เปล่า” คำปฏิเสธของเอย์กระท่อนกระแท่นเอามากๆ ส่วนหนึ่งคงเพราะ...เขารู้สึกไม่ปกติกับเกลมาสักพักหนึ่งแล้ว ชอบก็จีบเลย... บางอย่างบอกเขาแบบนั้น แต่ตอนนี้เขาเลือกที่จะหักห้ามใจแล้วตั้งมั่นกับตัวเองว่า...ถ้า 1 เดือนผ่านไปแล้วยังรู้สึกพิเศษกับเธออยู่ค่อยเดินหน้าทำคะแนน End past event ผมสะดุ้งตื่น... เป็นการสะดุ้งตื่นที่เงียบเชียบ ไม่มีเม็ดเหงื่อ ไม่มีการตกใจ แต่ความเจ็บปวดท่วมท้นอยู่ในหัวใจผม เมื่อภาพในวันวานย้อนเข้ามาราวกับต้องการตอกย้ำความจริงที่ว่า...เกลยังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ “...” ผมถอนหายใจออกมาแล้วรีบสลัดภาพนั้นออกจากหัว ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลตรงโต๊ะข้างเตียง ตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียงในห้องของเกล รอคอยให้เธอกลับมาตั้งแต่หัวค่ำ แต่รอแล้วรอเล่า รอจนหลับไปหลายตื่นยัยนั่นก็ยังไม่โผล่หัวมาให้เห็น ปกติแล้วเกลกลับบ้านดึกสุดไม่เกินเที่ยงคืน แต่นี่ปาเข้าไปเที่ยงคืนครึ่งแล้ว ผมยังคงรอต่อไป รออยู่แบบนี้กระทั่งเช้าผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กลับมา... หางตาเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้งก็พบว่าเกือบแปดโมงแล้ว ผมลุกขึ้นนั่ง ใช้มือข้างหนึ่งขยี้เรือนผมตัวเองไปมาอย่างหัวเสีย จะบอกว่ากังวลก็พูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ เพราะผมรู้นิสัยเธอดี คนหัวหมอแบบนั้น...ถ้าหากรู้ล่วงหน้าว่าผมจะมาหา เธอคงไม่กลับมาเพื่อทำสงครามกับผมหรอก และผมรู้ว่าเธอไม่ได้กลัว แต่เพราะอะไรนั้น...ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไม่ได้มีเรื่องไม่ดีใช่ไหม? “อ้าวเอย์ ทำไมมานอนห้องพี่ได้” ภวังค์ความคิดถูกกระชากกลับมาด้วยเสียงทักทายในยามเช้าของแม่ ปกติเกลจะล็อกห้องตัวเองอย่างแน่นหนาเพราะไม่ชอบให้ใครมารบกวน แต่ก็อย่างว่า...ตอนนี้คนที่อยู่ในห้องของเธอคือผม แม่อาจจะลองหมุนลูกบิดดูแล้วพบว่าไม่ได้ล็อก ถึงได้กล้าเข้ามาในพื้นที่ของยัยตัวอันตรายอย่างเกวารินทร์ “พี่เกลไม่กลับบ้าน เอย์คิดถึง...” นั่นคือคำตอบที่ผมให้กับแม่ “หืม?” และคำตอบนั้นทำให้คนฟังส่งเรียวคิ้วผูกโบว์กลับมา “แม่เห็นทะเลาะกันออกจะบ่อย เป็นไงมาไงถึงงอแงบอกคิดถึงพี่เค้า” เป็นไปตามคาด ท่านกำลังสงสัย...และผมไม่กลัวหากท่านระแคะระคายในความสัมพันธ์ของเรา “จริงๆ เรารักกันจะตายครับ” ผมยิ้ม “เหรอ แม่เชื่อตายเลย” แม่ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อคำพูดของผม ซึ่งถูกต้องตามที่ท่านรู้สึกนั่นล่ะ...เราไม่ได้รักกันเหมือนอย่างที่โอ้อวดไว้ “รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมากินข้าวเช้านะลูก พี่เกลคงค้างบ้านเพื่อนเลยไม่ได้กลับน่ะ” “...ครับ” หลังจากขานรับ แม่ก็ปิดประตูแล้วเดินจากไป... ส่วนผมยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ ปล่อยให้เวลาผ่านไปเหยียบสิบนาทีก็ยังไร้เงาของเธอ สุดท้ายผมต้องลุกขึ้น อาบน้ำแต่งตัวลงไปกินข้าวเช้าตามที่แม่บอก ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ในใจเดือดปุดยิ่งกว่าน้ำถูกต้ม End Describe Gale Describe “ตั้งใจเรียน” คำบอกกล่าวของผาดังขึ้น หลังจากรถยนต์คันโปรดของเขาเคลื่อนมาจอดหน้ารั้วมหาวิทยาลัย แต่เมื่อฉันไม่ตอบสนอง อีกทั้งยังทำท่าจะเปิดประตูลงจากรถ เป็นผลให้มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือข้างขวาของฉัน วิธีรั้งดังกล่าวทำให้ฉันต้องหันหน้ากลับไปมองอย่างช่วยไม่ได้ “...?” ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีคำถาม เมื่อพบว่าใบหน้าหล่อเหลาของผาแสดงความกังวลออกมาอย่างไม่ปิดบัง พอดีเรามีปัญหากันนิดหน่อย...เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวาน หลังเลิกเรียนรถฉันเกิดเสียขึ้นมา ด้วยความที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการซ่อม กอปรกับฉันได้รับโทรศัพท์จาก ‘ใครคนหนึ่ง’ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สุดท้ายเลยไม่ได้กลับบ้านและเลือกค้างที่อู่ซ่อมรถของเขา “ปกติก็หยิ่งอยู่แล้ว พอโกรธแล้วฉันกลายเป็นธาตุอากาศเลย” ผาบีบข้อมือฉันแน่นมาก ซึ่งส่วนที่เขาสัมผัสอยู่คือบริเวณเดียวกันกับที่มีรอยช้ำสีม่วง ครั้นเมื่อฉันหลุบตามองจุดที่มือหนากำลังกอบกุม ความแนบแน่นดังกล่าวก็ค่อยๆ คลายออก หลงเหลือเพียงความอ่อนโยนกับแววตาซึ่งเปลี่ยนมาเว้าวอน ผาอายุ 24 ปี เป็นพวก Tattoo Lover จึงมีรอยสักเต็มตัว เขามีภาพลักษณ์แบดบอยไม่ต่างจากหัวโจกแก๊งอันธพาลคุมเมือง เลือดร้อน และหัวรุนแรง ถ้าให้นับ...ผามีข้อดีแค่สองอย่างคือหน้าตาดีและไม่เคยนอกใจฉัน อันที่จริงฐานะทางบ้านเขาก็ร่ำรวยใช้ได้ แต่ไม่ขอนับว่าเป็นข้อดี เพราะฉันไม่ได้หวังเกาะผู้ชายกินอยู่แล้ว “รู้ตัวก็ดี” ฉันเอ่ยเสียงเย็นชา ต่อให้เราคบกันมาเป็นปีแล้ว แต่ฉันไม่เหมือนคนอื่นที่ชอบสวีตกับแฟน เกลียดการสกินชิพ และเกลียดการงอนง้อต่างๆ ที่แสนจะเปลืองพลังงานและโคตรไร้สาระ ตอนนี้ฉันอาจแสดงท่าทีเหมือนกำลังโกรธ แต่จริงๆ แค่กำลังสอนเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม