หล่อนวอนขออีกครั้งชิดปากของเขา เมื่อจามาลไม่ยอมขยับปากสักที มือบางรัดรอบลำคอแกร่งเอาไว้แน่นพอๆ กับการเบียดกระแซะกายสาวเข้าไปหาพ่อตัวโตนั่นแหละ เสียงครางเบาๆ ของพ่อผู้ชายในอ้อมแขนดังขึ้น ก่อนที่ปากร้อนผ่าวของพ่อคุณจะขยับ ขยับอย่างรุนแรง หนักหน่วงและดุดัน ทำราวกับว่าเขาได้สิ้นสุดความอดทนอดกลั้นเสียแล้ว
“จามาล... อืมม์...”
อลิซครวญครางเมื่อรสจูบของจามาลเร้าใจขึ้น เขาขยี้ปากของหล่อนอย่างดุดัน ก่อนที่จะบังคับให้หล่อนเปิดปากรับลิ้นใหญ่แต่หว๊านหวานเข้าไปภายในอุ้งปาก เขาขยับลิ้นกวาดกลืนทุกอย่าง ปลุกเร้าทุกความรู้สึกในกายสาวให้ตื่นเต้นอย่างรุนแรง หล่อนไม่เคยคิดเลยว่าจูบ... จูบจะให้ความรู้สึกดีได้ขนาดนี้ จูบจากจามาล ผู้ชายที่หล่อนไม่เคยชอบขี้หน้าเลย ทำไมถึงทำให้หล่อนร้อนเป็นไฟได้ขนาดนี้นะ โดยเฉพาะตรงซอกขา
“จามาล...”
แล้วก็เป็นหล่อนอีกนั่นแหละที่ร้องครางเมื่อพ่อจามาลตัวแสบเลื่อนฝ่ามือใหญ่ที่เคยลูบไล้อยู่ที่แผ่นหลังบอบบางมากอบกุมเต้างามเอาไว้ แต่แค่กอบกุมหล่อนคงไม่รู้สึกร้อนรุ่มแบบนี้หรอก ก็พ่อคุณเล่นขยำมันซะแทบแหละคามือนี่
“ได้โปรด... จามาล”
ปากร้อนผ่าวของชายหนุ่มละจากปากบวมช้ำของหล่อนลงไปรุกรานยังซอกคอหอมกรุ่นแทน ลิ้นใหญ่เลียเบาๆ ที่ข้างใบหู มันส่งกระแสสวาทให้ลามเลียไปทั่วทั้งกายสาว อลิซร้องครางดังขึ้น ร่างอรชรดิ้นส่ายไปมาถูไถกับความกำยำของคนตัวโตอย่างตั้งใจเชิญชวน
“เด็กบ้า... คุณยั่วผมเกินไปแล้ว...”
หล่อนไม่รู้หรอกว่าจามาลรู้สึกยังไงตอนที่พูดคำนี้ แต่ไม่นานหลังจากคำพูดนั้นจบลง พ่อคุณก็จับร่างของหล่อนหิ้วมาโยนลงบนเตียงใหญ่อย่างไม่ปรานี ร่างของหล่อนจมไปกับที่นอนก่อนที่พ่อตัวโตจะกระโดดตามขึ้นมาทาบทับ
“จามาล...”
ไม่รู้ว่าเรียกชื่อเขาทำไมเหมือนกัน รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้หล่อนต้องการผู้ชายคนนี้แทบขาดใจ ต้องการจนแทบบ้า ทั้งๆ ที่ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าเขาจะพาหล่อนไปยังสถานที่แห่งใดบ้าง แต่ความไม่รู้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งอะไรได้ หญิงสาวคิดอย่างหลงใหลหยัดเต้างามขึ้นสูงเพื่อให้ชายหนุ่มได้ขยำมันได้ง่ายขึ้น ก่อนจะดิ้นเร่าๆ เมื่อเสื้อตัวสวยถูกปลดกระดุมจนครบทุกเม็ด มือใหญ่แยกสาบเสื้อออกจากกันช้าๆ จากนั้นจึงดันบราเซียร์ตัวน้อยขึ้นไปด้านบน ก่อนที่เสียงสูดลมหายใจจากคนตัวโตจะดังสนั่นขึ้น
จามาลไม่ได้พูด ไม่ได้เอ่ยปากชมออกมา แต่สายตาของเขาบอกให้หล่อนรู้ได้เป็นอย่างดีว่าเขาพึงพอใจกับหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัวของหล่อนมากแค่ไหน หล่อนควรจะเอียงอาย ควรจะยกมือขึ้นปิดป้องมันจากสายตาสีฟ้าจัดนั้น แต่หล่อนก็ไม่ได้ทำ ได้แต่นอนนิ่งๆ ให้จามาลจ้องมองเต้างามตามอำเภอใจ ด้วยสายตาชื่นชมเงียบๆ ของเขาทำให้หล่อนรู้สึกดีเหลือเกิน
“จามาล... จูบหน้าอกฉันสิ...”
“คุณต้องการอย่างนั้นหรือ...” เสียงของเขาแหบพร่าผิดปกติ ยามพูดกับหล่อน หญิงสาวข่มความอับอายพยักหน้ารับน้อยๆ
“ใช่ค่ะ ฉันต้องการให้นายทำกับฉัน... เหมือนกับที่พระเอกในนิยาย เอ่อ ทำกับนางเอก”
ดวงตาสีฟ้าจัดหรี่ตามองหล่อนเขม็ง ในขณะที่มือใหญ่ไม่ได้ละไปจากเต้างามของหล่อนเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขาขยำพร้อมๆ กับใช้นิ้วขยี้ปลายถันสีสวยหนักหน่วงตามแรงอารมณ์
“แต่นี่มันคือเรื่องจริง... ไม่ใช่นิยาย...”
“ใช่... ฉันรู้”
ศีรษะทระนงของจามาลส่ายน้อยๆ ก่อนที่เขาจะกลิ้งลงจากร่างบอบบางทันที หญิงสาวพยายามจะรั้งเอาไว้แต่ก็รั้งไม่ทัน ได้แต่ผุดลุกขึ้นนั่งตาม
“ไม่หรอก... คุณไม่รู้อะไรเลยต่างหาก เซ็กซ์มันไม่สวยงามนักหรอกสำหรับสาวพรหมจารี...”
หล่อนเห็นเขาเสยผมซ้ำๆ สองสามครั้ง ก่อนที่พ่อคุณจะหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับหล่อน
“และผมก็ไม่มีทางอ่อนโยนกับคุณได้ ผมจะรุนแรง... และคุณจะเจ็บปวด ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะต้องเสียใจในภายหลังแน่หากเลือกผม...”
อลิซกัดปากแน่นด้วยความอับอาย เมื่อถูกชายตรงหน้าปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย นี่หล่อนไม่สวย หุ่นไม่ดี และลีลาไม่เด็ดเท่ากับแม่แอรินนั่นใช่ไหม จามาลถึงได้ผละหนีแบบนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เขาก็... เขาก็... เกือบจะทำให้หล่อนเป็นของเขาอยู่แล้ว หญิงสาวคิดอย่างขุ่นเคือง ความรู้สึกแปลบๆ ที่ไม่อยากหาสาเหตุเกิดขึ้นในอกซ้ำๆ กันหลายต่อหลายครั้ง
“มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้ขลาดเท่านั้นแหละ”
จามาลแค่นยิ้มหยัน ดวงตาสีฟ้าของเขาเต็มไปด้วยความเป็นอริ
“กรุณาพูดเสียใหม่ ผมไม่ได้ขี้ขลาด แค่ไม่อยากเกลือกกลั้วกับสาวพรหมจารีน่าเบื่อแบบคุณต่างหาก อลิซ... ออกไปซะ ออกไปจากห้องของผมซะ ก่อนที่ผมจะจับคุณโยนออกไป และนั่นคุณจะต้องอับอายแน่ๆ หากใครรู้ว่าคุณเข้ามาในห้องของผมเพื่อจุดประสงค์อะไร...”
เลือดเย็น... นี่แหละคือสิ่งที่จามาลกำลังเขวี้ยงใส่หน้าหล่อนอยู่ในขณะนี้
อลิซกัดปากแน่นจนเลือดซึม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเสียหน้ามากเท่ากับครั้งนี้มาก่อนเลย จามาลทำให้หล่อนอับอายจนแทบมุดแผ่นดินหนี ทั้งคำพูด การกระทำ และสายตาของเขาบอกให้หล่อนรู้อย่างชัดเจนเลยว่าพ่อคุณเกลียดชังหล่อนแค่ไหน
หญิงสาวพยายามข่มความรู้สึกอดสูเอาไว้ หล่อนจะไม่มีทางยอมให้ตานี่รู้หรอกว่าหล่อนน่ะกำลังรู้สึกแย่แค่ไหนที่ถูกปฏิเสธแบบนี้ หล่อนจะต้องเข้มแข็ง จะต้องยิ้มสู้ เพื่อ...? เพื่ออะไรล่ะ หล่อนทำเรื่องน่าละอายนี้เพื่ออะไรกัน อลิซร้องถามตัวเองแต่กลับไม่อยากฟังคำตอบเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรู้ดีว่าสมองจะร้องตอบออกมาว่ายังไง
ศีรษะดกดำส่ายไปมาแรงๆ จนเส้นผมกระจาย ก่อนจะเชิดหน้าสูงปั้นยิ้มกวนประสาทให้กับผู้ชายตรงหน้า
“ก็ได้... วันนี้ฉันกลับไปก็ได้ แต่ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน เพราะฉันไม่ใช่คนที่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ ถึงยังไงซะ นายก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของฉันอยู่ดี จามาล...”
หญิงสาวลอยหน้าลอยตาตอบคำถาม ขณะที่นิ้วเรียวค่อยๆ กลัดกระดุมเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อยเช่นเดิม จากนั้นก็ก้าวลงมาจากเตียง และเดินไปเผชิญหน้ากับจามาลในระยะกระชั้นชิด ชายหนุ่มถอยออกห่างทันที
“อย่าลืมล็อกประตูห้องนะพ่อหนุ่ม... เพราะไม่อย่างนั้นนายอาจจะเสียตัวได้”
เสียงหัวเราะคิกคักของอลิซดังขึ้น พร้อมๆ กับร่างอรชรที่เดินยักย้ายส่ายสะโพกผ่านประตูห้องออกไป จามาลถอนใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้อยู่ตามลำพัง ดวงตาคมกริบจ้องลงมองกึ่งกลางลำตัวด้วยความหงุดหงิดที่สุดในชีวิต
เกือบไปแล้ว... เขาเกือบทำอะไรที่น่าละอายลงไปแล้ว นอนกับอลิซหรือ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย แม้ว่าอเล็กซิโอจะสนับสนุนให้เขาจีบอลิซมากแค่ไหน แต่หล่อน... แต่เจ้าหล่อนไม่ได้รักเขาสักนิดเลย หล่อนรักแมทธิว บราวน์ต่างหาก ในขณะที่สายตาของหล่อนเขามันก็แค่ผู้ชายน่ารังเกียจคนหนึ่งเท่านั้น
ชายหนุ่มเดินไปทรุดนั่งลงบนเตียงแรงๆ ด้วยความชิงชังตัวเอง ไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายอย่างจามาลจะต้องมารู้สึกแย่ๆ เพราะพฤติกรรมแก่แดดของผู้หญิงที่ชื่ออลิซได้มากมายเช่นนี้ เพศหญิงไม่เคยมีอิทธิพลต่อความนึกคิดในสมองของเขามาก่อนเลย แต่อลิซทำให้เขารู้สึกอยากจะบ้าเพียงแค่เห็นหล่อนทำตัวสนิทสนมกับแมทธิวเท่านั้นแหละ
ศีรษะทระนงส่ายไปมาด้วยความเคร่งเครียด เมื่อลางสังหรณ์ภายในอกร้องเตือนว่าผู้หญิงคนนี้คือตัวหายนะสำหรับเขา และหากเขาไม่อยากถูกพันธนาการด้วยความรู้สึกอ่อนแอที่เรียกว่ารักล่ะก็ เขาควรจะรีบกลับอังกฤษซะ ควรจะรีบไปโดยเร็วที่สุด
‘เจเจ ช่วยฉันหน่อยเถอะนะ ช่วยแยกอลิซออกจากแมทธิวหน่อย’
แต่พอคิดจะไปจริงๆ คำขอร้องของอเล็กซิโอก็ผุดพรายขึ้นมาในสมองอีกครั้ง ย้ำซ้ำๆ ว่าเขาไม่สามารถกลับอังกฤษได้ในตอนนี้
ชายหนุ่มถอนใจแล้วถอนใจอีก และในที่สุดก็ได้แต่ทำใจ ใช่... สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือทำใจ ทำใจให้เข้มแข็ง... เข้มแข็งให้มากมากเพื่อที่จะต้านทานความคิดอุตริของอลิซให้ได้นานที่สุด นี่แหละคือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำ
ขณะที่จามาลกำลังนั่งกลัดกลุ้มอยู่บนเตียง ด้านนอกประตูร่างของ อลิซก็ยังคงไม่ก้าวเดินไปไหน แผ่นหลังอรชรยังคงพิงกับกำแพงห้องใกล้กับประตูห้องนอนของจามาล
นี่เธอทำอะไรลงไปนะอลิซ... ทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน อลิซสลัดศีรษะแรงๆ แล้วก็ต้องหน้าแดงก่ำเมื่อความรู้สึกยามถูกฝ่ามือใหญ่ขยำบนเต้าทรวงของตัวเองผุดพรายขึ้นมาเตือนว่าเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง มันรู้สึกดีเหลือเกิน จามาลทำให้หล่อนเสียววูบวาบในช่องท้อง มันเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย แล้วไหนยังจะจูบของเขาอีก จูบร้อนรุ่ม ดุดัน แต่ช่างอ่อนหวานนักในความรู้สึกของหล่อน จูบแรกที่ยอดเยี่ยม
“ทำไมถึงได้รู้สึกดีแบบนี้นะ...”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ รอยยิ้มพึงพอใจแกมเอียงอายผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้างาม ไม่เคยคิดเลยว่าจามาลจะทำให้หล่อนรู้สึกดีแบบนี้ได้ แล้วแมทธิวล่ะ จะทำให้หล่อนรู้สึกแบบนี้หรือเปล่า คำถามนี้ทำให้อลิซถึงกับส่ายศีรษะแรงๆ เลยทีเดียว เมื่อส่วนลึกภายในหัวใจร้องบอกว่า มีแค่จามาลเท่านั้นแหละที่สามารถทำให้หล่อนรู้สึกยอดเยี่ยมแบบนี้ได้
แต่หล่อนรักแมทธิว บราวน์ไม่ใช่หรือ แล้วทำไม? ทำไมยามนี้ในสมองถึงมีแต่ชื่อของตาบ้าเลือดจามาลนะ แถมในหัวยังไม่สามารถคิดภาพของตัวเองกับแมทธิวได้เลยแม้แต่นิดเดียว นี่หล่อนคงเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ต้องเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ นั่นแหละที่ยอมให้จามาลมามีอิทธิพลกับตัวเองมากมายแบบนี้
ไม่ ไม่ ไม่
จามาลก็แค่เครื่องมือชิ้นหนึ่งของหล่อนเท่านั้น ไม่มีทางเป็นอะไรมากไปกว่านี้ได้ หล่อนเกลียดเขา เกลียดจามาลที่สุดในโลก หล่อนไม่มีทางยอมให้เขาแทรกซึมเข้ามาในเนื้อหัวใจได้หรอก และที่หล่อนเหมือนกับจะคลั่งไคล้เขานั่นก็คงเป็นเพราะหล่อนไม่เคย... ใช่... หล่อนไม่เคยถูกผู้ชายจูบมาก่อน และตานี่ก็จูบเก่งเป็นบ้า หล่อนก็เลยติดใจ แค่นั้นเอง... ใช่แค่นี้เอง อย่าคิดมากน่า อลิซยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจกับความคิดของตัวเอง และเมื่อสามารถทำให้ตัวเองเป็นอิสระจากความรู้สึกสับสนได้แล้ว หญิงสาวก็เดินฮัมเพลงกลับห้องของตัวเองไปอย่างคนอารมณ์ดีสุดๆ