ความสนใจของอลิซพุ่งตรงไปยังเรือนร่างสูงสมบูรณ์แบบของ จามาลในทันทีเมื่อพ่อคุณพาความหล่อลากไส้เข้ามาปรากฏภายในห้องอาหาร มือบางที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากชะงักซะงั้น เมื่อพ่อเจ้าประคุณเดินเข้ามาใกล้ เนื้อตัวใหญ่โตทรุดลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงกันข้ามกับหล่อน สายตาสีฟ้าจัดมองหน้าหล่อนแว่บหนึ่ง ก่อนจะผ่านเลยไปยังอเล็กซิโอพี่ชายของหล่อน
“ขอโทษนะครับที่มาช้า...”
“ไม่ช้าสักหน่อยเจเจ วันนี้สาวใช้ตั้งโต๊ะเร็วกว่าปกติต่างหาก”
อเล็กซิโอยิ้มให้กับเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปตักอาหารให้กับสโรสินีที่นั่งอยู่ข้างๆ
สาวน้อยกัดปากแน่นข่มความขุ่นเคืองเอาไว้ เมื่อตาบ้าจามาลทำเหมือนกับหล่อนเป็นอากาศธาตุไม่เปลี่ยนแปลง นี่เหตุการณ์ในห้องนอนไม่ได้รบกวนจิตใจของเขาเลยหรือไงนะ ตรงกันข้ามกับหล่อนที่คิดถึงมันในทุกๆ ลมหายใจเชียวแหละ
อีตาบ้า ลืมมันลงได้ยังไงกัน!
“น้องอลิซทำไมหน้าเหมือนกับโกรธเคืองใครมาสักร้อยชาติแบบนั้นล่ะครับ”
เสียงของแมทธิวทำให้หญิงสาวได้สติ และนั่นก็ทำให้หล่อนต้องฝืนยิ้มหวานออกมา
“พอดีอลิซคิดถึงสุนัขที่เคยเลี้ยงไว้เมื่อหลายปีก่อนน่ะค่ะ พอดีมันถูกรถชนตาย...”
“เท่าที่พี่จำได้... เธอไม่เคยเลี้ยงสัตว์เลยนี่อลิซ ไปแอบเลี้ยงตอนไหนกัน”
อเล็กซิโอแย้งขึ้นด้วยความกังขา และนั่นก็ทำให้อลิซถึงกับหน้าแดงก่ำเพราะถูกจับโกหกได้คาโต๊ะอาหารเย็นเลยทีเดียว แมทธิวมองหล่อนยิ้มๆ ในขณะที่คนที่หล่อนอยากให้มองมากลับนั่งกินข้าวเงียบๆ ทำราวกับว่าเสียงของหล่อนเป็นเสียงนกเสียงกาอย่างนั้นแหละ
ทุเรศ ทุเรศที่สุดเลย ตาจามาลบ้า!
“สุนัขจรจัดที่เก็บได้จากข้างทางน่ะค่ะ พี่อเล็กไม่รู้หรอก...”
อเล็กซิโอพยักหน้ารับหงึกๆ ก่อนจะหันไปสนใจภรรยาของตัวเองต่อ ขณะที่ผู้เป็นน้องสาวก็จ้องหน้าจามาลที่ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และด้วยความน้อยใจที่เกิดจากความไม่แยแสของจามาลก็ทำให้อลิซคิดจะประชดประชันเขาขึ้นมา
“พี่แมทธิวขา... ทานนี่สิคะ อร่อยนะ”
ว่าแล้วอลิซก็ตักอาหารใส่จานให้กับแมทธิวอย่างเอาใจ ปากพูดออดอ้อนเสียงหวานฉ่ำ
“นี่ก็อร่อยนะคะ ทานเยอะๆ ค่ะ”
“ขอบคุณครับน้องอลิซ... แต่พี่ว่า...”
“ห้ามแต่ค่ะ ทานเยอะๆ อลิซอยากให้พี่แมทธิวรู้สึกดียามที่พักอยู่ที่นี่ค่ะ”
แล้วอลิซก็แนบหน้าของตัวเองกับท่อนแขนของแมทธิวด้วยท่าทางประจบประแจง แมทธิวจะดึงแขนออกก็ไม่สามารถทำได้เพราะมันเสียมารยาท จึงต้องหันไปมองอเล็กซิโออย่างขอความช่วยเหลือ
“นี่ให้มันน้อยๆ หน่อยนะอลิซ เธอเป็นสาวเป็นนางนะ ทำรุ่มร่ามแบบนี้กับผู้ชายได้ยังไงกัน”
อลิซเชิดหน้าสูง ปลายตามองจามาล แต่สิ่งที่ได้เห็นกลับมาก็คือความหมางเมินห่างเหินเช่นเดิม นี่แสดงว่าเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับหล่อนเลยจริงๆ นั่นแหละ ขนาดยั่วแบบนี้แล้วตาบ้านี่ยังนั่งกินข้าวเฉยเลย อลิซไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกแย่มากๆ แบบนี้
ก็แค่คนที่เกลียดกัน แสดงท่าทางไม่แยแสเท่านั้นเอง...
คนที่เกลียดกันเหรอ... หล่อนแน่ใจจริงๆ หรือว่าตัวเองเกลียดจามาล แน่ใจหรือว่าไอ้ความรู้สึกที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ เห็นเขาทำท่าทางห่างเหินกับตัวเองไม่ได้นั้น เรียกว่าความเกลียด มันใช่ความเกลียดชังจริงๆ เหรอ...?
“ก็อลิซรักพี่แมทธิวนี่... อยากเอาใจพี่แมทธิวไม่ได้หรือไงพี่อเล็ก”
“มันก็ได้หรอก... แต่เมื่อกี้นี้ทำไมพี่ไม่เห็นเธอทำแบบนี้เลยล่ะ เห็นนั่งกินข้าวเฉยๆ แต่พอเจเจมาเท่านั้นแหละทำนู่นทำนี่ขึ้นมาทันที พี่ว่าเธอแปลกๆ แล้วนะอลิซ...”
ข้อสังเกตของอเล็กซิโอทำเอาอลิซหน้าแดงก่ำ ความร้อนวิ่งไปทั่วทั้งร่าง หล่อนหันไปจ้องหน้าแมทธิวก็พบว่าเขาเองก็ยิ้มล้อเลียนหล่อนอยู่
“ไม่จริงนะ! พี่อเล็กต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เค้าก็ทำแบบนี้มาตลอดนั่นแหละ... เค้าไม่ได้คิดจะยั่วให้ใครหึงสักหน่อย ไม่ได้คิดสักนิดเดียว...”
สาวน้อยโวยวายและก็เรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งโต๊ะได้อย่างดีเลยทีเดียว มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา นั่นก็คือตาบ้าจามาลนั่นเอง
“เหรอ... ไม่ได้ต้องการให้ใครหึงเลยเหรอ...”
อเล็กซิโอลากเสียงยานคาง สร้างความอับอายที่สุดในชีวิตให้กับ อลิซ หญิงสาวหน้าร้อนแทบไหม้รีบผุดขึ้นยืน
“พี่อเล็กอย่ามาล้อเค้าแบบนี้นะ...”
“พี่ไม่ได้ล้อสักหน่อย แต่พูดตามที่เห็นเท่านั้นเอง จริงไหมแมทธิว”
พี่ชายของหล่อนหันไปหาแนวร่วม อลิซมองตามพี่ชายไปก็เห็น แมทธิวยิ้มบางๆ มองหล่อนอย่างรู้ทันเช่นเดียวกัน
“นี่เค้าทนไม่ไหวแล้วนะ พวกพี่เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว คนอย่างเค้านี่นะจะไปต้องการให้นายจามาลมาหึงหวง ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ให้พระอาทิตย์ขึ้นตอนกลางคืนยังง่ายกว่าเลย...”
“อเล็กคะ อย่าแกล้งอลิซซิคะ ดูสิเธออายหมดแล้ว”
สโรสินีปรามสามีตัวเอง แต่อเล็กซิโอเหมือนจะหยุดไม่อยู่ เพราะตัวเขาเองก็ต้องการให้น้องสาวลงเอยกับจามาลเป็นดีที่สุด และดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วความเป็นไปได้มันค่อนข้างสูงลิบเลยทีเดียว ก็แม่อลิซตัวน้อยหน้าแดงก่ำ แล้วก็ยังลอบมองเพื่อนสนิทของเขาด้วยสายตาโหยหาอย่างลืมตัวตลอดเวลาเสียอีก
“ผมพูดความจริงครับฟ้า... หัดยอมรับความจริงบ้างอลิซ...”
อลิซกัดปากแน่น ความอับอายทำให้หล่อนไม่สามารถทนอยู่ร่วมรับมื้อค่ำได้ต่อไป “พวกพี่แกล้งเค้า จำเอาไว้เลยนะ” พูดจบสาวน้อยก็รีบวิ่งออกไปทันที ทุกคนมองตามไปยกเว้นจามาลอีกเช่นเคย
“อลิซเลยไม่ได้กินข้าวเลย...” แมทธิวพึมพำด้วยความเป็นห่วง
“นายอย่าได้ใจดีกับยายตัวแสบนั่นอีกล่ะ เดี๋ยวจะปลื้มไม่เลิกแล้วจะยุ่ง”
อเล็กซิโอเตือนเสียงจริงจัง ขณะที่แมทธิวหัวเราะร่วนอย่างไม่ใส่ใจอะไร ก่อนจะหรี่ตามองหน้าจามาลที่นั่งทานอาหารเงียบๆ ราวกับไม่มีตัวตน
“ตอนนี้ฉันกลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้วล่ะ นู้น... เจเจนู้นคือเป้าหมายใหม่ของอลิซ”
“จริงเหรอเจเจ ฉันดีใจชะมัด”
อเล็กซิโออุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเป็นที่สุด
คนที่นั่งเงียบๆ ปฏิเสธเสียงกระด้าง
“อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วย นายก็ได้ยินไม่ใช่หรือว่าอลิซเกลียดฉันมากแค่ไหน...”
แมทธิวยิ้มกว้าง เขาพอจะมองออกว่าจามาลรู้สึกยังไงกับ อลิซ
“บางทีคนเราก็พยายามที่จะแสดงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกออกมาไม่ใช่หรือ...”
“แต่ไม่ใช่สำหรับอลิซ...”
แล้วจามาลก็เลือกที่จะรวบช้อน ผ้าเช็ดผ้าถูกวางแรงๆ บนโต๊ะอาหารก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหกฟุตสี่นิ้ว
“ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวก่อน...”
แมทธิวมองตามร่างสูงใหญ่ของจามาลไปจนลับตา ก่อนหันมาพูดกับอเล็กซิโอ
“ฉันว่าคู่นี้จบยากนะเนี่ย ปากแข็งด้วยกันทั้งคู่...”
“คู่นี้...? หมายถึงอลิซกับจามาลน่ะหรือ มันจะเป็นไปได้ยังไงแมทธิว ในเมื่ออลิซประกาศปาวๆ ว่ารักว่าคลั่งไคล้นายน่ะ แถมยังจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายยอมรับเป็นคนรักอีกแล้ว...”
อเล็กซิโอแสดงท่าทางเหลือเชื่อออกมา แต่แมทธิวมองได้ลึกกว่านั้น
“อลิซก็แค่คิดว่ารักฉันต่างหาก แต่แท้จริงแล้วอลิซชอบจามาล...”
“เป็นไปได้หรือ...” จนแล้วจนรอดอเล็กซิโอก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
แมทธิวพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เป็นไปได้แน่นอน นายไม่เห็นหรือว่าอลิซน่ะจะตามตอแยกับ จามาลทุกครั้งที่มีโอกาส ในขณะที่ฉัน... คนที่อลิซบอกว่ารักนักรักหนา อลิซกลับไม่เคยมาวุ่นวายด้วยเลย จะมีแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง...”
“ฉันคิดว่าอลิซรักนายซะอีก...”
“อลิซรักคุณจามาลค่ะอเล็ก ฟ้ายืนยันได้...”
สโรสินีที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่ต่างจาก แมทธิวเลยแม้แต่น้อย หล่อนเป็นผู้หญิงเหมือนกับอลิซ แค่มองตาก็รู้แล้วล่ะว่าอลิซคิดยังไง หล่อนก็แค่ปากแข็งตามสายเลือดในตัวเท่านั้นเอง
“คุณรู้ได้ยังไงครับฟ้า...”
อเล็กซิโอหรี่ตามองภรรยา สโรสินียิ้มบางๆ ก่อนจะสาธยายออกมา
“อย่าลืมสิคะอเล็กว่าฟ้าก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับอลิซนั่นแหละ แค่มองตาก็รู้แล้วค่ะว่าเธอคิดยังไง ฟ้าสังเกตเห็นมาหลายครั้งแล้ว เวลาที่เธอเข้ามาในห้องที่มีพวกเรารวมอยู่ด้วยกัน คนแรกที่เธอจ้องมองก็คือคุณเจเจค่ะ”
“นี่แสดงว่าผมคนเดียวใช่ไหมที่ตกข่าว...”
อเล็กซิโอหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี เพราะถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ เขาก็จะได้หมดห่วงกับอนาคตของน้องสาวเสียที แต่ความจริงไม่ว่าอลิซจะลงเอ่ยกับแมทธิวหรือว่าจามาล เขาก็ยินดีทั้งนั้นแหละ หากพวกนั้นสามารถรักน้องสาวของเขาได้อย่างจริงใจ และจริงจังกับอลิซไปตลอดชีวิต ซึ่งจามาลก็คือคนที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้
“รู้ตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่อเล็ก เอาเป็นว่าพวกเราก็เล่นไปตามเกมของ อลิซเถอะ ดูสิว่าเธอจะทำยังไงต่อไป จะปากแข็ง ใจแข็งได้นานอีกแค่ไหน...”
แมทธิวเสนอแนะ และมันก็เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดในตอนนี้ อเล็กซิโอหัวเราะออกมา
“ทีนี้นายก็สบายใจแล้วสินะ มีคนแย่งหัวใจน้องสาวของฉันไปเสียแล้ว”
“สบายใจอะไรล่ะ นี่นายลืมแล้วหรือไงว่าฉันน่ะยังมีแม่ดอกมะลิผูกคออยู่ทั้งคน และก็ยังไม่รู้จะต้องทำยังไงเลย ฉันถึงจะรอดบ่วงวิวาห์ของแม่เด็กสาวคนนี้...”
น้ำเสียงของคนพูดเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย จนอเล็กซิโอต้องปลอบใจออกมา
“บางทีน้องดอกมะลินี่อาจจะเป็นเนื้อคู่ของนายก็ได้นะแมทธิว... พรหมลิขิตไง เคยได้ยินไหม”
“เหมือนนายกับคุณฟ้าใช่ไหม...”
“ใช่ เหมือนฉันกับฟ้าไง ที่พรหมลิขิตทำให้เราได้พบกัน และรักกันแบบนี้”
อเล็กซิโอหันไปจูบแก้มภรรยาฟอดใหญ่ สโรสินียิ้มอย่างเอียงอาย ใบหน้างามแดงก่ำ
“แต่ฉันไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตอเล็ก และเชื่อเถอะว่าฉันไม่มีทางรักใครได้... ฉันชอบอิสระ”
“สักวันนายจะไม่พูดแบบนี้...”
อเล็กซิโอเตือน แต่แมทธิวกลับไหวไหล่กว้างของตัวเองอย่างไม่แยแสเสียนี่
“ตรงกันข้ามอเล็ก ฉันจะพูดแบบนี้ไปจนตายนั่นแหละ...”
จากนั้นแมทธิวก็ก้มหน้าก้มตาตักอาหารใส่ปากด้วยท่าทางสง่างาม ทำราวกับว่าแม่ดอกมะลินั่นไม่มีผลอะไรกับความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว ภาพใบหน้าอ่อนเยาว์ของแม่นั่นกำลังผุดพรายขึ้นมาเต็มหัวเลยทีเดียว
ให้ตายเถอะ เขาไม่อยากรู้สึกอึดอัดน่าสะอิดสะเอียนแบบนี้เลย