ตอนที่ 6
“บอกท่านพ่อของเจ้าด้วยนะหยวนเจ๋อ อาขออภัยที่เลี้ยงดูลูกได้มิดี ไปก่อเรื่องสร้างความลำบากและรำคาญใจให้กับบิดามารดาของเจ้า ไว้อาจะพาไอ้เจ้าลูกมิรักดีไปขออภัยถึงเรือน”
อา...ยังมิรู้เลยว่าเกาหยุนเหลียงไปป่าวประกาศเรื่องใดไว้ ท่านพ่อก็ตวัดสายตามิพอใจระคนมีโทสะมองมาที่เขาอีกแล้ว
เฮ้อ! อยู่เพียงมินาน ก็ทำให้เขาถูกท่านพ่อเกรี้ยวกราดใส่มาเป็นชุดแล้ว หากอยู่นานไป...คิดว่าคงจะต้องถูกท่านพ่อจับขังไว้ในห้อง มิออกมาแรมเดือนเป็นแน่ เป็นเช่นนี้แล้ว...เขามิโทษเกาหยุนเหลียงตัวจริงเรื่องที่แค้นเคืองซ่งหยวนเจ๋อจนหาเรื่องเช่นนี้แล้วล่ะ
“ข้าน้อยขออภัยแก่ท่านพ่อและคุณชาย...”
เขมกรอ้าปากค้างเมื่อซ่งหยวนเจ๋อหันใบหน้ามาทางตน คือ...ขอพูดแบบสตรีในช่วงเวลาที่เขาจากมาชอบพูดกันนะ คนอะไรก็มิรู้ หล่อ...โคตรพ่อโคตรแม่ หล่อแบบไม่บันยะบันยัง หล่อจนเครื่องในตับไตไส้พุงถึงกับเต้น
รูปหน้าคมชัด เครื่องหน้าที่ลงตัว คิ้วหนายาวปลายชี้ขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาโตสองชั้นที่ดูเหมือนจะเจ้าชู้หากก็เย้ายวนชวนมอง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอิ่มเต็มได้รูป
ดูโดยรวมแล้วทุกส่วนสอดรับกับหมด ขนาดตัวเขาที่มิชื่นชอบบุรุษ แต่เห็นใบหน้าของซ่งหยวนเจ๋อแล้วก็อดที่จะใจสั่นไหว...หน้าร้อนผ่าวจนกล่าวอันมิออกไปชั่วครู่ หากเมื่อเห็นรอยยิ้มที่มุมปากราวกำลังเหยียดหยามอยู่ ทำให้เขาได้สติกลับคืนมา
“ซ่งหยวนเจ๋อ...ด้วยขอรับ ตัวข้านับตั้งแต่ฟื้นจากอาการป่วยไข้ ความจำก็เลอะเลือน บางครั้งก็จำได้ หากบางคราก็นึกอันใดมิออก ข้าน้อยหวังว่าคุณชายซ่งหยวนเจ๋อจะให้อภัยและขอรบกวนช่วยชี้แนะด้วย ข้าไปทำเรื่องร้ายแรงอันใดไว้หรือขอรับ” เขมกรกล่าวพลางฉีกยิ้มอย่างมิรู้มิชี้ อีกทั้งยังกะพริบตาปริบ ๆ เรื่องตีหน้าซื่อมิรู้เรื่องราวใด ๆ น่ะ ตอนนี้เขาถนัดนักแหละ
“จดจำเรื่องที่ผ่านมา...มิได้เลยหรือ”
ดูเหมือนซ่งหยวนเจ๋อจะเชื่อบ้างเล็กน้อย หากมิเชื่อมีมากกว่าสินะ แต่จะทำอันใดได้ล่ะ ก็เขา...มิใช่เกาหยุนเหลียงเสียหน่อย จะไปรู้เรื่องที่ผ่านมาได้ยังไงกันล่ะ
“ไม่เลยขอรับ” เขมกรยังยืนยันคำเดิม
ดูเหมือนว่าซ่งหยวนเจ๋อจะรู้สึกว่าเขาผิดปกติ ถึงได้มองแบบ...มองอย่างจับผิด หากเมื่อเจอยิ้มแบบ...ข้ามิรู้เรื่องเข้าก็แอบถอนหายใจ ดูท่าจะหงุดหงิดอยู่นะ
“นับแต่ฟื้นมา เจ้ามิได้ออกไปนอกเรือนเลยหรืออย่างไรกัน”
แนะ...ยังมิเชื่อ ยังคงจ้องจับผิดอยู่อีก “ท่านกล่าวอย่างกับลืมไปแล้วว่าข้าเพิ่งจะหายจากอาการป่วยเป็นไข้...อย่างหนัก ท่านแม่เป็นห่วง กลัวว่าข้าจะไปเป็นลมเป็นแล้งในตลาด จึงขอให้ข้าอย่าออกไปเที่ยวซุกซนนอกเรือน” อยากจะดื้อนะ แต่พอได้เห็นใบหน้าทุกร้อนใจของท่านแม่แล้ว เมื่อเขาใช้ร่างกายนี้อยู่ ก็ถือว่าเป็นลูกของท่านแม่ จะมิทำตามคำขอร้องนั้นได้อย่างไรกันล่ะ
“ข้ารู้สึกผิดที่ทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่มิสบายใจ เลยมิย่างกรายออกไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นและสร้างเรื่องให้ท่านพ่อและท่านแม่มิสบายใจแม้สักครั้งเลยขอรับ” ดูเหมือนที่เขากล่าวออกไปจะทำให้หลายคนที่นั่งรอดูผล เกาหยุนเหลียงจะถูกบิดาลงทัณฑ์อย่างไรจะมิชอบใจ ถึงได้หลุดเสียงหงุดหงิดออกมา
“ข้าจึงมิรู้เรื่องอันใดเลย” ถึงบ่าวไพร่จะซุบซิบนินทาด้วยเสียงอันดัง...หวังให้เขมกรได้ยิน จนโมโหขาดสติ กลายเป็นก่อเรื่องให้ตนเองถูกบิดาลงทัณฑ์ สร้างความเสียใจให้กับมารดานะหรือ เรื่องอะไรที่เขาจะเอาวาจาไร้สาระพวกนั้นมาใส่ใจด้วยล่ะ ไม่อยากหงุดหงิดปวดหัวจนนอนไม่หลับ อีกทั้งเขาก็มิใช่เกาหยุนเหลียงคนที่สร้างเรื่องทั้งหลายแหล่นี่น่า
“ข้าจึงต้องขอรบกวนคุณชายซ่งหยวนเจ๋อ ช่วยบอกกล่าวให้รู้ ข้าไปสร้างเรื่องอันใดกับท่านไว้” หากตามิฝาดไปนะ เขมกรคิดว่าตนเองเห็นหางตาของซ่งหยวนเจ๋อกระตุกนะ เห็นแล้วรู้สึกดีมิน้อย แต่เขาก็ยังคงยิ้มอย่างมิรู้มิชี้ต่อไป
“เจ้านี่มัน...”
“ท่านพ่ออย่าโกรธเคืองลูกเลยนะขอรับ ลูกรู้แล้วว่าทำตัวมิดีมามาก ทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่ผิดหวังเสียใจมิน้อย ลูกตั้งใจว่านับจากนี้ไปจะเปลี่ยนแปลงตนเอง จะมิทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่ต้องเป็นกังวลและทุกข์ใจเพราะข้าอีกแล้วขอรับ”
ปกติก็มิได้เก่งอะไรหรอกนะ แต่ไอ้เจ้าเกาหยุนเหลียงสร้างเรื่องมิดีเอาไว้เสียมากมาย หากเขามิความสามารถในการเอาตัวรอดไว้บ้าง...ย่อมจะต้องถูกท่านพ่อลงโทษจนมิได้ออกจากห้องเป็นแน่
เขมกรรีบปั้นหน้าหม่นหมองเศร้าและส่งสายตาสำนึกผิดไปเว้าวอนท่านพ่อให้เชื่อ หากมีบางคนทำให้เขาหลุดวาจามิน่าฟังออกไปจนได้
“คนอย่างเจ้านี่นะ...จะทำเช่นนั้นได้”
เขมกรหันไปส่งยิ้มให้กับคนที่กล่าว “เมื่อข้ารู้ตัวว่าได้ทำเรื่องมิดี ทำสิ่งผิดไว้มากมาย ก็คิดเปลี่ยนแปลงตนเองให้กลายเป็นคนที่ดีขึ้น ให้ท่านพ่อกับท่านแม่ได้ภูมิใจในตัวบุตรชายเกเรคนนี้บ้าง มันผิดมากนักหรือขอรับท่านแม่สาม หรือการที่ข้าคิดปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น จะเป็นการมิดีสำหรับบุตรของท่าน...ใช่ไหมขอรับท่านแม่สาม”
มิต้องกล่าวให้มากความไปกว่านี้ ด้วยแค่นี้ท่านแม่สามก็โมโหจนควันแทบจะออกหูแล้วล่ะ ก็...น้องสามนั้นเกเร นิสัยเสียมิแพ้เกาหยุนเหลียงเลย ดูเหมือนจะเป็นพวกวาจากลับกลอก ต่อหน้าอย่าง ลับหลังเป็นอีกอย่าง หากจะจำมิผิด เป็นคนที่ชอบยุยงผู้อื่นให้ต่อยตีกันด้วยซ้ำ ร้ายกว่าเกาหยุนเหลียงเยอะเลย
ฮึ...
“ช่างน่าขายหน้ายิ่งนักที่ทำให้คุณชายซ่งหยวนเจ๋อมารู้มาเห็นการแสดงออกซึ่งความรักของข้ากับเหล่าพี่น้องเข้า ข้าต้องขออภัยท่านด้วยนะขอรับ” เขมกรยกสองมือประกบกันแล้วโน้มคำนับให้กับซ่งหยวนเจ๋อ...รอแก้ไขเรื่องที่เจ้าเกาหยุนเหลียงทำไว้ก่อนเถอะ เขาจะขอให้ท่านแม่พาไปไหว้พระพร้อมกับสวดมนตร์ขับไล่ภูตผีปีศาจรีบไล่ให้ท่านรีบไปไกล ๆ หู ไกล ๆ ตาโดยเร็วเลย
“ตอนนี้ข้าขอรบกวนคุณชายซ่งหยวนเจ๋อช่วยบอกกล่าวให้รู้ ข้าน้อยผู้นี้ได้ไปทำเรื่องอันใดที่เป็นล่วงเกินคุณชายหรือขอรับ”
รีบบอกแล้วรีบกลับไปเลย เขามิอยากเห็นหน้า ได้ฟังวาจาแล้วรู้สึกเหมือนกับมีแมลงที่มีเสียงอันน่าเกลียดมาบินอยู่ใกล้หู อยากจะตบให้ท้องแตกตาย! แล้วกระทืบให้จมลงไปในดินที่ต้องรีบฝังกลบซ้ำเพื่อมิให้มีแรงบินกลับขึ้นมาก่อกวนกันได้อีก
ดูเหมือนว่าวาจาและรอยยิ้มแบบ...มิรู้มิชี้ของเขาจะทำให้ซ่งหยวนเจ๋อจะมีอาการคล้ายจะ...มิน่าจะเป็นอาการเก้อเขินนะ น่าจะเป็นประหนึ่งพายุร้ายกำลังก่อตัว มันก็ยิ่งทำให้สงสัย...เกาหยุนเหลียงก่อเรื่องอันใดไว้นะ