ตอนที่ 5

1509 คำ
ตอนที่ 5 หือ...นั่นใครนะ? เขมกรมองไปยังบุรุษร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้ม...เกือบจะดำ ที่แม้จะยังเห็นหน้ามิชัดด้วยว่าอีกฝ่ายยืนหลบมุมอยู่ หากก็ทำให้หางตาเขากระตุกได้ บุรุษผู้นั้นคงจะมิใช่...ซ่งหยวนเจ๋อหรอกนะ แต่จะไม่ใช่ได้อย่างไร ในเมื่อพอกวาดตามองอย่างไม่เจาะจงก็เห็นจะมีเพียงแค่บุรุษผู้นั้นที่เป็นคนแปลกหน้าเพียงผู้เดียว เห็นเช่นนี้แล้วก็มิแปลกที่เกาหยุนเหลียงจะมิชื่นชอบบุรุษผู้นี้ ก็แม้กระทั่งเห็นยังมิชัดเจน แต่ก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่ง สุขุม สง่างามและยังจะมีรัศมีแห่งอำนาจที่แผ่กระจายมาอีกด้วย เมื่อเทียบกับร่างกายของผู้ที่เขามาอาศัยอยู่นี้แล้ว...มันช่างต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยทีเดียว เพราะอันใดนะหรือ ก็เกาหยุนเหลียงมีรูปร่างที่เล็กและบอบบาง หากมองแบบเผิน ๆ บางคนอาจจะคิดว่าเป็นสตรีก็เป็นไปได้ มันคงเป็นอะไรที่เจ้าของร่างจะต้องหงุดหงิดและช้ำชอกใจยิ่งนัก เขมกรคอตกขณะเดินไปหาบิดาที่ยิ่งใกล้เท่าไหร่ใจก็ร้อนรุ่มเท่านั้น ด้วยใบหน้าของท่านพ่อบ่งบอกเลยว่าโกรธจัด! “เกาหยุนเหลียงคารวะท่านพ่อขอรับ” “มาแล้วรึเจ้าลูกตัวดี!” เขมกรได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ พลางกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยรู้ดีว่าจะต้องมีเรื่องแน่นอน เพียงแค่ยังมิรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านพ่อมีโทสะถึงเพียงนี้ “ท่านพี่เจ้าคะ” หือ...ท่านแม่มาด้วยเหรอ นี่เขาคิดมากจนมิทันได้สังเกตว่ามีผู้ใดอยู่บ้าง ตอนนี้ก็เลยได้เห็นว่า...พี่ใหญ่อย่างเกาอี้อานก็มากับเขาด้วย แปลกแฮะ ปกติพี่ใหญ่จะไม่สนใจเรื่องของเกาหยุนเหลียงเลย เรียกได้ว่าจะไปทะเลาะต่อยตี มีเรื่องกับผู้ใด พี่ใหญ่จะเพียงแค่มองและทำเหมือนน้องชายผู้นี้มิมีตัวตน มิควรค่าแก่การใส่ใจ...ยุ่งเกี่ยว! ยังมิหมด น้องสี่เกาฉีเหลียนกับน้องห้าเกาเข่อซิงก็มาร่วมกับเขาด้วย อา...ดูท่าเรื่องนี้จะมิเล็กอย่างที่คิดแล้ว มิเช่นนั้นน้องสามกับอนุสามคงจะมิมาเช่นกัน นี่มัน...มิใช่วันรวมญาติ หากเป็นวันฉิบหอง! ของเขมกรโดยแท้แล้ว มิได้เพียงแค่ฉิบหาย หากรวมไปถึงหายนะจนถึงขนาดขุดหลุมฝังกลบสามชั้นก็คงยังมิพ้นจากโทษทัณฑ์ที่จะได้รับเป็นแน่ อยากรู้นัก...ครั้งนี้ไอ้เกาหยุนเหลียงไปทำเรื่องอันใดไว้อีก! “ท่าน...ท่านพ่อเรียกข้ามา มีเรื่องอันใดหรือขอรับ” ในสายตาของท่านพ่อบอกได้ว่า หากมิมีเรื่อง ข้ามิสั่งบ่าวไพร่ให้ไปเรียกลูกมิเอาไหนเช่นเจ้ามาหรอก “หรือข้าไปสร้างเรื่องอันใดไว้อีกแล้ว หากจะว่าไป หลังจากหายป่วยไข้ ลูกมิได้ออกจากเรือนไปที่ไหนเลยนะขอรับ” ไอ้เกาหยุนเหลียงคงไปสร้างเอาไว้ก่อนป่วยนั่นแหละ ตอนนี้เขาก็เลยต้อง...ตอแหลไปก่อน “นี่เจ้า!” อา...มิรู้ก็โกรธแฮะ เอายังไงดีล่ะเนี่ย เขมกรเหลือบสายตามองไปทางมารดาที่แสดงออกชัดเจนว่ากระวนกระวายอยากจะช่วยข้า หากก็มิรู้ว่าจะกล่าวออกมาเช่นไรถึงจะมิเป็นเหตุให้บิดาโกรธเคืองข้ามากไปกว่านี้ คงประมาณว่า ยิ่งช่วยก็ยิ่งยุ่ง ทำนองนั้นน่ะ ความหวังที่จะให้มารดาช่วย...ตัดทิ้งไปได้เลย แล้วจะมีผู้ใดช่วยเขาได้อีกบ้าง พี่ใหญ่เหรอ...มิมีทางแน่นอน เพราะเหตุใดนะหรือ... พอจะคุ้น ๆ ในความรู้สึกว่า เกาหยุนเหลียงถือตนว่าเป็นบุตรชายของฮูหยินใหญ่ จึงมิสนใจผู้ใด กับพี่น้องก็คอยแต่หาเรื่องว่ากล่าวอยู่เสมอ บางครั้งใครถกเถียงก็มีการลงมือลงไม้กันด้วย พี่ใหญ่เลยเลือกที่จะมิกล่าวอันใด ในขณะที่น้องสาม...หากพอจะเห็นภาพลาง ๆ ในหัวเป็นประมาณว่ามีเรื่องต่อยตีจนได้รับบาดเจ็บกันอยู่บ่อยครั้ง เขมกรแอบเบือนหน้าพร้อมกับผ่อนลมหายใจด้วยความหงุดหงิดใจ ครั้งนี้ไอ้เจ้าบ้าเกาหยุนเหลียงไปสร้างเรื่องอันใดไว้อีกล่ะ ทุกคนในครอบครัวที่มิชอบหน้าถึงได้รอคอยสมน้ำหน้ายามถูกลงทัณฑ์ “ลูกขออภัยขอรับท่านพ่อ ลูกจดจำมิได้จริง ๆ ” แต่ถึงในหัวเขาจะมีความทรงจำของเกาหยุนเหลียงอยู่ หากเห็นเช่นนี้...เขายอมที่จะกลายเป็นคนความจำเสื่อม จดจำสิ่งใดมิได้มากกว่า “นายท่านเกาขอรับ” “อาบอกแล้วไงหยวนเจ๋อ ให้เรียกว่าท่านอา บิดาเจ้ากับอาหาใช่คนอื่นไกลกันสักหน่อย” กับบุรุษผู้นั้น...กล่าวเสียอ่อนโยนเชียว เขมกรได้แต่กลอกตาไปมา พลางเบะหน้าด้วยความหงุดหงิดใจ ยิ่งเมื่อซ่งหยวนเจ๋อตอบกลับมา...เขาก็รู้สึกว่าบนพื้นมีมดที่ต้องรีบบดขยี้ก่อนที่มันจะขบกัดเอา “ขอรับท่านอา” ไอ้เจ้านี่ก็อีกคน ท่านพ่อกล่าวอย่างไรก็ตอบกลับมาอย่างนั้น “ข้ามิได้อยากจะนำเรื่องร้อนใจมาหาท่านอา หากเรื่องที่บุตรชายท่านอาสร้างไว้ เกี่ยวเนื่องกับตัวข้าและครอบครัวของข้า” แค่เอ่ยปาก...เขมกรก็รู้แล้วว่ามาหาเรื่อง คิดว่าเขามิรู้หรือไง ถึงมิฉลาดมากแต่ก็มิได้โง่หรอกนะ “ท่านมีเรื่องอันใดก็ว่ามา” “เกาหยุนเหลียง!” อา...ท่านพ่อขอรับ ลูกคนนี้มิได้ตั้งใจนะขอรับ แต่ก็มิรู้เหมือนกันว่าทำไมยามกล่าวอันใดออกไปแล้วมักจะทำให้ท่านพ่อมีโทสะได้ตลอดก็มิรู้ หรือจะเป็นด้วยเหตุนี้หรือเปล่า เกาหยุนเหลียงถึงได้มิชอบหน้าซ่งหยวนเจ๋อ น่าจะเป็นเพราะถูกเปรียบเทียบ...เท่าที่เขาประเมินแบบเผิน ๆ นะ ซ่งหยวนเจ๋อน่าจะโดดเด่น เก่งและดีในทุกเรื่องทุกทาง ในขณะที่เจ้าของร่างตัวจริงที่เขามาอาศัยอยู่นี่นั้น ช่างเป็นบุรุษที่มิได้เรื่องสักอย่าง! ปมในใจคือความอิจฉาที่ตอนนี้กลายเป็นความเกลียดชังที่ยามนี้มันคงจะเก็บเอาไว้มิได้แล้ว “ขอโทษขอรับท่านพ่อ” เขมกรกล่าวเสียงเบาขณะหันไปถลึงตาและชักสีหน้าบึ้งตึงใส่ซ่งหยวนเจ๋อที่...มองมาอย่างเฉยเมยเสียจนเขาอยากจะหาไม้กระบองสักท่อนไปฟาดดู เวลาเจ็บกายแล้วจะยังคงตีสีหน้าเช่นนี้อยู่หรือเปล่า “ท่านอาอย่ามีโทสะเลยขอรับ หยุนเหลียงแค่ยังเด็ก ยังมีนิสัยวู่วามอยู่ ค่อย ๆ สอนไป มินานก็จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่เก่งกล้าอย่างที่ท่านอาต้องการแน่ขอรับ” เขมกรทำเสียงขลุกขลักในลำคอ ขณะมองซ่งหยวนเจ๋อที่ยังมิหันใบหน้ามาให้เขาเห็นเต็ม ๆ ตาอย่างที่คิดว่าในดวงตาคงมีไฟลุกอยู่ ไอ้ที่ทำอยู่ ต้องการซ้ำเติมกันใช่ไหม อยากให้เขาถูกท่านพ่อโกรธมากขึ้นและรีบลงทัณฑ์โดยเร็วใช่ไหม เขามิยอมให้เป็นเช่นนั้นหรอกน่า อย่าว่าแต่เกาหยุนเหลียงจะมิชอบขี้หน้าไอ้เจ้าซ่งหยวนเจ๋อเลยนะ ตัวเขาเองที่เพิ่งจะพบเจอหน้าครั้งแรกก็เริ่มจะมิชอบหน้าแล้วเช่นกัน ถึงมิฉลาดนักแต่ก็พอจะมองออกว่าอีกฝ่ายมิได้หวังดีอย่างที่ปากกล่าวมา หากให้ถูกคือ...เป็นการหวังดีประสงค์ร้ายอย่างชัดเจน “ข้ารับคำสั่งท่านพ่อมาบอกกล่าวเรื่องนี้ให้กับท่านอา ฮูหยินและคุณชายเกาหยุนเหลียงรับทราบขอรับ” “เจ้านี่มัน...” มีอะไรให้เขาใช้อุดปากไอ้เจ้าซ่งหยวนเจ๋อนี่ไหม เปิดปากทีไร เขาได้โดนท่านพ่อมองมาด้วยสายตาเกรี้ยวกราดทุกที “เรื่องที่คุณชายไปป่าวประกาศที่ตลาด...จนตอนนี้ชาวบ้านยังคงนินทากันมิยอมหยุดปาก เรื่องรู้ถึงหูของท่านพ่อและท่านแม่ของข้าแล้ว” ฟังวาจาของซ่งหยวนเจ๋อแล้วหางตาเขมกรถึงกับกระตุกถี่ยิบเลย หวังว่าเรื่องที่ไอ้เจ้าบ้าเกาหยุนเหลียงตัวจริงไปสร้างไว้ มันจะไม่ทำให้เขาพบเจอกับหายนะมาก...หรอกนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม