หากว่าความต้องการของคนเรา..มันมีที่สิ้นสุดก็ดีสิ เพราะมันจะสามารถทำให้เราไม่คาดหวังและไม่โลภไปกับบางสิ่งบางอย่างที่มันไม่ใช่ของเรา
แต่ทว่าโดยสันดานแล้ว มนุษย์เกิดมาพร้อมกับนิสัยที่ไม่รู้จักพอ..
ทำให้เราโลภและอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา..จนบางทีมันเป็นการ กระทำที่เกินตัวไปสักหน่อย แต่ทว่าเอเลเนอร์มิได้คิดเช่นนั้น
มันไม่มีอะไรที่เกินตัวเพราะว่าเธอในยามนี้คือภริยาของอดีตองค์จักรพรรดิ ไฮเวสนั้นดีกับเธอมาก มากกว่าที่เขาเคยสัญญาเอาไว้ เดิมทีเธอเป็นเพียงภรรยาของบารอนจนๆเท่านั้น ทีแกนดูแลเธอดีแต่ว่าความรักของเขามันมีขีดจำกัดมากมายหลายๆอย่าง ดังเช่นเธอจะซื้อชุดเดรสสักชุดยังต้องคิดแล้วคิดอีกเพราะว่าจะต้องเก็บเงินเอาไว้ให้อลิซ ลูกสาวของเธอในอนาคต
แต่ทว่าเมื่อเธอตัดสินใจวางมือของเธอลงบนมือของไฮเวส เมื่อเธอจะซื้อชุดเดรสสักชุด เขาจะสั่งให้เจ้าของร้านตัดเสื้อนำชุดเดรสแบบที่เธอชอบมาสิบชุด
เครื่องประดับราคาแพงที่เข้ากับชุด ไฮเวสก็ไม่ลืมส่งมันมาให้เธอเช่นกัน เอเลเนอร์ไม่มีความลังเลใดๆหลงเหลืออยู่เลย เธอตัดสินใจเป็นภรรยาของเขา ตัดสินใจอยู่เคียงข้างเขา และอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้เขาจะพาเธอกลับเข้าไปอยู่ที่พระราชวัง แน่นอนว่าอลิซจะได้เปิดตัวในชนชั้นสูงว่านางคือองค์หญิง และองค์ชายตัวน้อยที่เกิดมานี้..เขาจะต้องเป็นองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน เพราะว่าองค์จักรพรรดิยังไม่ให้กำเนิดทายาทเลยแม้แต่คนเดียว
"นั่งคิดอะไรอยู่อย่างนั้นหรือที่รัก"
เธอส่งยิ้มให้กับสามีผู้คอยมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอปรารถนาเพียงแค่เธอชี้นิ้วสั่งเท่านั้น หลังจากอยู่ด้วยกันมาหนึ่งปีเธอก็ตกหลุมรักเขาไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่คราแรกเธอต้องการเพียงแก้แค้นแกรนด์ดยุคเท่านั้น ทว่าตอนนี้เรื่องแก้แค้นอะไรนั่นเธอไม่สนใจอีกแล้ว
เพราะไฮเวสกล่าวว่าแค่เธอรักเขา แค่เพียงเธอรักไฮเวส แกรนด์ดยุคก็จะทรมานแล้ว เขาจะทุกข์ทรมานเพราะว่าหัวใจของเขาแหลกสลาย
เพราะเขารักเธอ แต่เธอเกลียดเขา!
คนผู้นั้นไม่มีอะไรให้ต้องเสียเวลาใจใส่ ยามนี้เธอควรจะใส่ใจเรื่องของอลิซและองค์ชายน้อยที่พึ่งจะลืมตาขึ้นมา เขามี..ดวงตาสีทองเหมือนกับไฮเวสเลย
"ข้าแค่หวั่นใจ..เรื่องที่จะต้องเดินทางไปที่พระราชวัง ข้า..มิใช่สตรีที่ดีพร้อมอะไรเลยค่ะ"
ไฮเวสหัวเราะเบาๆ
"ไม่เลยที่รัก เรื่องอะไรพวกนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเพราะว่าเจ้าไม่ต้องก้มหัวหรือว่าทำตัวมีมารยาทกับใครทั้งนั้น เจ้าคือสตรีที่มีอำนาจมากที่สุดในจักรวรรดินี้ คือสตรีที่ข้ารัก.."
การรอคอยของเขา..นับว่าคุ้มค่า
เพราะยามนี้เขาได้ครอบครองเอเลเนอร์ ได้รักเธอและเรามีลูกด้วยกัน นี่คือความปรารถนาเดียวใช้ชีวิตของไฮเวส เขามั่นคงและศรัทธาต่อความรักที่มีให้เอเลเนอร์มาโดยตลอด และวันนี้มันสมหวังแล้ว
"อันที่จริงเราอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีนะคะ"
"ไม่ที่รัก ข้ามิยอมให้เป็นเช่นนั้น ภรรยาของข้างดงามถึงเพียงนี้ ข้าจะต้องพาเจ้าไปป่าวประกาศในผู้คนทั่วทั้งจักรวรรดิได้รับรู้สิ ถึงจะถูกต้อง"
ผู้เดียวก็พอ ผู้คนทั่วทั้งจักรวรรดิไม่รู้ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าเขาต้องการให้ฮาซานได้รับรู้ ให้หมอนั่นรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเขาเมื่อยี่สิบปีก่อน! ว่าเขานั้นทรมานมากแค่ไหนจากการถูกแย่งสตรีอันเป็นที่รักไป!
......
"ค่าจ้างล่ะคะ หากว่าท่านพี่บาร์ตันต้องการให้ข้าไปช่วยงานแน่นอนว่าท่านพี่จะต้องจ่ายค่าเสียเวลาให้ข้าอย่างสมน้ำสมเนื้อด้วย"
บาร์ตันปรายตามองหน้าของคาเมล สลับกับใบหน้าของเอลิซ่า
ท่าทีอิดโรยนั่นมันคืออะไรกัน! ไอ้หมอนี่!กล้ารังแกเอลิซ่าอย่างนั้นหรือ?
เขาโยนตราประทับของตัวเองให้กับเอลิซ่า
"นี่คือกุญแจที่จะสามารถเข้าไปในคลังของพระราชวังแห่งนี้ เจ้าอยากได้มากแค่ไหนก็เอารถม้าไปใส่เอา.."
เธอแค่พูดเล่นเท่านั้น ใครจะไปคิดว่าท่านพี่บาร์ตันจะกล่าวเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ เอลิซ่าเก็บตราประทับนั้นเอาไว้ในกระเป๋าเวทมนตร์ของเธอในทันที ถึงแม้ว่าจะไม่จำเป็นในยามนี้ แต่ว่าในอนาคตเธอก็ยังบอกไม่ได้นี่..ว่าจะขัดสนเรื่องเงินทองรึเปล่า
"เช่นนั้นข้าจะให้คาเมลขนของข้ามาบางส่วนนะคะ สัปดาห์ละสองวันหนึ่งคืนเท่านั้น เพราะว่าข้ายังมีเรื่องราวมากมายที่จะต้องจัดการ"
รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าที่หล่อเหลาของบาร์ตัน เขาเดินเข้าไปหาเอลิซ่าก่อนจะโอบกอดเธอเอาไว้
"คิดถึงจะตายอยู่แล้ว.."
เธอหลับตาลงช้าๆเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คาเมลก้มหน้าลงก่อนที่เขาจะเดินออกไปด้านนอกและเฝ้าหน้าประตูแทน
"..เขารังแกเจ้าถึงเพียงนี้"
"อ่า..เรื่องมันยาวค่ะ ว่าแต่ขอพลังเวทย์ของท่านพี่สักนิดได้ไหมคะ ตอนนี้ข้ารู้สึกง่วงนอนมากทีเดียว"
เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะทาบทับริมฝีปากลงไป จุมพิตที่เต็มไปด้วยรสหวานถูกบรรจงส่งมอบให้เอลิซ่าผ่านริมฝีปากที่พรำ่บอกว่ารักเธอมากแค่ไหน เขาส่งผ่านพลังเวทในร่างกายไปให้เธอพร้อมกับร่ายเวทย์รักษาให้
"เหมือนกับว่าท่านพี่แข็งแกร่งขึ้นเลยค่ะ ในด้านของพลังเวทย์ ทั้งที่ข้ามั่นใจว่าตัวเองเก่งมากแท้ๆแต่หากว่าข้าจะต้องต่อสู้กับท่านพี่จริงๆแล้วละก็ ข้าในตอนนี้ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะสามารถเอาชนะท่านได้ไหม?"
บาร์ตันลูบผมของเอลิซ่าเบาๆ
"ข้าจะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นเพราะว่าข้าจะได้ปกป้องเจ้าไง เอลิ ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็พยายามอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมาเพื่อปกป้องข้าเอาไว้ แต่ข้าอยากจะบอกกล่าวกับเจ้าว่าแค่เจ้าใช้ชีวิตที่มีความสุข แค่เจ้ามีความสุขแค่นั้นก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นให้เป็นหน้าที่ของข้าในการจัดการก็แล้วกัน"
เธอดึงเส้นด้ายสีทองบนบ่าของเขาออกมาเล่นในขณะที่เราโอบกอดกันอยู่ ความง่วงและความเหนื่อยล้าจางหายไปราวกับสายลมเพราะพลังเวทที่แข็งแกร่งของเขา
"ข้า..เสียใจนะคะที่ตัวเองไม่สามารถยืนเคียงข้างท่านพี่ได้ ท่านเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่สามารถบอกใครได้เลยว่าเรา..รักกัน"
เพราะว่าตำแหน่งของเขามันสูงส่งจนเกินไป เขามีจักรพรรดินีและถึงเขาจะสั่งปลดนาโนมิแต่เธอก็ไม่คิดจะเป็นจักรพรรดินีอยู่ดี ตำแหน่งที่หนาวเหน็บเช่นนั้น เธอไม่มีทางกลับไปอยู่ในตำแหน่งนั้นอีกแล้วอย่างแน่นอน
"ไม่เลยเอลิ ไม่ใช่อย่างนั้น..ไม่จำเป็นต้องมีใครรู้เรื่องของเราก็ได้ แค่เจ้าและข้า แค่เราสองก็พอเอลิ แค่เจ้ารู้ว่าเรารักกัน.."
ความเปลี่ยนแปลงที่เธอเองก็กำลังพยายามทำใจให้ชินเช่นกัน เพราะท่านพี่บาร์ตันเปลี่ยนไปมาในทุกๆมุมมอง เขาอ่อนโยนขึ้นมากกว่าแต่ก่อนแถมยังใจเย็นอีกด้วย
ท่านอีวานกล่าวว่าท่านพี่บาร์ตันในอดีตได้รับอิทธิพลมาจากอดีตองค์จักรพรรดิฮานีฟ ทำให้เขาเปลี่ยนไปในทันทีที่เรื่องราวในอดีตจบลง
แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นท่านพี่บาร์ตันในเวอร์ชันไหน เธอก็จะปกป้องและมั่งคงต่อเขาเสมอ