ตอนที่4 เรื่องราวของแม่ทัพเย็นชา (2)
หยางเฉินหลงถูกนำตัวไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย โดยมีโจวต้าถังคอยดูแลอีกที เขาจ้องมองบิดาและมารดาตรงลานกว้างที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มคนชุดดำด้วยความเป็นห่วง
แม้บิดาและมารดาจะไม่ดีต่อกันมาหลายปี แต่การต่อสู้ร่วมรบนั้นกลับเข้ากันได้อย่างดิบดี ทั้งสองต่างผลัดกันรุกผลัดกันถอยได้อย่างงดงามราวกับกำลังเต้นรำเพียงเท่านั้นตลอดเวลาที่ดาบถูกกวัดแกว่งก็มักจะฆ่าฟันคนชุดดำไปได้ไม่น้อย
'ท่านพ่อและท่านแม่เป็นบุคคลตัวอย่างที่เขาอยากจะเลียนแบบ'
เด็กชายจ้องมองทั้งสองด้วยสายตาเป็นประกายแห่งความนับถือ
การต่อสู้กินเวลาผ่านไปเกือบสองเค่อ (30นาที)กลุ่มคนชุดก็เริ่มล้มหายตายจากไปเสียกว่าครึ่ง ทางฝั่งของแม่ทัพเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นทันที อีกไม่กี่ก้าวพวกเขาก็จะได้รับชัยชนะแล้วแค่ฆ่าพวกมันให้หมด พวกกากเดนที่บังอาจมาลอบกัดลับหลังพวกนี้ ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้ายิ่งนัก
ฟิ้ว
ฉึก
ฉึก
ฉึก
กลุ่มห่าธนูที่เคยเงียบหายไป อยู่ ๆ ก็เริ่มปรากฏยิงถล่มใส่กลุ่มทหารอย่างรวดเร็วอีกครา บางคนไม่ได้ถูกยิงใส่จุดสำคัญแต่กลับสิ้นชีพไปอย่างรวดเร็วทันที
"ฆ่า"
"ฆ่า"
"ฆ่า"
พวกคนชุดดำแสยะยิ้มร้องตะโกนเสียงดังอย่างฮึกเหิม ก่อนจะพากันโรมรันสู้รบด้วยความรุนแรง พวกมันห้ำหั่นใส่กลุ่มทหารสกุลหยางด้วยความรวดเร็วและรุนแรงทันที
"ท่านแม่ทัพธนูมีพิษขอรับ" นายทหารคนหนึ่งเอ่ยเสียงดังขึ้นให้กับผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ
ฉึก
"อะ....อ๊อก พรวด"ไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปากต่อ ก็ถูกคมธนูจากอีกฝั่งทะลุแทงไปที่กลางอกและสิ้นชีพไปด้วยอาการเบิกตาโพล่ง
ตุบ
ร่างของนายทหารร่วงไปกองที่พื้นทันที กลุ่มก้อนเลือดไหลออกจากทวารทั้งห้าของเขาทันที ศพนายทหารคนอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลก็เช่นกันต่างก็มีสภาพไม่แตกต่างจากนายทหารคนเมื่อครู่เลยสักนิด
อีกฝั่งทางไป๋อิงอิง นางผละตัวฝ่าวงล้อมไปช่วยนายทหารคนหนึ่งที่กำลังเสียหลักจนล้มไปกองที่พื้น หญิงสาวแกว่งกระบี่ปัดป้องช่วยเหลือลูกน้องได้
"ขอบคุณขอรับนายหญิง"
"อืม อย่าประมาทกระบี่ไม่ตา" ไป๋อิงอิงกล่าวก่อนจะวิ่งไปสู่วงล้อมศัตรูอีกครั้ง
ฟิ้ว
ฉึก
ไป๋อิงอิงนางกลับพลาดท่าถูกลูกดอกธนูที่ยิงมาอย่างต่อเนื่องที่จากที่ลับเข้าให้ ปักลงไปถาก ๆ ที่แขนของนางเล็กน้อย
"ท่านพี่" ไป๋อิงอิงเผลอเรียกเสียสามีด้วยความคุ้นชินทันที กว่าจะรู้ตัวนางก็ช้าไปเสียแล้วนางถูกธนูถูกถาก ๆ ไปที่แขนเรียว ใบหน้างดงามเปลี่ยนสี ร่างกายเสียหลักก่อนจะล้มไปที่พื้นทันที
ตุบ
"อิงเอ๋อร์" หยางอวี่หนิงรีบฝ่ากลุ่มคนชุดดำเพื่อไปปกป้องภรรยาที่มีลูกธนูพุ่งเข้าใส่ทันทีอย่างมากมาย เขาเอ่ยเรียกภรรยาเสียงดังเขาเห็นเพียงนางเอ่ยเรียกเขาและเบิกตากว้างจ้องมองมาทางเขาด้วยสายตาตื่นตระหนกเท่านั้น
"ท่านพี่" ไป๋อิงอิงหักลูกธนูทิ้งหัวใจของนางในตอนนี้บีบรัดอย่างรวดเร็วนางรู้สึกว่าทุกอย่างพร่าเบลอไปหมด เพียงแค่ลูกธนูกระจอก ๆ กลับทำให้นางล้มไปกองที่พื้นได้ แสดงว่าลูกดอกนี้ไม่ปกติมันต้องเคลือบพิษไว้แน่ ๆ
"ระวังหลัง" ไป๋อิงอิงตะโกนเอ่ยบอกคนตัวโตนางรีบลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะเบี่ยงกายไปรับคมดาบที่กำลังโยนมาจากระยะไกลเพื่อปกป้องสามีที่วิ่งมาหานางไม่ดูหน้าหลังให้ดี
แม้แต่ก่อนตายสามีของนางก็มักจะเป็นห่วงคนอื่นอยู่เสมอวิ่งไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้สมที่เป็นเขาจริง ๆ แต่ทำไมพอเป็นเรื่องนั้น...เขาถึงไม่คิดเป็นห่วงนางกันนะ
ฉึก
คมดาบขนาดใหญ่ที่ที่มีแรงกระแทกพุ่งทะลุเกราะเหล็กเสียบแทงไปที่หน้าท้องของไป๋อิงอิงเสียจนนางเจ็บปวดจนต้องกระอักเลือดออกไปกองใหญ่อีกครา ไป๋อิงอิงปักดาบไว้บนดินนางนั่งชันเขาด้วยความเจ็บปวด เรี่ยวแรงที่เคยมีนั้นมลายหายไปแทนที่ด้วยความเจ็บปวดจากคมดาบที่กำลังกัดกินพลังชีวิตของนางอย่างรวดเร็ว
"พรวด...แค่ก ๆ"
'เจ็บเหลือเกิน...แต่ไม่เจ็บเท่าหัวใจที่แตกสลายไปเมื่อหกปีก่อน....แค่นี้นางทนไหว'
'เจ็บเหลือเกิน'
'นางจะตาย...แล้วสินะ'
ร่างบอบบางของไป๋อิงอิงในตอนนี้มีใบหน้าซีดเซียว ที่ผูกผมของนางนั้นร่วงหล่นไปตอนไหนไม่ทราบได้ ปอยผมที่ชื้นเหงื่อใบหน้าที่มอมแมมจากเขม่าดินและฝุ่นกลับไม่ได้ลดทอนความงดงามของนางลงสักส่วน นางก็ยังคงเป็นนางไป๋อิงอิงที่งดงามคนนั้นที่มีร่างกายที่แข็งแรงกว่าสตรีอื่นในแคว้นต้าซีแห่งนี้ แม้นางจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งแต่หัวใจของนางนั้นมันช่างบอบบางและอ่อนแอมาก ๆ
'หลงเอ๋อร์'
'ลูกชายของนางจะต้องกำพร้ามารดาแล้วสินะ'
'ทั้ง ๆ ที่นางยังอยากอยู่ดูเขาเติบใหญ่ไปมากกว่านี้อีกสักหน่อย'
'แต่นางคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว'
ไป๋อิงอิงนางจ้องมองไปยังที่ที่ลูกชายอยู่ด้วยความเป็นห่วงลูกชายของนางนั้นหวังว่าจะเติบโตขึ้นได้อย่างดี
"คะ...แค่ก ๆ "
ทั้งพิษที่ได้รับจากคมธนูและพิษบาดแผลจากคมดาบ ต่างประเดประดังถ้าโถมเข้ามาไม่หยุด ไป๋อิงอิงเจ็บปวดจนอยากตาย ๆ ไปให้จบ สงสารแต่ลูกชายเท่านั้น นางตายได้แต่ลูกชายของนางนั้นต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
โครม
หญิงสาวร่วงหล่นไปกองที่พื้นอีกครั้ง นางยันกายไม่ไหวอีกต่อไป เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นจนเปียกชุ่มไปทั่วชุดที่นางสวมอยู่ ใบหน้างดงามนั้นมีเลือดไหลไปทั่วทุกแห่ง มองไปแล้วสยดสยอง นางรู้เพียงว่ามีคนสังหารชายชุดดำทันทีที่มันแทงนางจนบาดเจ็บสาหัส สมควรตายไป!
"ท่านแม่" หยางเฉินหลงเอ่ยเรียกมารดาเสียงดังทันที เขาจ้องมองมารดาที่กองอยู่ที่พื้นด้วยความเสียใจ
เขามันคนไร้ค่ายิ่ง แม้แต่จะช่วยเหลือมารดาเขาก็ไม่สามารถทำได้ เด็กชายวิ่งออกจากที่ซ่อนทันทีเพื่อที่จะไปหามารดาที่นอนจมกองเลือดด้วยความเป็นห่วงและตื่นกลัว
"ลูกรักของแม่ แค่ก ๆ อย่าเข้ามา..." ไป๋อิงอิงน้ำตาไหลพรากในอ้อมกอดของสามี นางส่ายหัวให้ลูกชายที่โง่เขลาที่กำลังดีดดิ้นให้หลุดพ้นจากการปกป้องของโจวต้าถังอย่างเอาแต่ใจ
"ปกป้องลูกของเราด้วยนะเจ้าคะท่านพี่" นางละสายตาจากลูกชายด้วยความเสียใจ ก่อนจะเอ่ยกับสามีที่เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างอยากลำบาก
"........................." ไป๋อิงอิงนางจ้องมองชายคนรักด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเงียบ ๆ น้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งรินพร้อมเลือดที่ไหลเพราะพิษ น้ำตาและเลือดไหลรวมกันช่างเป็นภาพที่ไม่น่ามอง แต่ทำไมสามีของนางถึงจ้องมองนางไม่หยุดกันนะ
'มาเสียใจตอนนี้มันสายไปเสียแล้วล่ะ'
'คนโง่แบบท่านสมควรถูกลงโทษ'
วี้ดดดดดดด
พลุขอความช่วยเหลือที่พกติดกายมาตลอดการมีชีวิตของหยางอวี่หนิง ที่ไม่เคยถูกนำมาใช้เลยสักครั้งถูกเขานำมาใช้ เขาในตอนนี้ไม่มีแรงจะสู้รบอีกต่อไปแล้ว สติของแม่ทัพหนุ่มเลื่อนลอยเพราะสูญเสียภรรยาและเขายังถูกพิษเล่นงานอีกด้วย
ร่างหนาเขาจ้องมองภรรยาด้วยสายตาเสียใจอย่างสุดซึ้ง แค่คิดว่านางจะจากไปหัวใจของเขารู้สึกบีบรัดจนเจ็บปวดความรู้สึกต่าง ๆ ความทรงจำที่เขาแต่งงานกับนางตั้งแต่อดีตประดังประเดเข้ามาไม่หยุดเป็นฉาก ๆ
ตอนนั้นเขารักนางมากเหลือเกินและมีความสุขด้วยกันมาก ๆ แต่ทำไมเขาถึงกล้าดึงผู้หญิงอีกคนมาทำให้นางเสียใจ กว่าจะคิดได้เขาก็ไม่มีนางข้างกายอีกแล้วต่อจากนี้ไป
"แค่ก ๆ " นางไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก...มีเพียงแค่เลือดที่ไหลทะลักออกมาไม่หยุดเท่านั้น สายตาของนางที่เคยชัดเจนก็เริ่มพร่าเบลอสติสัมปชัญญะที่มีอยู่ก็เริ่มเลือนรางจางหายไปอย่างรวดเร็ว ทุก ๆ อย่างรอบกายของนางเชื่องช้าลงจนนางนั้นไม่สามารถรับรู้อะไรได้ที่สุด
กึก
มือเรียวที่เคยกำดาบแน่นก็เริ่มคลายลงอย่างช้า ๆ และร่วงหล่นไปจากมือในที่สุด นางมองเห็นทุ่งหญ้ากว้างที่สดใสที่มีสายลมบริสุทธิ์คอยพัดโบกต้นหญ้าให้พลิ้วไหวเป็นจังหวะ ที่นั่นยังมีคนที่นางรู้จักมากมายเสียเหลือเกิน ทุกคนต่างส่งยิ้มทักทายมาทางนางไม่หยุดบิดาและมารดาของนางก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน
'ท่านพ่อ ท่านแม่'
'ท่านปู่ท่านย่าของนางก็ด้วย'
ไป๋อิงอิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปหาบิดาและมารดาทันทีด้วยความคิดถึง ลมหายใจที่รวยรินที่หายใจอย่างอยากลำบากเริ่มขาดห่วงไปมือเรียวที่พยายามคว้าไปในอากาศก็ร่วงหล่นไปที่พื้นทันทีราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่นเพราะแรงลม~
'นายหญิงสิ้นแล้ว'
'นายหญิงสิ้นแล้ว'
'นายหญิงสิ้นแล้ว'
ทุกคนในตอนนี้ต่างก็รับรู้ว่านายหญิงไป๋อิงอิงนั้นสิ้นชีพแล้ว นางเสียชีวิตในคืนที่หนาวเหน็บในอ้อมกอดของสามีอย่างแม่ทัพหยางอวี่หนิง ทุกคนต่างกัดฟันแน่นจนแทบหักก่อนจะพากันต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายอีกครั้งทันทีเพื่อล้างแค้น
"ฆ่ามัน"
"ล้างแค้นให้นายหญิง"
"ฆ่า"
"ฆ่า"
"ฆ่า"
.....................
"อิงเอ๋อร์...ไม่" หยางอวี่หนิงคำรามลั่นบริเวณอย่างเจ็บปวดทันทีที่ภรรยารักจากเขาไป เขาทำได้เพียงค่อย ๆ ปิดเปลือกตาภรรยาลงเบา ๆ ร่างหนาเช็ดน้ำตาแห่งความเสียใจ เขาคว้าดาบคู่กายของภรรยาขึ้นมาอีกครั้งด้วยความแค้น น้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งรินทันทีเขาวางร่างภรรยาลงอย่างเบามือราวกับกลัวว่านางจะเจ็บปวดถ้าไม่ระวัง
'ล้างแค้นให้นางคือสิ่งที่เขาจะทำให้ได้ในตอนนี้'
ไม่รอช้าแม่ทัพหยางอวี่หนิงก็วิ่งไปสู้อีกครั้ง ยามที่แกว่งดาบแต่ละครั้งช่างรุนแรง คนชุดดำที่อยู่ใกล้ดาบต้องตายภายใต้คมดาบอย่างอนาถทันทีโดยไม่สามารถหนีไปได้
......................
"ท่านแม่ ไม่" หยางเฉินหลงฝ่าวงล้อมไปหามารดาที่จากไปแล้วทันที มารดาทิ้งเขาไปแล้ว ต่อไปเขาจะอยู่ได้อย่างไร....เด็กชายน้ำตาน้ำมูกไหลพรากอย่างอ่อนแอก่อนจะดิ้นออกจากอ้อมแขนของโจวต้าถัง เขาส่งเสียงเรียกมาเราด้วยความเจ็บปวดและเสียใจอย่างทรมาน
"คุณชายอย่าไป..." หม่าซือโถวรีบวิ่งไปตามเด็กชายทันทีด้วยความเป็นห่วง แม้ไป๋อิงอิงจะชอบกลั่นแกล้งนางแต่เด็กชายตรงหน้ากลับไม่ทำร้ายนางเลย...
นางจึงรักและเป็นห่วงเด็กชายเหมือนลูกคนหนึ่ง ด้วยความที่นางไม่สามารถมีลูกเองได้นางจึงไม่ได้มีเหตุอะไรที่จะต้องปองร้ายบุตรชายของคนที่นางรัก
ไวกว่าเด็กชายก็คงเป็นคมธนูที่กำลังพุ่งมา เป้าหมายของลูกดอกนั้นก็คือหยางเฉินหลง
"ระวังเจ้าค่ะ" หม่าซือโถวตาดีนางเอ่ยเตือนแต่มันช้ากว่าที่เด็กชายจะหลบได้...ไวกว่าปาก หม่าซือโถวนางวิ่งไปปกป้องลูกชายของคนรักด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่มีให้ลูกน้อยทันที นางผลักเขาไปด้านข้างและเข้ารับลูกดอกธนูแทนอย่างไม่เสียใจ
ฉึก
ฉึก
"ท่านน้า" หยางเฉินหลงที่ถูกผลักให้ล้มลง เขาจ้องมองไปทางอนุภรรยาของบิดาด้วยสายตาไม่เข้าใจทันที ลูกธนูสองดอกพุ่งไปที่หน้าอกของหญิงสาวจนทะลุถึงแผ่นหลัง เขาเห็นเพียงนางส่งยิ้มกว้างมาให้เขาเท่านั้น
"สือโถว" หยางอวี่หนิงรีบฝ่าวงล้อมออกมา เขารับร่างของอนุภรรยาไว้ได้ทันท่วงที หม่าซือโถวลูบไปที่ใบหน้าของสามีเบา ๆ ก่อนที่นางจะสิ้นชีวิตไปอย่างรวดเร็วเพราะพิษร้ายที่แทรกซึมจนนางไม่ได้เอ่ยลาสามีสักคำ
แม้แต่ข่าวดีที่นางต้องการบอกสามีก็ไม่ได้มีโอกาสได้บอก นางจับมือสามีมาวางไว้ที่หน้าท้องนางส่งยิ้มทั้งน้ำตาให้คนรัก แม้จะตายแต่นางก็ไม่เสียดายนางดีใจเสียด้วยซ้ำที่นางได้รักเขา.... เกิดมาชาติหน้าหวังว่าเขาและนางจะได้ครอบคู่กันจริง ๆ เสียทีนะ
"เจ้าตั้งครรภ์หรือ ฮือ ๆ"
"อะ...โอ๊ยยย"
"ฮือ ๆ"
แม่ทัพหยางอวี่หนิงเจ็บปวดจนสติแตกไปในที่สุด ทั้งเจ็บปวดจากภรรยาทั้งสองเสียชีวิตไป ไหนจะพิษต่าง ๆ ที่ประเดประดังมาไม่หยุด
ฉึก
ฉึก
ลูกธนูพุ่งออกมาอีกครั้งตรงกลางหน้าอกของแม่ทัพหยางอวี่หนิงที่หัวใจแตกสลาย เขาจ้องมองทางลูกชายด้วยสายตาขอโทษทันทีก่อนจะถูกธนูอีกหลาย ๆ ดอกยิงเข้าร่างราวกับเป้านิ่ง
ชายวัยกลางคนที่ถูกพิษจนไม่สามารถขยับกายได้ทรุดลงไปกองที่พื้นดวงตาคมจ้องมองท้องฟ้าอย่างไม่เข้าใจ น้ำตาหนึ่งสายไหลรินและหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับลมหายใจของแม่ทัพหนุ่มที่ขาดห้วงทันที
"ทะ...ท่านพ่อ"
"ท่านพ่อ ฮือ ๆ "
"ทุกคนทิ้งข้าไปหมดเลยฮือ ๆ"
ภาพที่ทุกคนเห็นเด็กชายที่เรียกหาครอบครัวด้วยความเจ็บปวด คุณชายของพวกเขาสูญเสียครอบครัวไปอย่างรวดเร็วภายในคืนเดียว เสียงร้องไห้เหมือนใจจะขาดนั้นดังกระทบจิตใจของทุกคนทั่วบริเวณ ต่างก็สงสารเด็กชายจนบางคนทนไม่ไหวอีกต่อไปวิ่งไปหยิบไม้และของที่คิดว่าสู้ได้ไปร่วมสู้กับทหารทันทีแม้แต่ตนเองจะต้องตายจากไปอย่างง่ายดายก็เถอะ
เคร้ง ๆ ๆ
"ฆ่ามัน"
"แก้แค้นให้นายท่าน"
"ฆ่ามัน"
กลุ่มทหารต่างพากันปกป้องเลือดเนื้อเชื้อไขที่เหลืออยู่คนเดียวของแม่ทัพทันที ทุกคนต่างเสียใจกับการจากไปของเจ้านายทั้งหมด เมื่อการจากไปนั้นแปรเปลี่ยนให้ทุกคนฮึกเหิมอีกครั้ง การต่อสู้จึงดุเดือดไม่น้อยคนชุดดำจึง เพลี่ยงพล้ำอีกครั้ง และพลธนูของอีกฝ่ายก็ถูกกำจัดลงโดยกลุ่มทหารที่เพิ่งมาสมทบและช่วยเหลือแต่มันก็สายไปแล้ว
"คุณชายอภัยที่พวกข้ามาช้า"
"ไม่ต้องสนใจข้า ฆ่ามันให้หมด"
"ฆ่ามันล้างแค้นให้ครอบครัวของข้า"
"ขอรับ"
"ฆ่า"
"ฆ่า"
เด็กชายในวัยสิบสี่ปีที่ใช้ชีวิตด้วยความสุขสบายมาตลอด ในตอนนี้เขากลับจับดาบจากมือศพบิดาก่อนจะวิ่งโรมรันไปร่วมรบกับทหารกล้า แม้ดาบจะหนักจนเขาแทบจะยกไม่ขึ้นแต่ด้วยแรงแค้นที่สุมอกมันทำให้ความกลัวที่เคยมีนั้นมลายหายไปแทนที่ด้วยความแค้นเท่านั้น
เด็กชายฆ่าคนครั้งแรกในวัยสิบสี่ปี แม้เขาจะไม่สามารถฆ่ามันตายได้ในคราแรก แต่เขาค่อย ๆ ฆ่ามันไปเรื่อย ๆ อย่างโหดเหี้ยมจนคนชุดดำนั้นสิ้นชีพทันทีด้วยความสยองจนมองไม่ออกเลยว่าเคยเป็นมนุษย์มาก่อน
หยางเฉินหลงแทงกระบี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนศพแรกนั้นตายไปในที่สุด เด็กชายวิ่งไปหาคนชุดดำที่สองทันที เขาจ้องมองไปทางมันราวกับหมาบ้า ก่อนจะแสยะยิ้มและไล่แทงราวกับคนเสียสติเพื่อระบายความแค้น
"ไอบ้าออกไปนะ"
"......................"
ฉึก
ฉึก
"โอ๊ยยย ตาข้า" คนชุดดำกอบกุมไปที่ใบหน้าของตนเอง มันรีบคว้ามีดพกก่อนจะแทงไปทางเด็กชายด้วยความร้อนใจ มีดคมพาดผ่านไปทางใบหน้าขาวของเด็กชายจนเลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด
"....................." แต่เด็กชายหาสนใจไม่เขายังคงแทงดาบซ้ำแล้วซ้ำเล่าลงไปที่หน้าท้องของคนชุดดำอย่างไร้สติ แม้คนชุดดำจะตายไปแล้ว
เด็กชายรู้แค่ว่าเขาต้องฆ่าพวกมันให้หมดเขาต้องล้างแค้นให้บิดาและมารดา หัวใจของเขาเต้นรัวเมื่อได้ลงดาบ แต่ทุกครั้งที่ลงดาบไปเขารู้สึกจะสบายใจขึ้นทุกครั้ง
ดังนั้นเด็กชายจึงกระหน่ำแทงดาบลงไปไม่หยุดเพื่อปลอบประโลมบิดามารดาและอนุของบิดาที่จากไป
"คุณชายพอเถอะขอรับ" โจวต้าถังเอ่ยบอกเด็กชายที่เขาเลี้ยงดูมาเหมือนกับลูกชายตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยความสงสาร เขามองดูเด็กชายแทงดาบนับร้อยครั้งเพื่อระบายอารมณ์แค้นเกือบหนึ่งเค่อได้ด้วยความเสียใจทันที
ฉึก
ฉึก
ฉึก
"ขออภัยขอรับคุณชาย" เอ่ยจบโจวต้าถังก็สะกดจุดเด็กชายให้สลบลง ก่อนจะเรียกคนสนิทมารับตัวเด็กชายไปทันที
"ไป กลับเมืองหลวง"
"ขอรับ"
ค่ำคืนที่ยาวนานและหนักหน่วงจบลงที่สุด จวนชายแดนสกุลหยางคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด สกุลหยางสูญสิ้นไปไม่น้อยเหลือไว้เพียงเลือดเนื้อเพียงคนเดียวก็คือคุณชาย หยางเฉินหลงเท่านั้น!!
หยางเฉินหลงในวัยสิบสี่ปีสูญเสียครอบครัวจากการถูกลอบสังหาร ตัวเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปที่เมืองหลวงทันทีเพื่อรักษาอาการ
เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเขาก็หนีไปที่ชายแดนหายตัวไปถึงแปดปีเต็ม ๆ จากเด็กชายแปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มที่เงียบขรึมเย็นชา เขาฝึกฝนตนเองกับกองทัพจนไต่เต้ามาเป็นแม่ทัพเหมือนกับบิดา
เขาฝึกฝนจนเขานั้นมีชายาว่าแม่ทัพอัปลักษณ์ที่มีนิสัยโหดเหี้ยมที่สุดในแผ่นดินต้าซี ยามที่เขาแกว่งดาบที่ไหน ที่นั่นจะกลายเป็นแอ่งโลหิต!