ย้อนกลับไปวันที่ผมจับตัวดอลลี่มา ในขณะที่ผมกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับเธออยู่นั้นจู่ๆก็มีคนมา เสียงออดดังรัวจนผมรู้สึกรำคาญผมจึงตัดสินใจหยุดการกระทำพร้อมกับไปดูตัวไอ้ที่มาขัดจังหวะผม แต่พอผมไปเปิดประตูก็ต้องชะงัก เพราะคนที่มาก็คือไอ้พวกเพื่อนเวรและหนึ่งในนั้นก็มีไอ้ดอลล่าร์พี่ชายของดอลลี่ด้วย
“แม่ง!มึงทำไรอยู่วะ กว่าจะมาเปิดประตูให้พวกกูได้” ไอ้เก็นจิมันบ่นขึ้นทันทีที่ผมเปิดประตู ก่อนจะตามมาด้วยไอ้เรน
“เออ ปล่อยให้พวกกูรอตั้งนาน”
“พวกมึงมาทำอะไร”ผมถามมันออกไป
“ก็ไอ้ดอลล่าร์น่ะสิ น้องสาวมันหายตัวไปไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน มันเลยให้พวกกูช่วยตามหา” ไอ้เรนมันเอ่ยตอบผมขึ้นพร้อมกับแทรกตัวเดินเข้าห้องผมไป ก่อนที่พวกมันอีกสองตัวจะตามเข้าไปติดๆ
“ว่าแต่มึงเห็นน้องกูบ้างไหมวะ” ไอ้ดอลล่าร์มันจ้องมาที่ผม ผมก็คิดอยู่แปปนึงก่อนจะตอบออกไป
“ไม่ กูไม่เห็น” ผมตอบออกไปสั้นๆ ที่ผมเลือกปฏิเสธเพราะผมคิดว่าเธอคงไม่อยากให้พี่ชายเธอรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ อีกอย่างถ้ามันรู้ว่าผมทำอะไรน้องมัน มันก็คงไม่เอาผมไว้เช่นกัน เพราะฉะนั้นทำไมผมต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยล่ะว่าไหม
“เฮ้อ พวกเราตามหามาทั้งวันแล้วนะไอ้ดอลลาร์ กูว่าเดี๋ยวน้องมึงก็กลับมาเองนั้นแหละ เชื่อกู” ไอ้เก็นจิถอนหายใจออกมาพร้อมกับบอกไอ้ดอลลาร์
“เออ กูก็ว่างั้นแหละ กูเหนื่อยไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ย อยากหลับสักงีบสองงีบ กูขอนอนที่นี่แปปนึงได้ไหมวะไอ้เรย์” ตามมาด้วยเสียงเหนื่อยล้าของไอ้เรนที่เอ่ยถามผม
“ไม่ได้!” ผมตอบออกไปเสียงเรียบทันที ก่อนที่มันจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมวะ”
“เอ้อ ทำไมพวกกูจะนอนไม่ได้” ไอ้เก็นจิก็เอ่ยถามผมขึ้นตามพร้อมจ้องหน้าผมรอคำตอบอย่างจริงจัง
“หรือว่ามึงซ่อนใครไว้” ไอ้เรนมันลุกขึ้นพร้อมชะเง้อมองไปทางห้องนอนผม
“เปล่า ไม่มีอะไร กูแค่ไม่อยากให้ใครมารบกวนกูเวลานอน อีกอย่างพวกมึงก็รู้ว่ากูไม่เคยให้คนแปลกหน้ามาที่ห้อง” ผมรีบปฏิเสธพร้อมหาข้อทางทันทีก่อนที่พวกมันจะสงสัยไปมากกว่านี้
“ก็จริงอย่างที่มันพูด” ไอ้เก็นจิเอ่ย
“ใช่หรอวะ แล้วทำไมมึงใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว”ไอ้เรนเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อ มันมองมาที่ผมซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ผมใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวแล้วใส่ชุดคลุมทับแบบลวกๆเท่านั้น ไอ้ดอลล่าร์มันก็จ้องผมด้วยความสงสัยเช่นกัน ก่อนที่ผมจะแก้ตัวออกไป
“ก็กูเพิ่งตื่นไง หรือมึงจะให้กูใส่ชุดสูทนอน”
“ก็ดีนะมึง แปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน” ไอ้เก็นจิพูดขึ้นอย่างติดกวน จนผมอยากรู้จริงๆว่าคนอย่างมันเรียนจบหมอมาได้ยังไง
“ไอ้สัส! ไปบอกพ่องมึงทำนะ” ผมด่ามันออกไปอย่างไม่จริงจัง ก่อนที่ไอ้ดอลล่าร์ที่นั่งเงียบอยู่นานจะพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“เออ งั้นพวกกูไม่กวนมึงละ”
“เอ้า พอมึงจะกลับก็กลับง่ายๆเนี่ยนะ” ไอ้เรนมันพูดขึ้น
“อืม ก็อย่างที่พวกมึงบอก เดี๋ยวน้องกูมันก็กลับมาเอง” ไอ้ดอลล่าร์มันพูดพร้อมเหลือบไปมองทางห้องนอนผม แต่ก็แค่แปปเดียวก่อนที่มันจะเดินออกจากห้องผมไป แล้วตามด้วยไอ้เก็นจิและไอ้เรนที่เดินออกไปด้วยสีหน้าเซ็งๆ
และหลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่ทุกคนรู้กัน ผมไม่คิดเลยว่าเธอจะน่าสนใจขนาดนี้ และแน่นอนว่าผมไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆแน่
วันถัดมา
วันนี้ผมว่างๆเลยกะว่าจะเข้าไปเช็คสินค้าที่โกดังสักหน่อย เพราะสินค้าล๊อตนี้เป็นสินค้าล็อตใหญ่ที่จะส่งออกในอาทิตย์หน้ามูลค่าหลายพันล้าน อีกอย่างสินค้าตัวนี้เป็นสินค้าตัวใหม่ที่ผมเพิ่งทดลองสำเร็จ ทว่าความสำเร็จในครั้งนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับไอ้เก็นจิเพื่อนรักของผม แน่นอนว่าผมกับมันร่วมกันคิดค้นยาตัวนี้ขึ้นมาและใช้เวลานานในการทดลองยาตัวนี้ และนี่ก็เป็นล๊อตแรกที่ผมส่งออกขายอีกด้วย
“สินค้าเป็นไงบ้าง” ผมเอ่ยถามไอ้ชินตะมือซ้ายของผมขึ้น
“เรียบร้อยดีครับนาย”
“เรื่องเส้นทาง?”ผมถามพร้อมมองไปที่สินค้าที่กำลังจัดเตรียมไว้โดยมีไอ้แคมป์มือขวาของผมเป็นคนควบคุมงาน
“เรียบร้อยแล้วครับ หากมีการปล้นพวกผมเตรียมเเผนไว้จัดการเรียบร้อยแล้วครับนาย สินค้าล๊อตนี้จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนครับ”
“ดี”ผมตอบออกไปสั้นๆ
“นายมีอะไรให้พวกผมจัดการอีกไหมครับ พวกผมจะรีบจัดการให้” ไอ้ชินตะมันถามผมขี้น
“ไม่มี สินค้าล๊อตนี้ไม่มีปัญหาก็พอ ไปทำงานต่อเถอะ”
“ครับ” ชินตะพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่จะเดินไปจัดการส่วนที่เหลือต่อ
@คอนโดคิเรย์
หลังจากผมดูสินค้าเสร็จผมก็กลับมาที่คอนโดทันที แต่พอผมเปิดประตูเข้าไปผมก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันหลังให้ผมอยู่ที่โซฟา ก่อนที่เธอจะทักทายผมขึ้นทันทีที่ผมเดินเข้ามาในห้อง
“Hi~ เรย์ เป็นไงบ้างสบายดีไหมคะ” เธอเอ่ยทักทายผมขึ้นพร้อมกับลุกเดินมาคล้องคอ ก่อนที่จะหอมแก้มผมซ้ายขวา
“โอ๊ะ โทษที พอดีเราชินแบบทักทายที่อเมริกาน่ะ” เธอเอามือลงแล้วขอโทษผมทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเรียบนิ่งของผม
“เบลล์” ผมเรียกชื่อผู้หญิงตรงหน้าขึ้น
ใช่ครับเธอชื่อเบลล์ ผมก็ไม่รู้ว่าสถานะระหว่างผมกับเธอในตอนนี้ต้องเรียกว่าอะไร เพราะผมกับเธอไม่เคยมีใครบอกเลิกกันเลย
เรื่องทั้งหมดต้องย้อนกลับไปเมื่อ 5ปีก่อน ตอนที่ผมกับเบลล์เราตกลงคบกัน เธอเป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของผมเราคบกันมาได้2ปีกว่าๆแต่แล้วเธอก็ต้องไปเรียนต่อที่อเมริกา ช่วงแรกๆเราก็ติดต่อกันปกติ แต่พอเวลาผ่านไปได้2เดือน เธอก็หายไปติดต่อไม่ได้และเธอก็ไม่ติดต่อผมกลับมาเช่นกัน จนถึงวันนี้ที่เธอมาหาผมถึงที่ห้องในเวลาที่เธอหายตัวไปเกือบ 3ปีเต็ม และที่เธอเข้ามาให้ห้องผมได้ก็เพราะว่าผมไม่เคยเปลี่ยนรหัสห้อง ‘เธอคงยังจำได้‘
“เบลล์ มาได้ยังไง”ผมถามเธอออกไปพร้อมกับมองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อเธอเลือกที่หายไปแล้วจะกลับมาอีกทำไม
“เบลล์ ก็กลับมาหาเรย์ไงคะ” เธอตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ผม แน่นอนว่าผมยังจำรอยยิ้มของเธอได้ดี เพราะเธอเป็นคนยิ้มที่มีเสน่ห์มากคนนึง รวมถึงความน่ารักและอ่อนโยนในตอนนั้นทำให้ผมคิดว่าผมตกหลุมรักเธอ ทว่าตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมยังรู้สึกแบบนั้นกับเธออยู่หรือเปล่า
“เรย์ คิดถึงเบลล์ไหมคะ ไม่เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นเยอะเลยนะ” เธอถามพร้อมเอามือมาจับแก้มผมอย่างที่เธอชอบทำกับผมในเมื่อก่อน
“กินไรมายัง หิวไหม”ผมไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะถามเธอกลับไปแทน
“ยังเลยค่ะ งั้นวันนี้เราไปกินร้านประจำของเรากันนะคะ”
“อืม”
@ร้านอาหาร
จากนั้นผมก็พาเธอมากินข้าวที่ร้านอาหาร เป็นร้านที่เมื่อก่อนผมกับเบลล์จะชอบมากินข้าวที่ร้านนี้ เธอสั่งอาหารและทำทุกอย่างเหมือนเดิมที่พวกเราเคยทำด้วยกัน ผมไม่รู้ว่าเธอทำแบบนี้ทำไม ไม่รู้ว่าเธอกลับมาทำไม ทั้งๆที่เธอหายไปโดยไม่บอกอะไรผมสักคำแต่อยู่ๆก็กลับมา มีคำถามเกิดขึ้นในหัวผมมากมายแต่ผมเลือกที่จะไม่ถามเธอออกไป ได้แต่เลือกที่นั่งมองหน้าเธออยู่เงียบๆ
สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงโวยวายขึ้นกลางร้านและด่าคนที่มองเธอและดูเหมือนเธอกำลังหงุดหงิด ซึ่งเธอก็คือดอลลี่ที่มากินข้าวกับเพื่อนของเธอ ผมเผลอสบตากับเธออยู่หลายครั้ง ที่จริงผมก็เห็นเธอตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้วแหละซึ่งเธอทำเหมือนไม่สนใจผม ผมก็เลยเลือกที่จะไม่สนใจเธอเช่นกัน หลังจากที่เธอโวยวายเสร็จเธอก็เดินออกจากร้านไปทันที ผมมองตามเธอเล็กน้อยก่อนที่เบลล์จะเรียกผมขึ้น
“เรย์รู้จักเขาหรอคะ”
“อ่อ เปล่าหรอกแค่รู้สึกคุ้นหน้าเฉยๆ” ผมตอบเธอกลับไป ที่ผมไม่บอกเพราะผมขี้เกียจอธิบายและตอบคำถามก็แค่นั้น
“อ่อ” แล้วเธอก็ก้มหน้าลงไปทานอาหารต่ออย่างมีความสุข
ส่วนผมก็ได้แต่นั่งนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ใครกันที่ทำให้เธอหงุดหงิดถึงขั้นกล้าโวยวายออกมาขนาดนั้น
เวลาผ่านไปสักพักพวกเราก็ทานข้าวเสร็จ ผมก็พาเบลล์ไปเดินช็อปปิ้งต่อ เสร็จแล้วผมก็ขับรถไปส่งเธอที่คอนโด
ระหว่างทาง
“เรย์คะ คืนนี้เบลล์ขอนอนที่คอนโดเรย์ได้ไหมคะ”
“ทำไม”ผมถามเธอกลับไป
“ก็เบลล์อยากอยู่กับเรย์นี่น่า นะน๊า”เธอพูดพร้อมทำหน้าอ้อนผม
“ขอโทษนะเบลล์ แต่ผมไม่สะดวก” ผมปฏิเสธเธอออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย ก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าหงอยออกมาแต่ก็แค่แปปเดียงก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ผม
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นไว้วันหลังเรย์ต้องให้เบลล์นอนด้วยนะคะ”
“อืม” ผมตอบกลับไปสั้นๆเพราะไม่งั้นเธอคงหาวิธีมานอนกับผมจนได้แน่ๆ ไว้ค่อยแก้ปัญหาวันหลังก็แล้วกัน
“เรย์คะ วันนี้เรย์ไปผับไหม”
“ทำไมหรอ”
“ถ้าไป งั้นเบลล์ขอไปด้วยคนนะ”
“……” ผมก็เงียบไม่ตอบ ก่อนที่เธอจะพูดต่อ
“เบลกลับไปคอนโดก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้เจอพวกเพื่อนๆของเรย์นานแล้วด้วย เบลล์อยากไปเซอร์ไพรส์”
“อือ ได้สิ” ผมก็ตอบตกลงไปอย่างไม่มีทางเลือก จากนั้นผมก็ขับรถไปส่งเธอที่คอนโด
@คอนโดเบลล์
“อย่าลืมมารับเบลล์ด้วยนะเรย์”
“อืม”
“ไว้เจอกันนะ ขับรถดีๆล่ะ” แล้วเบลล์ก็โบกมือให้ผมก่อนจะเดินเข้าคอนโดตัวเองไปอย่างอารมณ์ดี
TIME 9.00 PM
“ผับเรย์ยังคนเยอะเหมือนเดิมเลยนะคะ” เบลล์พูดพร้อมกับมองไปรอบๆผับ
จากนั้นผมก็พาเบลล์ขึ้นมาที่ชั้น 3ที่โต๊ะประจำของพวกผม
“Hi~ ทุกคน” พอเดินมาถึงโต๊ะเบลล์ก็เอ่ยทักทายพวกเพื่อนผมขึ้นทันทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เห้ย นี่เบลล์หรอ” ไอ้เก็นจิมันเอ่ยทักก่อนจะมองหน้าเบลล์พร้อมทำหน้าอึ้งๆออกมา
“อื้มม เราเอง” เบลล์ก็ยิ้มทักทายกลับอย่างเป็นมิตร
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่อะ” เก็นจิเอ่ยถามต่อ เบลล์ก็เดินไปนั่งลงโซฟาตรงข้ามกับเก็นจิ
“เมื่อวานนี่เอง”
“แล้วมากับไอ้เรย์ได้ไงอะ”ไอ้เรนที่นั่งเงียบอยู่นานก็มองเบลล์กับผมสลับกัน
“เรย์มารับที่คอนโดน่ะ” เบลล์ตอบพร้อมหันมามองหน้าผม ก่อนที่พวกมันสองตัวจะร้องแซวผมขึ้นพร้อมกัน
“หู้ยยยย”
“พวกมึงหู้ยอะไรกันวะ” เป็นเสียงของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ซึ่งมันก็คือไอ้ดอลลาร์ที่มาพร้อมดอลลี่และฟีเลีย ก่อนที่ไอ้ดอลล่าร์มันจะชะงักเมื่อเห็นเบลล์
“เบลล์” ดอลล่าร์เอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวขึ้นด้วยความแปลกใจ ก่อนที่เธอจะทักทายเขาด้วยรอยยิ้มสดใส
“หวัดดีดอลล่าร์สบายดีไหม”
“อืม ก็สบายดี”
“ว่าแต่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ดอลล่าร์เอ่ยตอบ พร้อมถามกลับ
“พึ่งมาถึงเมื่อวาน ส่วนวันนี้ไม่มีอะไรทำเรย์เลยอาสาพาเราเที่ยว” เบลล์เอ่ยตอบพร้อมกับหันไปมองหน้าคิเรย์อย่างเขินๆ
“จริงหรอวะไอ้เรย์” ไอ้เรนหันมาถามผมขึ้นพร้อมแสดงสีหน้าออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“อืม” ผมตอบมันกลับไปตามความจริง ก่อนที่ผมจะหันไปมองดอลลี่ที่นั่งเงียบอยู่ ซึ่งผมก็จ้องเธออยู่อย่างนั้น เธอก็หันมามองผมเป็นบางครั้งแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจผมเช่นเคย และแน่นอนว่าก็ไม่แปลกที่เธอจะไม่สนใจผม ก็ทำเธอเจ็บแสบไว้ซะขนาดนั้น แต่จะว่าไปตั้งแต่วันนั้นผมกับเธอก็ยังไม่เคยได้คุยกันด้วยซ้ำ ไว้ค่อยหาโอกาสคุยกับเธอแล้วกัน
“มาเบลล์ มาดื่มฉลองที่เธอกลับมากัน” เรนเอ่ยชวนหญิงสาวขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วให้ เธอก็รับแก้วนั้นไว้ก่อนที่จะยกขึ้นดื่ม
และในขณะเดียวกันคิเรย์ก็เอาแต่จ้องดอลลี่อยู่ โดยเบลล์ที่นั่งอยู่ข้างๆก็สังเกตุเห็นว่าคิเรย์ดูสนใจเธอคนนั้นเป็นพิเศษ เพราะสายตาของเขาแสดงออกชัดขนาดนั้น อีกอย่างก็น้อยมากที่คิเรย์จะสนใจผู้หญิงสักคนแบบจริงจัง เบลล์หันมองดอลลี่ ส่วนดอลลี่ที่รู้สึกถูกมองก็หันมามองหน้าเธอตามความรู้สึกเช่นกัน ก่อนที่เบลล์จะคลี่ยิ้มส่งให้เธออย่างเป็นมิตร ทว่าดอลลี่ก็ไม่สนใจเพราะเธอรู้ดีว่าภายใต้ร้อยยิ้มนั้นเหมือนมีอะไรแฝงอยู่ จนเวลาผ่านไปสักพัก
“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ดอลลี่ที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยขึ้น พร้อมกับลุกเพื่อที่จะเดินตรงไปทางห้องน้ำ ส่วนคิเรย์ที่เห็นแบบนั้นเขาก็กำลังทำท่าจะลุกตามเธอไปแต่ก็ต้องชะงักทันทีที่หญิงสาวด้านข้างเอ่นขึ้น
“เรย์จะไปไหนคะ”
“ผมจะ…”
“อยู่กับเบลล์ก่อนนะคะ ตอนนี้เบลล์รู้สึกมึนๆหัว” เบลล์พูดพร้อมจับที่ศีรษะของตัวเองเพื่อบ่งบอกถึงอาการมึนเมาจากเหล้าที่เธอดื่มเข้าจำนวนไม่น้อย ซึ่งแน่นอนว่าคิเรย์ที่เห็นแบบนั้นก็จำใจนั่งลงที่เดิมก่อนที่เบลล์จะโน้มตัวมาซบที่ไหล่ของเขาอย่างถือวิสาสะ
“……” คิเรย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่กลับมองไปทางห้องน้ำที่มีร่างเล็กอีกคนที่พึ่งเดินไปได้ไม่นาน
“เบลล์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะเหมือนจะอ้วกยังไงไม่รู้” เบลล์ผละออกจากไหล่ผมพร้อมกับเอ่ยบอกด้วยสีหน้ามึนเมาอยู่ไม่น้อย
“ให้พาไปไหม” ผมเอ่ยถามเธอขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เองเบลล์ไปเองได้”
“อืม งั้นก็เดินระวังด้วยนะ”
“อื้ม ขอบคุณนะที่เป็นห่วงเรา”แล้วเธอก็ลุกเดินออกไป
“ไอ้เรย์ตกลงมึงกับเบลล์นี่ยังไงวะ” เรนเอ่ยถามคิเรย์ขึ้นทันทีที่เบลล์เดินออกไป
“กูก็ไม่รู้” ผมเอ่ยตอบพร้อมกับยกเหล้าขึ้นดื่ม ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้มันหมายความว่ายังไง มันสับสน และบอกไม่ถูก
“กูรู้สึกว่าเบลล์ดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ว่ะ” อยู่ๆไอ้เก็นจิก็พูดขึ้นก่อนที่ดอลล่าร์จะเอ่ยตามอย่างเห็นด้วย
“กูก็รู้สึก” แน่นอนว่าไม่ใช่แค่พวกมันที่รู้สึกตัวผมเองก็รู้สึกว่าเบลล์เธอดูเหมือนพยายามทำตัวให้เป็นเหมือนเมื่อก่อน เธอดูเหมือนกำลังฝืนตัวเองยังไงยังงั้น
“แปลกยังไงวะ กูก็ไม่เข้าใจ อีกอย่างกูก็เห็นเบลล์ปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง พวกมึงคิดมากไปหรือเปล่าวะ” ไอ้เรนมันเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
“เอ้อมึงเดินผ่านหน้าห้องน้ำเมื่อกี้ได้เสียงอะไรไหมวะ”
“ได้ยินสิ กูว่านะต้องมีคนตบตีกันอีกแน่ๆ”
“เออกูก็ว่างั้นแหละ น่าเบื่อชิบหายเลย คงไม่พ้นเรื่องผู้ชาย”
“เออ”
เป็นเสียงของผู้หญิงสองคนพูดกันที่เดินผ่านโต๊ะพวกผมไป ผมคิดว่าคงไม่ใช่ดอลลี่กับเบลล์หรอกมั้ง เพราะสองคนนั้นยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ นี่ผมคิดอะไรของผมอยู่เนี่ยเฮ้อออ~
“เมื่อไหร่ดอลลี่มันจะกลับมาเนี่ย” ฟีเลียที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยขึ้นพร้อมทำหน้าเบื่อหน่ายออกมา
“เป็นอะไร” ดอลล่าร์ที่นั่งอยู่ด้านข้างก็หันไปเอ่ยถามเธอขึ้น
“ก็ฟีเลียเบื่อ อยากลงไปเต้นแล้ว”
“ระวังตัวหน่อย ที่นี่ไม่เหมือนที่รัสเซีย”
“เฮียเป็นห่วงฟีเลียหรอคะ” เธอเอ่ยพร้อมกับทำหน้าเขิน ดูก็รู้ว่าเธอชอบไอ้ดอลล่าร์
“เปล่า แต่ขี้เกียจตามแก้ปัญหาให้“
“เฮีย! ชิ๊!” ฟีเลียก็ทำหน้างอนพร้อมกับหันหน้าไปอีกทาง
“เห้ยย มึงเห็นเหมือนกูไหมวะ ผู้หญิงที่ตบกันในห้องน้ำอะ” เป็นเสียงผู้ชายสองคนที่พึ่งเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง
“เอ้อเห็นตอนนี้คนมุงกันเต็มเลย แต่เสียดายไม่เห็นตอนตบ ว่าแต่ทำไมวะ”
“อ้าวพูดมาตั้งนานกูก็นึกว่ามึงรู้จัก”
“พูดอย่างกับมึงรู้จักเขา”
“กูได้ยินมาว่าผู้หญิงหน้าสวยๆเป็นน้องสาวของมาเฟียเลยนะเว้ย”
“จริงหรอวะ งั้นกูว่าน้องหน้าสวยน่ารักคนนั้นคงไม่รอดว่ะ”
“เออ กูก็คิดเหมือนมึง”
กลุ่มผู้ชายโต๊ะข้างๆผมที่เพิ่งเดินเข้ามาพูดคุยกันขึ้นเสียงดัง แต่สิ่งที่ผมสนใจคือลักษณะของผู้หญิงทั้งสองคนนั้น…หรือว่าจะเป็น
“พูดซะกลัวพวกกูไม่ได้ยินด้วย ไอ้ห่าเอ้ย” ไอ้เรนมันบ่นขึ้น เมื่อโต๊ะกลุ่มข้างๆพูดดังจนมันเริ่มรำคาญ
“แต่มึงว่าที่ไอ้พวกนั้นพูดลักษณะมันคุ้นๆไหมวะ” ตามมาด้วยไอ้เก็นจิ ไม่ใช่แค่ผมสินะที่คิดว่าคุ้น
เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็ลุกขึ้นเพื่อเดินตรงไปทางห้องน้ำทันที
“เห้ยย ไอ้เรย์มึงจะไปไหนวะ” ดอลล่าร์ก็เอ่ยถามขึ้นแต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบจากอีกคน
“กูไม่เคยเห็นมันรีบร้อนไปไหนขนาดนี้มาก่อนเลย หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น” เก็นจิเอ่ยจบทั้งสามก็หันมองหน้ากันอัตโนมัติ รวมทั้งฟีเลียก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกที่เพื่อนตัวเองหายไปนานแบบนี้
เมื่อคิดได้แบบนั้นพวกเขาก็เดินตามคิเรย์ไปทันที