@ห้องน้ำหญิง
พอผมมาถึงห้องน้ำก็เห็นเบลล์หัวยุ่งเหยิงใบหน้ามีรอยแดงดูก็รู้ว่าเกิดจากอะไรและเบลล์ยังไปนั่งกองอยู่ที่พื้น ส่วนดอลลี่เธอไม่เป็นอะไรเลยแถมยังยืนอยู่ต่อหน้าเบลล์ พร้อมกับคนที่มุงดูอยู่ต่างก็ซุบซิบกันก่อนที่ผมจะตะโกนขึ้นด้วยความรำคาญ
“ออกไปให้หมด!” ทุกคนที่มุงอยู่ก็เงียบก่อนที่จะรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีเพราะคนส่วนใหญ่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่นี่
ตอนนี้ในห้องน้ำเหลือเพียงดอลลี่ เบลล์และคิเรย์ ไม่นานพวกเก็นจิ เรน ดอลล่าร์รวมทั้งฟีเลียก็ตามมาถึง
“เกิดไรขึ้นวะ” เก็นจิเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เดินมาถึง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงสถบของเรน
“เชี้ย!”
“ดอลลี่!” เสียงทุ้มของดอลล่าร์เอ่ยเรียกชื่อของผู้เป็นน้องสาวขึ้น
“ดอลลี่ เกิดอะไรขึ้น” ฟีเลียหลังจากเห็นเหตุการณ์ก็เดินเข้าไปหาดอลลี่ทันทีพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“มึงไม่เป็นไรใช่ไหม”
“กูไม่เป็นไร” ดอลลี่เอ่ยตอบเพื่อนเสียงเรียบพร้อมกับจ้องมองเบลล์ด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“เรย์ช่วยเบลล์ด้วย” เบลล์เอ่ยเรียกคิเรย์ขึ้นก่อนที่เธอจะพยายามลุกขึ้น ส่วนคิเรย์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบเดินเข้าไปประคองเธอทันที
“เบลล์ เกิดอะไรขึ้นทำไมถึง…” คิเรย์เอ่ยถามร่างบางพร้อมกับมองรอยแดงช้ำตามตัวของเธอ
“เบลล์ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เบลล์กำลังจะมาเข้าห้องน้ำ แต่อยู่ๆคุณดอลลี่ก็เข้ามากระชากและทำร้ายเบลล์” เธอเอ่ยตอบเสียงสั่นน้ำตาคลอพร้อมกับเข้ามาซบที่อกของเขา
“ตอแหล! ดอลลี่ไม่มีทางทำใครก่อน กูรู้จักเพื่อนกูดี” ฟีเลียที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวร้อนขึ้นทันที
“นี่คุณจะบอกว่าเบลล์ทำร้ายตัวเองงั้นหรอคะ” เบลล์หันมาเอ่ยพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าสงสาร
“หรือไม่จริง กูยังไม่ทำอะไรมึงเลย มีแต่มึงที่ทำตัวมึงเองทั้งนั้น” ดอลลี่พูดขึ้นตามความจริง
คิเรย์ได้ยินแบบนั้นก็หันมองหน้าเบลล์ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร เพราะตั้งแต่ที่เขารู้จักเบลล์มา เธอไม่น่าจะทำอะไรแบบนั้น
“คุณดอลลี่พูดอะไรคะ เบลล์จะทำร้ายตัวเองไปทำไม” เบลล์เอ่ยพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มก่อนที่เธอจะหันไปซบที่อกของคิเรย์อีกครั้ง
คิเรย์ก็ยืนนิ่งไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แถมยังกอดปลอบเธอกลับด้วยซ้ำ ดอลลี่ที่เห็นแบบนั้นก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาแต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร ก่อนที่เธอจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
“ทำไมไม่พูดเหมือนเมื่อกี้ละ มึงจะเเอ๊บทำไม”
“เบลล์ไม่ได้แอ๊บนะคะ ทำไมคุณดอลลี่ต้องใส่ร้ายเบลล์ด้วย” เธอเอ่ยออกมาด้วยแววตาใสซื่อ
“มึง!…” ดอลลี่ที่ทนไม่ไหวก็กำลังจะพุ่งเข้าใส่เบลล์
“พอได้แล้ว!”
ดอลลี่กำลังจะเข้ามากระชากตัวเบลล์แต่ก็โดนคิเรย์เดินมาขวางไว้ซะก่อน ก่อนที่เขาจะตะคอกใส่หน้าเธอเสียงดังลั่น
“……” ดอลลี่ก็ชะงักพร้อมจ้องหน้าเขาด้วยความรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ’เขาไม่เชื่อเธอ’
“มึงเชื่อมันงั้นหรอ” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้ฉันเอ่ยถามคำถามแบบนั้นออกไป
คิเรย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบออกไปเสียงเรียบ
“ตั้งแต่ที่กูรู้จักเบลล์มา เธอไม่มีทางทำอะไรแบบนี้”
“และถ้ามึงจะเอาคืนก็มาเอาคืนที่กู ไม่ใช่ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้” คิเรย์เอ่ย เพราะเขาคิดว่าที่เธอทำร้ายเบลล์อาจเป็นเพราะเธออยากที่จะเอาคืนเขา อีกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะสืบว่าเบลล์เคยมีความสัมพันธ์อะไรกับเขามาก่อน
“ได้! งั้นมึงก็เตรียมตัวรับมือจากกูไว้ให้ดีและระวังคนรอบตัวมึงไว้ด้วย” ในเมื่อเขาคิดว่าฉันเป็นคนทำ งั้นฉันก็จะทำให้เขาสมใจ
“อย่าทำร้ายเบลล์” เขาเอ่ยบอกเธอเสียงเรียบแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น
“หึ!” เธอทำเสียงออกมาพร้อมกับยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ก่อนที่จะเดินชนไหล่เขาออกไป
“ดอลลี่รอกูด้วย” ฟีเลียก็เดินตามดอลลี่ออกไปติดๆ
“สรุปแล้ว?” เรนเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจทั้งที่เขาก็ยืนฟังมันตั้งนาน แต่ก็ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ดี
“กูก็งงเหมือนกัน ไอ้ดอลล่าร์มึงเข้าใจที่พวกมันพูดไหมวะ” เก็นจิเองก็เช่นกัน ก่อนที่เขาจะหันไปถามอีกคนที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้าง แต่ทว่าก็ไร้ซึ่งคำตอบจากเขา ดอลล่าร์ยืนนิ่งพร้อมกับจ้องหน้าคิเรย์ไม่นานเขาก็เดินออกไปโดยที่ไม่กล่าวอะไรสักคำ
“อะไรของมันวะ” เก็นจิก็ได้แต่พึมพำออกมาอย่างไม่เข้าใจ
“เรย์คะ” เบลล์เอ่ยเรียกคนด้านหน้าตัวเองขึ้น ก่อนที่เขาจะหันมาประคองเธอ
“เดี๋ยวไปส่งที่คอนโดนะ”
“ไปคอนโดเรย์ไม่ได้หรอคะ พอดีว่าเบลล์เจ็บขาคงไปไหนมาไหนลำบากอีกอย่างเบลล์ก็มีแค่เรย์คนเดียว” เธอบอกผมพร้อมกับจ้องหน้าผมอย่างรอคำตอบ
“ถ้าเรย์ไม่โอเคงั้นเบลล์…”
“อืม ก็ได้” ไม่ทันที่เบลล์จะพูดจบร่างสูงก็ตอบตกลง
“ขอบคุณนะเรย์” เธอเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มให้ผมอย่างที่เธอเคยชอบทำ
จากนั้นผมก็ประคองเธอไปขึ้นรถ แล้วมาที่คอนโดผมทันที
@คอนโดคิเรย์
เอี๊ยดดด
รถหรูขับเข้ามาจอดที่ลานจอดVIP ก่อนที่คิเรย์จะลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งให้กับเธอ
“อ๊ะ”
“เป็นอะไรไหม” คิเรย์เอ่ยถามขึ้นทันที หลังจากที่เบลล์ก้าวขาลงจากรถแต่อยู่ๆขาเธอก็อ่อนแรงทำให้เกือบล้มแต่โชคดีที่คิเรย์จับร่างเธอไว้ทัน ก่อนที่เขาจะเหลือบไปมองที่ขาของเธอที่มีรอยช้ำอยู่
“ขาคงไปกระแทกกับอะไรสักอย่างตอนโดนผลัก” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนไหว ซึ่งเธอรู้ดีแก่ใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
“เดินไหวหรือเปล่า” ผมถามเธอออกไป เธอไม่ตอบแต่กลับส่ายหัวแทนเชิงบอกว่าไม่ไหว
“เรย์อุ้มเบลล์ได้ไหม” จบประโยค คิเรย์ก็นิ่งไปแต่ก็แค่แปปเดียวก่อนที่เขาจะตอบตกลง
“อืม”
จากนั้นเขาก็อุ้มเธอขึ้นมาบนห้อง คิเรย์วางเธอลงโซฟา และในขณะที่เขากำลังจะลุกออกเธอกลับไม่ยอมปล่อยมือที่คล้องคอเขาไว้ คิเรย์มองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจ ส่วนเบลล์ก็จ้องหน้าของคิเรย์ด้วยแววตาหลงใหลแต่แฝงไปด้วยความยั่วยวน ก่อนที่เธอจะค่อยๆยื่นหน้าเพื่อที่จะประกบจูบเขา ทว่าเธอก็ต้องผิดหวังเมื่ออีกคนหันหน้าหนี
“ไม่ดีมั้งเบลล์” ร่างสูงเอามือเธอออกแล้วนั่งลงบนโซฟาข้างกับเธอพร้อมกับแสดงสีหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัว
“ทำไมคะเรย์ หรือว่าเรย์ยังโกรธเบลล์อยู่” ผมหันไปมองหน้าเบลล์ทันที ก่อนจะเอ่ยถามเธอออกไป
“ทำไมผมต้องโกรธ”
“ก็เบลล์…” เธอก้มหน้าไม่กล้าสบตากับผม ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากรู้หรือต้องการคำอธิบายอะไรตั้งนานแล้ว
“ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” ผมบอกเธอออกไป พร้อมกับลุกขึ้นเพื่อที่จะออกไปจากห้องนี้ ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวขาเธอก็จับแขนผมไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิเรย์ เบลล์ขอโทษ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เบลล์สัญญาว่าเบลล์จะไม่ทำแบบนั้นอีก นะคะเรย์” เธอเอ่ยเสียงอ่อนพร้อมขอร้องผม
“ขอโทษนะเบลล์ เราคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”
“ไม่นะเรย์ เบลล์รักเรย์แค่คนเดียวมีเรย์คนเดียวมาตลอด ใช่! ช่วงนั้นเบลล์ไม่ว่าง เรียนหนักเลยไม่มีเวลาคุยกับเรย์ แต่เบลล์คิดถึงเรย์ตลอดเวลาจริงๆนะคะ” เธอพูดอธิบายมองหน้าผมพร้อมทำหน้าเศร้า
“แต่คุณก็น่าจะบอกผมสักคำ” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและเย็นชารวมถึงสรรพนามที่ใช้ก่อนหน้านี้ก่อนเปลี่ยนไป
“เบลล์ขอโทษ ฮึก” เธอเอ่ยออกมาด้วยความเสียใจจริงๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบลงบนสองแก้ม
ที่เธอบอกว่ารักเขานั่นคือความจริง แต่ด้วยความสนุกในตอนนั้นที่เธอพึ่งไปต่างประเทศได้ไม่นานและได้รู้จักกับเพื่อนใหม่รวมถึงคนที่มาจีบเธอทำให้เธอหลงใหลไปกับความสนุกและด้วยความที่อยู่ไกลกันทำให้เธอเริ่มเบื่อคิเรย์เลยตัดสินใจคบกับคนใหม่และเลิกติดต่อกับเขา แต่พอเวลาผ่านไปนานวันเข้าเธอก็เลิกกับแฟน โดยที่เธอถูกนอกใจและถูกหักหลังจากเพื่อนสนิท เธอคิดว่าคงเป็นเวรกรรมตามสนองที่เธอทำไว้ หลังจากนั้นเธอจึงได้รู้ว่ามีเพียงคิเรย์ที่รักเธอด้วยใจจริงและไม่เคยหลอกลวงเธอเลยสักครั้งแต่ว่ามันก็ผ่านมานานเกือบ3ปีแล้วที่เธอไม่ได้ติดต่อหาเขา
เมื่อคิดได้แบบนั้นเธอจึงตัดสินใจบินกลับมาเพื่อที่จะทวงคิเรย์คืน และแน่นอนว่าก่อนที่เธอจะกลับมาเธอได้สั่งให้คนตามสืบว่าช่วงนี้เขาทำอะไรกับใครบ้าง ที่ผ่านมาคิเรย์ไปเอากับผู้หญิงเป็นเรื่องปกติ แต่ว่ามีอยู่แค่คนเดียวที่ดูเหมือนว่าจะพิเศษกว่าคนอื่น ก็คือผู้หญิงคนนั้นคนที่ชื่อ ‘ดอลลี่’ เพราะว่าคิเรย์ไม่เคยพาคนแปลกหน้ามาที่คอนโด ยิ่งเอามานอนด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าคนนั้นไม่สนิทและไม่สำคัญกับเขาจริง
“ตามสบายนะ ส่วนผมจะไปนอนที่อื่น” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไปทันที
“เพราะมึงคนเดียวอีดอลลี่ คิเรย์ถึงเปลี่ยนไป กูกับมึงคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้วล่ะ” หลังจากที่คิเรย์เดินออกไป เบลล์ก็เอ่ยออกมาอย่างโกรธแค้น เธอจะไม่ยอมเสียคิเรย์ให้ใครเด็ดขาดไม่ว่าคนนั้นมันจะเป็นใครก็ตาม
ด้านดอลลี่ หลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถเพื่อที่จะกลับห้องทันที ส่วนฟีเลียกับดอลล่าร์ก็เดินตามมาติดๆ ดอลล่าร์หันมองผู้เป็นน้องสาวเล็กน้อยแต่เขาเลือกที่จะยังไม่เอ่ยถามอะไรเพราะเขารู้อารมณ์ในตอนนี้ของดอลลี่ดี เขาเลยเลือกที่จะเดินขึ้นรถฝั่งคนขับแล้วทั้งสองสาวก็เดินขึ้นรถตามก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป
@คอนโดดอลลี่
เอี๊ยดดด
ทันทีที่รถหยุดดอลลี่ก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินขึ้นห้องตัวเองไปทันทีโดยไม่คิดจะเอ่ยหรือพูดอะไร
“ขอบคุณมากนะเฮีย” ฟีเลียก็หันไปบอกดอลล่าร์ พร้อมกับเปิดประตูลงจากรถ ส่วนดอลล่าร์ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยตอบร่างเล็ก
“อืม ฝากดูมันด้วย” ถึงเขาจะดูเป็นคนนิ่งๆ แต่สำหรับคนในครอบครัวแล้วเขาไม่มีทางไม่สนใจ
“เฮียสบายใจได้“ ฟีเลียก็พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่จะวิ่งตามหลังเพื่อนไป
“ดอลลี่มึงโอเคไหมวะ” ฟีเลียเอ่ยถามเพื่อนขึ้นอย่างเป็นห่วง หลังจากที่เธอตามดอลลี่เข้ามาในห้อง
“กูโอเค” ดอลลี่ตอบกลับไป ซึ่งตอนนี้เธอก็รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วจริงๆ ตอนนั้นเป็นเพราะเธอโมโหมากเกินไปเลยทำให้เธอควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้
“แล้วตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมอิเบลล์บ้านั่นถึงมีสภาพแบบนั้น” ฟีเลียถามขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง ก่อนที่ดอลลี่จะเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้
หลังจากที่ดอลลี่เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอก็ออกมาล้างมือที่อ่างด้านหน้า และในขณะนั้นก็มีคนเดินเข้ามาล้างมือที่อ่างด้านข้างของเธอ ซึ่งคนนั้นก็คือเบลล์
ดอลลี่ก็ล้างมือตัวเธอไปอย่างไม่สนใจคนด้านข้างพอล้างมือเสร็จเธอก็กำลังจะเดินออกไปเพื่อที่จะกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง แต่ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อมีคนมาขวางหน้าเธอไว้ก่อน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกเพราะในห้องน้ำมีเพียงแค่ตัวเธอกับหญิงสาวอีกคนที่เพิ่งเข้ามา
“มีอะไร” ดอลลี่ถามอีกคนขึ้นทันที เธอรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน
“เธอชื่อดอลลี่หรอ” เบลล์ไม่ตอบแต่กลับถามดอลลี่แทน
“รู้แล้วจะถามทำไม”
“อีกอย่างเธออยู่กับฉันไม่จำเป็นต้องเสแสร้งก็ได้นะ เดี๋ยวเหนื่อย” ฉันเอ่ยบอกออกไปเพราะฉันดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอเสแสร้งทำตัวเหมือนเป็นคนดี อ่อนโยน น่ารัก แต่ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ต่างจากคนหน้าไหว้หลังหลอก
“หึ ก็ดี งั้นฉันจะถามเธอตรงๆแล้วกัน ตกลงเธอกับเรย์เป็นอะไรกัน” เบลล์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ’นี่สินะร่างจริงของเธอ‘ ชักจะเริ่มสนุกแล้วสิ
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน โอ๊ะ หรือว่าเป็นดีนะ”ฉันตอบกลับแบบกวนๆตามความเป็นจริง อีกอย่างฉันกับไอ้คิเรย์นั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ก็แค่พลาดท่าเสียตัวให้มันก็แค่นั้น และแน่นอนว่าฉันต้องเอาคืน
“นี่แกจงใจกวนประสาทฉันงั้นหรอ”
“แล้วจะทำไม อีกอย่างถ้าอยากรู้ก็ไปถามมันสิมึงมาถามกูทำไม”
“มึง! กูบอกไว้ก่อนเลยนะว่าอย่ามายุ่งกับเรย์ไม่งั้น...” มันพูดขึ้นด้วยความโมโหก่อนที่มันจะหยุดพูดแล้วแสยะยิ้มขึ้นเหมือนคนบ้า
“มึงจะทำไม” ฉันถามพร้อมจ้องหน้ามัน
“หึ! ก็แบบนี้ไง” พูดจบมันก็เดินถอยหลังไปแล้วปัดเเจกันที่วางอยู่ข้างอ่างล้างมือตกลงพื้น เพลี้ยง!! ต่อด้วยเอามือขยี้หัวตัวเอง แล้วใช้มือตบหน้าตัวเองจนเป็นรอยแดง แล้วมันก็ร้องกรี๊ดขึ้นเสียงดังเหมือนคนเสียสติ ก่อนที่จะเดินไปใช้ขากระแทกกับเคาร์เตอร์อ่างล้างมืออย่างแรงและตั้งใจล้มลงพื้นเอง
“นี่มึงทำอะไร เป็นบ้าหรอ!” ฉันตะคอกใส่มันเสียงดังลั่น ก่อนที่จะเริ่มมีคนเข้ามามุงดูเหตุการณ์ นี่คงเป็นแผนของมันสินะ และไม่นานไอ้คิเรย์มันก็วิ่งเข้ามา ก่อนจะตามมาด้วย เฮียเก็นจิ,เฮียเรน,เฮียดอลล่าร์ และสุดท้ายฟีเลีย
ต่อจากนั้นเรื่องทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทุกคนรู้
“เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ” ฉันเอ่ยบอกมันไปหลังจากเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้มันฟัง
“อีนี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ พูดแล้วก็หมั่นไส้ ถ้ามีโอกาสนะกูจะตบแม่งให้คว่ำของจริงเลย” ฟีเลียพูดพร้อมแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจออกมาเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะหันมาถามดอลลี่ขึ้น
“แล้วมึงจะเอาไงต่อ” ดอลลี่เงียบไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกเพื่อนตัวเองขี้นด้วยสีหน้าและแววตาที่ยากจะคาดเดาในความคิด
“ฟีเลียมึงให้คนของมึงสืบเรื่องอีเบลล์ให้กูหน่อย”
“ทำไมไม่ใช้คนของมึงวะ” ฟีเลียก็ถามดอลลี่กลับอย่างไม่เข้าใจ เพราะว่าเรื่องแค่นี้คนของตระกูลอคินเฟเยฟจัดการได้อย่างสบายอยู่แล้ว
“กูไม่อยากให้แดดดี้มามี๊และเฮียรู้” ถ้าพวกเขารู้ต้องขัดขวางฉันแน่ๆ ฉันเลยเลือกที่จะใช้คนของฟีเลีย
“อืม กูเข้าใจแล้วเดี๋ยวกูจัดการให้”
“ขอบใจมึงมาก”
จากนั้นเราก็แยกย้ายกัน ฉันก็เข้าไปอาบน้ำเพื่อเข้านอนเพราะตอนนี้เวลาก็เกือบจะตีสองได้แล้ว อีกอย่างวันนี้ฉันเจออะไรมาเยอะพอสมควร ขอนอนพักผ่อนเอาแรงก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆพรุ่งนี้ค่อยจัดการแล้วกัน