บทที่ 18 ข่าวลือ

1578 คำ
หลังจากที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินไม่นานเฉิงจี้หยวนก็กลับมาถึงบ้าน เขาเห็นอาหารสองกล่องว่างอยู่ จึงได้หยิบและเดินเข้าบ้านมา จากนั้นเปิดกล่องอาหารที่ยังอุ่นอยู่ดู ใบหน้าของชายหนุ่มที่มีแต่ความเย็นชาผุดรอยยิ้มขึ้น และเป็นรอยที่ที่กว้างที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะบนกล่องกระดาษที่ใส่อาหารมานั้นมีตัวหนังสือเล็กๆเขียนอยู่ ถึงคุณคนใจดีที่สร้างบ้านให้ ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใครและไม่รู้ว่าคุณอายุเท่าไหร่ แต่ฉันชื่อหลี่อิงอิง หรือคุณจะเรียกว่าอิงอิงก็ได้ตามสมควร หวังว่าอาหารมื้อนี้จะอร่อยและคุณจะชอบนะคะ ถึงจะไม่อร่อยแต่คุณก็ต้องกินนะ เพราะว่ามันจะเสียของ ฉันจะฝากคุณลุงท่านนี้มาให้ทุกวันค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ หลี่อิงอิง เมื่อเฉิงจี้หยวนอ่านจบก็หัวเราะจนสุดเสียง หากมีลูกน้องมาได้ยินคงจะคิดว่าเขาผีเข้าแน่ๆ เขาอ่านอยู่สองถึงสามครั้ง ก็ละสายตาจากตัวหนังสือ กลับมองดูอาหารที่หน้าตาไม่เคยเห็นแต่ดูน่ากินมาก มีไข่ดาวโปะอยู่ด้วยสองฟอง เฉิงจี้หยวนไม่รอช้าเขาหยิบช้อนตักอาหารเข้าปาก ก่อนจะทำสีหน้าพอใจอยู่คนเดียว ไม่นานอาหารทั้งสองกล่องก็หมดลง ตัวเขาเองยังแปลกใจที่เขากินเข้าไปได้มากขนาดนี้ และคิดไม่ถึงว่าสาวน้อยจอมแสบอย่างหลี่อิงอิงจะทำอาหารได้รสชาติอร่อย ดีที่เขากินเผ็ดอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงต้องกินอาหารคลุกกับน้ำตาตัวเองแน่ นี่คือไม่ได้แกล้งเขาใช่ไหม เฉิงจี้หยวนตัดกล่องข้าวที่มีแค่ส่วนที่เป็นตัวหนังสือใช้ผ้ามาเช็ดทำความสะอาดแล้วเก็บไว้อย่างถนอม ก่อนจะหยิบกระดาษแล้วเขียนข้อความถึงสาวน้อยคนนี้ เขาคิดว่ากลับไปค่อยให้หลงจื่อเอาไปให้ลุงเผิงเพื่อจะฝากให้กับเธอ ในใจคิดว่าผู้หญิงอะไรไม่รู้จักชื่อเขาแทนที่จะตั้งชื่อให้เขาดีๆ กลับกลายเป็นชื่อยาวเหยียด เมื่อกลับมาถึงคอมมูนเขาก็ทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลงจื่อคิดในใจว่าเจ้านายคงกินอาหารหมดแล้วนะสิ ไม่คิดจะแบ่งไว้ให้เขาเลยหรือไง เมื่อหลี่อิงอิงกลับมาถึงบ้านก็มานั่งรวมกลุ่มกันเพื่อที่จะเขียนนิยายตามที่ตั้งใจไว้ เธอพูดบรรยายขึ้นแล้วให้ทุกคนเขียนตาม ตัวเธอเองก็เขียนด้วยเหมือนกัน เวลาผ่านไปจนถึงสิบเอ็ดโมงสามสิบนาที หลี่อิงอิงจึงลุกไปทำอาหารให้คุณลุงและทุกคนที่ไปทำงาน เที่ยงนี้เธอทำหมูผัดน้ำมันหอย เธอแอบเอาน้ำมันหอยที่มีอยู่ในมิติเทใส่ขวดโหลไว้เหมือนเครื่องปรุงอย่างอื่น ไม่นานหมูผัดน้ำมันหอยราดข้าวก็เสร็จเรียบร้อย เธอจึงให้พี่ใหญ่เอาไปส่งให้ทุกคนที่แปลงนา ส่วนคนที่เหลือก็ทำงานต่อ รอให้พี่ใหญ่กลับมาจึงจะกินอาหารพร้อมกัน “พ่อครับ แม่ครับ ลุงคัง ป้าเหมย อาหารมาแล้วครับ อิงอิงทำมาอย่างน่ากินเลย” หลี่ฮุ่ยหมินเมื่อมาถึงก็เห็นทุกคนนั่งรออยู่แล้ว “เจ้าใหญ่ เรานี่นะ ตะโกนเรียกซะดังเลย โตจนจะแต่งงานได้แล้วนะยังทำเป็นเด็กๆไปได้” กุ้ยฮวาบ่นลูกชายด้วยเสียงหัวเราะ "ไม่เอาหรอกแม่ จะรีบแต่งไปไหน อายุเพิ่งจะยี่สิบเอง ผมไม่รีบร้อน” หลี่ฮุ่ยหมินค้านแม่ของเขาพร้อมกับส่ายหน้า แม่จะรีบให้เขาแต่งไปไหน เขายังไม่รีบขอเรียนก่อน “ผมไปก่อนนะแม่ รีบกลับไปช่วยอิงอิงทำงาน ตอนเย็นเจอกันนะครับทุกคน อิงอิงบอกว่าจะทำของอร่อยไว้รอ” เมื่อบอกกล่าวตามที่น้องสาวสั่งมาแล้วเขาจึงรีบวิ่งกลับไปที่บ้านเพื่อจะกลับไปกินอาหารมื้อเที่ยงพร้อมกับทุกคนและรีบเขียนนิยายต่อ เขาไม่คิดว่าน้องสาวจะมีความสามารถขนาดนี้ ขนาดเขาเขียนเอง อ่านเองยังสนุกและอยากติดตามต่อเลย ทำไมคนจะไม่ซื้อล่ะ ทันทีที่กลับมาถึงทุกคนจึงได้รีบกินอาหารกันเพื่อที่จะได้มาเขียนนิยายกันต่อ จากนั้นหลี่อิงอิงก็บรรยายต่อไปโดยที่เธอเองก็รู้สึกสนุกไปกับมันจนเวลาล่วงเลยมาถึงเย็น ทั้งหมดจึงได้วางมือในสิ่งตรงหน้า ก่อนจะเอาของไปเก็บ แล้วเดินเข้าครัวไปช่วยกันทำอาหาร ระหว่างทางกลับบ้านของทั้งสี่คน ชาวบ้านมองตามไม่วางตา เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูดจนเซี่ยเหมยแม่ของเสี่ยวหลินถามขึ้น “ป้าจางมีอะไรหรือเปล่า ทำไมมองพวกเราแปลกๆ” “ป้าถามอะไรหน่อยได้ไหม เรื่องที่หย่งฮ่าวบาดเจ็บนั้น ไม่ใช่หลี่อิงอิงจ้างคนมาทำร้ายใช่หรือเปล่า” นางจางเองก็ได้ยินมาอีกต่อหนึ่งเหมือนกัน แม้ตัวเธอนั้นจะไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ข่าวเรื่องนี้กระจายไปทั่วแล้ว ยิ่งเมื่อวานหลี่อิงอิงเข้าไปที่อำเภอมาด้วย หลายคนจึงปักใจเชื่อข่าวลือเรื่องนี้ “ป้าเอาอะไรมาพูด หลี่อิงอิงเนี่ยนะจะสั่งให้คนมาทำร้ายหย่งฮ่าวลูกชายของอดีตผู้นำหมู่บ้าน” หลี่คงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ หลานสาวเขาตัวแค่นั้นจะมีแรงไปทำร้ายใครได้ “ตอนนี้ข่าวลือเรื่องที่อิงอิงให้คนไปทำร้ายหย่งฮ่าวนั้นดังไปทั่วแล้ว ไม่เชื่อถามคนอื่นๆดูสิ” “จริงนะหลี่คง เรื่องนี้ดังไปทั่วแล้ว” “ในเมื่อคิดว่าอิงอิงเป็นคนทำ ทำไมไม่แจ้งทางการ แต่กลายเป็นมีข่าวลือแทนล่ะ นี่ไม่เท่ากับจ้องทำลายอิงอิงหรอกหรือ” คังเทียนยืนฟังอยู่จึงได้พูดขึ้น ทำให้ชาวบ้านหลายคนคิดตามรวมทั้งนางจางด้วย “จริงสิ ทำไมพวกเราคิดไม่ได้ นี่ไม่เท่ากับเป็นการใส่ร้ายอิงอิงเหรอ” “ถ้าอย่างนั้นให้อิงอิงแจ้งทางการเลยว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนปล่อยข่าว จะได้จับติดคุกเสียให้เข็ด ใส่ร้ายได้แม้แต่เด็กสาวคนหนึ่ง” ชาวบ้านทั้งหลายยังคงพูดคุยกันต่อ ทั้งสี่คนไม่อยากที่จะคุยกับใครต่อแล้ว จึงรีบเดินกลับบ้านเพื่อบอกข่าวนี้ให้กับหลานสาวได้รู้ “อิงอิง อยู่ไหนลูก มาหาลุงหน่อย" หลี่คงตะโกนเรียกหลานสาว เรื่องนี้เขาคิดว่านิ่งนอนใจไม่ได้ หากช้ากว่านี้ปัญหาต่างๆต้องตามมาแน่ “มีอะไรหรือเปล่าคะลุงใหญ่ ป้าสะใภ้ใหญ่ ลุงคงเทียนป้าเหมย ทำไมทำหน้าตาตื่นตกในแบบนั้นล่ะ” หลี่อิงอิงวิ่งมาจากหลังบ้าน คนอื่นๆก็วิ่งตามมาด้วยกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น “เกิดเรื่องอีกแล้วสินะ ตอนนี้มีข่าวลือทั่วทั้งหมู่บ้านแล้วว่าเราเป็นคนจ้างคนมาทำร้ายหย่งฮ่าว” หลี่คงบอกหลานสาว “หนูคิดไว้แล้วว่าต้องมีคนหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ ไม่เป็นไรค่ะ หนูเตรียมรับมือไว้แล้ว ใครอยากพูดให้พูดไป เดี๋ยวพอความจริงกระจ่าง เขาก็จะเงียบกันเอง และตอนนั้นใครที่ช่วยกระจายข่าวลือไป หนูจะเรียกเก็บเงินค่าเสียหายให้เข็ดเลยค่ะลุงใหญ่” “พี่ใหญ่ พี่รอง พี่จำเจ้าหน้าที่คนนั้นได้ไหม” หลี่อิงอิงหันมาถามพี่ชายทั้งสองคน “อืมจำได้ แต่ว่าถามทำไม หรือว่า” หลี่ฮุ่ยหมินเหมือนจะรู้ว่าน้องสาวกำลังจะทำอะไร “พี่ทั้งสองคนไปแจ้งเรื่องนี้ บอกว่าฉันต้องการร้องเรียนว่าโดนใส่ร้าย และไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ แต่พี่ทั้งสองคนต้องแสดงอารมณ์ประมาณว่าโกรธและโมโหที่น้องสาวโดนใส่ร้ายนะ ถ้าหากเจ้าหน้าที่ถามว่าทำไมฉันไม่มาแจ้งเอง บอกว่าฉันไม่กล้าออกจากบ้านเพราะชาวบ้านพูดกันแต่เรื่องนี้ ฉันคิดว่าไม่ลุงหย่งหัวก็คงจะเป็นหลี่เหยาแน่ๆ แต่ก็แอบหวังนะว่าปู่กับย่าจะไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย” ในเมื่ออยากจะปล่อยข่าวลือให้เธอเสื่อมเสียก็จงรับผลกรรมก็แล้วกัน ก่อนหน้านี้เธอยังไว้หน้า แต่ในเมื่ออยากกระโดดมาลงหลุมเองก็เชิญ “ได้ พี่สองคนจะรีบไปจัดการ พี่ก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ พี่ว่าเจ้าหน้าที่ต้องรีบจัดการสืบหาคนปล่อยข่าวแน่ๆ เพราะเขาดูเป็นคนตรงๆ ดี” หลี่ฮุ่ยหยางเองก็เห็นด้วยกับความคิดของน้องสาว ในเมื่อกล้าที่จะทำร้ายกันต่อให้เป็นปู่ หรือย่า เขาก็ไม่คิดที่จะสงสาร จากนั้นทั้งสองคนรีบเดินไปที่สำนักงานของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในหมู่บ้าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม