บทที่ 17 แผนร้ายของหลี่เหยาและหย่งหัว

1574 คำ
หย่งหัวเองก็คิดตามที่หลี่เหยาบอก แต่ถ้าจะให้ปักใจเชื่อเลยก็ไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ได้ “คุณลุงเราไม่ลองหาใครในตลาดมืดมาจัดการนังอิงอิงดูล่ะคะ ความเป็นไปได้หนูคิดว่ามีถึงเก้าส่วนเลยนะคะ มันอาจจะแค้นใจที่คุณลุงช่วยพ่อหนูไว้ และอาจจะแค้นใจที่พี่หย่งฮ่าวทิ้งมันแล้วมารักกับหนู” หลี่เหยาพยายามที่จะใส่ร้ายหลี่อิงอิงให้มากที่สุด และตอนนี้เธอก็เห็นสายตาที่ไหววูบของลุงหย่งคัง เธอไม่เชื่อหรอกเมื่อเห็นลูกชายตัวเองโดนทำร้ายปางตายแบบนี้จะนิ่งเฉยอยู่ได้ “แล้วถ้าหากว่าไม่ใช่หลี่อิงอิงล่ะ ถ้าจัดการผิดคนเราไม่แย่เหรอ” หย่งหัวเองไม่ใช่ไม่อยากแก้แค้นให้ลูกชาย แต่ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา บ้านเขาไม่บรรลัยหมดเลยรึไง แค่ขนาดเขาช่วยบ้านรองหลี่ เขายังต้องโดนปลดแบบฟ้าผ่าเลย หลังจากทำเรื่องนี้แล้วใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา “โธ่ คุณลุงคะ นังอิงอิงมันเป็นแค่เด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่ ส่วนบ้านใหญ่ที่ไปอยู่กับมันก็ไม่มีบ้านเดิมคอยหนุนหลังนะคะ ต่อให้มีคนรู้ตอนนั้นมัันก็โดนทำลายไปแล้ว คุณลุงไม่อยากจะแก้แค้นให้พี่หย่งฮ่าวเหรอ” “เธอพูดได้นะ แต่การทำแบบนี้มันต้องเสียเงินจ้างนะ ลุงรู้ว่าจริงๆแล้วเธอก็เกลียดหลี่อิงอิงไม่น้อยเหมือนกัน อย่ามาทำพูดดีเลย” “คุณลุงก็ต้องเป็นคนจ่าย ส่วนเรื่องหาคนฉันจะเป็นคนหาให้เอง รับรองว่าเรื่องไม่ถึงคุณลุงแน่นอนไม่ต้องกลัวค่ะ” ทั้งสองคนยังนั่งปรึกษาเรื่องนี้กันสักพัก ก่อนจะได้ผลสรุปว่าให้หลี่เหยาไปหาคนมาจัดการหลี่อิงอิงเพื่อแก้แค้นให้ลูกชาย หลี่อิงอิงไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังมีอันตรายที่กำลังจะมาหาในไม่ช้า เธอเอากระดาษมาปึกใหญ่ เธอไม่รู้ว่าที่นี่ใช้ปากกาหรือว่าใช้หมึกเขียนนิยาย แต่ในความรู้สึกของเธอกลับมองว่าเขียนด้วยหมึกนั้นมันจะคลาสสิกกว่าเพราะนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายโบราณ เมื่อคืนเธอแอบเข้ามิติตอนที่เสี่ยวเหยาหลับแล้ว ไปหานิยายมาเรื่องหนึ่งคือเรื่อง ตำหนักเย็นรอรัก เธอนั่งอ่านจนจบเล่มและที่สำคัญเธอสามารถจำได้ทุกตัวอักษร นี่คงเป็นพรวิเศษที่ติดตัวเธอมาด้วยหรือไม่ เธอตั้งใจว่าจะเขียนพร้อมกันทั้งสี่คนเพราะจะได้สี่เล่ม เอาให้ทันภายในสามวันนี้จะได้ไปส่งก่อน หากผลตอบรับดีเธอจะขอหยุดทำงานที่คอมมูนของพวกเธอทั้งสี่คน หลี่อิงอิงไม่คิดว่าน่าจะมีปัญหาอะไรเพราะทั้งสองครอบครัวยังมีลุงใหญ่ป้าสะใภ้ทำงานกันอยู่ ไหนจะพ่อแม่ของเสี่ยวหลินอีก “ทุกคน ช่วยตัดกระดาษให้ได้ขนาดหนังสือให้หน่อยได้ไหม พอดีว่าฉันซื้อแบบแผ่นใหญ่มา” “ได้สิ ตัดทั้งหมดนี่เลยนะ” หลี่ฮุ่ยหมินร้องถามน้องสาว “ใช่แล้วพี่ใหญ่ ตัดหมดนี่เลย เดี่ยววันนี้ฉันจะเป็นคนพูดและทุกคนเขียนพร้อมกัน มันจะได้รวดเร็ว ฉันอยากไปส่งพร้อมกันทีเดียว หากว่ามีเสียงตอบรับที่ดีกลับมา ทีนี้ล่ะเราไม่รู้ว่าจะเอาเงินเก็บไว้ที่ไหน” “แต่ว่าน่าเสียดายกระดาษก็แพง แล้วเราจะขายเล่มล่ะเท่าไหร่ละอิงอิง” เสี่ยวหลินรู้ดีว่ากระดาษนั้นแพงแค่ไหน เพราะว่ามีไม่กี่ที่หรอกที่สามารถทำกระดาษขายได้ หลี่อิงอิงเมื่อได้ยินสหายพูดเรื่องนี้เธอก็คิดได้ว่าเธอนั้นรู้วิธีทำกระดาษ และมีการสอนทำกระดาษหลายรูปแบบด้วย แต่เดี๋ยวต้องรอผลตอบรับของนิยายที่เขียนก่อน หากมียอดขายถล่มทลายเธอจะผลิตกระดาษเองเลย ผิดกฎหรือเปล่าไม่รู้ แต่เธอจะทำ ในอนาคตกระดาษนั้นเป็นที่ต้องการอย่างแพร่หลาย เธอคิดว่าทำก่อนรวยก่อน จบเปล่า “แล้วนั่นกำลังจะไปไหน” หลี่ฮุ่ยหยางถามน้องสาว “จะไปดูคุณลุงคนนั้นหน่อยค่ะพี่ จะเอาข้าวไปฝากด้วย พี่ไปด้วยกันไหม” หลี่อิงอิงคิดว่าควรจะทำอาหารตอบแทนบ้าง สิ่งที่เธอได้มานั้นมันไม่น้อยเลย บ้านสองหลังเชียวนะ “ไปสิ ถ้าพ่อรู้ว่าพี่ปล่อยให้เราไปไหนมาไหนคนเดียว กลับมาจากคอมมูนได้ด่าพี่ตายแน่” หลี่ฮุ่ยหยางไม่กล้าปล่อยน้องสาวไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่รู้ว่าบ้านหย่งนั้นคิดยังไงเรื่องที่ลูกชายโดนทำร้าย พูดจบพี่ชายอย่างเขาจึงเดินตามน้องสาวออกมา และมุ่งตรงไปบ้านเดิมของหลี่อิงอิงที่กำลังก่อสร้างอยู่ เมื่อสองพี่น้องมาถึงก็เจอช่างและคนงานมากมายที่กำลังทำงานกันอยู่ เมื่อเธอเห็นลุงคนเมื่อวานยืนดูงานอยู่จึงเดินเข้าไปหา “สวัสดีค่ะคุณลุง” หลี่อิงอิงยิ้มทักทาย “เรียกผมว่าลุงเผิงเถอะ ไม่ต้องคุณลุงหรอก” เผิงฮั่วไม่อาจเอื้อม เขารู้ดีว่าเด็กสาวตรงหน้าคงมีน้ำหนักในใจของเจ้ายนายแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเจ้านายจะยอมง่ายๆ ขนาดนี้ไหมเล่า “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูขอแนะนำตัวอีกครั้งนะคะ หนูชื่อหลี่อิงอิง หรือลุงเผิงจะเรียกว่าอิงอิงก็ได้ค่ะ ส่วนนี่พี่ชายรองชื่อหลี่ฮุ่ยหยาง วันนี้หนูทำอาหารมาให้คุณลุงด้วยนะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะอร่อยหรือเปล่า หนูเรียกอาหารกล่องนี้ว่ากะเพราไข่ดาว ส่วนอีกสองกล่องหนูฝากไปให้คนๆนั้นด้วยนะคะ หนูจะทำมาส่งให้ทุกๆวันนะลุงเผิง” หลี่อิงอิงคิดว่าทำอาหารมาตอบแทนระหว่างสร้างบ้านมันไม่ได้เหนื่อยอะไร ยังไงก็ทำกินกันที่บ้านอยู่แล้ว “ขอบคุณมากนะอิงอิง แต่จะไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปเหรอ ลุงเกรงใจ ส่วนของคนๆนั้นลุงจะบอกเขาให้นะ” “ได้ค่ะ ไม่เป็นไร แค่ทำอาหารเองสบายมากค่ะ วันนี้หนูกลับก่อนนะคะ ต้องกลับไปอ่านหนังสือเรียน” หลี่อิงอิงยังไม่กล้าพูดเรื่องเขียนนิยาย แต่เธอก็ไม่ได้โกหก เพราะเขียนนิยายเสร็จเธอตั้งใจจะทบทวนบทเรียนจริงๆ “ขอบใจมากนะหนู” เมื่อกล่าวลากันแล้วหลี่อิงอิงก็เดินกลับบ้านพร้อมกับพี่ชายรอง เผิงฮั่วนั้นได้ให้คนสนิทของเขาแอบเอาอาหารนี้ไปส่งให้หลงจื่อ แล้วบอกว่าเธอฝากมาให้เจ้านายเพื่อขอบคุณเรื่องสร้างบ้าน และจะทำอาหารมาส่งให้ทุกวัน ก่อนจะกำชับคนของตัวเองว่าอย่าให้ใครเห็น เมื่อคนของลุงเผิงมาถึงที่คอมมูนก็พยายามมองหาหลงจื่อ เห็นเขาก็กวักมือเรียก “นายมาที่นี่ทำไม เดี๋ยวใครก็เห็นหรอก” หลงจื่ออดบ่นไม่ได้ เจ้านายยิ่งอารมณ์ไม่ปกติอยู่ช่วงนี้ “ลุงเผิงให้ผมเอาอาหารมาให้นายครับ เมื่อสักครู่นี้คุณหลี่อิงอิงนำอาหารมาบอกว่าฝากให้คนๆนั้น และจะทำมาฝากทุกวันครับ” “ได้ นายเอาไปเก็บไว้ที่บ้านพัก เดี๋ยวเที่ยงฉันจะกลับไปเอามาให้เจ้านายเอง ขอบใจมาก ต่อไปก็เอาไปที่บ้านเลยไม่ต้องมาที่นี่เดี๋ยวจะงานเข้า” หากคนอื่นเห็นหลงจื่อไม่กลัว กลัวแต่สาวน้อยที่ชื่อหลี่อิงอิงเห็นเพียงคนเดียว เมื่อคนของลุงเผิงกลับไปแล้วหลงจื่อก็เดินกลับมาทำงานข้างๆเจ้านายเหมือนเดิม “มาทำไม” เฉิงจี้หยวนถามโดยไม่มองหน้า “ลุงเผิงให้เอาอาหารมาให้ครับ” “เอามาทำไมนายไปกินเองเถอะ” “ครับพี่จี้หยวนเดี๋ยวพักเที่ยงผมจะไปกิน แต่ไม่รู้นะครับว่าอาหารมื้อนี้เป็นยังไง คนของลุงเผิงบอกว่าจะเอามาให้ทุกวัน” หลงจื่อยังคงไม่บอกว่าใครเป็นคนทำมาให้ “บอกลุงเผิงว่าไม่ต้อง ฉันกินอะไรก็ได้ ไม่เรื่องมาก จัดการเรื่องบ้านให้ดีก็แล้วกัน” “คงไม่ได้หรอกครับเพราะลุงเผิงไม่ได้ทำเอง แต่เป็นคุณอิงอิงทำมาฝากให้คนคนนั้นที่สร้างบ้านให้กับเธอ และยังบอกอีกว่าจะทำมาให้ทุกๆวันครับ อ้าว ไปแล้ว” หลงจื่อเกาหัวแกรกๆ พูดไม่ทันจบเจ้านายเขาเดินออกไปซะแล้ว จะว่าเดินก็คงไม่ใช่แบบนี้บ้านเขาเรียกว่าวิ่ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม