หัวไชเท้าตุ๋นถั่วลิสง

1680 คำ
จางเฟยอีปอกเปลือกหัวไชเท้าอย่างคล่องแคล่ว โดยมีนางหลี่ซื่อช่วยแกะถั่วลิสงอยู่ข้าง ๆ เมื่อถึงเวลาปรุง นางก็อาศัยช่วงที่ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่ทันมองมาทางนาง แอบเติมผงน้ำซุปสำเร็จรูปลงไปในหม้อ ทำให้อาหารส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณบ้าน ไม่นานป้าสะใภ้รองไป๋ซื่อก็กลับมา เมื่อเห็นว่ามีคนทำอาหารอยู่แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี วันนี้ขาดคนช่วยตักน้ำมารดต้นข้าวไปถึงสามคน นางกับพวกเด็กๆ เหนื่อยจนแทบจะขาดใจ หากยังต้องมาเร่งทำกับข้าวต่ออีก นางคงจะต้องบ่นปากเปียกปากแฉะไปอีกนานเลยทีเดียว “อ้อ..วันนี้หลานสาวคนดีของพวกเราลงมือทำอาหารเองเชียวหรือ…” นางไป๋ซื่อเตรียมจะเข้ามาค่อนแคะเหน็บแนมผู้อื่นตามความเคยชิน แต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้สะใภ้ใหญ่และหลานสาว กลิ่นอาหารที่หอมชวนน้ำลายไหล ก็ทำให้นางพูดต่อออกไปไม่ได้ ได้แต่ทำตาโต นางเดินไปเปิดหม้อข้าวดูเห็นเป็นข้าวสวยก็ยิ่งอารมณ์ดี หยุดปากเดินบิดเอวออกนอกครัวไปเสียเฉยๆ อีกราวครึ่งชั่วยาม คนสกุลจางที่ออกไปทำงานในแปลงเพาะปลูกก็พากันเดินกลับมา ด้วยท่าทางอ่อนระโหยโรยแรง แต่พอมาถึงบริเวณบ้านพวกเขาได้กลิ่นอาหารที่ดูเหมือนว่าจะลอยออกมาจากบ้านของตน ต่างก็เร่งฝีเท้ารีบเข้ามาล้างไม้ล้างมือ กุลีกุจอช่วยยกอาหารออกมาวางไว้ที่โต๊ะ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างก็ชะเง้อมองไปยังหม้อดินใบโตที่มีอาหารกลิ่นหอมที่พวกเขาไม่เคยกินมาก่อนกันคอยืดคอยาว รอจนกระทั่งจางอู่เกินมาถึง ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่เขาเพื่อให้เขาเริ่มกินอาหารก่อนเป็นคนแรก “หืม..วันนี้เจ้าทำอาหารอะไรหรือหลี่ซื่อ” จางอู่เกินเอ่ยปากถามลูกสะใภ้ อาหารหน้าตาประหลาดนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน “ไม่ใช่ข้าหรอกเจ้าค่ะ เป็นเฟยอีที่ปรุงอาหารเหล่านี้ขึ้นมา” ทุกคนที่นั่งล้อมรอบโต๊ะตัวใหญ่อยู่ต่างก็หน้าสลดกันไปหมด หากจางเฟยอีเป็นคนทำอาหารพวกเขาจะกินมันได้จริงๆ หรือ เว้นก็แต่จางเฟยเทียน จางลี่เจี๋ยและจางลี่หลิน เด็กสามคนเป็นผู้ช่วยขุดและนำอาหารเหล่านี้กลับมา พวกเขากำลังตื่นเต้นสุดขีด ที่ตนเองสามารถหาผักป่ามาได้ เรียกร้องให้พวกผู้ใหญ่ตักให้เขาก่อน จางเฟยอีทำเป็นไม่สนใจใคร ตักหัวไชเท่าตุ๋นใส่ชามใบเล็กยื่นส่งให้เด็กทั้งสามคนไปก่อน หัวไชเท้าตุ๋นจนใสดูนุ่มนิ่มน่ากิน ถั่วลิสงสีขาวเม็ดโตนั่นก็ส่งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของมันออกมายั่วน้ำลายเป็นอย่างยิ่ง “ลี่หลินต้องเป่าให้หายร้อนก่อนนะ หัวไชเท้านี้ยังร้อนอยู่ระวังจะลวกปาก” จางเฟยอีเอ่ยเตือนน้องสาวพร้อมกับตักอีกชามส่งให้ท่านปู่ จางอู่เกินย่อมไม่ใส่ใจอะไรมาก เขาอายุมากแล้วอะไรก็กินได้ทั้งนั้นขอให้เป็นอาหาร นี่ยังไม่ต้องกล่าวถึงอีกว่าอาหารเบื้องหน้านี้จะหอมกรุ่น ชวนให้ลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง จึงตักใส่ปากทันที คนอื่นๆ ที่คอยดูท่าทีของคนทั้งสี่ที่ริเริ่มชิมอาหารก่อน ต่างก็จ้องตามช้อนที่จางอู่เกินกำลังส่งเข้าปากไปกันตาไม่กะพริบ จางอู่เกินเลิกคิ้วสูง ทำตาโตขึ้นมาทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบเคี้ยวรีบกลืน ก้มหน้าก้มตากินต่อไปโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ เด็กน้อยสามคน ต่างก็กินกันไม่หยุด บางครั้งยังไม่ยอมรอเป่าให้เย็นลงอีกหน่อยเลยด้วยซ้ำ กินไปน้ำตาคลอไปเพราะหัวไชเท้าร้อนลวกปาก ต้องอ้าปากพึ่งลมดื่มน้ำตาม แต่ก็ไม่ยอมหยุดพูดคุย จางลี่หมิงกับจางเฟยหรงสบตากันเพียงแวบเดียว แล้วพูดขึ้นมาพร้อมกัน “ข้าไม่รอแล้วนะขอรับ!!” คราวนี้ไม่ต้องให้ใครมาเตือนซ้ำ คนสกุลจาง 14 คน ยกเว้นจางจื่อเหมยที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมายังนอนพักอยู่ในห้อง ล้วนเริ่มคีบเริ่มตัก กินอาหารตรงหน้าของพวกเขาโดยไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาให้เสียเวลา ไม่นานทั้งข้าวทั้งกับสองอย่างบนโต๊ะก็หมดเกลี้ยง ไม่เหลือข้าวติดก้นถ้วยเลยสักเม็ด พวกเขาทั้งหมดทั้งอิ่มทั้งอร่อยจนแทบจะเลียจานกันเลยทีเดียว ยังดีที่นางหลี่ซื่อตักแบ่งไว้ให้จางจื่อเหมยไว้แล้ว “น้องสาวเจ้านี่เรียกว่าหัวไชเท้าอย่างนั้นหรือ” จางจื่อฉีหยิบหัวไชเท้าหัวหนึ่งออกมาจากในครัวเดินมาถามจางเฟยอี “ใช่แล้วเจ้าค่ะ หากมันได้ถูกรดน้ำดีๆ หัวของมันจะมีขนาดใหญ่ ขาวอวบอ้วนน่ากินกว่านี้มากเลยเจ้าค่ะ” “ข้าเคยแต่ตัดใบของมันมากินไม่นึกเลยว่าจะนำหัวของมันมาเป็นอาหารได้ พรุ่งนี้รดน้ำในนาเสร็จแล้วข้าจะพาพวกน้องชายขึ้นไปหาขุดพวกมันมาเก็บไว้ในบ้านให้หมด” คนอื่นๆ ที่นั่งฟังอยู่ด้วยต่างก็พยักหน้าตามกันหงึกหงัก หัวไชเท้านี้อร่อยจริงๆ และยังทำให้พวกเขาท้องอิ่มกันอีกด้วย จางเฟยอีก็ไม่ได้คัดค้านอะไรอย่างไรหัวไชเท้าเหล่านั้นก็ต้องรีบเก็บเกี่ยวกลับมาอยู่แล้ว ......... เช้าวันต่อมา หัวไชเท้าที่เก็บมาเมื่อวานกับถั่วลิสงยังถูกใช้ไปไม่หมด จางเฟยอี สอนป้าสะใภ้ทั้งสองคนทำหัวไชเท้าตุ๋นถั่วลิสงอีกครั้งหนึ่งเป็นอาหารมื้อเช้า แน่นอนว่านางไม่ลืมแอบใส่ผงน้ำซุปสำเร็จรูปลงไปเช่นเคย คราวหลังหากป้าสะใภ้ทั้งสองทำเองแล้วไม่หอมอร่อยเช่นนางทำ ก็คงได้แต่โทษตัวเองว่าฝีมือด้อยกว่าหลานสาวแล้ว นอกจากนี้จางเฟยอียังคิดจะสอนให้พวกนางทำหัวไชโป๊วดอง ทั้งแบบหวานและแบบเค็มอีกด้วย แต่ถูกป้าสะใภ้รองระงับการกระทำไว้เพราะการดองผักจำเป็นต้องใช้เกลือจำนวนมาก เวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะททำขึ้นมาจริง จึงได้แต่สอนกันปากเปล่า ถ้าพวกพี่จื่อฉีกับเด็กชายในบ้านพากันไปเก็บหัวไชเท้ามาเยอะ อย่างไรก็กินไม่ทัน สอนวิธีดองให้ท่านป้าทั้งสองไปเช่นนี้ ต่อไปทั้งบ้านใหญ่และบ้านรองก็จะมีอาหารเก็บไว้กินได้อีกนาน ลำพังตัวของนางเองกับน้องชาย เมื่อแยกบ้านออกไปแล้ว เรื่องเงินทองอาหารการกินนั้นไม่มีปัญหาเลยสักนิด เพราะนางพบว่าของทุกอย่างในมิติของนางสามารถเอาออกมาได้แบบไม่มีวันหมด อย่างซาลาเปาที่นางซื้อมานั้น มีไส้ถั่ว ไส้ผัก และไส้เนื้ออย่างละสิบลูก นางกับน้องชายเอาออกมากินไปบ้างแล้ว เมื่อนางจะหยิบออกมาอีกครั้งก็พบว่า มันถูกเติมเต็มไว้ในจำนวนเท่าเดิม ปัญหาที่นางต้องแก้ก็คือ หากบ้านสามย้ายออกไปแล้วไม่ทำมาหากินอะไรเลย แต่กลับมีอาหารและข้าวของเครื่องใช้อยู่สุขสบายนี่สิ ผู้คนจะไม่คิดว่านางเป็นแม่มดแล้วจะมาจับนางไปเผาทั้งเป็นหรอกหรือ แต่จะให้นางอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่สกุลจางต่อไปแล้วคอยหลบซ่อนเอาอาหารออกมาให้ตนเองและน้องชาย นางก็ทำไม่ได้ ห้องของพวกนางนั้นมีเตียงหนึ่งหลัง ผนังทำจากไม้กับดินเหนียว ที่เก่าผุและแตกร่อนไปทั่ว. น้องชายทั้งสองคนใช้ไม้กระดานมาปูบนพื้นดิน และนอนด้วยกัน ช่วงฤดูฝนพื้นดินก็จะเปียกแฉะและมีแมลงไต่ขึ้นมาบนตัวพวกเขา ห้องทุกห้องในบ้านท่านปู่ล้วนเต็มไปด้วยลูกหลานที่ต้องอยู่ร่วมกันอย่างแออัด พี่ชายจางจื่อฉีเวลานี้อายุ 18 ปีแล้วยังไม่สามารถแต่งงานได้ก็เพราะ ไม่มีห้องให้อยู่ได้เป็นส่วนตัว นี่เป็นสาเหตุให้นางคิดจะแยกบ้านสามออกมา คนสกุลจางทุกคนล้วนมีจิตใจดี ป้าสะใภ้รองแม้จะเห็นแก่ตัวและปากมากอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้สร้างความลำบากให้สามพี่น้องมากนัก เรื่องอาหารและของในมิติ นางจะหาทางนำออกมาให้พวกเขาอย่างไม่มีพิรุธในภายหลังเอง “วันนี้ให้ครอบครัวต้าหลางไปทำงานในนาก็แล้วกัน ครอบครัวต้าฉวนก็ไปช่วยเฟยอี ซ่อมแซมทำความสะอาดบ้านเดิมท้ายหมู่บ้านนั่น บ้านสามจะได้ย้ายไปได้สะดวก เสร็จแล้ววันต่อไปค่อยไปช่วยกันทำบ้านให้ต้าหลาง” จางอู่เกินสั่งหลังจากที่ทุกคนกินอาหารมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย “ท่านปู่เจ้าคะ เราจ้างคนในหมู่บ้านมาช่วยซ่อมแซมบ้านได้นะเจ้าคะ เงินที่ท่านพ่อท่านแม่มอบไว้ให้กับข้าก็ยังมีอยู่อีกนิดหน่อยเจ้าค่ะ” จางเฟยอี นางไป๋ซื่อสะใภ้รองหูผึ่งตาขวางขึ้นมาทันที “เหอะ!! ดีจริงๆ หลานสาวข้าคนนี้ มีเงินทองไม่มาแสดงความกตัญญูต่อผู้อาวุโสนั่นก็เรื่องหนึ่งแล้ว ยังจะคิดใช้จ่ายเงินจ้างผู้อื่น ลุงรองเจ้าไม่ใช่ว่าเป็นช่างไม้มาก่อนหรือไร อ้อ..หรือเจ้าคิดจะใช้แรงงานเขาเปล่าๆ เพียงเท่านั้น” เสียงเล็กแหลมของนางไป๋ซื่อแทรกขึ้นมาทันควัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม