บ่มสมอง

1710 คำ
จัดการสั่งงานเด็กทั้งสามเรียบร้อยดีแล้ว นางก็นำถ้วยจานที่มีอยู่ไปล้างจนสะอาด นำหม้อไหที่วางรวมอยู่บนแคร่ไม้ออกไปแขวนและเก็บเข้าตู้จนหมด จากนั้นก็เตรียมให้ทุกคนได้กินอาหารบนแคร่ไม้ตัวใหญ่ตัวนี้ ที่นี่ไม่มีโต๊ะเก้าอี้เลยสักชุด คาดว่ามันอาจจะเสียหายไปแล้วท่านปู่คงจะนำมันออกไป เมื่อถึงยามอู่ จางเฟยอีก็เตรียมทุกอย่างเสร็จและเรียกทุกคนมากินโจ๊ก บุรุษทั้งห้าคนกับเด็กอีกสามคน ล้วนแล้วแต่เคยได้ชิมฝีมือของจางเฟยอี เมื่อได้ยินเสียงเรียกก็รีบไปล้างไม้ล้างมือ ตรงมาที่แคร่ในครัวโดยเร็ว “โจ๊กฟักทองนี่หอมและลื่นคอดีจริงเฟยอี ข้าขอแบ่งเก็บไปให้ท่านปู่ของเจ้าสักชามเถิด” จางต้าฉวนเอ่ยออกมาอย่างเขินอาย กินก็กินของบ้านหลาน เขายังจะขอกลับไปให้บิดาอีก แต่จะให้ตนได้กินอิ่มแล้วไม่แบ่งไปให้ผู้เป็นบิดาบ้าง เขาก็ทำใจไม่ได้ “ข้าแบ่งเอาไว้แล้วหม้อหนึ่งเจ้าค่ะ ยังมีฟักทองแบ่งให้บ้านท่านลุงใหญ่และลุงรองอีกคนละลูกด้วยเจ้าค่ะ” คนทั้งหมดต่างก็หันไปมองที่นาง ยังมีฟักทองอยู่ด้วยอีกหรือนี่ โจ๊กที่จางเฟยอีต้มออกมานี้ก็มีเนื้อฟักทองหอมมันผสมอยู่ด้วยจำนวนมากแล้ว ที่ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นๆ สีเหลืองอร่ามนั้นก็ชิ้นใหญ่มากเลยทีเดียว จางจื่อฉี จางจื่อเจี้ยน และจางลี่จิ่นต่างก็ใจเต้นแรง พวกเขากำลังโตเป็นหนุ่มต้องการอาหารเป็นอย่างมาก ในแต่ละวันพวกเขากินได้ไม่ถึงครึ่งท้องด้วยซ้ำ เมื่อได้ยินว่ายังมีฟักทองลูกโตให้ได้นำกลับไปกินที่บ้านอีกมื้อก็ดีใจกันจนตาแดงก่ำ รีบก้มหน้าก้มตาตักโจ๊กเข้าปากคำแล้วคำเล่า กลัวใครจะเห็นว่าพวกเขาแอบร้องไห้ “หลานสาว เจ้าต้มน้ำชาให้พวกเราด้วยหรือนี่” จางต้าหลางคิดจะดื่มน้ำ แต่พอน้ำในถ้วยไหลเข้าปากเขาจึงได้รู้ว่านี่คือน้ำชา "อ้อ.. ข้าลืมไปเลย ข้าพบใบชาห่อใหญ่ในตู้กับข้าวในครัวน่ะเจ้าค่ะ ข้าแบ่งออกมาให้ท่านทั้งสองด้วยแล้วนะเจ้าคะ" จางเฟยอีตอบจางต้าหลางไปเช่นนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วนางหยิบเอาใบชามาจากซูเปอร์มาเก็ตหลายกล่องเลยทีเดียว นำมาแกะกล่องออกเทใส่ห่อผ้าแล้วแบ่งออกเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน บ้านสกุลจางเวลานี้ขัดสนจึงไม่ได้ซื้อใบชามาต้มกินนานมากแล้ว ต้มเพียงน้ำเปล่าๆ เท่านั้น พอได้กินน้ำเปล่าบ่อยๆ เข้า พวกเขาก็เริ่มเคยชินจนบางครั้งดื่มน้ำเปล่าโดยที่ยังไม่ได้ต้ม นางคิดว่านี่ไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องคิดหาทางโน้มน้าวพวกเขาใหม่ แต่หากจะพูดออกมาตรงๆ ให้ต้มน้ำก่อนดื่มทุกครั้ง พวกเขาก็อาจจะรับฟัง แต่จะทำตามได้ตลอดหรือไม่นั้นนางยังไม่แน่ใจ จึงคิดว่าหากมีใบชา อย่างไรพวกเขาก็ต้องต้มน้ำแน่ๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง นางหยิบห่อผ้าที่ใส่ใบชาออกมาส่งให้ท่านลุงทั้งสอง พวกเขาอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นขนาดของห่อผ้านั้น จางต้าหลางคะเนว่าใบชาจะมีราว ๆ ห่อละ 5 เหลี่ยง (250 กรัม) เลยทีเดียว ซึ่งนั่นเป็นจำนวนไม่น้อยเลย “ข้ามาทำความสะอาดที่นี่ก็เข้ามาเพียงแค่ลานบ้านเท่านั้น ไม่เคยเดินเข้าไปภายในตัวบ้านเลย ไม่ยักรู้ว่าท่านแม่จะเก็บใบชาไว้มากมายขนาดนี้” จางต้าฉวนกล่าวขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “ข้าเห็นว่าท่านย่าเก็บใบชาเหล่านี้ไว้ในไห และปิดฝาไว้เป็นอย่างดีเลยเจ้าค่ะ พวกมันสะอาดและยังมีกลิ่นหอมอยู่เลย ข้ายังเห็นไหที่ปิดไว้อีกหลายใบด้วยเจ้าค่ะเดี๋ยวจะค่อยๆ นำออกมาทำความสะอาดดูว่าข้างในมีอะไรอีก แล้วข้าจะแบ่งให้พวกท่านอีกเจ้าค่ะ” หญิงสาวเห็นไหหลายใบจริงๆ แต่นางสำรวจดูแล้วว่าพวกมันล้วนเป็นไหว่างเปล่า แต่สำหรับนางแล้วไม่ยากเลยที่จะเติมสิ่งของลงไปในไหเหล่านั้น โจ๊กฟักทองครึ่งหม้อ และฟักทองต้มสุกก็ถูกเติมเต็มลงไปในท้องของแต่ละคนโดยทั่วกัน บุรุษทั้งห้าคนนั่งจิบชาด้วยสีหน้าอิ่มเอมใจอยู่อีกพักใหญ่ ก็เริ่มไปทำงานกันต่อ หัวเห็ดทั้งสามได้รับผ้าขี้ริ้วคนละหนึ่งผืน พากันไปช่วยปัดกวาดเช็ดถูเรือน ส่วนจางเฟยอีนางก็รีบไปจัดการกับการเติมสิ่งของลงไหก่อนที่ทุกคนจะเห็น จางเฟยอีเลือกเติมน้ำมันงา น้ำส้มสายชู และเต้าเจี้ยวลงในไหใบใหญ่หน่อย เกลือและเมล็ดงาขาวในไหขนาดเล็ก ของพวกนี้นางเคยได้เห็นพวกมันในบ้านสกุลจางจากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมาแล้ว อย่างอื่นนางยังไม่กล้านำออกมาเพราะยังไม่รู้ว่าในยุคนี้มีอาหาร หรือเครื่องใช้แบบใดอยู่บ้าง จัดการวางของทุกอย่างไว้เป็นสองชุดบนแคร่ไม้ จากนั้นก็ออกไปช่วยเด็กๆ ทั้งสามคนทำความสะอาดเรือนต่อ “วันนี้พวกเราช่วยกันทำความสะอาดแค่สองห้องก่อนก็แล้วกัน ข้าอยู่ห้องหนึ่ง อีกห้องหนึ่งให้เฟยหรงกับเฟยเทียน ห้องอื่น ๆ เดี๋ยวข้าทำความสะอาดทีหลังเอง พวกเจ้าเหนื่อยกันมากแล้วใช่หรือไม่” “ไม่เหนื่อยเลยขอรับ พวกเราอิ่มมากๆ และมีแรงเยอะมากเลยนะพี่ใหญ่” จางเฟยเทียนชูกำปั้นเล็กๆ ออกมาแสดงท่าทางให้พี่สาวของเขาเห็นว่าเขามีพลังล้นเหลือ “ข้ารู้ น้องสาวน้องชายของข้าล้วนแล้วแต่เป็นคนที่แข็งแกร่งเกินผู้ใด แต่พวกเจ้ารู้ไหม แข็งแกร่งอย่างเดียวไม่เพียงพอหรอกนะ ต้องฉลาดด้วยถึงจะดีที่สุด” จางเฟยอีแสร้งพูดอย่างไม่ใส่ใจ หัวเห็ดทั้งสามตาโตขึ้นมาทันที พวกเขาพบเรื่องเด็ดๆ เข้าอีกแล้ว “ทำอย่างไรหรือขอรับ/เจ้าคะ ถึงจะฉลาด” พวกเขาตะโกนเสียงดังออกมาพร้อมๆ กัน “โอย…พวกเจ้าจะทำหูข้าแตกเสียแล้ว เด็กดีต้องไม่ตะโกนนะค่อยๆ พูดให้สุภาพ หากอยากฉลาดก็ต้องศึกษาตำรา แต่ก่อนจะเริ่มเรียนพวกเจ้าต้องบ่มสมองให้แข็งแรงด้วย” “บ่มสมอง!!” เด็กสามคนขมวดคิ้วจนชนกัน หัวไหล่ตก แขนลู่ลงข้างลำตัว สีหน้าเหยเกเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาไม่รู้ว่าบ่มสมองนี่ทำอย่างไร พี่สาวจะผ่าหัวของเขาออกมาเช่นนั้นหรือ จางเฟยอีหัวเราะออกมาอย่างเบิกบานใจ ที่ได้หยอกล้อน้อง ๆ ทั้งสามคน ยิ่งเห็นพวกเขาเอามือกุมศีรษะไว้แล้วมองมาที่นางด้วยสีหน้าหวาดระแวง นางถึงกับกุมท้องหัวเราะจนน้ำตาไหลออกมาเลยทีเดียว “ฮ่าๆๆ เอาล่ะ..เอาล่ะ ข้าไม่แกล้งพวกเจ้าแล้ว บ่มสมองให้แข็งแรงที่ข้าว่านี่ก็คือ พวกเจ้าต้องนอนพักกลางวัน อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วยาม เด็กเล็กๆ ต้องกินให้อิ่ม และนอนกลางวัน สมองถึงจะแข็งแรงเมื่อพวกเจ้าโตขึ้นอีกนิดก็จะพร้อมสำหรับการเรียนรู้แล้ว” “ได้ๆๆๆๆ พวกเราจะนอนบ่มสมองทุกวันเลยพี่ใหญ่” สามหัวเห็ดต่างก็รีบไปทำความสะอาดเตียงนอนในห้องหนึ่ง จางเฟยอีนำเอาฟูกที่นอนออกไปตากแดดข้างนอก เด็กๆ ใช้ผ้าเช็ดถูเตียงจนสะอาด จากนั้นก็วิ่งไปล้างมือล้างเท้า กลับขึ้นมานอนเรียงกันบนเตียงว่างเปล่าหลังนั้น พูดคุยซุบซิบกันเบาๆอยู่ไม่นานพวกเขาก็เผลอหลับไป เมื่อเด็กๆ ทั้งสามคนหลับไปแล้ว จางเฟยอีก็เร่งทำความสะอาดอีกห้องหนึ่งทันที “คิดถึงเครื่องดูดฝุ่นชะมัดเลย” นางบ่นเบาๆ ในบ้านเดิมของท่านย่า เครื่องเรือนมีเพียงเตียงสามหลังนี้ แคร่ไม้ในครัว ตู้กับข้าว นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งของชิ้นใหญ่อีก ส่วนผ้าก็มีฟูกที่เป็นที่นอนครบทั้งสามห้อง ไม่มีผ้าห่ม เครื่องใช้ในครัวนั่นมีของหลายสิ่งอยู่ หม้อดินสามขนาด กระทะเหล็กหนึ่งใบ ตะกร้าหนึ่งใบ กระจาดหนึ่งใบ ถ้วยชามตะเกียบ อย่างละ 10 ชุด ป้านชา 1 ใบ (กาน้ำชาที่ทำจากดินเผา) ถ้วยชาอีก 6 ใบ เขียงสองขนาดใหญ่และเล็ก มีดทำครัวหนึ่งเล่ม ขวานหนึ่งเล่ม ไหที่เวลานี้นำออกไปใช้บ้างแล้ว เหลือที่ว่างเปล่านางเก็บเอาไว้อีก 5 ใบ ทางด้านหลังใกล้บ่อน้ำ มีห้องใหญ่ที่ทำจากไม้ไผ่ขัดกันไว้อย่างง่ายๆ หนึ่งห้อง ห้องนี้น่าจะเคยใช้เป็นห้องเก็บฟืน และเครื่องมือทำการเกษตร ไม้ไผ่นั้นผุจนล้มลงมากองอยู่กับพื้นแล้วแต่ก็ยังพอมองเห็นว่าเป็นโครงสร้างของห้องได้ ด้านในไม่มีฟืนเหลืออยู่เลย แต่มีจอบ 2 อัน กระบุงโกยดิน และถังน้ำที่ทำจากไม้อีก 2 ถังที่ยังอยู่ในสภาพดี เพราะมีผ้าคลุมเอาไว้ จางเฟยอีพึงพอใจกับทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเก่าหลังนี้เป็นอย่างมาก มันดีเกินกว่าที่นางคิดไว้ไปไกลโขเลยทีเดียว “เริ่มต้นได้ดีจริงๆ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งข้ามาที่นี่และไม่ทำให้ข้าต้องลำบากมากนัก” นางรำพันออกมาเบาๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม