ตายแล้ว... ทำไม... ทำไมหล่อนถึงได้ใจง่ายแบบนี้
หญิงสาวในคราบยายวัยชราทำใจกล้ามองสบประสานกับสายตาเย็นชากึ่งกระด้างของผู้ชายที่ตัวโตกว่าตนเองมากมาย เพียงเพื่อที่จะได้พบว่า เควิน คาสโตรเซ่น หล่อเหลาเหลือเกิน เขาไม่น่าเป็นมนุษย์จริงๆ ได้น่าจะเป็นเทพบุตรในจินตนาการที่สาวๆ ฝันถึงมากกว่า
น้ำลายในลำคอเหนียวเป็นยาง ขณะกวาดตามองร่างสูงใหญ่หกฟุตสามนิ้วเบื้องหน้าอย่างหลงละเมอ
หล่อจนลืมหายใจ หล่อวัวตายควายล้ม หล่อจนมดลูกสะเทือนมันเป็นแบบนี้นี่เอง ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งลุ่มหลง ยิ่งได้สบสายตาก็ยิ่งถลำลึกเกินกว่าจะควบคุมได้
หัวใจของหล่อนเต้นแรง และกำลังจะกระดอนออกมาจากทรวงอก เนื้อตัวของหล่อนก็ร้อนผ่าวผะป่าว วูบวาบทรมานอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
หล่อนไม่เคยรู้สึกวาบหวาม รู้สึกร้อนรุ่มแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะกับผู้ชายคนไหนก็ตาม แต่กลับเควิน คาสโตรเซ่น แค่ได้สบประสานสายตาเพียงครั้งเดียว หล่อนกลับรู้สึกราวกับถูกมนต์สะกด
ดวงตาสีน้ำเงินเกือบดำนั้นสาปสันให้หล่อนกลายเป็นข้าทาสได้อย่างถาวร
มันเกิดอะไรขึ้น... กับหล่อนกันแน่...?
คำถามแสนสับสนดังขึ้นในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่คำตอบที่เฝ้าตามหากลับไม่มีเลย
หล่อนต้องกำลังบ้า... ต้องกำลังจะเป็นบ้าแน่ๆ
“ว่าไงล่ะครับ ยายพูดว่าอะไร”
น้ำเสียงกระด้าง และรังสีอำมหิตจากเนื้อตัวกำยำของเควินทำให้ วรันธาราได้สติ หล่อนอึกอัก และรีบละสายสายตาลุ่มหลงของตัวเองลงมองที่พื้นห้องแทน
“คือ... คือฉัน... เอ่อ ยายบอกว่าห้องนี้สวยดี...”
ร่างสูงใหญ่เดินอ้อมโต๊ะทำงานไม้ออกมาเผชิญหน้ากับหญิงชรา
“แต่ผมได้ยินว่าหล่อ?”
“เอ่อ...”
วรันธาราที่พยายามหลบตาอยู่ ลืมตัวช้อนตาขึ้นมองคนจอมคาดคั้นอย่างลืมตัว และเมื่อเห็นสายตาดุกระด้างของเควินก็ต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาอีกครั้ง
“ยายแก่แล้วคงพูดไม่ชัด คุณเควินก็เลยฟังผิดไป”
เควินแค่นยิ้มหยัน หรี่ตาแคบจ้องมองคู่สนทนาสูงวัยอย่างพิจารณา
“ยายอายุเท่าไหร่ครับ”
“เอ่อ...”
เป็นอีกครั้งที่วรันธาราอึกอัก
“อย่าบอกนะครับว่าจำไม่ได้แล้ว เพราะแก่แล้ว”
“ใช่ค่ะ ยายแก่แล้ว จำอายุตัวเองไม่ค่อยได้ น่าจะเกือบเจ็ดสิบปีแล้วมั้งคะ”
“ถ้าแก่ขนาดนี้ ผมว่ายายกลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ ผมไม่อยากใช้แรงงานคนชรา”
“ไม่ได้นะคะ”
น้ำเสียงที่ดัดแปลงให้แก่เกินความจริงเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงใสของวัยสาวทันที
เควินเลิกคิ้วสูงประหลาดใจ
“เสียงของยาย...”
“อ้อ... เวลายายตกใจเสียงจะเป็นแบบนั้นล่ะค่ะคุณเควิน” วรันธาราแก้ตัว ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง
“คือยาย... ยายไม่มีญาติพี่น้องเลย ยายอยู่คนเดียว ต้องหากินคนเดียว ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีข้าวกิน”
“แล้วยายทำอะไรได้บ้างล่ะครับ”
วรันธาราฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ และนั่นก็ทำให้เควินชะงักกึก ดวงตาสีนิลเนื้อดีของยายแก่ชราตรงหน้าแวววาวไม่ต่างจากท้องฟ้าในยามค่ำคืน มันสวยงามจนเขาอดมองซ้ำไม่ได้
ทำไมถึงรู้สึกราวกับถูกสะกดแบบนี้นะ?
เควินถามตัวเองในอก ก่อนจะกัดฟันแน่น พร้อมกับละสายตาจากดวงตากลมโตของหญิงชราตรงหน้าทันที
“ช่างเถอะ ป้าเดซี่คงสัมภาษณ์ยายหมดแล้ว”
“เอ่อ ใช่ค่ะ”
แก้มนวลของวรันธาราแดงก่ำ นี่ถ้าไม่มีอุปกรณ์แต่งหน้าปิดทับเอาไว้ เควินก็คงจะเห็นได้อย่างชัดเจน
“ผมอนุญาตให้ยายทำงานที่นี่ได้จนกว่ายายจะทำไม่ไหว ออกไปได้แล้วครับ”
“ขอบคุณ คุณเควินมากค่ะ ขอบคุณที่ไม่รังเกียจคนแก่หน้าตาอัปลักษณ์อย่างยาย”
“ผมต้องการคนมาทำงาน ดังนั้นเรื่องของหน้าตาไม่ใช่เรื่องสำคัญ เชิญครับ” เควินเดินกลับไปทรุดตัวนั่งลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้ง ในขณะที่วรันธารายังคงจับจ้องที่ชายหนุ่มไม่วางตา
เควิน คาสโตรเซ่น ไม่ใช่มหาเศรษฐีจอมเถื่อนอย่างที่ใครๆ เข้าใจสักหน่อย เขาใจดีมากต่างหาก
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
วรันธารายิ้มกว้างให้กับผู้ชายตรงหน้า ดวงตามีหยาดน้ำใสๆ คลออยู่
เควินยิ้มบางๆ ตอบก่อนจะไม่สนใจคนตรงหน้าอีกเลย วรันธาราจึงจำต้องค่อยๆ หลังออกไปจากห้องเงียบๆ
และเมื่ออยู่ตามลำพังเควินก็ผ่อนลมหายใจออกมาจากริมฝีปากหยักสวยแรงๆ
เขารู้สึกสับสนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เหลือเกิน ทำไมจะต้องรู้สึกพึงพอใจดวงตาสีดำขลับของหญิงชราคนเมื่อกี้นี้ด้วย เพราะอะไรหัวใจของเขาถึงเต้นแปลกๆ แบบนั้น
บ้าชิบ!
ชายหนุ่มสบถในลำคออย่างหัวเสีย ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์งานบนโต๊ะต่อไปเงียบๆ
“เป็นยังไงบ้างหนูธาร...” เมื่อเห็นวรันธาราเดินออกมาจากห้องทำงานของเควิน ป้าเดซี่ที่เดินกลับไปกลับมาอยู่หน้าห้องก็รีบลากตัวหญิงสาวไปหลบที่มุมลับตาคน และถามอย่างร้อนใจทันที
“คุณเคนสงสัยอะไรหรือเปล่า”
วรันธาราฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะส่ายหน้า “คุณเคนของป้าไม่สงสัยอะไรเลยค่ะ ป้าสบายใจได้”
ป้าเดซี่ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ก็ยังอดกังวลเล็กๆ ไม่ได้ “หนูธารพูดจริงนะ”
“จริงสิคะป้าเดซี่ ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ”
แม้จะสบายใจแล้วแต่ป้าเดซี่ก็ยังอดคิดไปถึงอนาคตไม่ได้ “แต่คุณเคนฉลาดเป็นกรด ป้าว่าอีกไม่นานคง...”
วรันธาราดึงมือของป้าเดซี่มากุมเอาไว้และบีบเบาๆ “ไม่ต้องห่วงนะคะป้าเดซี่ หนูสัญญาว่าจะไม่มีวันทำให้ผู้มีพระคุณของตัวเองเดือดร้อนค่ะ ป้าเชื่อหนูนะคะ”
ป้าเดซี่พยักหน้ารับน้อยๆ แต่ภายในใจก็ยังอดกังวลไม่ได้
วรันธาราเห็นหน้าตาป้าเดซี่ยังไม่ค่อยสบายใจจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแทน
“ป้าพาหนูไปทำงานเถอะค่ะ คุณเควินบอกว่าหนูเริ่มงานได้เลย”
“งั้นตามป้ามาทางนี้” ป้าเดซี่พูดจบก็เดินนำหน้าไป วรันธารากำลังจะก้าวตามไป แต่ก็อดที่จะหันไปมองบานประตูห้องทำงานของเควินอีกครั้งไม่ได้ มองด้วยความรู้สึกสั่นไหวแปลกประหลาด