“คุณเควินจะเรียกหนูพบไหมคะคุณป้า”
“เรียกแน่นอน แต่ไม่มีอะไรหรอก ป้าจะคอยช่วยอยู่ข้างๆ”
ทั้งสีหน้าทั้งแววตาของวรันธาราเต็มไปด้วยความวิตกกังวล จนป้าเดซี่ต้องให้กำลังใจอีกครั้ง
“อย่ากังวลเลย เข้ามาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องสู้ต่อไป เพื่อเงินเดือนสูงลิบของคาสโตรเซ่นไงล่ะ”
ไม่ใช่เพื่อเงินเดือน แต่เป็นเพราะเพื่อข่าวลับสุดยอดของเควินต่างหากล่ะ
วรันธาราเต็มไปด้วยความละอายใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากต้องก้มหน้าทำเพื่อปากท้องต่อไป
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
“ไปเถอะ พาจะพาไปที่ห้องพัก อยู่นอกตึกทางนู้นน่ะ”
นิ้วของป้าเดซี่ชี้ออกไปนอกตัวตึก
“ค่ะป้า ขอบคุณคุณป้าอีกครั้งค่ะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร เอาของไปเก็บเถอะ อีกประเดี๋ยวคุณเคนก็ลงมากินข้าวเช้าแล้ว”
ป้าเดซี่เดินนำออกไปแล้ว แต่วรันธารายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาของหล่อนถูกตรึงเอาไว้กับความวิจิตรงดงามของคฤหาสน์หรู
“มาได้แล้วหนูธาร เดี๋ยวคุณเคนลงมาเจอพอดี”
“ค่ะป้า...”
วรันธาราจำต้องละสายตาจากความงดงามเบื้องหน้าและวิ่งตามร่างท้วมของป้าเดซี่ออกไปจากตึกใหญ่
“ได้คนใช้ใหม่แล้วหรือครับป้าเดซี่”
ป้าเดซี่ที่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นบอกอะไรเควินเลยชะงัก หน้าตามีพิรุธขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณเคนรู้ได้ยังไงคะ ป้ายังไม่ได้บอกเลย”
เควินที่กำลังกัดขนมปังปิ้งอยู่ยิ้มบางๆ ดวงตาคมกริบสีน้ำเงินเข้มจัดจ้องมองไปยังคู่สนทนา
“ผมเห็นจากหน้าต่างห้องนอนน่ะ”
“คุณเคนเห็น...”
“ใช่ครับ ว่าแต่ทำไมป้าเดซี่จะต้องทำหน้าตาตกใจแบบนี้ด้วยล่ะครับ หรือว่ามีอะไรปิดบังผมอยู่”
“ปละ... เปล่าค่ะ ป้าไม่มีอะไรปิดบังคุณเคนเลยค่ะ สักนิดก็ไม่มี”
เควินหรี่ตาแคบจ้องหน้าป้าเดซี่เขม็ง ในขณะที่อีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าหลบสายตา
“แน่ใจหรือครับป้าเดซี่”
“แน่... แน่ใจสิคะ ป้า... ป้าจะมีอะไรปิดบังคุณเคนได้ยังไงกันล่ะคะ”” ป้าเดซี่ก้มหน้าหลบสายตา
เควินไหวไหล่กว้างผึ่งผายของตัวเองน้อยๆ “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่รู้สึกว่าป้ามีพิรุธ”
“ไม่มี๊... ไม่มีหรอกค่ะ” ป้าเดซี่ปฏิเสธเสียงสูงลิบจนเควินแปลกใจ แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะไม่คาดคั้นเพราะไว้ใจหญิงสูงวัยตรงหน้า
“ไม่มีก็ไม่มีครับ แล้วนี่คนใช้คนใหม่ไปไหนซะล่ะครับ”
“เอ่อ ป้าให้เอาของไปเก็บของอยู่ที่ห้องพักน่ะค่ะ”
นิ้วเรียวยาวสีแทนส่งชิ้นขนมปังเข้าปากเป็นคำสุดท้าย ก่อนจะพูดขึ้นเสียงจริงจัง
“ให้ไปพบผมที่ห้องทำงานด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจะรีบพาไปพบคุณเคนนะคะ”
“ให้มาคนเดียว ป้าเดซี่ไม่ต้องมาด้วยนะครับ”
คราวนี้ป้าเดซี่หน้าซีดราวกับกระดาษขาว “ทำ... ทำไมล่ะคะคุณเคน เมื่อก่อนตอนรับคนใหม่ๆ ป้าก็ต้องเข้าไปด้วยเสมอ”
“แต่คนนี้ไม่ต้องครับ ผมจะสัมภาษณ์รอบสุดท้ายด้วยตัวของผมเอง เพราะถ้าไม่น่าไว้วางใจ ผมจะไม่มีวันให้อยู่ในคาสโตรเซ่นต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว”
“เอ่อ... ค่ะ”
เควินระบายยิ้มให้กับป้าเดซี่ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารสุดหรู
ป้าเดซี่ถอนใจออกมาอย่างเป็นกังวล แม้เควินจะยิ้มแต่รอยยิ้มที่เห็นมันช่างดูเลือดเย็นแปลกๆ
“หนูธารเอ๋ย จะไปรอดสักกี่น้ำกันเนี่ย” แม้จะกังวลใจมากมายแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถที่จะถอยหลังได้อีกแล้ว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือการเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะสุดทาง
หลังจากฟังความน่าสะพรึงของเควินหากความลับแตกจากปากของป้าเดซี่มาเมื่อครู่นี้แล้ว หัวใจที่ว่ามุ่งมั่นของวรันธาราก็ห่อเหี่ยวลง และความหวาดกลัวก็ผุดพรายแทรกเข้ามามากมาย
“จะรอดไหมเนี่ยเรา” หญิงสาวที่ยามนี้อยู่ในคราบของหญิงชราที่มีแผลเป็นยาวอยู่ที่แก้มของซ้ายยืนกระวนกระวายอยู่หน้าประตูไม้แกะสลักขนาดใหญ่
“หรือจะกลับดี...”
ไม่ได้... วรันธาราสับสนเหลือเกิน แต่ถ้ายอมกลับออกไปก็ตกงาน แล้วจะเอาเงินที่ไหนกินล่ะ
เพราะความจำเป็น เพราะเงินคือสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตให้ดำเนินต่อไปได้ง่ายกว่าทุกสิ่ง ทำให้วรันธาราถอยไม่ได้
“ธาร... เธอถอยไม่ได้เด็ดขาดทำได้อยู่แล้ว”
ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกสูดหายเข้าไปในปอดเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง
“ตายเป็นตายวะ”และ
เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว มือเล็กขาวสะอาดก็ยกขึ้นเคาะลงกับบานประตูไม้หนึ่งครั้ง
“เอ่อ ขออนุญาตค่ะ”
“เชิญ”
คำตอบรับสั้นๆ และห้วนเหลือเกินของเจ้าของห้องหนุ่มวัยฉกรรจ์ดังขึ้นในวินาทีถัดมา หล่อนจึงหมุนลูกบิดประตู และก้าวเข้าไปภายใน
ไม่ช้ามือเล็กก็ตัดสินใจกุมลูกบิดทองเหลืองเอาไว้แน่น แต่ให้ตายเถอะทำไมมันเย็นเฉียบแบบนี้ หญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่หัวใจ
แต่สุดท้ายก็จำต้องดันบานประตูไม้เข้าไป
ห้องกว้างขวางถูกตกแต่งด้วยโทนสีเข้มเสียส่วนใหญ่พุ่งเข้ามากระแทกสายตาอย่างจัง แต่ความโอ่อ่าก็ไม่สามารถดึงดูดสายตาของหล่อนได้นานนัก เมื่อเจ้าของห้องหนุ่มหล่อหมุนตัวหันกลับมาจากหน้าต่างบานใหญ่ และจ้องมองมา
เควิน คาสโตรเซ่น...
ตัวจริงหล่อกว่าในรูปถ่ายเป็นร้อยเท่า!
หล่อนไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะอ้าปากค้างได้กว้างและนานขนาดนี้ และไม่เคยคิดเลยว่าหัวใจจะเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากนอกทรวงอกได้แบบนี้เช่นกัน
หญิงสาวเบิกตากว้าง ปากก็เผยออ้าค้างราวกับคนเสียสติ
“หล่อ... หล่อจนเหมือนไม่ใช่... คน...”
“ยายพูดว่าอะไรนะครับ”
สุ่มเสียงเข้มที่แฝงความถือตัวเอาไว้ไม่น้อยดังขึ้น พร้อมๆ กับดวงตาสีน้ำเงินเข้มเกือบดำที่จ้องมองมา
วรันธาราแทบทรุดลงไปนั่งพับเพียบกับพื้นห้อง เมื่อได้ประสานสายตากับเควิน คาสโตรเซ่น
“คือ... คือ...”
เขา... เขากำลังทำให้หล่อนหายใจไม่ออก เขากำลังทำให้หล่อนหลงลืมจุดประสงค์ของการเข้ามาที่นี่ และเขาก็กำลังทำให้หล่อนตกหลุมรักเข้าอย่างจัง