เช้าวันต่อมากับการที่ต้องแฝงกายอยู่ในคราบของหญิงชรา ภายในคฤหาสน์คาสโตรเซ่นเป็นวันที่สอง
วรันธารารีบเดินแต่เช้า แต่งหน้าสวมรอยให้กลายเป็นหญิงสูงวัยไม่ต่างจากเมื่อวานที่ผ่านมา และถึงแม้ฝีมือแต่งหน้าของหล่อนจะไม่ได้ขั้นเทพเหมือนกับมืออาชีพ แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถแม้แต่น้อย
“หนูธาร... ตื่นหรือยัง”
เสียงคุ้นหูของป้าเดซี่ดังขึ้นนอกประตูห้องพัก วรันธารารีบเก็บอุปกรณ์แต่งหน้าลงไปในลิ้นชัก ก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตู “ตื่นแล้วค่ะป้า”
วรันธารายิ้มกว้างให้กับผู้มีพระคุณตรงหน้า
ป้าเดซี่จ้องมองวรันธาราในคราบของหญิงแก่ด้วยความทึ่งเหมือนเช่นเมื่อวาน
“ฝีมือแต่งหน้าของหนูธารนี่เยี่ยมจริงๆ เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะป้า เอ่อ ว่าแต่วันนี้คุณเคนของป้าจะอยู่บ้านทั้งวันอีกไหมคะ”
“คุณเคนไม่ค่อยออกไปไหนหรอก ปกติจะทำงานที่บ้านนี่แหละ มีประชุมเท่านั้นถึงจะไปที่บริษัทฯ”
“อ๋อ”
“แล้วหนูธารถามทำไมเหรอ”
พอถูกป้าเดซี่ถามกลับวรันธาราก็อึกอักมีพิรุธ “เอ่อ... หนูก็จะได้ไม่ต้องเกร็งเวลาต้องเจอกับคุณเควินยังไงล่ะจ๊ะป้า”
ป้าเดซี่ระบายยิ้ม “ปกติคุณเคนไม่ค่อยออกมาให้พวกคนใช้อย่างพวกเราเจอง่ายๆ หรอก ท่านจะหมกตัวอยู่ในห้องทำงานครึ่งค่อนวัน จากนั้นก็จะไปว่ายน้ำในสระน่ะ”
“ว่ายน้ำ...?”
“ใช่ คุณเคนว่ายน้ำเก่งมาก ว่ายเป็นสิบยี่สิบรอบต่อวันเชียวนะ แข็งแรงมาก”
“ว่าแล้วเชียว ทำไมหุ่นดีนัก” วรันธาราพึมพำในลำคอ แก้มนวลแดงก่ำ
“หนูธารว่าอะไรนะ”
“เอ่อ เปล่า... เปล่าค่ะป้า ไม่ได้ว่าอะไร”
วรันธาราปฏิเสธ และรีบยิ้มกลบเกลื่อน “แล้ววันนี้ป้าจะให้หนูทำงานอะไรคะ ข้างนอกหรือข้างในตึก”
ป้าเดซี่ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพูดในสิ่งที่วรันธาราต้องการออกมา “วันนี้คนใช้ที่มีหน้าที่ทำความสะอาดห้องของคุณเคนเกิดไม่สบายขึ้นมากะทันหัน คงต้องให้หนูธารไปทำแทนแล้วล่ะ”
“จริงเหรอคะป้า”
วรันธาราแทบกรีดร้องด้วยความดีใจ
“ทำไมหนูธารดีใจขนาดนั้นล่ะ”
“อ๋อ... คือหนูดีใจที่จะได้ทำงานตอบแทนป้าเดซี่น่ะค่ะ ว่าแต่ให้หนูเริ่มเลยไหมคะ”
แม้จะรู้สึกแคลงใจบ้าง แต่ป้าเดซี่ก็เลือกที่จะไว้ใจวรันธารา หน้าตาใสซื่อ แววตาไร้เดียงสาแบบนี้ คงไม่มีทางหลอกลวงใครได้หรอก
“สักเก้าโมงค่อยขึ้นไปทำ ตอนนี้คุณเคนยังไม่ออกจากห้องนอนหรอก”
“อ๋อ ได้ค่ะป้าเดซี่ ขอบคุณมากเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก หนูธารตั้งใจทำงานก็แล้วกัน จะได้มีที่อยู่ที่กิน และมีเงินเก็บเยอะๆ”
“ขอบคุณมากค่ะป้า”
“รู้ไหมว่าที่คาสโตรเซ่นมีโบนัสประจำปีด้วยนะ ใครทำดีคุณเคนจ่ายหนัก คนงานที่นี่ถึงได้ไม่ยอมลาออกไปไหน ส่วนคนทำไม่ดีก็ถูกไล่ออกไปตามระเบียบ”
วรันธาราฝืนยิ้มทางริมฝีปาก แต่ดวงตากลับหม่นหมองนัก ป้าเดซี่จริงใจกับหล่อน แล้วหล่อนล่ะ จริงใจแค่ไหน?
“ขอบคุณค่ะป้าเดซี่ ขอบคุณมากค่ะ”
หญิงสาวก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าป้าเดซี่ก่อนจะสวมกอด ป้าเดซี่รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็กอดตอบ
“ถ้าวันหนึ่งหนูทำอะไรผิดไป หนูอยากให้ป้ารู้ว่าหนูทำเพราะจำเป็นนะคะ”
ป้าเดซี่ไม่เข้าใจที่วรันธาราพยายามจะสื่อจึงไม่ได้พูดอะไร นอกจากลูบแผ่นหลังบอบบางนั้นแผ่วเบา
วรันธาราอยากจะกอดป้าเดซี่ให้นานกว่านี้ แต่โทรศัพท์มือถือที่สอดเอาไว้ในกระเป๋ากระโปรงบานสั่นเตือนเสียก่อน หล่อนจึงจำต้องผละออกห่างจากป้าเดซี่ และรีบขอตัว
“เอ่อ หนูขอตัวสักครู่นะคะป้า พอดีปวดท้องขึ้นมากะหันทันน่ะค่ะ”
ป้าเดซี่พยักหน้าน้อยๆ พลางยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“ไปเถอะ แล้วตอนเก้าโมงอย่าลืมขึ้นไปทำความสะอาดห้องของคุณเคนล่ะ”
“ไม่ลืมหรอกค่ะป้า ขอบคุณมากนะคะ”
แล้ววรันธาราก็ถลากลับมาในห้องพักอีกครั้ง จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับสาย
“หัวหน้าโทรมาทำไมตอนนี้คะ ธารกำลังทำงานอยู่”
“ผมก็แค่อยากรู้ว่าคุณเข้าไปในบ้านของเควิน คาสโตรเซ่นได้หรือยังเท่านั้นแหละ”
วรันธารารีบเดินไปแอบที่มุมหน้าต่างของห้อง มองร่างของป้าเดซี่ที่เดินจากไปไกลแล้วด้วยความโล่งใจ จากนั้นก็รีบดึงบานประตูหน้าต่างให้ปิดสนิทลง
“ธารเข้ามาได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้กำลังจะหาทางถ่ายรูปและหาข้อมูลส่วนตัวของคุณเควินอยู่ค่ะ”
“โอ้... ไม่น่าเชื่อว่านักข่าวจรรยาบรรณสูงอย่างวรันธาราจะมีความสามารถมากมายขนาดนี้”
แอนโทนี่หัวเราะร่วนมาตามสายอย่างชอบอกชอบใจ ในขณะที่วรันธาราอารมณ์ขุ่นมัว
“ก็ที่ธารต้องทำแบบนี้ ก็เพราะใครล่ะคะ”
“เอาน่า... เอาเป็นว่าคุณรีบถ่ายภาพลับเฉพาะของเควินมาให้ได้มากที่สุด และก็ถ่ายภาพในคฤหาสน์คาสโตรเซ่นมาด้วย ทีนี้แหละซันไทมส์ของเราจะดังเป็นพลุแตก”
“แล้วถ้าคุณเควินเขาฟ้องเราล่ะคะ”
“จะฟ้องได้ยังไง ในเมื่อหมอนั่นไม่รู้สักหน่อยว่าใครเป็นคนเข้าไปขโมยถ่ายรูปมา”
“แล้วถ้าเขาจับได้ล่ะคะ ธารหมายถึง... เขาจับธารได้ล่ะ”
หญิงสาวถามอย่างเป็นกังวลเพราะเท่าที่ได้สัมผัส เควิน คาสโตรเซ่นไม่ใช่ผู้ชายที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆ เลยสักนิด
“ไม่มีทางจับได้หรอกน่า เชื่อผมสิ คุณก็แค่แอบถ่ายรูปมาให้มากๆ และก็รีบเผ่นออกมาจากที่นั่นเลย แค่นี้ง่ายจะตายไป”
“หัวหน้าก็พูดเหมือนเล่นขายของนะคะ ถ้ามันง่ายแบบนั้น คนอื่นก็คงทำได้กันหมดแล้วสิคะ”
“ก็คุณผ่านตอนที่ยากมาแล้วนี่ ต่อไปก็แค่เรื่องง่ายๆ”
“หัวหน้าหมายถึง...?”
“ก็หมายถึงการแฝงตัวเข้าไปภายในคฤหาสน์คาสโตรเซ่นไง นั่นแหละคือความยากที่สุด แต่เมื่อคุณทำได้แล้ว ต่อจากนี้ไปก็แค่ถ่ายรูปและก็ถ่ายรูป จากนั้นก็รีบเผ่นออกมา ง่ายไหมล่ะ”
วรันธาราแทบอยากจะตัดสายทิ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่ถ้าหล่อนไม่ได้รักอาชีพนักข่าว และไม่ได้อยากทำงานในซันไทมส์ล่ะก็ หล่อนคงด่าแอนโทนี่เป็นกลอนแปดไปแล้ว
“ค่ะ ง่ายมาก ธารขอตัวนะคะ” หล่อนประชดประชันออกไป แต่แอนโทนี่ไม่สนใจ
“ทำให้ได้ล่ะ ผมรอรูปถ่ายจากคุณอยู่”
“ค่ะ หัวหน้า”
วรันธาราตัดสายทิ้ง ก่อนจะเดินกลับไปทรุดตัวลงนั่งบนเตียงเล็กแคบของตัวเองอย่างหมดแรง
เมื่อก่อนตอนสมัยที่ร่ำเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย หล่อนมองอาชีพนักข่าวว่ามีเกียรติมาก แต่ตอนนี้... ตอนนี้หล่อนรู้แล้วว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพลำดับต้นๆ ของคนไม่มีเกียรติ เพราะต้องยอมสละศักดิ์ศรี ต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ข่าวที่ต้องการมา
แม้แต่การโกหก หลอกลวง...
“เควิน... ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยนะคะ แต่ฉันจำเป็นต้องทำ ฉันจำเป็นต้องทำจริงๆ”
สายตากระด้างของเขายังคงติดตรึงอยู่ในสมอง ตราตรึงล้ำลึกลงไปในเนื้อหัวใจ
หล่อนไม่อยากทำร้ายเขาเลย...!