ตอนที่1มีปากเสียง
เสียงเอะอะโวยวายที่ดังมาจากห้องรับแขกของบ้าน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางสุมาลีเคยได้ยิน เพราะตั้งแต่นางมาอยู่เลี้ยงหลานสาวที่เพิ่งจะคลอดได้ไม่ถึงสี่เดือน ก็ได้ยินเสียงลูกสาวและลูกเขยทะเลาะกันแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
"พี่ปุณณ์กลับบ้านดึกแบบนี้มาหลายวันแล้วนะคะ พี่ไปทำอะไรที่ไหนกับใครมาหรือเปล่า?"
"นี่กิ่งจะมางี่เง่าใส่พี่อะไรแบบนี้กันนะ ถามพี่อยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน คำตอบแบบเดิมที่พี่มีให้คือพี่ต้องเร่งทำโครงการใหม่ของคุณพ่อที่ต้องส่งให้ทันในเดือนหน้านี้"
"ทำงานจริงหรือเปล่า ไม่ใช่ข้ออ้างที่พี่อยากจะใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดแฟนเก่าที่พี่เพิ่งรับเข้ามาทำงานด้วยหรอกนะคะ อย่านึกว่ากิ่งไม่รู้"
"อย่าคิดเองเออเองไปหน่อยเลยกิ่ง กิ่งจะมาหึงพี่กับมินตราเขาทำไม ในเมื่อมินตราก็เป็นแค่แฟนเก่า และพี่ก็มีเมียแล้ว" สีหน้าหงุดหงิดหัวเสียของปุณณวัตน์ที่แสดงออก ทำให้กิ่งมาลาถึงกับต้องเดินเข้าไปใกล้ จ้องมองหน้าของสามีอย่างจับพิรุธอีกครั้ง
"กิ่งอยากเชื่อใจพี่นะพี่ปุณณ์ แต่ยังไงผู้หญิงคนนั้นก็เป็นอดีตคนที่พี่เคยรัก กิ่งผิดเหรอคะที่หวาดระแวง กิ่งผิดเหรอคะที่หึงหวงพี่ กิ่งผิดมากเหรอคะที่ต้องถามพี่แบบนี้ทุกวัน"
"มันไม่ผิดหรอกกิ่ง แต่มันน่ารำคาญ เพราะคำตอบเดิมที่พี่ตอบได้คือพี่ไม่ได้ไปทำอะไรที่ไหนกับใครทั้งนั้น กิ่งเข้าใจและคิดมากไปเองตลอดเวลา พี่เหนื่อยที่จะอธิบาย พี่ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ" ร่างสูงรีบเดินจ้ำอ้าวผ่านหน้าภรรยาขึ้นบันไดไปบนชั้นสองของบ้านด้วยท่าทีที่ไม่สบอารมณ์ กิ่งมาลาได้แต่ยืนจ้องมองตามแผ่นหลังกว้างจนกระทั่งหายลับตาไปอีกครั้ง
นางสุมาลีที่ยืนแอบฟังอยู่มุมต้นเสาของห้องรับแขกจึงเดินเข้ามาหาลูกสาว ฝ่ามือที่เริ่มเหี่ยวย่นลูบหลังลูกสาวปลอบใจลูกสาวไปมาเบา ๆ
"ใจเย็น ๆ ก่อนสิกิ่ง แม่เห็นเรากับตาปุณณ์ทะเลาะกันแต่เรื่องเดิม ๆ มาเป็นเดือนแล้วนะลูก"
กิ่งมาลาหันหน้ากลับมามองมารดา ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองอย่างไม่กระพริบสายตาเลยสักนิด
"กิ่งงี่เง่ามากขนาดนั้นเลยเหรอจ๊ะแม่?"
"ไม่ใช่หรอก แม่เข้าใจกิ่งนะ แต่บางทีเราก็จ้องจะจับผิดผัวมากจนเกินไป กิ่งไม่เชื่อใจตาปุณณ์ขนาดนั้นเลยเหรอลูก?"
"ไม่ใช่กิ่งไม่เชื่อใจพี่ปุณณ์นะจ๊ะแม่ แต่กิ่งไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนั้นต่างหากล่ะ"
"ตบมือข้างเดียวมันไม่มีวันดังหรอกนะกิ่ง ถ้าคนของเราไม่สนใจและไม่เล่นด้วย ผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีวันได้เข้ามาวุ่นวายในชีวิตครอบครัวกิ่งได้หรอก แม่ว่ากิ่งระแวงมากจนเกินไป รักผัว หวงผัว ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่หวงแบบมีขอบเขต ไม่ทำให้อีกฝ่ายอึดอัดมากจนเกินไปแม่ว่าจะดีที่สุดนะลูก"
กิ่งมาลายอมรับว่าเธอไม่กล้าไว้ใจสามีกับผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามาทำงานใกล้ชิดด้วยเลยแม้แต่นิด ยิ่งตอนนี้เธอมีลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดู ความเครียดและอาการคิดมากต่างประดังประเดเข้าหา ทำให้รู้สึกระแวงไปหมดเสียทุกอย่าง ยิ่งเห็นชีวิตเพื่อน ๆ และคนรอบข้างที่หลังมีลูกต้องเผชิญกับปัญหาที่สามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวและไม่อยากจะพบเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นในชีวิตคู่
"ขึ้นไปพักผ่อนเถอะไป เลี้ยงลูกก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะ เดี๋ยวก็ต้องลุกมาให้นมลูกตอนดึกอีก"
"จ้ะแม่ แม่ก็ไปนอนพักเถอะนะ ขอบคุณนะจ๊ะแม่ที่มาช่วยเลี้ยงลูกให้กิ่ง ถ้าไม่มีแม่นะกิ่งจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"
"ลูกคนแรกก็จะวุ่นวายแบบนี้ล่ะ แต่พ่อเราก็โทรมาเรียกแม่ให้กลับบ้านแล้วนะ ใกล้จะได้เวลาเก็บผลผลิตในไร่เราอีกแล้ว"
"จริงสิ แล้วแม่จะกลับวันไหนเหรอจ๊ะ กิ่งจะได้บอกให้พี่ปุณณ์ไปส่ง"
"คงอีกสักอาทิตย์ หลานก็เริ่มเลี้ยงง่ายแล้ว กิ่งคงเลี้ยงคนเดียวสบายแล้วล่ะลูก"
"งั้นแม่ก็ไปนอนเถอะจ้ะ เดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยคุยกันอีกทีดีกว่านะจ๊ะแม่ มาเดี๋ยวกิ่งจะเดินไปส่งแม่ที่ห้อง"
"ไม่เป็นไร ๆ ขึ้นไปง้อผัวเถอะไป เท่าที่แม่ได้ยินแม่ว่ากิ่งควรจะเป็นฝ่ายขอโทษตาปุณณ์ก่อนนะ เขาทำงานหาเงินเข้าบ้านว่าเหนื่อยแล้ว อย่าทำให้ตาปุณณ์ต้องเหนื่อยกับเมียที่บ้านอีกเลยนะลูก เราควรเป็นความสบายใจให้ผัวนะถึงจะถูก"
กิ่งมาลาคิดตามที่มารดาบอกกล่าว มันก็จริงเธอควรจะทำให้สามีสบายใจมากกว่าจะมาชวนเขาทะเลาะด้วยทุกครั้งที่พบหน้า
กิ่งมาลาเดินขึ้นห้องนอนมาอีกครั้งก็พบว่าสามีกำลังเดินอุ้มกล่อมลูกน้อยเดินวนไปมาอยู่ คำพูดของมารดาคงไม่เกินจริง อาจจะเป็นเธอที่งี่เง่าใส่อารมณ์กับสามีก่อน เพราะปุณณวัฒน์ก็ยังคงทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีของลูกได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย
"ลูกตื่นเหรอคะพี่ปุณณ์"
"ใช่ พี่ขึ้นมาถึงก็ร้องไห้อ้อนแล้ว" สีหน้าที่แลดูหงุดหงิดเมื่อก่อนหน้าผ่อนคลายจนหายเป็นปกติ อ้อมอกอุ่น ๆ ของบิดาทำให้หนูน้อยวัยสี่เดือนเศษถึงกับนิ่งสงบลงอย่างง่ายดายนัก
"ส่งลูกมาให้กิ่งสิคะ พี่ปุณณ์จะได้ไปอาบน้ำมานอนพัก"
"ดูท่าว่าจะหลับสนิทแล้ว เดี๋ยวพี่วางลงบนเตียงเด็กเหมือนเดิมจะดีกว่า" ก่อนจะเดินตรงไปยังเตียงเด็กที่อยู่ตรงมุมห้องนอนใหญ่ บรรจงวางลูกน้อยลงบนที่นอนอย่างเบามือ พร้อมกับก้มลงหอมแก้มลูกสาวเบา ๆ
"ฝันดีนะครับเด็กดีของพ่อ"
เมื่อเห็นว่าสามีกำลังจะเดินผ่านหน้า ฝ่ามือเรียวรีบคว้าท่อนแขนแข็งแรงเอาไว้ ใบหน้าหล่อหันมาจ้องมอง ก่อนที่หญิงสาวจะโผเข้ากอดร่างสูงเอาไว้แน่น
"กิ่งขอโทษนะคะพี่ปุณณ์ กิ่งงี่เง่ามากจริง ๆ" อ้อมแขนของสามีโอบกอดตอบอย่างเข้าใจหัวอก ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังไปมาเบา ๆ
"ช่างมันเถอะ พี่ไม่ได้โกรธกิ่งเลยนะ"
"กิ่งจะเลิกคิดมากนะคะ กิ่งจะไม่ชวนพี่ทะเลาะเรื่องนั้นอีกแล้ว กิ่งจะเชื่อใจและไว้ใจสามีของกิ่งให้มากกว่านี้"
"กิ่งสบายใจเถอะ พี่ไม่เหมือนสามีของบรรดาแก๊งเพื่อนกิ่งอย่างแน่นอน"
"ค่ะ กิ่งเชื่อพี่ปุณณ์"
สองสามีโอบกอดกันอยู่นานสองนาน ก่อนที่ปุณณวัฒน์จะเดินหายเข้าไปภายในห้องน้ำอีกครั้ง
ภาพแต่งงานที่ติดบนฝาผนังเหนือหัวเตียงนอน กิ่งมาลาจ้องมองอย่างมีความสุขนัก เธอคือคนที่เขาเลือกมาเป็นคู่ชีวิต เพราะฉะนั้นเธอก็ควรจะหนักแน่นกับความรู้สึกระแวงคนในอดีตให้มากกว่านี้ อดีตก็คืออดีต แต่เธอกับลูกคือคนปัจจุบันและในอนาคตวันข้างหน้า