06 BLACK & WHITE

1952 คำ
“ขึ้นรถ เดี๋ยวไปส่ง” รถมอเตอร์ไซค์ขี่มาปาดตรงหน้า และเจ้าของเสียงกำลังมองหน้าฉัน “…” ฉันไม่พูดอะไร เลือกที่จะเดินหลบ แล้วเดินต่อไปเพื่อที่จะได้ถึงบ้านตัวเองเร็ว ๆ “มันมืดแล้วนุ่ม เดินไปเองได้ไง ก็รู้ว่าซอยบ้าน แต่มันก็อันตราย” เขาคนนั้นตะโกนมา แต่ฉันไม่เอามาใส่ใจ รีบก้าวเท้าเดินอย่างไว แต่มันจะไวได้แค่ไหนกัน ในเมื่อฉันอ้วน! “เดี๋ยวพี่เดินไปส่งก็ได้” เสียงเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์ดับลงจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาทางฉัน พอรู้สึกว่าเขาเดินมาอยู่ข้าง ๆ ฉันก็รีบก้มหน้าก้าวขาเดินต่อ “ขอโทษนะ” “…” คำขอโทษมันออกจากปากเขา แล้วคือเราไม่สนิทกันเลยไหม จำเป็นอะไรต้องมาขอโทษ ขอโทษเรื่องอะไร “นุ่ม พี่…” เขายังคงเดินข้างฉัน เขาเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่บอกตามตรงว่าฉันไม่อยากฟัง ไม่อยากยุ่งกับหนึ่งในคนที่ทำให้ฉันอับอาย และจำเป็นอะไรที่เขามาเรียกฉันว่า ‘นุ่ม’ คำนี้ไม่มีใครเคยเรียกเลยไหม แล้วเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเรียกฉันแบบนี้ “นั่งคุยกันก่อนได้ไหม ตรงม้านั่งตรงนั้นก็ได้ พี่ขอแค่ไม่กี่นาที” เขาเดินมาดักตรงหน้า ทำให้ฉันเดินต่อไม่ได้ “ถอยค่ะ” ไอ้ประโยคนี้ที่พูดออกไปมันทำให้ฉันคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าขึ้นมาทันที “คุยกับพี่ก่อน” “เราไม่ได้รู้จักกัน ไม่จำเป็นต้องคุยกันไหมคะ ถอยด้วยค่ะ ฉันไม่อยากมีปัญหากับแฟนคุณ” ฉันจ้องหน้าผู้ชายที่กำลังยืนมอง ตอนนี้ฉันเริ่มอยากจะร้องไห้แล้วล่ะ “อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ พี่…” ปึก! “คืนค่ะ” ระหว่างที่เขากำลังจะพูดอะไรต่อไปอีก ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าควรคืนบางอย่างให้เขา ซึ่งฉันพกมันติดตัวเสมอ เผื่อว่าถ้าวันไหนเจอกันจะคืนให้เขา แล้ววันนี้ก็ได้คืนสักที ฉันยัดมันใส่มือเขา แล้วจากนั้นก็เดินหลบไปอีกทาง หมับ! “นุ่ม” เขาคว้าที่ต้นแขนใหญ่ ๆ ของฉัน “ปล่อยค่ะ เราไม่สนิทจนถึงขั้นแตะเนื้อต้องตัวนะคะ และเราไม่ควรสนิทกันด้วย” ฉันใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ “พี่ไม่ได้อยากให้เรื่องเมื่อเช้ามันเป็นแบบนั้น พี่…” “จะอยากให้เป็นแบบไหน แต่มันก็เป็นแบบนั้นไปแล้ว ฉันกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น แล้วที่คุณมายืนอยู่ตรงนี้คือต้องการอะไรคะ ต้องการให้ฉันโดนมากกว่าวันนี้เหรอ เรื่องเมื่อเช้ามัน…” หมับ! “อย่าร้องไห้นุ่ม พี่ไม่ได้อยากเห็นน้ำตาของนุ่มนะ อย่าร้องไห้ พี่ขอโทษ ขอโทษจริง ๆ” เขาขยับตัวเข้ามากอด กอดแบบที่ว่าฉันไม่ทันได้ตั้งตัว บอกตามตรงว่าตกใจ ตั้งตัวไม่ทัน และการที่เขาทำแบบนี้มันทำให้หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่ มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าที่คุณทำอยู่คุณต้องการอะไร แล้วฉันก็จะไม่สนใจ จะไม่เดินตามเกมคุณ อย่ามายุ่งกับฉันอีก แล้วก็ฝากถามเพื่อนคุณด้วยว่าอ้วนแล้วมันหนักหัวใคร คิดว่าดีมากเท่มากหรือไงที่ดูถูกเหยียดหยามสภาพคนอื่น” ฉันใช้แรงช้างที่มีดันเขาออกให้ห่าง แล้วจากนั้นก็เดินเข้าซอยต่อ “พี่เป็นห่วง เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง แบบเงียบ ๆ ก็ได้” เขาเดินตามหลังมา แล้วพูดบอก ฉันทำเป็นไม่สนใจและเดินต่อ ส่วนเขาก็เดินเงียบ ๆ อย่างที่เขาบอกจริง ๆ ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาทำแบบนี้ทำไม ทำไปเพื่ออะไร เพราะฉันไม่ได้สนิทกับเขาเลย ห้านาทีต่อมา… -บ้านนุ่มนิ่ม- “ฝันดีนะ” เขาบอกเมื่อเห็นฉันเดินเข้ามาในบ้านแล้วปิดรั้วกั้น เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินกลับไปตามทางที่เราเดินมาเมื่อครู่ เขาคือรุ่นพี่ชอปเปอร์ ผู้ชายที่ฉันแอบปลื้ม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง แล้วมาพูดว่าขอโทษเพื่ออะไร (NUMNIM: ฮอดเฮือนแล้วเด้อจ้า) ฉันเลิกคิดฟุ้งซ่านเรื่องของพี่ชอปเปอร์ แล้วฉันทำตามที่พี่เคลิ้มบอกไว้ ว่าถ้าถึงบ้านให้ส่งไลน์ไปบอก รายนั้นป่านนี้คงไปเลือดอาบที่ไหนสักที่นั่นแหละ “ทานข้าวเลยไหมคะคุณหนูเล็ก” แม่บ้านถามเมื่อฉันเดินเข้ามาในบ้าน คุณหนูเล็ก แต่ตัวเบอเร่อเท่อ ที่เรียกแบบนี้เพราะฉันเป็นลูกคนเล็ก คนในครอบครัวมักเรียกฉันว่ายัยเล็ก “นิ่มกินข้าวหมูแดงปากซอยมาแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันบอกแม่บ้านแล้วก็เดินขึ้นห้อง บ้านฉันก็ค่อนข้างมีฐานะเลยล่ะ แต่คนที่มหาวิทยาลัยจะเข้าใจว่าจน เพราะฉันชอบทำตัวติดดิน ทำเหมือนไม่มีอันจะกิน ทั้งที่ตัวโคตรอ้วน และที่นั่นฉันก็แค่คนอ้วนคนหนึ่งที่ไม่มีใครสนใจ แต่หลังจากพรุ่งนี้ไป มันคงจะค่อนข้างวุ่นวายเลยล่ะ (BLACK: วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง สนุกไหม) (BLACK: ของแบล็คมันเป็นวันที่แย่) (BLACK: ทำไมไม่ตอบ) (BLACK: ไวท์เป็นอะไรรึเปล่า) (WHITE: มาแล้ว มาแล้วววว) (WHITE: โทษทีนะแบล็ค พอดีไวท์ติดปัญหานิดหน่อยเลยถึงบ้านช้า) (WHITE: โหล ๆ ยังอยู่ไหม) (BLACK: อยู่ ๆ ไปไหนมาถามได้ไหม) (WHITE: กินข้าวปากซอยมา) (BLACK: ข้าวหมูแดง?) (WHITE: ใช่แล้ว อร่อยมาก แบล็คอยู่บ้านยังหรือว่าไปเที่ยวกับเพื่อน) (BLACK: ยัง ออกมาข้างนอก กำลังจะกลับ) (WHITE: แล้วมีเรื่องอะไรเหรอ ทำไมถึงบอกว่าเป็นวันที่แย่) (BLACK: ก็… เข้าใจผิดกับเพื่อนน่ะ) (WHITE: งื้อ อย่าคิดมากนะ แบล็คยังมีไวท์เป็นเพื่อนนะ) (WHITE: โอเคใช่ไหม) (BLACK: โอเค เดี๋ยวมันคงดีขึ้น) (WHITE: ใช่ ๆ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น งั้นเดี๋ยวไวท์อาบน้ำก่อนนะ ง่วงนอนมาก ๆ เลย วันนี้เพลียสมองมาก) (BLACK: ครับ ฝันดีนะ ถ้ายังไงถึงบ้านแล้วจะทักหา) ฉันวางโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่ตอบไลน์กับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นใครไม่รู้ ฉันไม่รู้จักหน้าตาของเขาหรอก แต่เขาเด้งไลน์มาหาฉัน แล้วขึ้นรูปโปรไฟล์เป็นสีดำ เขาพิมพ์มาว่าเขาเหงา อยากมีเพื่อนคุย เขาเบื่อชีวิต คุยเป็นเพื่อนเขาได้ไหม ด้วยความที่ฉันเป็นนางเอก ด้วยความที่มักจะสงสารคน ด้วยกลัวว่าเขาอาจจะเหงา เศร้ากับชีวิตจริง ๆ ฉันก็เลยตกลงคุยกับเขา แล้วก็ให้เขาเรียกฉันว่าไวท์ เปรียบเหมือนสีขาว ส่วนเขาก็สีดำ เราคุยกันได้เกือบปีแล้วมั้ง คุยแบบไม่เห็นหน้า ไม่ต้องพูดคุยแบบเจอหน้า เป็นแค่เพื่อนในมุมมืด ๆ ของกัน เราสองคนไม่เคยพูดถึงเรื่องที่จะเจอหน้ากัน และไม่เคยต้องการเจอกันแบบนั้น ไม่เคยถามชื่อจริง ๆ ของกันว่าที่จริงแล้วชื่ออะไร มันเป็นความโชคดีมั้งที่ตอนนั้นชื่อในไลน์ของฉันใช้ชื่อว่า ‘เล็กสุด’ รูปโปรไฟล์ก็เป็นรูปการ์ตูน แล้วพอเราตกลงว่าจะคุยกัน ฉันก็สร้างไลน์อีกบัญชีขึ้นมา แล้วก็บอกเขาว่าเดี๋ยวเอาไลน์นี้คุย จะได้สะดวก แต่ฉันว่าบางทีเขาอาจจะรู้นะว่าฉันเป็นใคร ไม่งั้นคงไม่เด้งไลน์มาหา แต่ก็ช่างเถอะ เขาเป็นใครก็ช่าง ฉันไม่สนอยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร เพราะยังไงเราก็ใช้ใจคุยกัน และเราแค่คุย แค่คุยจริง ๆ ไม่ได้ส่งรูปที่แสดงตัวตนให้กัน อย่างมากฉันก็ส่งรูปของกิน ส่วนแบล็คก็ถ่ายรูปธรรมชาติและแมวมาให้ดู เขาบอกว่าเขาชอบแมว เขาบอกว่าเขาชอบถ่ายรูป อ้อ! เราไม่ได้โทรคุยกันด้วยนะ ทำให้เราไม่เคยได้ยินเสียงกัน เราทั้งคู่เหมือนคุยกันแล้วสบายใจ และสบายใจที่เป็นแบบนี้ และเรื่องไวท์แบล็ค ไม่มีคนในครอบครัวของฉันรู้สักคน เแบล็ครู้เรื่องร้านของกินที่ฉันไปแทบทุกร้าน เพราะฉันชอบถ่ายรูปแล้วเอามาให้เขาดู ถ้าอยู่ในความพอดี เพื่อนโซเชียลก็ไม่อันตรายขนาดนั้นหรอกมั้ง เกือบหนึ่งปีมันก็เลยเหมือนจะมีความผูกพันแปลก ๆ เพราะเราคุยกันทุกวัน สี่สิบห้านาทีต่อมา… ติ๊ง! (BLACK: ถึงบ้านแล้วนะ กำลังจะนอน ฝันดีอีกรอบ) ติ๊ง! (KLOEM: เออ กูก็ถึงบ้านแล้ว) (KLOEM: ทำไมถึงช้าจังวะ ปกตินั่งวินไม่ถึงสองนาที) ไลน์เด้งเข้ามาทั้งสองเครื่อง ในเวลาไล่เลี่ยกัน (NUMNIM: ไม่มีวิน เดินเข้าซอยเจ้าค่ะ) ฉันเลือกที่จะตอบข้อความของพี่เคลิ้มก่อน เพราะเขาน่ะปากหมา ถ้าไม่ตอบก็จะโดนด่าเวลาที่เจอ หรือไม่ก็อาจจะโทรมาด่า ซึ่งฉันรำคาญ (KLOEM: เออ เดิน ๆ มั่งก็ดี เดี๋ยวไขมันอุดตันเส้นเลือดแตกตาย) (NUMNIM: บักห่าหนิแหม ซำนี่เด้อสินอนแล้ว ซังแฮง) ฉันพิมพ์ภาษาอีสานส่งกลับไปแล้วจากนั้นก็ปิดเสียงวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะทันที แล้วก็หยิบอีกเครื่องขึ้นมากดอ่าน พร้อมกับตอบกลับไป (WHITE: จ้า ไวท์ก็กำลังจะนอนเช่นกัน ฝันดีนะ) แล้วฉันก็ส่งสติ๊กเกอร์นอนหลับไปให้แบล็ค จากนั้นก็วางมือถือไว้ที่โต๊ะเคียงข้างกับอีกเครื่อง บางทีฉันก็สงสัยตัวเองนะว่าทำไมต้องพกสองเครื่อง ทั้งที่ไม่มีคนจะคุยด้วยขนาดนั้น ทำเหมือนผู้ชายเยอะอย่างนั้นแหละ “ไขมันอุดตันเหรอ ไอ้พี่บ้าเอ้ย” งึมงำอยู่บนที่นอนเมื่อนึกถึงคำที่ไอ้พี่เคลิ้มพิมพ์มา คิดแล้วก็โมโห ทำไมชอบสรรหาโรคมาว่าฉัน ถ้าฉันลดหุ่นแล้วสวยขึ้นมานะ ดูซิว่าจะหาอะไรมาว่าฉัน “แต่ลดหุ่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ แกจะตัดของหวานของคาวที่แสนอร่อยได้จริง ๆ เหรอนุ่มนิ่ม” แล้วฉันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถ้าตื่นมาแล้วพรุ่งนี้ผอมเลยก็คงจะดี แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นไง เพราะทุกอย่างเราจะต้องมีความพยายามและความเชื่อ คิดแล้วท้อแท้ไว้รอเลยสำหรับการอดอาหาร “ยังไม่ลดดีกว่า แค่คิดก็เหนื่อย แบบนี้ก็น่ารักดีอยู่แล้ว แค่หน้าสวย ทุกอย่างก็โอเค ช่วงนี้โปรบุฟเฟ่ต์เยอะด้วย เอาไว้หมดช่วงโปรค่อยคิดอีกทีแล้วกัน” พูดแล้วยิ้ม จากนั้นก็หลับตานอน นี่คือวีธีปลอบใจและหลอกตัวเองของคนอ้วนที่ขี้เกียจลดหุ่น เชื่อเถอะว่าข้ออ้างในเรื่องที่ยังไม่ยอมลดของฉันมันมีร้อยแปดพันเรื่อง สารพัดข้ออ้าง ฉันก็เลยยังหุ่นแบบนี้ไง แต่หุ่นหมีแบบหนูก็ให้ความอบอุ่นพี่ได้นะคะ ฉันควรนอน -END NUMNIM-
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม