ปากร้ายจริงๆ ค่ะ!
ฉันคิดอย่างโมโห หัวใจมันก็ยังเต้นตึกตักไม่หยุด สัมผัสร้อนผ่าวของพี่อาร์แปลกใหม่และทำให้ฉันยิ้มเหมือนคนบ้า แต่สักพักก็ต้องกลับมาหน้าบูดเป็นตูดลิงเมื่อนึกถึงคำพูดสุดท้ายของเขา
สนองให้อย่างนั้นเหรอ บ้าเถอะ! ใครบอกว่าฉันต้องการให้เขาจูบกันเล่า ใครบอก ไหนพูดซิ! แต่ว่านะ...
“จริงๆ แล้วพี่เขาอาจชอบเราอยู่ก็เป็นได้ แค่แกล้งตีหน้านิ่งไรงี้ไง เนอะ” ฉันพูดแล้วยิ้มอีกครั้งจนแก้มแทบแตก และไม่ลืมยกมือแตะริมฝีปากตัวเองไปด้วย
“ยัยพาย น้ำลายยืดแล้ว” ฉันสะดุ้งตกใจตอนที่ฝ่ามือของใครสักคนแตะไหล่แรงๆ เหมือนเตือนสติ แล้วพอแตะตรงมุมปากเท่านั้นแหละ ชัดเจนเลย...ฉันนั่งน้ำลายยืดจริงๆ สินะ
“โทษทีๆ เพลินไปหน่อยน่ะ” ฉันเอ่ยอย่างเขินๆ เมื่อนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้นั่งน้ำลายยืดอย่างนี้ นี่ถ้ามีใครรู้เข้าก็คงคิดว่าฉันเป็นยัยเด็กแก่แดดที่หิวผู้ชายจนน้ำลายไหลแน่ๆ ภาพพจน์อันน้อยนิดคงเหลวเป๋วไม่เป็นท่าแน่ๆ เลย แต่ว่านะ นี่ฉันกำลังอยู่โรงเรียนหรอกเหรอ สัมผัสร้อนรุ่มตรงริมฝีปากที่พี่อาร์ทิ้งไว้มันยังไม่เลือนหายไปเลยนี่นา มันเหมือนว่าเพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ จนฉันคิดว่าตัวเองยังนั่งเพ้ออยู่ที่บ้านเหมือนเมื่อคืน โอ๊ย...
“แกนี่ก็นั่งฝันกลางวันได้นะ ยัยผู้หญิงลามก” ยัยส้มเปรี้ยวทำหน้าเหมือนขยะแขยงฉันเหลือเกิน ฉันเลยเชิดหน้าขึ้นแล้วสู้สุดชีวิต
“ลามกแล้วไง นี่จะบอกเลยนะเว้ย พี่อาร์กับฉันน่ะเราจะ...” ฉันชะงักคำพูดลงตรงนั้น แล้วรีบยกมือปิดปากตัวเองอย่างด่วนจี๋เลยทีเดียว ตายแล้ว เกือบพลั้งปากแล้วไหมล่ะ
“จะอะไรของแกวะ ไหนบอก อย่ามาอุบ” ว่าแล้วยัยเพื่อนตัวร้ายก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จ้องลึกเข้ามาในตาฉันอย่างคาดคั้นราวกับต้องการเค้นคำตอบ ฉันเลยเหลือบซ้ายเหลือบขวากลัวคนจะมาได้ยิน เม้มริมฝีปากแน่นพักหนึ่งแล้วกระซิบบอกคนเป็นเพื่อนเบาๆ
“คือ...”
“แกโดนพี่อาร์จูบ!”
กรี๊ด ยัยโอ่งมังกรราชบุรี่นี่จะปากโป้งตะโกนเสียงดังทำไม กลัวชาวบ้านเขาไม่รู้เหรอว่าเด็กอายุสิบเจ็ดปีอย่างฉันโดนจูบน่ะ ดูสิ เพราะยัยส้มเปรี้ยวคนเดียว คนอื่นๆ ในห้องเรียนหันพึ่บมามองกันยกใหญ่แล้ว
โอ๊ยแม่จ๋า พี่อาร์น่ะดังจะตาย เด็กๆ โรงเรียนนี้คลั่งเขาเยอะแยะ แล้วแบบนี้จะไม่โดนลากไปฆ่าหมกป่าเหรอ อุตส่าห์พูดเบาๆ แล้วนะ มันใช่ความผิดฉันไหมเนี่ย
“เสียงดังทำไมยัยบ้า!” ฉันยกมือตีแขนเพื่อนแรงๆ หนึ่งทีเป็นการทำโทษ ยัยส้มเปรี้ยวที่รู้ตัวเลยหรี่เสียงลง แต่ขอโทษเหอะ มันทันไหมเล่า “ดูดิ ยัยพวกนั้นมองฉันตาเขียวเลย ถ้าฉันโดนตบขึ้นมาแกต้องรับผิดชอบนะ” ฉันเหลือบมองกลุ่มเพื่อนร่วมห้องซึ่งกำลังจ้องมาที่ฉันกับยัยส้มเปรี้ยวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“โทษ ว่าแต่แกพูดจริงเหรอ โม้หรือเปล่า“ ยัยส้มเปรี้ยวทำหน้าไม่ค่อยเชื่ออย่างที่ฉันคิดไว้เลย เห็นไหม เพราะแบบนี้ไงถึงไม่อยากบอก
“ไม่เชื่อสินะ!” ฉันกระแทกเสียงใส่ด้วยความเคือง ทำหน้าเหมือนฉันกุเรื่องขึ้นมาเพื่อเอาใจตัวเองแบบนั้นหมายความยังไง
“หน้าอย่างแกน่ะนะ” อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยสิ!
“แกอยากโดนต่อยใช่ไหม” ฉันขู่ฟ่อ “ฉันพูดจริงนะ...แต่ถ้าแกไม่เชื่อก็เรื่องของแกแล้วอ่ะ” อีกอย่าง ฉันข้องมากเลย หน้าอย่างฉันมันทำไมเหรอ ตาโต แก้มป่อง ตัวเล็ก อินเทรนด์ออก
“ให้เชื่อได้ไง ก็แกยังไม่เคยพูดกับพี่เขาเลย แล้วจู่ๆ จะไปจูบกันได้ไง มันไม่เม็กเซ้นส์”
“เอ้า นั่งที่ๆ!” ระหว่างที่ยัยส้มเปรี้ยวเอาแต่ถามเรื่องพี่อาร์และมองฉันด้วยสายตาไม่เชื่อ เสียงคุณครูแม็กก็ทำให้กลุ่มนักเรียนทั้งหมดกระจายตัวอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานทุกคนก็นั่งประจำที่อย่างเรียบร้อย
คุณครูแม็กเป็นคุณครูประจำวิชาพละศึกษาน่ะ แกเป็นหัวหน้าของครู่ฝ่ายกีฬาด้วย และตอนนี้...อา นี่มันคาบพละนี่หว่า
ฉันล้วงเอากระดาษตารางสอนขึ้นมาดูถึงนึกออก แล้วบรรลัยแค่ไหนคิดดู วันนี้มีเรียนบาสแต่ฉันดันลืมเอาชุดมา! ให้มันได้อย่างนี้สิยัยพาย! มัวแต่เพ้อหาพี่อาร์ การรงการเรียนนี่ใส่ใจให้มันเท่ากับเรื่องของผู้ชายหน่อยเถอะ
ฉันด่าตัวเองในใจและทำหน้าเสียใจเต็มที่ หากทว่าคำพูดของครูแม็กที่ดังมาจากหน้าห้องเรียนทำให้ทุกความเสียใจมลายหายไปในพริบตาเดียว
“อย่างที่รู้ๆ กันว่าวันนี้เราจะเรียนบาส เพราะงั้นครูเลยเชิญรุ่นพี่คนหนึ่งมาเป็นครูพิเศษให้พวกเราในวันนี้ พวกเธอรู้จักกันอยู่แล้วแหละ เอ้า! เข้ามาๆ” ครูแม็กกวักมือเรียกใครสักอย่างที่ยืนอยู่ข้างนอกด้วยรอยยิ้ม ซึ่งไม่นานร่างสูงกับผิวขาวแสบตาของเขาคนนั้นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคนภายในห้อง
ฉันช็อก! อ้าปากค้าง! หัวใจเต้นแรงและตัวแข็งทื่อทันทีที่เห็นว่าครูพิเศษประจำคาบพละคือพี่อาร์สุดหล่อของฉันนั่นเอง เขาอยู่ในชุดไปรเวทธรรมดาแต่ดูดีราวกับหลุดออกมาจากแม็กกาซีนอย่างไรอย่างนั้น ยัยพวกผู้หญิงในห้องนี่กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เลยทีเดียว
“พี่อาร์อ่ะแก โอ๊ย ทำไมครูไม่บอกล่วงหน้าให้เร็วกว่านี้นะ ฉันจะได้แต่งหน้ามา”
“นั่นสิ เมื่อคืนดูซีรีส์ดึกมาก นี่ก็ตาบวมไม่ได้ลงรองพื้นมาเลยอ่ะ” เสียงของยัยผู้หญิงกลุ่มหนึ่งทำให้ฉันเหลือบมองเงียบๆ แหม...นั่นก็หนาแทบจะเป็นนิ้วอยู่แล้วรองพื้นบนหน้าอ่ะ ยังจะแต่งอีกเหรอ
“อาริยะ เคยเป็นศิษย์เก่าของที่นี่และสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน เพราะงั้นครูมั่นใจว่าพวกเธอรู้จัก” ครูยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเด็กภายในห้องที่ดูตื่นเต้นกันยกใหญ่ “เดี๋ยวให้แนะนำสักหน่อยแล้วกันว่าวันนี้ได้เตรียมอะไรมาบ้าง”
“...” ครูแม็กยื่นหน้าที่ให้พี่อาร์ดื้อๆ ในขณะที่เจ้าตัวก็ทำหน้านิ่งๆ พลางกวาดสายตาไปรอบห้อง วูบหนึ่งเราสบตากันแต่เขาก็ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ
“พูดสิ” ครูเร่ง พี่อาร์เลยหยักหน้าเบาๆ เหมือนไม่เต็มใจและถูกบังคับให้มายังงั้นแหละ
“ผมอาร์ วันนี้มาสอนบาสขั้นพื้นฐาน ตั้งใจด้วยละกัน” มาเร็ว เคลมเร็วก็พี่อาร์นี่แหละค่ะ
“โอเคค่า จะตั้งใจอย่างดีเลย”
“รับทราบค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวและหัวใจให้ครูด้วยนะคะ”
หน็อย ยัยพวกนี้ ได้ทีก็เอาใหญ่เลยนะ ฉันคิดอย่างฉุนจัด มีหลายครั้งที่ยัยกลุ่มพวกนั้นซึ่งได้ยินคำพูดของยัยส้มเปรี้ยวหันมาทำหน้าเยาะหยันเหมือนได้รับชัยชนะ แต่เดี๋ยวนะ ก็แค่พูดจาแทะโลมพี่อาร์ของฉันป่าววะ ทำได้แค่นี้อย่ามาอวดเลยดีกว่า
“งั้นให้เวลาเปลี่ยนชุดสิบนาทีแล้วรีบลงไปรวมตัวกันที่ยิมนะ ใครช้าจะหักคะแนน” ครูแม็กบอกอีกครั้งแล้วเดินออกไปพร้อมๆ กับพี่อาร์ ฉันมองตามจนแผ่นหลังกว้างลับสายตาไปแล้วจึงได้สติกลับคืนมา
“ไหน พี่อาร์ไม่เห็นมีปฏิกิริยาอะไรเลย” ยัยส้มเปรี้ยวถามและยังไม่เลิกทำสายตาแบบเดิม ฉันเลยยักไหล่ตอบ
“ไม่จำเป็นต้องแสดงออกนอกหน้านอกตานี่ เคยได้ยินไหม ‘เงียบๆ ฟาดเรียบ’ อ่ะ อิๆ” สาบานเลยว่าฉันไม่ได้ตอบคำถามตรงๆ ของยัยเพื่อนบ้าหรอก แต่จงใจพูดให้ยัยกลุ่มนั้นได้ยินต่างหาก
เอาล่ะ รีบไปเปลี่ยนชุดดีกว่า เป็นครั้งแรกเลยที่กระตือรือร้นเรื่องเรียนมากขนาดนี้ แต่อ้าว ลืมไป ฉันไม่ได้เอาชุดมานี่นา...