บทที่ 9 มินมิน

2072 คำ
มันดูไม่เข้ากันเอาเสียเลย เสื้อสูทสีแดงเลือดหมูแบรนด์เนมราคาแพง รองเท้าคัทชูขัดเป็นเงากับร้านอาหารข้างถนน เคเรนด์มองดูรอบกายที่เต็มไปด้วยควันรถสีดำ เสียงของรถทำให้เขาปวดหัว ทว่ามิล่ากลับกินขนมจีนตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย “ไม่กินหรือไง” “แค่มองเธอกินฉันก็อิ่มแล้ว...” ทว่า จ๊อก~ เสียงท้องของเขากลับร้องประท้วงออกมาเสียอย่างนั้น เคเรนด์กลืนน้ำลายลงคอ เธอคงไม่ได้ยินหรอกมั้ง เสียงรอบกายดังมากขนาดนี้ แต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิด “ท้องนายคงไม่อิ่มตามสินะ” มิล่ายกยิ้ม เธอรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งเขา ขณะที่คนถูกแกล้งไม่สนุกด้วยเลยสักนิด มิล่าม้วนเส้นขนมจีนกิน เธอไม่สนใจว่าเขาจะกินได้หรือไม่ เคเรนด์ใช้ชีวิตเยี่ยงราชา เขาไม่เคยเดินบนดินที่เต็มไปด้วยฝุ่น หรือนั่งทานอาหารข้างถนนเช่นนี้ แต่ความหิวก็ไม่อาจทำให้เขาเลี่ยงได้ เคเรนด์มองมิล่ากินขนมจีนก่อนที่เขาจะม้วนเส้นขนมจีนตาม ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ใช้ช้อนส้อมม้วนเส้นขนมจีนขึ้น เขาตักมันเข้าปากแต่สุดท้ายเส้นขนมจีนก็ตกใส่เสื้อเชิ้ตตัวข้างในของเขา “ชิส!...” ชายหนุ่มสบถออกมา ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง เธอแค่นหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า “นายใช้ส้อมทำแบบนี้...แล้วก็ค่อยเอาใส่ช้อนแบบนี้แล้วก็กิน ไม่...แบบนี้ เห็นไหม” มิล่าทำเสียงดุเมื่อเห็นว่าเขาทำตามเธอแต่กลับไม่ได้เรื่อง หญิงสาวม้วนเส้นขนมจีนในชามของเขา ก่อนจะเอาใส่ในช้อนให้เขา “กินสิ...” “...ครับผม” เคเรนด์ตอบกลับด้วยถ้อยคำสุภาพแบบนี้ก็ทำให้เธอไปไม่เป็น ชายหนุ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับการสอนของเธอ ทำเอามิล่าต้องส่ายหน้า “บ้าหรือไง ยิ้มอยู่ได้” “หึ มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้เธอเคยได้ยินไหม” มิล่าไม่อยากได้ยินเขาพูด เธอจิ้มลูกชิ้นปลาในชามตัวเองก่อนจะยัดมันใส่ปากของเขาในทันที เคเรนด์แทบสำลักแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้าหล่อน ใบหน้าหล่อเหลาเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ย ๆ ในปาก ไม่ห่วงหล่อแม้จะมีคนในร้านลอบมองใบหน้าเขาอยู่ “มิล่า...เย็นนี้เธอจะไปกินข้าวกับฉันหรือเปล่า” “ไม่...” หญิงสาวตอบกลับทันควัน เคเรนด์พยักหน้ารับ ได้คืบจะเอาศอกคงเหมาะกับเขาเป็นที่สุด เขาลอบมองใบหน้าสะสวยของหญิงสาวอยู่บ่อยครั้งจนมิล่าต้องเขม่งตาใส่ แต่เขากลับไหวไหล่ขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว ครั้นกินขนมจีนจนหมด เคเรนด์ถึงค้นพบว่าทางร้านรับแค่เงินสดเพียงเท่านั้น “เอาไงดีครับ...ไม่มีเงินสดเลย ต้องไปแลกเงินต่างประเทศอีก” วิลเลี่ยมรายงานคนเป็นนาย ปกติจะสามารถใช้บัตรเครดิตในร้านอาหารหรูได้ เขาเลยไม่ได้เตรียมเงินสดให้คนเป็นนาย ขณะเดียวกันที่มิล่าเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะล้วงเอาเงินสดจากกระเป๋าสะพายข้างให้กับแม่ค้าไป “นี่ค่ะ ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ” “ไม่เป็นไรจ้ะหนู หน้าตาดีแต่งตัวดีนึกว่าผัวหนูจะรวยซะอีก” ป้าเจ้าของร้านพูดออกมาตามความคิด ทว่าความคิดนี้ทำเอาเคเรนด์ตาแบบถลนออกมา เขาน่ะรวยแค่ไหนทุกคนรู้แต่ป้าไม่รู้ได้อย่างไร ทว่า “ค่ะ...แต่เขาไม่ใช่สามีหนูหรอกค่ะ” คำพูดของมิล่าก็ทำให้เขาตกใจเสียมากกว่า เคเรนด์หน้าหดเหลือสองนิ้วทันที เขาพ่นลมหายใจออกก่อนจะลุกขึ้นยืน “พรุ่งนี้ผมจะเอาเงินมาจ่ายป้าล้านหนึ่ง” “จ้า ป้าจะรอ” ป้าเจ้าของร้านหัวเราะคิกคัก แต่เคเรนด์ไม่ได้เสียเวลาจะคุยด้วย เขาเดินไปเปิดรถให้กับมิล่าแม้ว่าเธอจะพูดกับเขาอย่างไร้เยื่อใยก็ตามแต่ ซึ่งความเงียบของเขาก็ทำให้หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน “โกรธหรือไง” ครั้นพอขึ้นรถ มิล่าก็ยิงคำถามทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะส่ายหน้า “ฉันไม่โกรธเธอหรอก...” “เหรอ ดี ถ้านายโกรธฉันก็เรื่องของนาย” เคเรนด์ยกยิ้มแม้ว่าเธอจะพูดเช่นนี้ เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงความรู้สึกเขาตั้งแต่ตั้งคำถามแล้วล่ะ “เย็นนี้เธอกลับกับฉันไหม รถเธอเสียนิ” “ไม่ ฉันกลับแท็กซี่ได้” ทว่า “โอเค...” เขาก็ไม่ได้ยื้อเธอ เคเรนด์แค่ไม่อยากเซ้าซี้ให้เธอรำคาญ ทำเอาคนปากไม่ตรงกับใจไม่พอใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้อยู่ดี และขณะนั้นเองที่เสียงโทรศัพท์ของเธอได้ทำลายความเงียบบนรถยนต์คันหรู ครืดด ครืดด... มิล่าขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดรับหลังจากที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของพี่ชายของเธอเอง ติ๊ด! “ฮัลโหลค่ะ...” เคเรนด์ไม่รู้ว่าใครโทรหาหญิงสาว เขาขยับตัวเข้าใกล้เธอเพิ่มขึ้นแต่กลับโดนมิล่ามองตาขวางใส่ ทว่า “ได้ยินค่ะ แพนน่าจะอยู่ห้องนะคะ พี่ลองโทรถามเธอหรือยัง” สิ่งที่ได้ยินก็ทำให้ชายหนุ่มรับรู้ว่าใครโทรมา ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นพี่ชายของเธอเอง แต่สิ่งที่ได้ยินนั้น “ไม่ค่ะ โอเคค่ะ ถ้าได้เจอแล้วก็โทรบอกด้วยนะคะ ที่นั่นคงหนาว ดูแลตัวเองด้วยนะคะ” เคเรนด์ข่มเปลือกตาลง อาเล็กซ์ไปหาแพนเค้กเป็นแน่ ชายหนุ่มอดที่จะสงสารแพนเค้กไม่ได้ เขารู้ว่าแพนเค้กรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเลิกกับมิล่า เธอถึงเลือกที่จะจากไปและไม่ได้อยู่ในการคุ้มครองของเขาแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอ แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ คงต้องติดต่อเธอไปลับหลังมิล่า... มินตรากลับมาที่บ่อนคาสิโนของคาลเวิร์ตคาร์นอีกครั้ง เพราะชายหนุ่มไม่ยอมให้บุตรชายไปนอนค้างที่บ้านของคุณอาของเขา แม้ว่าเขาจะรู้จักและพูดคุยกับตระกูลนั้นได้ แต่คนที่นั่นเยอะเกินไปที่เขาจะพูดเรื่องส่วนตัวกับเธอ “มิน ๆ” “หึ แม่...เรียกแค่แม่ก็พอนะครับ แบบนี้คนอายุเท่ากันถึงพูดได้” มินตรายกมือขึ้นยีผมของบุตรชายด้วยความเอ็นดู เธอรู้ว่าตัวเล็กไม่เข้าใจที่เธอพูดหรอก ซึ่งลินินก็ชอบให้ลูกเธอเรียกเธอแบบนี้ ขณะเดียวกันชื่อมินมินก็ทำให้คาลเวิร์ตยกยิ้ม มันน่ารักดีที่ลูกได้เรียกเธอแบบนี้ต่อหน้าเขา ชายหนุ่มอาบน้ำเสร็จแล้ว เขามารับลูกไปนอนด้วย ขณะที่คนเป็นแม่พยายามเกลี้ยกล่อมให้กรุงโรมนอนกับเธอในวันนี้ “โรม วันนี้นอนกับแม่นะ...” คาลเวิร์ตขมวดคิ้วที่ได้ยินเธอพูดอย่างนี้ เขาเดินเข้ามาใกล้เจ้าหล่อนที่นั่งเล่นกับลูกที่พรมอยู่บนพื้น “พูดอะไรของเธอ” มินตราทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทว่า “โรมอยากฟังนิทานจากพ่อ...” กรุงโรมลุกขึ้นยืน เขาเดินไปหาคนเป็นพ่อที่ย่อตัวพร้อมจะอุ้ม แต่หญิงสาวกลับคว้าตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอดของตนเสียก่อน “แม่เล่านิทานได้เหมือนกันนะโรม” “อื้มม...” กรุงโรมทำหน้าครุ่นคิด เขายิ้มจนเห็นฟันกระต่าย “นอนด้วยกัน มินมินนอนกับพ่อ” “หึ ฉลาดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร” ถูกใจเขาล่ะ คาลเวิร์ตยกยิ้มมุมปากขณะที่มินตรากำลังทำหน้าบึ้งตึง “โรมไม่ได้นอนกับแม่นานแล้วครับ นานแล้วที่เราไม่ได้นอนด้วยกัน” “แต่โรมอยากนอนกับพ่อ” ตัวเล็กหน้าแดงคล้ายจะร้องไห้ เขารู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ ที่อิตาลีหนาวแต่พออยู่ในอ้อมกอดของพ่อ ตัวเล็กก็ไม่รู้สึกหนาวอีกเลย เพราะเหตุนี้เขาถึงอยากนอนกับคนเป็นพ่อ “หึ เอาไงนอนกับฉันไหม...มินมิน” มินตรามองเขาตาขวาง เขาเรียกเธอเหมือนกับลูกแบบนี้มันน่าตีให้ตาย “จิ๊!...โรมครับ แม่ว่า...” “โรมา ถึงเวลานอนแล้วนะ มาหาพ่อมา” มินตรายังพูดไม่ทันจบ ท่อนแขนแกร่งก็ยื่นมาคว้าตัวเล็กขึ้นในทันที ซึ่งพอได้ยินอย่างนั้นกรุงโรมถึงได้หาวหวอดออกมาด้วยความง่วง “บาย ๆ มินมิน” “โรม ไม่คิดถึงแม่เหรอ” กรุงโรมคิดถึงเธอมากแต่เขาง่วงมากเช่นกัน ตัวเล็กแทบหลับคาอ้อมแขนของคนเป็นพ่อเพียงแค่เขาอุ้มขึ้น “หึ ฉันไม่ได้ล็อกห้องนะ...มินมิน” คาลเวิร์ตอุ้มกรุงโรมพาดบ่า เขาตบตูดเล็กของบุตรชายให้ตัวเล็กได้หลับ วันนี้กรุงโรมไปเล่นกับลูก ๆ ของลินินทำให้เหนื่อยล้า เขาหลับปุ๋ยโดยที่เขาไม่ต้องเล่านิทานเสียด้วยซ้ำ “ให้ตายฉันก็ไม่นอนกับคุณหรอก” มินตราว่าเสียงแข็ง เธอมองไหล่หนาที่ไหวขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะมั่นใจมากว่าเธอจะเข้าไปหา ให้ตายเธอก็ไม่มีทางเข้าไปห้องเขาเป็นอันขาด เสียเมื่อไรกัน... ค่ำคืนที่เงียบสงบ มินตรานอนไม่หลับเลยสักนิด เธอคิดถึงกรุงโรม หญิงสาวถึงได้ลุกขึ้นย่องมาหาตัวเล็กที่ห้องของเขาในเวลาตีหนึ่งเช่นนี้ ขณะคนเป็นพ่อรู้สึกตัวตั้งแต่ลูกบิดประตูดังกริ๊ก เขามีสัญชาตญาณรับรู้ความเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเพราะฝึกมาตั้งแต่เด็ก ทว่าชายหนุ่มไม่อยากให้เธอรับรู้ มินตราขึ้นไปนอนบนเตียงขนาดคิงไซซ์ เธอช้อนบุตรชายเข้ามาในอ้อมกอด หญิงสาวกดปลายจมูกลงที่หน้าผากเล็ก กลิ่นกายหอมกรุ่นนี้ทำให้เธอสุขใจ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ พริ้มตาหลับลง ไม่มีเสียงขยับตัวของมินตราชายหนุ่มถึงได้ลืมตาขึ้น เขานอนตะแคงข้างมองเธอผ่านแสงไฟสีส้มจากโคมไฟบนหัวเตียง ใบหน้าที่ไม่ได้เจอกันนานทำให้เขาคิดถึง...และเกิดอารมณ์ คาลเวิร์ตยกยิ้ม เธอท้องได้สี่เดือนตามที่คุณหมอในโรงพยาบาลบอกเขาเมื่อเช้า เบา ๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คิดได้ดังนั้นท่อนแขนแกร่งถึงได้เลื่อนไปคว้าตัวกรุงโรมออกมาจากอ้อมกอดของเธอ เขาห่มผ้าห่มให้กับลูกตัวน้อย ก่อนจะพลิกตัวข้ามกรุงโรมขึ้นคร่อมหญิงสาวในเตียงเดียวกัน แบบนี้...มินตราไม่มีทางเสียงดังแน่นอน ความรู้สึกบางอย่างทำให้มินตรารู้สึกตัว เธอรู้สึกเหมือนกับมีอะไรมาทับตัวอยู่ หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงียแต่ก็ต้องตกใจให้กับใบหน้าคมสันที่จ้องมองเธออยู่ “กรี๊ดด อี๊ดดด~~” “ชู่วว~...ลูกจะตื่นเอานะ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากเจ้าหล่อน เขากระซิบที่ข้างหูเธอน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมกับใช้ต้นขากดเรียวขาของเธอไว้ไม่ให้ดิ้น มินตราหายใจหอบเหนื่อย เขาไม่อุ้มเธอออกไปจัดการข้างนอกเพราะจะใช้ลูกเป็นข้ออ้างไม่ให้เธอเสียงดัง “จะทำอะไร อะ ออกไป” มินตรากัดฟันพูด เธอยกมือขึ้นดันไหล่หนาของเขาออก “ทำอะไรดีล่ะ” เขาว่าพร้อมยกมือมือขึ้นเกลี่ยปอยผมของเธอออกจากใบหน้า “ทำอะไรดีนะ หึ เธอว่าอะไรนะ จะมาเป็นแม่กรุงโรม แต่ไม่เป็นเมียฉันใช่ไหม” “ออกไป ถ้าคุณทำอะไรบ้า ๆ ฉันจะ จะ...” “หืม...เธอจะฟ้องศาลเหรอ ศาลไหน ศาลที่นี่หรือที่ไหน...ฉันบอกเธออย่างหนึ่งมิน ไม่สิ...มินมิน” “_” “อย่าเป็นแค่แม่ของลูกเลย เธอต้องมาเป็นเมียฉันด้วย...” !!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม