บทที่ 10 อ่อนโยน

2412 คำ
“อย่าเป็นแค่แม่ของลูกเลย เธอต้องมาเป็นเมียฉันด้วย...” มินตราตาโตให้กับคำพูดของเขา ขณะที่เจ้าของคำพูดก็ได้รวบแขนทั้งสองข้างของเธอขึ้นเหนือศีรษะ เขากดข้อมือของเธอแนบติดกับที่นอน มินตราไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ หญิงสาวสู้แรงของเขาไม่ได้หรอกเธอรู้ดี ขัดขืนไปก็เท่านั้น ดวงตากลมโตสบสายตากับเขาด้วยแววตาโกรธเคือง หญิงสาวเบือนหน้าหนีเมื่อเขาโน้มหน้าลงมากดปลายจมูกลงที่แก้วนุ่มนิ่มของเธอ “คุณทำแบบนี้ มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีเลยค่ะ รู้ไว้ว่า...ฉันไม่เต็มใจ” มินตราว่าเสียงแผ่วเบา เธอหันหน้ามองใบหน้าเล็กของบุตรชาย หญิงสาวอยากจะกรีดร้องออกมาเสียงดัง ทว่าจะมีประโยชน์อะไรกันเล่า...ที่นี่เป็นบ้านของเขา “มิน...มองหน้าฉัน” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า ชายหนุ่มกดข้อมือของเธอไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะใช้อีกข้างเชยคางเธอขึ้นให้สบตากับเขา “ฉันคิดถึงเธอ...” “_” “กลิ่นของเธอ ริมฝีปากตรงนี้” ว่าแล้วปลายนิ้วหัวแม่มือจึงเลื่อนมาแตะริมฝีปากอวบอิ่มนี้ เขาไม่ได้เข้าใกล้ผู้หญิงคนใดหลังจากที่เธอจากมา สัมผัสที่เขาได้เคยสัมผัสจากตัวเธอ เขาจำมันได้ดี จำมันได้ทุกการสัมผัส ทว่าตอนนี้เธอก็ไม่ได้คล้อยตามคำพูดของเขาแม้แต่น้อย มินตราหันหน้าหนีเช่นเคย ใจด้วยน้อยเต้นแรงจนใจเกรงว่าเขาจะได้ยิน “ฉันไม่ใช่ของเล่นที่คุณอยากเขี่ยทิ้งคุณก็ทิ้ง คุณอยากได้ คุณก็มาหา แล้วมาพล่ามบอกนั่นนี่...ฉันไม่ใช่สิ่งของ ฉันมีความรู้สึก แล้วคุณกำลังทำให้ฉันเกลียด” “เธอไม่เกลียดฉันหรอก” มินตรามองตาขวาง เขาเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเธอจะไม่เกลียดเขา ใบหน้าน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจนี้ทำให้เธอยิ่งไม่พอใจ “อะ ออกไป ฉันอึดอัด” มินตราดิ้นขลุกขลัก ตัวเขาคร่อมเธอจนมิดแม้ว่าตอนนี้เธอจะอวบอัดมากขึ้นก็ตามแต่ “หึ อย่าเสียงดัง กรุงโรมตื่นแล้วจะไม่นอนอีกเลย เธออยากให้ลูกนอนไม่พอเหรอ หืม...” เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหูของเธอ ทำเอาไรขนอ่อนทั่วทั้งร่างลุกซู่ขึ้น “คุณ...” มินตราเม้มริมฝีปาก เขารู้ว่าลูกจะตื่นแล้วไม่นอนเลยใช้ข้ออ้างนี้มารังแกเธอ คาลเวิร์ตผู้ชายหัวใส เขามันน่าหมั่นไส้ที่สุด “ถ้าคุณไม่หยุด ฉันจะไม่ให้คุณใกล้ฉันอีกเลย” “ฉันไม่ชอบมองอนาคต ฉันสนใจแค่ตอนนี้...ที่ฉันจะได้ทำแบบนี้” “อื้ออ!” มินตราเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเขาเลื่อนฝ่ามือลงมากอบกุมหน้าอกของเธอ ความนุ่มนิ่มใต้เสื้อยืดตัวบางทำให้เขายกยิ้ม มันใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว “ฉันเจ็บ...” “เหรอ...โทษที เธอคงกำลังมีน้ำนม” “พอแล้ว...” เขาพูดเหมือนกับว่ากำลังเข้าใจ แต่ฝ่ามือหนากลับไม่หยุดเคล้นคลึง คาลเวิร์ตเบามือลงตามคำร้องขอ เขาคลายมือออกจากข้อมือของเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะใช้ฝ่ามือดันหัวไหล่ทั้งสองข้างของเขาออก แต่ดูเหมือนว่าจะเหนื่อยเปล่า “มีแรงแค่นี้เหรอ ผลักแรงกว่านี้สิ” “ไอ้บ้า...” “หึ เธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก มินมิน” “เลิกเรียกแบบนี้สักทีได้มั้ย” “ได้สิ...มินมิน” มินตรามองตาขวางทันที เธอผ่อนแรงผลักเขาลง หญิงสาวทิ้งฝ่ามือลงแนบลำตัว ก่อนจะเบือนหน้าหนีอีกครา “หึ มาดูว่าเธอจะทนได้กี่น้ำ” ชายหนุ่มนึกขัน เขามองใบหน้านวลที่หันหน้าหนีและพริ้มตาหลับลง มินตราทนไม่ได้หรอก เดี๋ยวเธอก็หันมาหาพร้อมกับครางชื่อเขา คาลเวิร์ตหยัดกายขึ้นหลังตรง เขาดึงเสื้อยืดของตัวเองออกก่อนจะโยนทิ้งให้พ้นทาง ใบหน้าหล่อเหลาจับจ้องใบหน้าของมินตรา เขาใช้สายตาสำรวจเธอด้วยความคิดถึง ครั้นพอหันมาอีกทีมินตราก็ต้องตกใจให้กับร่างหนากำยำเปลือยเปล่า เขายกยิ้มให้กับเธอเล็กน้อยพร้อมกับโน้มหน้าลงมาฉวยโอกาสที่เธอตกใจประกบริมฝีปากทันที “อื้ออ~” ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างเร่าร้อน ไม่ผ่อนให้เธอเลยสักนิด เขาใช้ฝ่ามือลูบไล้เนื้อตัวของเธอผ่านเสื้อยืดตัวบางนี้ ก่อนจะค่อย ๆ สอดเข้าไปข้างใน มินตราหายใจหอบเหนื่อยกับรสจูบที่รุนแรงของเขา ปลายลิ้นสากที่สอดเข้ามาข้างในทำให้เธอต้องยกมือขึ้นจิกเล็บลงที่ไหล่หนา เขายังคงจูบได้ร้อนแรงดังเดิม ฝ่ามือหนาถกเสื้อยืดของเธอขึ้นไปกองพะเนินที่เนินอกอวบ เขาถอนริมฝีปากออกก่อนจะค่อย ๆ กดริมฝีปากลงที่ปลายคางของเธอ มินตราไร้เรี่ยวแรงขัดขืน ตัวของเธออ่อนปวกเปียกทันตาเห็น หญิงสาวข่มเปลือกตาปิดลง ปล่อยให้น้ำตาได้ไหลรินออกมา เสียงสะอื้นไห้ที่ดังขึ้นทำให้คนตัวโตผงกศีรษะขึ้นมอง เขาชะงักเล็กน้อย ความรู้สึกตีกันวุ่นในหัว มินตราสบสายตาที่พร่าเลือนกับเขา ขณะที่ฝ่ามือหนาก็ได้ยกขึ้นเกลี่ยน้ำตาให้เธอ แม้ในใจนึกจะหยุด แต่เหมือนจะมาไกลเกินห้ามใจ ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกจากริมฝีปากหนา เขาไม่พูดให้มากความ รู้แค่ว่าตอนนี้จะทำให้เธอไม่เจ็บและสนุกไปกับเขา คาลเวิร์ตเลื่อนใบหน้าจูบต้นคอระหง สูดดมกลิ่นหอมละมุนนี้ให้เต็มปอดสมกับความคิดถึงที่มี เขาลูบไล้ต้นขาอ่อนทางด้านในจนหญิงสาวสะดุ้งเฮือก “ฉันท้อง อึก...” ชายหนุ่มยกยิ้มให้เธอ ก่อนจะพยักหน้ารับ เขารู้ว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร เขาจะไม่ทำให้เธอกระทบกระเทือนเป็นอันขาด คาลเวิร์ตโน้มหน้าลงกดจูบที่เนินอกอวบ ก่อนที่เขาจะเข้าครอบงำปลายถันสีชมพูระเรื่อนี้ ทำเอาคนตัวเล็กกว่าสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง มินตราเม้มริมฝีปากไม่ให้ตัวเองหลุดเสียงครางออกมา แม้ว่าเขากำลังจะรัวปลายลิ้นใส่ก็ตามแต่ เขาดูหิวโหยราวกับเป็นเสือที่เพิ่งละศีลอด “อื้ออ~” ฝ่ามือหนาข้างหนึ่งลูบเบา ๆ ที่ก้อนเนื้อนุ่มยุ่นทว่าเต่งตึงอีกข้าง ก่อนจะสลับสับเปลี่ยนเข้าดูดดุนปลายถันนั้น เขาค่อย ๆ ละเมียดละไมปรนเปรอเธอ ไม่ได้รุนแรงเหมือนกับที่ผ่านมา ความรู้สึกแปลกไปทำให้มินตราไม่อาจขัดขืนได้อีกต่อไป เธอแอ่นอกขึ้นให้เขาได้เชยชม กางเกงขาสั้นตัวน้อยถูกนิ้วมือเรียวยาวของเขาค่อย ๆ เกี่ยวออกให้พ้นทาง เขาลูบผืนนาน้อยของเธออย่างเบามือผ่านซับในตัวบาง ก่อนจะค่อย ๆ รูดมันทิ้งไป มินตราหุบขาเข้าเมื่อรู้สึกตัวว่าได้ขยับขากว้างให้เขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะใช้ปลายเล็บขูดเบา ๆ ที่ต้นขาของเธอ “อื้ออ~” มินตราบิดเร้าทันที เธอเสียวกระสันไปทั่วทั้งสรรพางค์กายสาว ร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่าง ทว่า “ชู่วว~” ชายหนุ่มเป่าลมออกจากริมฝีปากที่ติ่งหูของเธอ ก่อนที่เขาจะกดจูบที่หลังใบหูเล็กนั้น เขาค่อย ๆ ไล่เลียติ่งหูเล็กและหยอกเย้าเธอ ปลุกเร้าความกระสันเสียวให้เธอเพิ่มขึ้น มินตราจิกเล็บลงที่ต้นคอของเขา เธอห่อไหล่ขึ้นพร้อมกับสายตาที่ปรือไปด้วยพิศวาส ก่อนที่ชายหนุ่มจะเลื่อนริมฝีปากหนากดจูบที่หัวไหล่มน เขาค่อย ๆ กดจูบไปทั่วทั้งเรือนร่าง ไล่ริมฝีปากลงต่ำเรื่อย ๆ ผ่านหว่างอกอวบ เลื่อนต่ำจนถึงสะดือปุ๋มเล็ก “อื้อ มะ ไม่เอา” มินตรายึดใบหน้าหล่อเหลาของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมองเธอ ชายหนุ่มยกยิ้มให้เธอบาง ๆ ก่อนจะหันหน้าไปจูบที่หลังมือของเธอ ฝ่ามือบางทิ้งลงในทันที เธอเม้มริมฝากเข้าหากันเมื่อเขายกเรียวขาของเธอขึ้นพาดที่บ่ากว้าง พร้อมกับเลื่อนมือสัมผัสบั้นท้ายของเธอ การจ้องมองของเขาทำให้เธอเขินอายจนใบหน้าเห่อร้อน มินตราลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองกำลังโกรธเคืองเขาอยู่ ดอกไม้สีแดงสดบานแย้ม น้ำหวานไหลย้อยเชื้อเชิญผีเสื้ออย่างเขาได้เข้าไปดอมดม คาลเวิร์ตกดริมฝีปากลงที่กลางดอกไม้งาม “อ๊ะ...” ทำเอามินตราสะดุ้งอย่างแรง เธอเผลอร้องเสียงดังจนต้องยกมือทั้งสองข้างปิดริมฝีปาก หญิงสาวครางอื้ออึงเมื่อลิ้นสากกำลังไล่เลียจุดกลางกายของเธอ ติ่งเกสรดอกไม้งามสั่นระริกยามเขาใช้ลิ้นสะกิดเบา ๆ ชายหนุ่มใจสั่นไหวกับความละมุนตรงนี้ เขาช้อนสายตามองใบหน้าของเธอ แสงไฟสีส้มบนหัวเตียงตกกระทบใบหน้าของเธออยู่ หญิงสาวสวยสะกดตายามส่ายหน้าและเผยอริมฝีปากให้เขาเช่นนี้ ปลายลิ้นสากค่อย ๆ ไล่เลียอย่างไม่นึกรังเกียจ รัวใส่ติ่งเกสรดอกไม้งามเรียกเสียงครางแผ่วเบาจากเธอ มินตราวางฝ่ามือลงที่ไหลหนา เธอเกร็งปลายเท้าพร้อมกับหายใจหอบเหนื่อย ก่อนจะกระตุกเบา ๆ เมื่อเขาส่งเธอถึงฝั่งฝันด้วยปลายลิ้น “อื้มม...” คาลเวิร์ตครางกระหึ่มผ่านลำคอหนา เขาเลื่อนใบหน้าขึ้นกดจูบที่ท้องน้อยของเธอ ก้อนเนื้อนี้ เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่ในนี้ ท้องของเธอกลมขึ้นจนสัมผัสได้ เขายกยิ้มบาง ๆ ด้วยความดีใจ อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสดูแลเธอยามเธอตั้งครรภ์ สัมผัสอ่อนโยนทำให้มินตรากลืนน้ำลายลงคอ เธอท่องไว้ว่าต้องห้ามรักเขาอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะยอมให้เขาตั้งแต่หน้าประตูก็ตามแต่ ก่อนที่คาลเวิร์ตจะสบสายตากับเธอ “ถ้าเจ็บ...ให้บอกฉัน” เขาว่าเสียงอ่อนโยน มินตราเบือนหน้าหนีอย่างไม่สนใจ ทว่าใจดวงน้อยกลับกำลังเต้นโครมครามไม่หยุด ก่อนที่ชายหนุ่มจะหยัดกายเข้าหว่างขาของเธอ แก่นกายอุ่นร้อนแข็งชูชันทำให้หญิงสาวตาโตเล็กน้อย เธอคุ้นเคยกับมันดี แต่ตอนนี้ไม่น่ายินดีเลยสักนิด หญิงสาวกำลังจะหุบขาเข้าทว่ากลับถูกฝ่ามือหนากดต้นขาของเธอแนบติดที่นอน “อื้อ!!” มินตราเม้มริมฝีปากเมื่อเขาใช้ปลายหัวเห็ดแดงก่ำถูไถดอกไม้งามของเธอ คาลเวิร์ตพ่นลมร้อนออกจากริมฝีปากหนา เขาสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนที่เขาจะค่อย ๆ กดแก่นกายเข้าไปในช่องทางรักของเธอ “อื้ออ~” ความแข็งขืนค่อย ๆ แทรกผ่านความนุ่มลื่นนี้ คาลเวิร์ตเลื่อนนิ้วหัวแม่มือคลึงติ่งเกสรของเธอเมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนกำลังเบ้หน้า มินตรากำผ้าปูที่นอนแน่น เธอรู้สึกจุกหน่วงและอึดอัดยามความใหญ่โตแทรกเข้ามา แม้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็นานแล้วเหมือนกันกับสัมผัสเช่นนี้ ฝ่ามือบางที่ยกขึ้นเหมือนกับกำลังเรียกให้เขาโน้มตัวลงหา ก่อนที่คาลเวิร์ตจะกระแทกเข้าแรง ๆ หนึ่งครั้งพร้อมกับแช่ค้างไว้อย่างนั้น “อื้ออ...ลูก” ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล ก่อนที่เขาจะปริปากพูดเพื่อคลายกังวลให้กับเธอ “ไม่เป็นไรหรอก ฉันถามหมอมาแล้ว...” “ห๊า...” “เมื่อเช้า หมอว่าได้...” ไม่ทิ้งเวลาให้เธอสงสัยนาน คาลเวิร์ตโยกเบา ๆ ในคราแรก เขามองร่างบางที่คลอนขึ้นลงเล็กน้อย มินตรายกมือทั้งสองข้างปิดปากของตนไว้ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวกดจูบลงที่หลังมือของเธอ มินตราสบสายตากับสายตาคมนิ่ง เขาแสดงความห่วงใยและความคิดถึงผ่านแววตานั้น เธอสัมผัสได้ถึงมัน “เจ็บมั้ย...” “เจ็บ...อื้ออ อ๊ะ!” คาลเวิร์ตขบกรามแน่น เขาเพียงแค่อยากเข้ามาเชื่อมสัมพันธ์กับเธอเพียงแค่นั้น ไม่ได้คิดจะขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับเธอเสียหน่อย คาลเวิร์ตหยัดกายขึ้นอีกครา เขาขยับเข้าออกช้า ๆ นุ่มนวลแต่เน้นจุดสำคัญ ทำเอามินตราบิดเร้าตัวไปมา เธอครางเสียงแผ่วเบาพร้อมกับหันหน้าไปมองบุตรชายตัวน้อยที่กำลังขยับไปมาราวกับถูกรบกวนเวลานอน ขณะที่คนเป็นพ่อก็กำลังทนไม่ไหวเช่นกัน เขาวางฝ่ามือลงที่หน้าท้องกลมนูนของเธอ “ซี๊ดด...” คาลเวิร์ตซี๊ดปาก ภายในตัวคับแน่นพร้อมกับบีบรัดแก่นกายของเขาอย่างถี่ยิบ ตอดรับปลายหัวความเป็นชายของเขาอย่างถี่ยิบ จนแล้วจนรอดเขาถึงยอมถอดแก่นกายออก “อ๊า...” มินตราชะงักเล็กน้อย เขายังไม่ถึงครึ่งทางเสียด้วยซ้ำ เพียงแค่กลัวใจตัวเองจะเผลอกระแทกเธอแรงไป ชายหนุ่มถึงได้ถอดออกเปลี่ยนเป็นใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือคลึงติ่งเกสรดอกไม้ให้เธอแทน พร้อมกับใช้ฝ่ามือหนาชักรูดแก่นกายของตน การกระทำของเขาทำให้มินตรากลืนน้ำลายลงคอ เขาเป็นห่วงลูกในท้องของเธอมากแค่ไหนเธอสัมผัสถึงมันได้ ไม่นานหญิงสาวก็กระตุกให้กับปลายนิ้วของเขา ถึงคราวนั้นเข้าถึงลงจากเตียงนอนไปเข้าห้องน้ำ มินตราหายใจหอบเหนื่อย เธอมองแผ่นหลังหนาที่หายเข้าไปในห้องน้ำโดยที่ไม่ได้บอกอะไรเธอ เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเข้าไปจัดการตัวเอง รอยยิ้มบาง ๆ ถึงได้ผุดขึ้นที่ใบหน้านวลอย่างลืมตัว เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะซุกตัวเข้าผ้าห่มผืนเดียวกันกับบุตรชาย เรียวแขนเล็กโอบกอดคนเป็นลูกพร้อมกับตบตูดเล็กนั้นเพื่อปลอบไม่ให้กรุงโรมตื่นนอน แม้ตอนนี้จะมีเสียงของคนเป็นพ่อจากในห้องน้ำรบกวนก็ตามแต่...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม