“อื้อออออ”
เสียงครางฮือออกมาจากร่างใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงนอนของห้องพักสุดหรู
ตฤณตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเกือบเที่ยงของวัน ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาจากนั้นความทรงจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของชายหนุ่มราวกับกำลังฉายภาพยนตร์
“โอ๊ย! ปวดหัว แล้วนี่....ยัยนั่นหายไปไหน”
ตฤณร้องออกมาก่อนที่จะนึกได้ว่าตั้งแต่ตื่นมายังไม่เห็นผู้หญิงคนที่เขานอนด้วยเมื่อคืนเลย ตาคมสอดส่ายมองหาไปรอบๆห้องแต่ก็ไม่เจอ ชายหนุ่มจึงค่อยๆลุกขึ้นเดินเข้าไปดูในห้องน้ำ ระเบียง ห้องนั่งเล่น แต่ก็ไม่ปรากฏร่างใครสักคนอยู่ในห้องนี้นอกจากเขาเอง
จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเพราะนี่มันก็เกือบเที่ยงแล้วเขายังไม่ได้เข้าบริษัทเลยทั้งที่พึ่งมีงานเปิดตัวโรงแรมไปเมื่อคืนแท้ๆ
ตฤณเข้าไปอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมงก็เดินออกมามองหาเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่มาเมื่อคืน แต่ชายหนุ่มหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอนอกจากเสื้อสูทตัวนอกตัวเดียว
“อ่าว หายไปไหนวะ”
ชายหนุ่มพูดกับตัวเองออกมาเบาๆก่อนจะลองเดินไปหาที่ห้องนั่งเล่นดูแต่ก็ไม่เจอ เลยเดินกลับมาในห้องนอนก็เจอแต่เศษผ้าขาดวิ่นกองอยู่ที่พื้นห้อง เขาเลยเดินไปหยิบขึ้นมาดูจากนั้นความทรงจำที่เขาฉีกเสื้อผ้าพวกนี้ออกจากร่างหญิงสาวคนนั้นจึงผุดขึ้นมา
“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่า...ยัยนั่นใส่เสื้อผ้าเราไป”
ตฤณเริ่มนึกขึ้นได้ว่าถ้าเสื้อผ้าเธอกองอยู่ตรงนี้และเสื้อผ้าที่หายไปคงเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะที่ใส่ไปและที่ชายหนุ่มร้องออกมาเหมือนตกใจก็เพราะว่า แล้วเขาจะสวมใส่อะไรออกไปละทีนี้ ตาคมเริ่มมองหารอบห้องอีกครั้งเพื่อหาโทรศัพท์มือถือของตนเอง
“เฮ้อ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ากางเกงอีก โอ๊ย ยัยบ้าเอ้ย นี่กะเอาไปจนหมดทุกอย่างเลยรึไง! ”
ตฤณพูดออกมาอย่างหัวเสียกับคนที่เอาทั้งเสื้อผ้าทั้งโทรศัพท์เขาไปจนหมด
ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ภายในห้องในโรงแรมขึ้นมาก่อนจะกด 0 เพื่อติดต่อพนักงานต้อนรับด้านล่าง
“ผมตฤณนะ รบกวนโทรหาเลขาผมแล้วให้เขาเอาเสื้อผ้ามาให้ผมที่ห้องนี้ด้วย รู้ใช่รึเปล่าว่าเลขห้องเบอร์อะไร”
ตฤณกรอกเสียงไปตามสาย
“ผมขอเร็วที่สุด เพราะผมมีประชุมบ่าย แค่นี้นะ”
เมื่อพูดความประสงค์ออกมาเสร็จแล้วตฤณก็วางหูไปทันที จากนั้นชายหนุ่มที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันท่อนล่างก็เดินมานั่งเปิดทีวีดูรอเลขาเอาเสื้อผ้ามาให้ที่ห้องนั่งเล่น
แต่สมองของชายหนุ่มกลับเอาแต่คิดถึงหน้าผู้หญิงคนเมื่อคืนที่เขาล่วงเกินเธอ ชายหนุ่มไม่เคยฝืนใจผู้หญิงคนไหนที่ไม่เต็มใจจะนอนกับเขามาก่อน แต่เมื่อคืนเพราะยานรกนั่นแท้ๆทำให้เขาขืนใจผู้หญิงที่ขึ้นมาส่งเขาในห้องของโรงแรมที่เขาเอากุญแจเพื่อเอามาให้เรียวเพื่อนของเขา แต่กลับเป็นเขาเองที่ต้องใช้มัน
ถึงยานั่นจะทำให้ชายหนุ่มอดกลั้นอารมเอาไว้ไม่ได้ แต่ความทรงจำของเมื่อคืนนั้นเขาจำได้ทุกอย่าง จำได้ทุกการกระทำที่ทำกับผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาสวยหวาน รูปร่างไม่สูงไม่เล็ก ผิวขาวเนียน และใส่ชุดพนักงานของโรงแรมที่พึ่งเปิดตัวใหม่ของเขา นั่นแสดงว่าเธอเป็นพนักงานของเขาแน่นอน
ตฤณคิดอยู่สักพักก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อค้นหาหลักฐานบางอย่างที่เธออาจจะทำตกไว้บ้าง แต่ก็หาไม่เจอ ชายหนุ่มยืนมองเตียงนอนที่มีสภาพเหมือนสนามรบนั่นอยู่สักพักจึงกลับมานั่งรอเลขาเอาเสื้อผ้ามาให้อย่างเดิม
ผ่านไปสักพักเลขาของชายหนุ่มก็เอาเสื้อผ้าชุดใหม่เข้ามาให้ ตฤณรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเพราะอีกครึ่งชั่วโมงการประชุมคณะกรรมการของบริษัทกำลังจะเริ่มเขาไปสายไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อแต่งกายเสร็จตฤณก็เดินออกมาจากห้องนั้นแล้วเอ่ยสั่งงานเลขาสาวออกไป
“คุณสิเดี๋ยวคุณช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้ผมทีนะว่าคนที่อยู่กับผมเมื่อคืนเธอเป็นใคร เธอใส่ชุดพนักงานของเราผมแน่ใจ แล้วการประชุมเตรียมเอกสารที่ผมสั่งไว้เรียบร้อยแล้วใช่รึเปล่า”
ตฤณสั่งงานออกมายืดยาวพร้อมกับให้เลขาไปหาข้อมูลของผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนมา ไม่ใช่เพราะเขาพิศวาสอะไรหรอก แค่เขาต้องการชดใช้ในสิ่งที่เธอสูญเสียไปให้เขาก็แค่เท่านั้นเอง ที่จริงเขาก็ถูกใจรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงที่เขานอนด้วยเมื่อคืนอยู่หรอกแต่ดูจากการที่เธอขัดขืนเขาขนาดนั้น เขาคิดว่าเธอคงไม่อยากจะมาเจอเขาอีกเป็นแน่
ตฤณเดินออกมาขึ้นรถที่มาจอดรออยู่ก่อนจะสั่งให้คนขับรถขับออกไปโดยให้เลขาสาวหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนเมื่อคืนอยู่ที่โรงแรมนี้ ส่วนเรื่องคนที่วางยาเขานั้นชายหนุ่มพอจะนึกออกว่าเป็นใครเพราะเขาดื่มน้ำไปแค่แก้วเดียวเท่านั้นตั้งแต่งานเริ่ม
เมื่อมาถึงบริษัทซึ่งสร้างเป็นสำนักงานใหญ่ของทุกบริษัทในเครือ ที่ย้ายมาจากอิตาลีที่เคยเป็นสำนักงานใหญ่เดิมที่บิดาเขาทำงานอยู่ ตฤณรีบเดินขึ้นลิฟต์ตรงไปยังห้องประชุมใหญ่ทันที
การประชุมอันยืดยาวกว่าจะเสร็จสิ้นก็กินเวลาเกือบบ่ายสองโมง ตฤณ เดินออกมจากห้องประชุมก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของตนเองทันที
“อ่าว คุณสิ กลับมาแล้วเหรอ งั้นเข้ามาคุยกับผมในห้องนะ เอาข้อมูลที่ให้ไปหามามาให้ผมดูด้วย”
ตฤณเดินมาเจอ สินี เลขากำลังทำงานอยู่จึงเรียกเข้าไปคุยในห้องเรื่องข้อมูลที่ให้ไปหามา
“ได้เรื่องยังไงบ้าง”
เมื่อนั่งลงบนเก้าอี้แล้วชายหนุ่มถามออกมาทันที เพราะเรื่องนี้รบกวนจิตใจเขาเหลือเกิน
“คะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นพนักงานของเราคะ แล้วเธอมาทำแค่ชั่วคราวเท่านั้น เราเลยไม่มีประวัติส่วนตัวเธอเลย รู้แค่ว่าชื่อ สกุนนา ชื่อเล่น นา คะ”
สินี เลขาของตฤณรีบรายงานในข้อมูลส่วนที่ได้มาทันที
“แล้วไม่มีใครรู้จักเธอเลยเหรอ”
ตฤณถามออกมาเผื่อว่าพนักงานสักคนจะรู้จักผู้หญิงที่เขานอนด้วยบ้าง
“มีคนหนึ่งคะ แต่เธอบอกว่ารู้จักแค่ชื่อและที่ชวนมาด้วยเพราะคนอื่นแนะนำมาคะ”
สินีรีบบอกออกไปตามข้อมูลที่ตนเองได้มา
“อืม งั้นไม่เป็นไร คุณไปทำงานเถอะข้อมูลพวกนี้เอาไว้นี่ก่อน เออคุณสิผมรบกวนหาโทรศัพท์เครื่องใหม่มาให้ผมเครื่องหนึ่งนะครับ”
ตฤณบอกออกมาก่อนจะหยิบรูปและข้อมูลของหญิงสาวคนที่เขานอนด้วยขึ้นมาดู
“หึ ถ้าเธออยากให้รับผิดชอบก็คงเข้ามาหาเองแหละ”
ตฤณคิดออกมาแค่นั้นก่อนที่จะเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ในลิ้นชัก
“ส่วนเรื่องมิรินชายหนุ่มคิดว่าครั้งนี้จะปล่อยไปเพราะเขาไม่ได้เป็นอะไรมากและไม่อยากให้มารดามีเรื่องปวดหัวและทะเลาะกับเพื่อนจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา
ส่วนทางด้านสกุนนา หญิงสาวหลับยาวไปจนกระทั่งบ่ายสองโมง เสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ที่หญิงสาวตั้งไว้แผดเสียงร้องออกมาจนเธอต้องลุกขึ้นมาปิดแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำไปทำงาน
“เฮ้อ ปวดหัวจัง ไม่สบายแน่เลยเรา”
สกุนนาบ่นพึมพำออกมาเมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงเดินไปหยิบยาแก้ปวดมากินแก้บรรเทาเอาไว้ก่อนเพราะเธอต้องทำงานลากยาวอีก 8 ชั่วโมง
เมื่อกินยาเสร็จแล้ว สกุนนาก็เดินถือกระเป๋าลงมาด้านล่างก่อนจะเจอกับยายดาที่นั่งดูทีวีอยู่
“ยายจ๊ะ เดี๋ยวนาไปทำงานก่อนนะ เสร็จแล้วจะรีบกลับมา ยายอย่าลืมกินข้าวกินยานะจ๊ะ เดี๋ยวจะไม่สบายอีก”
หญิงสาวเดินเข้ามาหายายก่อนจะบอกออกไปเหมือน ทุกๆครั้งก่อนที่เธอจะไปทำงาน
“ยายรู้แล้ว ว่าแต่เราเถอะหน้าซีดๆไหวรึเปล่า”
ยายดาถามออกมาเพราะตอนนี้หน้าของคนตรงหน้าดูซีดๆ
“ไม่เป็นอะไรหรอกจ๊ะยายนาแค่ยังไม่ได้แต่งหน้าเดี๋ยวจะไปแต่งที่ทำงานเลย งั้นนาไปนะจ๊ะยาย แล้วจะรีบกลับมาจ๊ะ”
สกุนนาบอกออกมาก่อนที่จะเดินเข้าไปหอมแก้มยายแล้วเดินออกจากบ้านไปทำงาน ยายดาได้แต่มองตามหลังของหลานสาวไป
“ถ้ายายปล่อยให้หลานไปอยู่กับพ่อกับแม่หลานคงไม่ต้องมาลำบากแบบนี้ ยายขอโทษนะลูก”
เมื่อลับร่างบางไปแล้วยายดาพึมพำออกมากับตนเองเบาๆ สกุนนานั่งรถแท็กซี่มาจนถึงโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ เพราะวันนี้เธอมารถเมล์ไม่ไหวจริงๆ
หญิงสาวเดินลงจากแท็กซี่เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก่อนจะเจอ กานดา หรือ หญิง เพื่อนสาวมายืนรออยู่
“แก เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ฉันตามหาแกจนทั่วแต่ไม่เจอ”
กานดาถามในสิ่งที่เธออยากรู้ขึ้นมาทันที ก็เมื่อคืนอยู่ดีๆเพื่อนเธอก็หายออกไปจากงานเลี้ยง เธอตามหาทั่วโรงแรมแต่ไม่เจอ
“มีปัญหานิดหน่อยเดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง”
สกุนนาบอกออกมา
“เออแล้วเมื่อเช้าเลขาของท่านประธานมาถามเรื่องแกกับฉัน ดีนะฉันไหวตัวทันเลยบอกไปว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ห๊ะแก! ”
กานดาร้อนรนถามออกมาเพราะเธอเริ่มงงไปหมดแล้วตอนนี้
“เอาน่า บอกว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง เอาของที่ให้ไปเอามาก่อน ฉันจะเข้างานสายแล้วนะแก”
สกุนนารีบถามหาของที่ให้กานดาไปเอามาให้เพราะเธอลืมไว้ที่ล็อกเกอร์เก็บของเมื่อคืน
กานดารีบส่งกระเป๋าให้เพื่อนทันที
“แกรู้ไหมกว่าฉันจะอ้อนวอนยัยฝ่ายบุคคลจอมโหดให้เปิดล็อกเกอร์ให้นะเกือบตาย คนอะไรไม่รู้โหดชะมัด”
กานดาส่งกระเป๋าให้เพื่อนก่อนที่จะบ่นออกมาเพราะฝ่ายบุคคลของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ได้ฉายาว่าโหดที่สุดประจำโรงแรม
“ขอบใจมากนะแก แล้ววันหลังเจอกันวันนี้ฉันเลิกดึกเลย แล้วจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง แต่ตอนนี้ฉันจะเข้างานสายแล้ว ฉันไปก่อนนะแก บาย”
สกุนนาบอกลาเพื่อนสาวทันทีแล้วเดินจากไป เธอเดินตรงไปยังโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ ซึ่งห่างจากโรงแรมของเพื่อนเธอแค่หนึ่งช่วงตึกเท่านั้น