8

1422 คำ
พบขวัญมาทำงานแต่เช้าเพื่อเตรียมเข้าประชุมร่วมกับผู้จัดการแต่ละฝ่าย แม้จะมีอาการสะลึมสะลือเพราะนอนน้อย แต่คาแฟอีนแรงๆหนึ่งแก้วใหญ่ก็ทำให้สมองทำงานแล่นขึ้นอีกนิดหน่อย ระหว่างเตรียมเปิดโน้ตบุ๊คพรีเซ้นต์ผลการดำเนินงานในแผนกจัดซื้อ เลขาสาวของเจตนิพัทธ์ก็เดินสีหน้างุนงงเข้ามาบอกกับผู้เข้าร่วมประชุมวันนี้ว่าขอยกเลิกการประชุมไปก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าจะประชุมใหม่อีกครั้งวันไหน อารดาผู้จัดการแผนกของเธอเป็นคนที่พูดแทนใจคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นทุกคน “คุณเจตนิพัทธ์ไปไหนหรือคะคุณอุทุมพร หรือว่าไปต่างประเทศกะทันหัน” เจตนิพัทธ์มีตำแหน่งเป็นรองประธานรอขึ้นตำแหน่งประธานต่อจากบิดาอีกไม่นานนี้ ซึ่งการประชุมวันนี้เจตนิพัทธ์เป็นฝ่ายกำหนดขึ้นเพื่อขอทราบผลการดำเนินงานของแต่ละแผนกในทุกกลางเดือนแต่เขากลับไม่มา “ไม่ใช่ค่ะ คุณเจตนิพัทธ์ไม่ได้ไปต่างประเทศ แต่อย่าถามดิฉันนะคะว่าไปไหน เพราะดิฉันก็ไม่ทราบ” อุทุมพรบอกแค่นั้นแล้วรีบหมุนตัวกลับออกไป ทิ้งไว้แต่ความอยากรู้ให้ทุกคนสงสัย พักเที่ยง พบขวัญรีบออกมาพักทานข้าว โดยขออนุญาตอารดาไว้ล่วงหน้าว่าอาจเข้าสายหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปทำธุระที่ธนาคารแต่ความเป็นจริงแล้วเธอนัดเพื่อนที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษไว้ พบขวัญใจร้อนจึงรีบออกไปหาเพื่อน เมื่อไปถึงสถาบันสอนภาษา เธอก็รีบบอกประชาสัมพันธ์ รอไม่นานเพื่อนของเธอก็เดินออกมา พบขวัญตามเพื่อนเข้าไปนั่งในห้องสอนหนังสือที่ยังไม่มีคลาสเรียนในชั่วโมงนี้ เพื่อนสาวปิดประตูแล้วนั่งลง พบขวัญเห็นสีหน้าของเพื่อนก็พอรู้ว่าจะเป็นข่าวร้าย “เสียใจด้วยนะขวัญตอนนี้เด็กๆอยากเรียนกับครูต่างชาติมากกว่า อีกอย่างตอนนี้คู่แข่งมากขึ้นคนมาเรียนที่สถาบันน้อยลง ฉันไม่อยากจ้างครูเพิ่ม ฉันจะโทรไปบอกเธอแต่เธอรีบมาหาฉันเสียก่อน เธอคงไม่ว่าอะไรนะ” พบขวัญส่ายหน้าเศร้าๆ “ฉันจะไปว่าอะไรเธอได้ล่ะ ฉันเข้าใจเธอดี ขอบใจเธอมากนะ” ร่างบอบบางในชุดเดรสสีขาวเข้ารูปล่ำลาเพื่อนแล้วเดินออกมาอย่างสิ้นหวัง พลันดวงตากลมโตก็เหลือบไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งตามชายคนหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย พบขวัญมองไปที่ชายที่วิ่งเร็วๆอยู่ข้างหน้าราวกับหนีการตามไล่ล่าในหนังบู๊แอ็คชั่นแล้วต้องเบิกตากว้าง อุทานเสียงดัง “เท็ด! เกิดอะไรขึ้น” พบขวัญมองอย่างตกตะลึง จู่ๆ เจตนิพัทธ์ก็มาปรากฏตัวที่นี่ เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เมื่อกวาดมองตามร่างสันทัดของเพื่อนชายที่วิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิตก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เพราะข้างหลังเขาก็มีชายในชุดสูทอีกสามคนวิ่งตามราวกับแมวไล่จับหนู ร่างสูงของคนพวกนั้นวิ่งเร็วมากเหลืออีกเพียงไม่ถึงสองก้าวก็ถึงตัวเขาแล้ว “คนพวกนั้นเป็นใคร นี่มันอะไรกัน” ด้วยความเป็นห่วง เธอจึงรีบวิ่งข้ามถนนไป ตั้งใจจะวิ่งตามไปเท่าที่ทำได้ แต่แล้วขาเรียวยาวในรองเท้าส้นสูงสามนิ้วก็ต้องหยุดอยู่กับที่ ดวงตาเบิกกว้างตะลึงงัน เมื่อกำแพงมนุษย์ร่างใหญ่ของใครคนหนึ่งมาขวางทางไว้ เขาตรึงเธออยู่กับที่ด้วยแผงอกกว้าง พบขวัญเตรียมอ้าปากไล่ให้คนที่เดินมาขวางไปให้พ้นทางก็ต้องเปลี่ยนเป็นอ้าค้าง “คุณอีกแล้วเหรอ!” ร่างบางหันหลังกลับตั้งใจจะวิ่งหนีบ้างแต่ช้าไปเมื่อเขาดึงเธอหันกลับมาเผชิญหน้า “สวัสดี เราเจอกันเป็นครั้งที่สามในประเทศไทย แบบนี้แสดงว่าเรามีชะตาต้องกัน” “ฉันไม่อยากมีชะตาต้องกับคุณ” เธอตอกกลับ แต่แล้วก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง “คุณมาทำอะไรที่นี่” เขายิ้มลึกลับแทนคำตอบ เธอพยายามมองข้ามไหล่เขาไปแต่ไม่เห็นอะไรนอกจากบ่าบึกบึนในชุดสูทตัดเย็บอย่างประณีต พบขวัญมึนงงไปหมด “มองหาอะไรอยู่งั้นเหรอ” “ฉันเห็นคนรู้จัก ช่วยหลีกทางให้ด้วย รู้ตัวไหมว่าขวางทางคนอื่น” “ถ้าผมไม่หลีกทางให้จะเกิดอะไรขึ้น” เขาถามอย่างท้าทายทำให้พบขวัญต้องเม้มปากแน่นมองว่านั่นเป็นการยียวน ก่อนจะเดินหนีเขาก็ถูกจับข้อศอกกลมกลึงไว้ “ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณพบขวัญ” “ฉันไม่เห็นว่าเราจะมีเรื่องอะไรต้องคุยกัน” “ทำไมจะไม่มี ผมว่ามีเยอะเลยล่ะ แถมต้องคุยกันยาวเลย ผมปล่อยคุณมาสองครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไปอีก เพราะคุณมันคือตัวต้นเหตุของเรื่องนี้เลย ไปคุยที่ห้องเพ้นต์เฮ้าส์ของผม อ้อ ไม่ต้องกลัวผมปล้ำเมื่อคืนนี้ผมปล้ำมาเยอะแล้ว ผมแค่ต้องการตกลงกับคุณ” พบขวัญหมั่นไส้กับความขี้โอ่เรื่องสาวของเขา แต่เธอไม่สนใจหรอก “ตกลงอะไร แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับฉัน” “แน่ใจหรือพบขวัญ ถ้าผมต้องการคุยเรื่องเจตนิพัทธ์แฟนใหม่คุณล่ะ” แววตาสีน้ำทะเลที่ซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ทำให้พบขวัญรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล “เท็ด! เกิดอะไรขึ้นคุณจะทำอะไรเขา” ท่าทางผงะไปของพบขวัญทำให้โดมินิกรู้สึกไม่ชอบใจ แล้วตามด้วยความรู้สึกแปลกใจ ทำไมเขาต้องมีความรู้สึกหงุดหงิดติดจะหึงหวงแบบนี้ด้วยก็แค่ความสัมพันธ์ชั่วคืนหรือเขาเสียหน้าที่ถูกเธอปรามาสว่าไม่ติดใจ เขาจำการพบกันครั้งแรกระหว่างเขาและพบขวัญในงานเลี้ยงบริษัทได้แม่นยำ ผู้ช่วยของเขาบอกว่าพบขวัญเป็นพนักงานใหม่ในแผนกจัดซื้อ ตอนนั้นเขาชอบใบหน้าสวยหวานราวกับกุหลาบแรกแย้มของเธอ พบขวัญมีรอยยิ้มเป็นกันเองให้กับทุกคน ดึงดูดให้เขาเข้าหาแต่เขาต้องเหนี่ยวรั้งตัวเองไว้เพราะกลัวจะเป็นจุดสนใจ เขารอเวลาอย่างใจเย็นที่สุด เขาได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ช่วยคนเดิมที่ไปหาข้อมูลมาให้จากฝ่ายบุคคลว่าพบขวัญเป็นคนไทย มาเรียนต่อที่ลอสเอนเจลิสและเพิ่งเรียนจบได้ทำงานที่บริษัทฯเขาเป็นที่แรก เขายิ้มให้กับข้อมูลนั้น เธอสวย ใส ฉลาดเข้ากับคนได้ดีที่สำคัญเธอทำงานในบริษัทฯเขา หมายความว่าเขาต้องได้เจอเธออีกแน่ แต่ตอนนั้นเขาอยากได้เธอไปร้องครางอยู่บนเตียงเขาเสียก่อนโดมินิกคิดอย่างว้าวุ่น เขาไม่อยากให้ไอ้หนุ่มหน้าไหนเข้าใกล้เธอ ถึงเธอจะดูคล่องแคล่วแต่ยังไงก็ยังมองออกว่าอ่อนประสบการณ์ เรื่องแรกก็คือการดื่มของเธอ เขารู้ในวันนั้นว่าเธอไม่ใช่นักดื่มเพราะพอเธอเจอทั้งเหล้าทั้งไวน์ในงานเลี้ยงที่เพื่อนๆต่างยื่นให้พร้อมๆกัน พบขวัญก็เริ่มหน้าแดง คอแดง กระทั่งประคองตัวไม่อยู่แล้วนั่นคือโอกาสของเสือที่รอคอยเวลาขย้ำเหยื่ออยู่แล้ว เขาเห็นท่าไม่ดีจึงเดินเข้าไปช่วยเธอ รับหน้าที่พาเธอไปหาที่นั่งแล้วต่อจากนั้น เขาก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เพราะเนื้อตัวนุ่มเนียนภายใต้ชุดเดรสแบบเดียวกับที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ยังตราตรึงอยู่ใต้ฝ่ามือเขา เนื้อตัวนุ่มนิ่ม หอมกรุ่นละมุนไปทั้งร่าง เรียกร้องให้เขาอยากกินแล้วอยากกินอีก แต่น่าเสียดายเพราะหลังจากเหตุการณ์คืนนั้น เช้าวันต่อมาเธอก็ลาออกไปจากบริษัท เขายังงุนงงตั้งแต่ตอนนั้นมาถึงตอนนี้ เขาสืบรู้แค่ว่าเธอกลับเมืองไทย หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ตามหาเธออีกเพราะพบขวัญเป็นฝ่ายตัดสินใจไปจากเขาเอง และตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาตามหาเธอแต่เป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้นที่เธอกลายเป็นคู่รักของเจตนิพัทธ์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม