บทที่ 1
บทลงโทษในวันรับน้อง (1)
“ไปทำบุญมายังน้องมีนา หวังว่าวันนี้คงไม่โดนทำโทษสามเกมติดเหมือนเมื่อวานนะ”
เสียงทักทายของรุ่นพี่เอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอเดินเข้ามาหาห้องเอนกประสงค์ ทันทีที่รุ่นพี่เอ่ยต่างก็ทำให้เพื่อน ๆ และรวมถึงรุ่นพี่คนอื่นหันมามองเธอเป็นตาเดียว
“มาเหอะพี่ หนูไม่กลัวหรอก จะเต้นไก่ย่างหรือว่าเต้นฮิปโปหนูก็พร้อม!” หญิงสาวตอบกลับด้วยสีหน้ามั่นใจก่อนจะเดินไปนั่งกับกลุ่มเพื่อน ๆ
เดิมทีแล้วมีนาเป็นที่คนเข้ากับคนอื่นได้ง่าย เนื่องจากเธออัธยาศัยดีและเป็นมิตรกับทุกคน ทั้งยังชอบร่วมกิจกรรมกับคนอื่น ๆ ทำให้เธอไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไรถ้าหากต้องออกไปเต้นหน้าห้องต่อหน้าคนอื่น
“เห้ย! ไอ้โอมมึงจัดบทลงโทษหนัก ๆ ให้น้องเขาสักทีดิ น้องแม่งปากแจ๋วโคตร”
กิจกรรมรับน้องยังคงดำเนินไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ วันนี้เป็นวันรับน้องวันสุดท้ายเลยทำให้มีการเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่ช่วงสายจนถึงช่วงเย็นของวัน
จนกระทั่งมาถึงเกมสุดท้าย มีนาเข้าร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดีซึ่งในเกมสุดท้ายนั้นจะเป็นเกมที่ให้ทุกคนยืนขาเดียวอยู่บนกระดาษเอสี่เพียงแผ่นเดียวทั้งกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีห้าคน มีนาและเพื่อนในกลุ่มต่างก็คิดวิธีที่จะทำให้พวกเธอยืนอยู่บนกระดาษแผ่นนั้นได้นานที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่ถูกทำโทษกันยกกลุ่ม
“เอางี้ เดี๋ยวให้ผู้ชายเหยียบไปก่อนส่วนผู้หญิงก็เหยียบพื้นที่รอบ ๆ เอาแล้วกัน” เพื่อนในกลุ่มเสนอความคิดเห็นซึ่งก็ทำให้ทุกคนต่างพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“เอางั้นก็ได้ เต้กับปูนพวกนายเข้าไปเหยียบก่อนเลย” ชายหนุ่มทั้งสองคนทำตามอย่างว่าง่ายก่อนที่ผู้หญิงอีกสามคนที่เหลือจะเข้าไปเหยียบบริเวณรอบ ๆ ของกระดาษอย่างทุลักทุเล
“โอ๊ย! อย่าดึงแขนฉันดิ”
“โอ๊ย! นี่นายอยู่เฉย ๆ ได้ไหม ฉันจะล้มอยู่แล้วนะ” หญิงสาวที่ยืนอยู่ขอบกระดาษอีกฝั่งบ่นอุบเมื่อร่างของเธอโซเซจนแทบทรงตัวไม่อยู่
“นี่อย่าเพิ่งตีกันสิ เดี๋ยวเราก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มหรอก” เพื่อนอีกคนเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังทำให้มีนาที่ฟังอยู่ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ดู ๆ แล้วคงจะไม่มีใครอยากโดนทำโทษให้ออกไปเต้นต่อหน้าเพื่อนเลยสักคน
“ทรงตัวกันดี ๆ นะน้อง พวกพี่จะเริ่มร้องเพลงแล้วนะ สาม สอง หนึ่ง!”
“ตุ่มใส่น้ำ ตุ่มใส่น้ำ ใส่น้ำให้เต็มตุ่ม แล้วเราจะชื่นใจ แล้วเราจะชื่นใจ~”
“เอ้า! ช่วยกันร้องเร็ว! ตุ่มใส่น้ำ ตุ่มใส่น้ำ ใส่น้ำให้เต็มตุ่ม แล้วเราจะชื่นใจ แล้วเราจะชื่นใจ~”
เสียงร้องเพลงยังคงร้องต่อไปแต่ขาเล็กที่กำลังเขย่งปลายเท้าด้วยความสั่นเกร็งกลับไม่ได้รู้สึกสนุกสนานไปกับเสียงเพลงเลยสักนิด
“อื้อ ฉันจะยืนไม่อยู่แล้ว”
“ฉะ ฉันด้วย มะ ไม่ไหวแล้ว” มีนาเอ่ยกับพื้นในกลุ่มที่พยายามเกร็งตัวสุดฤทธิ์และทว่าเสียงร้องเพลงจากรุ่นพี่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะจบลงสักที
จนกระทั่ง...
“ว้ายยย!”
ตุ้บ!
“โอ๊ย! / อื้อ! เจ็บชะมัด”
มีนาและเพื่อนในกลุ่มต่างก็ล้มตึงลงกับพื้นเป็นกลุ่มแรกเมื่อทรงตัวเองไม่อยู่ หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บและนึกโมโหกับตัวเองหากเธอฝืนอีกนิดคงไม่เป็นกลุ่มที่แพ้กลุ่มแรกแน่นอน
“อ้าว! มีกลุ่มที่ต้องถูกทำโทษแล้วนะครับทุกคน”
“ฮือออ ไม่อยากออกไปเต้นเลย” เพื่อนอีกคนเอยพลางทำหน้าง้ำงอ
“มาครับ ออกมายืนด้านหน้าเลยครับน้อง ๆ” คนอื่น ๆ รวมถึงมีนาเดินคอตกออกไปด้านหน้าผิดกับพวกรุ่นพี่ที่ต่างหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าของรุ่นน้องต้องถูกทำโทษ
“ได้เต้นสมใจน้องแล้วนะ” เสียงของรุ่นพี่หนุ่มเอ่ยกับมีนาอย่านึกหยอกล้อทำให้เธอมองตาเขียวใส่กลับทันควัน
ทว่าไม่ทันที่รุ่นพี่จะเอ่ยถึงบทลงโทษรุ่นพี่อีกคนที่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ ก็เดินเข้าไปหาและกระซิบบอกอะไรบางอย่าง หญิงสาวที่พยายามเงี่ยหูฟังมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ยินเลยสักนิด
“เอาล่ะครับ พวกพี่รู้ว่าน้อง ๆ คงไม่อยากเต้นกันใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ! / ใช่ครับ!”
“พวกพี่เลยเปลี่ยนบทลงโทษนิดหน่อย พวกน้องไม่ต้องเต้นอีกแล้ว” รุ่นพี่หนุ่มมองหน้าทั้งหมดที่ต้องถูกลงโทษด้วยรอยยิ้มที่มุมปากก่อนจะหยุดสายตามองมีนาอย่างมีเลศนัย
“พวกพี่จะให้เราทำอะไรแทนคะ”
“พี่อยากเห็นความกล้าของน้อง ๆ พี่จะให้พวกน้องไปถามชื่อและเบอร์โทรของคนแปลกหน้ามาหนึ่งคน ถ้าทำได้พวกน้องก็จะไม่ต้องเต้นหน้าห้อง”
“โห่พี่ ขอเบอร์เนี่ยนะ!? ไม่มีใครให้พวกผมหรอก” เสียงบ่นอุบร้องขึ้นเมื่อได้ยินบทลงโทษ จะมีใครที่ไหนกล้าให้เบอร์กับคนแปลกหน้าทั้งที่ไม่รู้จักกัน
“ไม่รู้ล่ะครับ พวกน้องต้องทำให้ได้ แต่ถ้าทำไม่ได้...พวกน้องก็ต้องเต้นให้เพื่อน ๆ ดูจนกว่าพวกพี่จะพอใจ”
“โดนแล้วไงยัยมีน” มีนาเอ่ยพึมพำกับตัวเองเมื่อต้องทำตามบทลงโทษที่รุ่นพี่สั่ง
แต่ระดับเธอไม่ว่าบทลงโทษจะยากแค่ไหนเธอก็จะต้องทำมันให้สำเร็จให้ได้!
“พี่จะเริ่มจับเวลาแล้วนะครับ พร้อมนะน้อง ๆ”
“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วพี่”
“นี่น้อง คนนั้นน่ะเห็นนั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียวพี่ว่าน่าจะไม่ยากนะ” ใบหน้าเล็กหันไปมองตามรุ่นพี่หนุ่มก็พบว่าเป็นชายร่างสูงที่ตอนนี้กำลังนั่งสูงอยู่ที่โต๊ะม้าหินหน้าตึคณะของเธอ
“แต่เขาดูหยิ่งยังไงไม่รู้อะพี่” เพียงแค่มองไปไม่กี่วินาทีเธอก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของผู้ชายคนนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเอาแต่ทำหน้านิ่งแต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวและไม่เป็นมิตรจากอีกฝ่าย ดีไม่ดีเธออาจจะถูกเขาไล่ตะเพิดออกมาก็เป็นได้
“ไม่ลองไม่รู้นะ พี่แค่แนะนำเฉย ๆ เพราะพี่หวังดี” หญิงสาวมองรุ่นพี่หนุ่มกับชายคนนั้นสลับกันด้วยสายตาชั่งใจเล็กน้อย มือเล็กกำแน่นหากเธอไม่ลองก็คงไม่รู้เหมือนอย่างที่รุ่นพี่เอ่ยจริง ๆ
“สาม สอง หนึ่ง จับเวลา!”
สิ้นเสียงนับถอยหลังทุกคนที่ถูกทำโทษก็ต่างวิ่งออกไปกันคนละทิศละทางขาเล็กรีบวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังสูบบุหรี่อยู่เพียงลำพัง มีนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาและหยุดอยู่ตรงหน้าของร่างสูงที่ไม่มีที่ท่าจะว่าเงยหน้าขึ้นมามองเธอเลยแม้แต่น้อย
“พี่คะฉันชื่อมีนนะคะ คือมีน...เอ่อ...มีนขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าชายหนุ่มและเอ่ยประโยคที่เตรียมท่องไว้แต่แรกอย่างรวดเร็วด้วยความประหม่า
แต่ทว่า...
ฟุบ!
“น่ารำคาญ”