บทที่ 1
บทลงโทษในวันรับน้อง (2)
“พี่คะฉันชื่อมีนนะคะ คือมีน...เอ่อ...มีนขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าชายหนุ่มและเอ่ยประโยคที่เตรียมท่องไว้แต่แรกอย่างรวดเร็วด้วยความประหม่า
แต่ทว่า...
ฟุบ!
“น่ารำคาญ” เสียงทุ้มเอ่ยและผลักมือเล็กออกก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนและเดินผ่านร่างบางไปอย่างไม่ใส่ใจ
มีนายืนชะงักราวกับถูกสาปเป็นหินเมื่อได้ยินคำพูดที่แสนเย็นชาจากปากของอีกฝ่ายที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหรือใยดีเธอเลยสักนิด เธอกำมือตัวเองแน่นพลางนึกโมโหอยู่ในใจจนแทบอยากจะระเบิดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด กล้าดียังไงถึงได้เมินและเย็นชากับเธอแบบนี้!
“นี่! เมื่อกี้พี่ว่าไงนะ” ใบหน้าหวานหันขวับไปมองร่างสูงที่กำลังเดินออกไปด้วยความโมโหอย่างหนัก เสียงเล็กตะโกนกร้าวทำให้ชายหนุ่มค่อย ๆ หันหน้ามามองเธอด้วยความนิ่งเรียบเช่นเคย
คนตรงหน้าเลิกคิ้วถามพลางผ่อนลมหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญเมื่อรู้สึกว่าหญิงสาวชักจะตอแยเขามากขึ้น ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาแต่ท่าทางและสายตากลับบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขารู้สึกเช่นไร
‘ไม่มีมารยาท!’ มีนาบ่นกับตัวเองในความคิดแค่เห็นสายตาของเขากำให้เธออยากจะตรงไปตระกุยหน้าหล่อ ๆ ของเขาให้รู้แล้วรู้รอด
“เมื่อกี้พี่บอกว่าน่ารำคาญเหรอคะ” เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบเธอจึงถามเขาอีกครั้ง
“หูตึงหรือไง” ชายหนุ่มกอดอกมองร่างบางอย่างไม่ลดละเขาว่าสิ่งที่พูดออกไปก็ชัดเจนมากพอแล้ว หากเธอไม่ได้มีปัญหาเรื่องหูก็คงจะเข้าใจได้ง่าย ๆ
มีนาเค้นหัวเราะพลางผ่อนลมหายใจออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ไม่ให้โมโหไปมากกว่านี้ แววตาหวานที่ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวจ้องมองชายหนุ่มที่ดูท่าแล้วไม่ใช่รุ่นพี่ที่คณะของเธอแน่นอน คนตรงหน้าสวมชุดนักศึกษาเรียบร้อยส่วนที่ข้อมือก็มีเชือกถักพร้อมจี้รูปตราชั่งทำให้รู้ได้ทันทีเลยว่าคนตรงหน้าเรียนคณะอะไร
“เรียนนิติเหรอคะ” สายตาหวานมองที่แขนแกร่งทำให้ชายหนุ่มมองอย่างไม่พอใจ
“ยุ่งอะไรด้วย”
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก แต่มีนแค่อยากได้เบอร์พี่เท่านั้นเอง ให้มีนเถอะ” ยิ่งตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วด้วยหากเธอเป็นคนเดียวที่ทำไม่สำเร็จมีหวังขายขี้หน้าคนอื่นเป็นแน่
สายตาของเหล่ารุ่นพี่ต่างมองไปที่มีนาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น นั่นเป็นแผนที่พวกเขาตั้งใจจะให้มีนาเข้าไปคุยกับเพื่อนสนิทต่างคณะที่มานั่งรออยู่ตรงม้าหินเนื่องจากเห็นว่าเพื่อนของเขามีปัญหาเรื่องความรักจนไม่ยอมคบหาใครเสียที และด้วยความบังเอิญที่รุ่นน้องอย่างมีนามีนิสัยที่พวกเขาเห็นว่าน่าจะปราบเสือร้ายจอมหยิ่งอย่างเพื่อนเขาได้
“มึงว่ารอดไหมวะไอ้ทัพ” เสียงเข้มเอ่ยพลางมองไปที่ทั้งสองคนที่ตอนนี้กำลังยืนเถียงกันอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงแต่แค่เห็นสีหน้าและท่าทางก็ทำให้รู้ได้เลยว่าท่าไม่ดีแน่นอน
“ไม่น่าเลยว่ะ สงสารน้อง”
“คนที่น่าสงสารคือเพื่อนพี่มากกว่าพี่โอ๊ต พี่ดูโน่น!”
“เชี่ย...ซวยแล้ว” เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าทั้งสองเริ่มมีปากเสียงกันอย่างหนักดูทรงแล้วคนที่แรงที่สุดก็คงไม่พ้นรุ่นน้องสาวที่ตอนนี้เอาแต่พูดจนเพื่อนของเขาเถียงไม่ทัน
“นี่เธอ! นี่คือวิธีจีบผู้ชายของเธอเหรอไง”
“จีบ!? เหอะ! มีนเนี่ยนะจีบพี่” มีนาเท้าเอวมองชายหนุ่มตรงหน้าและเค้นเสียงหัวเราะออกมา หากเธอไม่ถูกทำโทษโดยการให้มาขอเบอร์คนแปลกหน้าเช่นนี้อย่าหวังเลยว่าเธอจะเข้าใกล้คนอย่างเขาแม้แต่คืบเดียว
“แล้วเธอเข้าหาฉันทำไมล่ะ”
“มีนจะบอกให้นะว่าคนอย่างพี่นะไม่มีใครเขาอยากเข้าใกล้หรอก ผู้ชายอะไรหยิ่งชะมัดแถมยังโคตรขี้เก๊กเลยรู้ไว้ด้วย!”
“นี่เธอ!”
“ไอ้พีท! ไอ้พีท!” ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อจากนั้นกลับมีเสียงเรียกพร้อมกับดึงตัวของเขาเอาไว้เสียก่อน
“มีนไม่เล่นแล้วนะพี่ ยอมโดนทำโทษเลยถ้าให้มาขอเบอร์ไอ้พี่ขี้เก๊กคนนี้อะ!” หญิงสาวกอดอกมองรุ่นพี่หนุ่มด้วยอาการฟึดฟัดอย่างนึกโมโห เธอยอมโดนทำโทษวิธีเดิมดีกว่ามาเจอคนแบบนี้
“ยัย...!”
“ไม่เป็นไรน้อง เอ่อ...น้องกลับไปในแถวก่อนนะ”
“ไอ้คนขี้เก๊ก!” มีนาเอ่ยพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะรีบเดินกลับไปที่แถวของตัวเองทันที
“ยัยนี่เป็นใครวะ! รุ่นน้องมึงเหรอ” ชายหนุ่มเท้าเอวมองตามร่างบางที่เดินออกไปด้วยความโมโหจัดที่ที่ทำอะไรกับหญิงสาวไม่ได้
“ก็น้องปีหนึ่งอะมึง อย่าถือสาเลย” มือหนาตบที่ไหล่กว้างของเขาเบา ๆ เพื่อให้ใจเย็นลง
“แล้วมึงไปเสือกไรกับการรับน้องมึงอยู่ปีสามนะไอ้โอ๊ต” สายตาคมมองเพื่อนสนิทอย่างนึกแปลกใจที่เขาตั้งใจจะมารอหลังเลิกเรียนด้านล่างตึกคณะอยู่ประจำแต่กลับเห็นเพื่อนสนิทไปอยู่ในวงรับน้องกลุ่มปีสองเสียได้
“มึงก็รู้ดีว่ากูขี้เสือก” พีทกลอกตาไปมาเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายก่อนที่เขาจะเดินนำออกไปด้านหน้าตึกคณะ เขายังหงุดหงิดไม่หายกับเด็กเมื่อวานซืนที่ว่าเขาเมื่อกี้หากไม่ถูกห้ามรับรองได้เลยว่ายัยเด็กนั่นต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง!