"ปล่อยก่อนค่ะ"
แขนที่ล็อกตัวเธอคลายออก หญิงสาวรีบลุกถอยออกมาลนลานคว้าเสื้อผ้ามาสวม ไม่ตวัดสายตาไปมองคนที่ขยับลุกขึ้นนั่ง เนื้อตัวเธอร้อนผ่าวไปหมด ใส่เสื้อผ้าไม่สะดวกเท่าปรกติแต่กระนั้นก็รีบสวมเนื้อตัวสั่นไปหมด
เธอหันกลับไปมองคนที่นั่งมองเธออยู่ ตวัดสายตาไม่พอใจมองไป ก่อนจะคว้าเสื้อผ้าเขาโยนไปบนโซฟาข้างตัวเขา
"เหมือนคราวที่แล้วไม่มีผิด ได้ผมแล้วก็หน้าเชิดใส่ เป็นใบโพล่ารึไงคุณ ตอนอยากได้ก็จะเอา พอได้แล้วก็ทำเหมือนผมไปข่มขืน"
คำพูดของเขาทำให้เธอโกรธจนปากสั่น ทั้งที่ไม่ยอมสวมเสื้อผ้านั่นอีก กวนโมโหจนเธอพูดไม่ออก
"ฉันไม่เคยอยากได้คุณ" เธอแหวลั่น "ฉันมาเพราะว่ามีเรื่องจะคุย แต่คุณไม่ฟังฉันเลย ไม่ให้โอกาสได้พูด"
"ก็นี่ไง ให้พูดแล้ว พูดสิ"
"หึ" เธอมองค้อนคนฉวยโอกาส กับคนอื่นที่คบค้ากับเขาคงกินกันไม่ต้องพูดต้องจาแบบนี้ เพราะเขาคิวงานเยอะมีเวลาไม่มาก พอเธอมาหาก็ถูกเหมารวมทั้งที่บอกปาวๆ ว่าไม่ได้ต้องการเขาเลยต่อให้เขาจะติดโผหนุ่มหน้าหล่อชวนฝันแห่งปี มาหลายปีติดก็ตามทีเถอะ
"หัดเข้าใจความต้องการของตัวเองบ้าง คุณอยากเข้าหาผม แต่ไม่ต้องทำมาเป็นเหมือนไม่อยากได้ ไม่เต็มใจ ผมไม่ชอบ ถ้าอยากก็แค่บอก ผมไม่ได้หวงตัวคุณก็เห็น"
"คนบ้า" หญิงสาวยังไม่มีโอกาสพูดเขาก็พูดเข้าข้างตัวเองรัวๆ จนหาช่องไฟแทรกไม่ทัน เธอโกรธจนหาคำพูดมาเถียงเขาไม่ทันแล้ว
เธอทำท่าเหมือนไม่อยากมองเขาเลย และเชิดหน้าจนกลัวคอจะเคล็ด เลยหยิบบ็อกเซอร์ที่เธอโยนมาสวมเข้าอย่างเชื่องช้า แตกต่างจากเวลาถอดผ้าเธอยิ่งนัก
"สวมเสื้อด้วยค่ะ ฉันจะรีบคุยธุระ จะได้ไม่เสียเวลา"
"ไม่สวมคุยไม่ได้รึไง"
หญิงสาวหันหน้าหนีไม่อยากมองซิกแพกซ์ ไม่อยากมองแขนล่ำๆ ไม่อยากมอง!
"ฉันบอกย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้ต้องการคุณ หรือไม่ได้อยากให้เรื่องเมื่อครู่เกิดขึ้น กรุณาอย่าเหมารวมฉันกับคู่ควงของคุณว่าจะต้องการทำเรื่องแบบนั้นกับคุณ"
"แล้วไงต่อ" เขาพยักหน้าถาม ไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดเท่าไหร่ เขากำลังเรียนรู้อยู่ว่าคนปากไม่ตรงกับใจหน้าตาเป็นยังไง แต่เห็นแก่ตัวหอมๆ และหุ่นเซ็กซี่ของเธอ เขาจะหยวนๆ ให้ก็แล้วกัน
"ฉันต้องมาหาคุณเพราะอยากรู้ว่า วันที่ฉันไปงานเลี้ยงปิดกล้องละครของคุณกับลูกแก้ว ฉันจำได้ครั้งสุดท้ายว่าฉันอยู่ที่ร้านที่จัดปาร์ตี้อยู่ แต่ตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ห้องคุณ ฉันกำลังคิดว่ามันมีเงื่อนงำ คุณพอจำได้ไหมว่าฉันกับคุณมาอยู่ที่คอนโดมิเนี่ยมได้ยังไง"
หญิงสาวพยายามรวบรวมสมาธิถามแบบอ้อมๆ ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องจากเขามากแค่ไหน
ส่วนเขาหรี่ตา ไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่าเธอจำไม่ได้จริงๆ หรือว่าหาเรื่องมาหาเขา ซึ่งในใจเอนเอียงเป็นอย่างหลังมากกว่า... และก็เพราะเนื้อนิ่มๆ ของเธอทำให้เขามองข้ามความท่ามากของเธอแล้วตอบคำถามอย่างเต็มใจ
"ผมออกมาจากงานเลี้ยง เจอคุณอยู่แถวลานจอดรถ คุณดู..." เขาทำท่าเหมือนนึกหาคำพูด เธอก็อยากรู้กับเขาไปด้วย "เหมือนยั่วสวาท ผมเลยชวนคุณมาด้วย คุณก็มา ผมจำได้แค่นี้ เพราะผมก็ดื่มไปเยอะคิดว่าคุณชอบผมเลยอยากตามมา แต่ตื่นเช้ามาก็งง คุณทำเหมือนเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตแล้วก็ไป จากนั้นข่าวก็ออกมารัวๆ จนตั้งตัวไม่ติด คุณวันนั้นกับหลังๆ มานี้ ไม่เหมือนกันเลย" เขาบอกตรงๆ
"ผมก็คิดว่ามันผิดปรกติ แต่ผิดปรกติในแง่ว่าฝั่งคุณต้องการเป็นข่าวมากกว่า"
"ฉันไม่ได้ต้องการอย่างนั้น... ฉันสงสัยว่าวันนั้นฉันอาจจะโดนวางยา เพราะฉันคงไม่มีทางยั่วสวาทและชวนคุณไปนอนด้วยกันแน่ๆ"
"แต่คุณทำแล้ว จะบอกว่าวันนั้นโดนวางยางั้นเรอะ"
หญิงสาวพยักหน้า
"แล้วคิดว่าใครทำ"
คำถามของเขาทำให้ดวงหน้าหวานหม่นหมองลงไป เธอทำท่านิ่งคิด มองมือตัวเองก่อนจะถอนหายใจ
"ช่างมันเถอะค่ะ ขอบคุณที่ทำให้ฉันเเน่ใจในคำตอบ ฉันมาเพราะต้องการรู้เรื่องวันนั้นจริงๆ ไม่ได้อยากให้เรื่องเมื่อกี้เกิดขึ้น" เธอทำสีหน้ายุ่งยากใจ ที่มักทำให้เขาตัดสินใจยากว่าจะเชื่อเธอ หรือเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันมักสวนทางกันตลอด
หญิงสาวเอ่ยขอตัวเเละเดินไปคว้ากระเป๋ามือสั่นๆ ออกไป โดยที่คนที่เเต่งตัวไม่เรียบร้อยเรียกไว้ เเต่เธอไม่ฟัง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้อง ทำให้มือเล็กที่จะเปิดประตูห้องออกไป ชะงัก คนตัวสูงเดินมาทันแล้วมองกระจกตาแมวก่อนจะหันมาหาเธอ
"แม่ผมมา"
ไม่ใช่เพียงเธอคนเดียวที่มีสีหน้าตกใจ และหวาดหวั่น วฤทธิ์เองก็มีสีหน้ายุ่งยากใจ แวบหนึ่งเธอรู้สึกเหมือนเขาทำหน้าสยดสยองในแวบแรกเมื่อรู้ว่ามารดาเขามา...
จะทำยังไงดี ถ้าท่านรู้ว่าเขากับเธออยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องแน่!
"คุณไปอยู่ในห้องนอนก่อน เดี๋ยวผมจะเคลียร์ทางนี้เอง" ชายหนุ่มกระซิบเธอแล้วเบนหน้าไปทางประตูห้องนอนของเขา หญิงสาวทำหน้ายุ่งยากใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะก็ดังขึ้นอีก
สุดท้ายปทิตาก็เลือกที่จะทำตามที่เขาบอก
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูล็อกเอาไว้ กลิ่นน้ำหอมแบบสปอร์ตเจือจางโชยเข้าจมูกในตอนที่เดินเข้ามา มันเป็นกลิ่นคล้ายๆ วฤทธิ์ ยามที่เขาอยู่ใกล้ ถึงแม้ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันบ่อยแต่เพราะประสาทสัมผัสด้านกลิ่นดีทำให้เธอจำได้ การเข้ามาอยู่ห้องนอนผู้ชาย ที่ตกแต่งเรียบๆ โทนสีเคร่งขรึม ทำให้เธออึดอัดเล็กน้อย และรูปขนาดเท่าตัวจริงที่ติดหราอยู่บนผนังห้องเขาทำให้เธออึดอัดเป็นที่สุด
เสื้อก็ไม่ใส่!
สงสัยเขาชอบโชว์กล้ามหน้าท้อง โชว์แม้กระทั่งกับตัวเอง ถึงว่าคิดเข้าข้างตัวเองเก่ง ก็หลงตัวเองเบอร์นั้นนี่นา
เสียงพูดคุยของเขากับมารดานั้นชัดเจนได้ยินเข้ามาให้ห้อง เธอเลยผละสายตาจากรูปภาพแหวกเสื้อโพสต์ท่าที่ทะเลสีฟ้าใสของคนหลงตัวเองไปมองทางประตูแทน
เสียงมารดาเขาบ่นเรื่องเธอ บ่นเขาที่เป็นข่าวกับเธอ ดีเหมือนกันที่หลบมาในนี้เพราะขืนอยู่ข้างนอก ไม่ว่าจะแก้ตัวว่าไม่ได้คบหากับเขา ท่านคงไม่ฟัง
หญิงสาวยืนรออย่างกระวนกระวาย ได้ยินเรื่องมารดาเขาพูดถึงคู่หมั้นเขา และการนัดพบระหว่างเขากับคู่หมั้นที่เขาจะต้องไปให้ได้ เพราะท่านจะให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนที่เธอได้ยินชื่อว่า ทราย ไม่คุ้นหูว่าเขามีข่าวกับคนในวงการชื่อนี้ น่าจะเป็นคนนอกวงการมากกว่า
เธอได้ยินเขาต่อรองกับมารดาว่าตอนนี้อยากทำงานเขาไม่อยากแต่งงานตอนนี้ มารดาเขาเลยต่อว่าเรื่องข่าวฉาวโดยเฉพาะข่าวกับเธอ ท่านพูดว่าจะไม่ให้เขาแต่งงานในตอนนี้ก็ได้ แต่ถ้ามีข่าวฉาวขึ้นมากกว่านี้เมื่อไหร่ เขาจะต้องแต่งงานอย่างไม่มีข้อแม้ วฤทธิ์รับคำมารดาเขาและสองแม่ลูกก็คุยกันเรื่องอาหารการกินและความเป็นอยู่ไปอีกหลายนาทีจนคนรอขาแข็ง
เสียงเงียบหายไปแล้ว เธอได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอน จากที่ยืนนิ่งอยู่เลยถลาไปเปิดประตู