"แม่คุณกลับแล้วใช่ไหมคะ"
"อืม"
"งั้นฉันจะกลับเเล้ว..."
"เดี๋ยวก่อน" เขาคว้าตัวคนที่จะเดินผ่านหน้าเอาไว้ เพราะออกแรงเยอะหรือเพราะว่าเธอตัวเบาหญิงสาวเกือบถลาล้ม แต่เขาคว้ามาไว้ในอ้อมกอดทัน
"เอ๊ะ ปล่อยนะ"
"จะรีบไปไหน เคลียร์เรื่องของเราก่อนสิ"
"เคลียร์อะไร ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ ฉันบอกชัดแล้วว่าไม่ต้องการคุณ" หญิงสาวรีบพูดเพราะรู้ผลของการมัวแต่อ้ำอึ้งแล้วว่าจะจบอย่างไร เธอหันมาเผชิญหน้าคนที่ยังไม่ปล่อยเธอจากอ้อมกอด มือเธอพยายามดันอกเขา ใบหน้าคมที่ก้มมาใกล้ๆ ทำให้เธอเบี่ยงหน้าหนี
"คุณมีคู่หมั้นและจะแต่งงานอยู่แล้ว อย่ามายุ่งกับฉันนะ ไม่รู้สึกผิดต่อคู่หมั้นหรือไง" ขนาดเธอยังไม่รู้จักคนนั้นยังรู้สึกผิดเลย เขานี่มันจริงๆเลย
"แอบฟังเหรอ"
"ไม่แอบก็ได้ยิน"
"แล้วตกลง คุณจะเอาไง"
"ไม่เอาไง ก็บอกว่าจะกลับ แค่มาถาม"
"วันหลังจะมาถามอะไรที่คอนโดอีกไหม ผมจะได้ทำตัวถูก"
ดูก็รู้ว่าเขาไม่เชื่อเรื่องที่เธอพูด หญิงสาวชักยั้วะ เขาต้องคิดว่าเธอหาเรื่องมาหาเขาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดหรือว่าอยากสร้างข่าวอะไรแบบนั้นแน่ๆ เขาต้องแวดล้อมด้วยผู้หญิงแบบไหนกันนะถึงได้มองว่าเธอเสเเสร้งทั้งที่เธอแสดงออกชัดเจนแล้ว
"ไม่มา ปล่อยฉัน ฉันจะกลับแล้ว คุณเลิกคิดได้เลยว่าฉันกำลังจะเข้าหาคุณ ที่มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะเป็นอุบัติเหตุ ส่วนเรื่องวันนี้ มันเกินความคาดหมายว่าจะเกิด แต่มันจะไม่มีครั้งต่อไปแน่นอน"
"เหรอ" เขายังทำหน้ากวนได้อีก
"หลงตัวเอง" ด่าเขาไปดิ้นไป ทำไมดิ้นไม่หลุดเสียทีนะ เธอจะยกแขนข่วนหน้าเขาอยู่แล้ว แต่เขาก็ปล่อยเธอก่อน
หญิงสาวถอยมาเกือบสองก้าว
"ทุกอย่างที่ฉันพูดคือเรื่องจริง จะไม่เชื่อฉันก็จะพิสูจน์ให้ดูว่าฉันไม่ได้อยากสานสัมพันธ์กับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว"
หญิงสาวบอกแล้วก็เดินออกไปจากห้องเขา
เหมือนเดจาวูชัดๆ ครั้งก่อนตอนมาเธอก็เสนอและยังไม่ปฏิเสธและดูอิ่มเอมกับสิ่งที่เขาสนองไป พอเสร็จสมใจ เธอก็บอกว่าไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้นให้เขาลืม เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะมาทำอะไรแบบนี้กับเขา ครั้งนี้ก็เหมือนเดิม
เขามันเป็นที่รองรับอารมณ์ของเธอยามมีความต้องการหรือไงวะ
สองสัปดาห์ต่อมา ข่าวอื่นเริ่มมากลบข่าวของวฤทธิ์กับปทิตา ตามวงจรของการเกิดกระแสในวงการ เพราะนานไปก็จะมีเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ วฤทธิ์รู้สึกว่าอาการหูชาจากที่มารดาบ่นเรื่องข่าวกำลังจะหายไป เขาทำงานหนักตารางเต็มทั้งเจ็ดวันเพราะผลพวงจากข่าว แต่ในวันที่ทุกคนกำลังจะลืม เขากลับได้อ่านข่าวอีกครั้ง
ปทิตาดอดไปซื้อที่ตรวจครรภ์ที่ร้านสะดวกซื้อ พนักงานจำหน้าเธอได้ ข่าวเรื่องเธอท้องกับวฤทธิ์ถูกกลับมาพูดถึงอย่างหนาหูอีกครั้ง และเป็นกระแสมากกว่าเก่าเพราะมีคนแอบถ่ายเธอที่ร้านสะดวกซื้อและเธอหยิบที่ตรวจการตั้งครรภ์มาจ่ายเงินจริงๆ สิ่งนั้นทำให้ข่าวที่กำลังจะซากลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง...ราวกับเดจาวู
คุณต้องการอะไรกันแน่ เพนนี
เพียงหนึ่งประโยคเดียวเท่านั้นที่เขาพิมพ์แล้วส่งไปหาหญิงสาว ครั้งสองครั้งที่เธอเล่นเอาเถิดเจ้าล่อเขายังพอทน แต่ตอนนี้เขาอารมณ์เสียจริงๆ ที่เธอปากอย่างใจอย่าง พูดอีกอย่างแต่ทำอีกอย่างจนน่าโมโห
ข้อความของเธอขึ้นว่าอ่าน แต่เธอไม่ตอบ
แล้วเราจะได้เห็นดีกัน
เขาส่งข้อความไปหาเธอ ขึ้นอ่านแต่ไม่ตอบอีกตามเคย
มันทำให้ความไม่พอใจของเขาทบเท่าทวี และเธอต้องชดใช้มัน
"บอกพ่อมาหน่อยเพนนี มันหมายความว่ายังไง" เสียงเข้มงวดของผู้เป็นบิดาทำให้ ปทิตาที่นั่งอยู่บนโซฟา มองตามโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือของบิดาตาปริบๆ
หน้าจอนั้นเป็นแชตจากวฤทธิ์ที่เธอเพิ่งเปิดอ่าน แต่ยังไม่ทันตอบแต่บิดาที่เข้ามาเมื่อไหร่ไม่รู้แย่งไปเปิดแล้วถามเสียงเข้ม
ท่านสงสัยอยู่แล้วในช่วงที่ข่าวลือหนาหู เธอกับแม่เลี้ยงเอาแต่บอกว่าไม่มีอะไร ข่าวไม่มีมูล
จนข่าวล่าสุดที่เป็นภาพของปทิตาไปซื้อที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเองหลุดหราอยู่ที่สื่อหลายเจ้า ทำให้คนเป็นพ่อไม่อาจมองผ่านข่าวของลูกสาวอีกต่อไป เขาลอบสังเกตมาพักหนึ่งแล้วก็สังหรณ์ว่าข่าวที่ว่านั้นอาจจะไม่ใช่ข่าวลือ
แล้วที่น่ากลัวที่สุดคือ คนที่เกี่ยวข้องด้วยคือคนของทิตตาภา
"ลูกบอกว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเขา ไม่ได้ร่วมงานกันอีก แต่ติดต่อกันงั้นเหรอ"
"..." ปทิตานั่งเครียดอยู่ ไม่มีอะไรตอบบิดา แม่เลี้ยงของเธอออกไปข้างนอก ตัวช่วยของเธอไม่มี ตอนนี้จิตใจของเธออ่อนแอเปราะบาง ยังหาทางออกไม่ได้ บิดาก็มารู้เรื่องเพิ่มขึ้นไปอีก...
"เพนนี พ่อไม่ต้องการความเงียบ" เสียงของท่านเข้มขึ้น
ปทิตาน้ำตาไหลซึม
"เพนนีทำพลาดไปแล้วค่ะพ่อ" หญิงสาวบอกเสียงสั่น หลังจากที่อยู่กับเขาเพียงลำพังครั้งที่สองและเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นอีก เธอคิดว่าการเจรจากับเขาไม่ได้ผล และเขาไม่มีวันเปลี่ยนมุมมองที่มองเธอได้แน่นอน หญิงสาวเลยคิดหาทางออกของข่าวด้วยตัวเอง
เธอปฏิเสธเรื่องคบเขา เหมือนเป็นการปฏิเสธกลายๆ ว่าท้องกับเขา แม้ว่าเธอจะมีอาการอาเจียนและเป็นลมบ่อยจนเหมือนอาการคนท้อง แต่เธอก็ยืนยันคำเดิมว่าเธอแค่สุขภาพไม่ดี แต่เหมือนการโจมตีเธอไม่สิ้นสุด หญิงสาวตัดสินใจเดินไปซื้อที่ตรวจครรภ์ รู้ว่าจะเป็นข่าวแน่ แต่เธออยากนำภาพที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นผลเป็นลบมาโพสต์ในโซเชียล แล้วเธอจะได้หนีพ้นจากข่าวนี้เสียที
แต่ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คาดเอาไว้
เพราะว่าขีดสีแดงสองขีดเด่นชัด
ชัดจนเธออยากหนีหายไปจากโลกใบนี้เพราะความตกตะลึง และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี
ท่าทางของลูกสาว และข้อความที่วฤทธิ์ติดต่อมานั้น ทำให้เขาคิดว่าการจะได้รายละเอียดนั้นคงต้องรอถามพิมพ์ดาว ดังนั้นเขาจึงเอ่ยถามในสิ่งที่เขาต้องการรู้ที่สุดไปก่อน
"เขาเข้ามาข่มเหงรังแกลูก หรือลูกพยายามไปเกี่ยวพันกับเขาเอง มันเป็นอย่างแรกใช่ไหม พ่อรู้จักลูกดี" ถ้าคำตอบของลูกคืออย่างแรก เขากับบ้านนั้นคงได้แตกหักกันไปข้าง
คำถามของบิดาทำให้เธอตอบทันที
"มันเป็นอุบัติเหตุค่ะพ่อ เพนนีคิดว่าป้องกันแล้ว กินยาคุมฉุกเฉินแล้ว ไม่น่าจะท้อง"
บิดาของปทิตาทรุดนั่งลงบนโซฟา
"ลูกรู้ไหมว่าตอนเกิดเรื่องอาของลูกแล้วมีปัญหาเรื่องเอาอัฐิไปวางข้างเคียงกันกับคนรักที่เป็นคนฝั่งนั้น คนพวกนั้นไม่ยอมแล้วเขาสาปส่งบ้านเราว่ายังไง... เขาบอกว่าหากมีครั้งต่อไปขอให้เราเป็นคนโดนกระทำ เราจะได้เข้าใจความสูญเสียของฝั่งเขา"
สีหน้าของบิดาดูเจ็บปวด แต่ท่านไม่ได้ต่อว่าเธอสักคำ เพราะเชื่อมั่นในตัวเธอ
"เป็นไปได้ไหมเพนนีว่าเขาจะให้หลานชายของเขามากระทำกับหนูเพื่อแก้แค้น"
"มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ค่ะพ่อ"
"อุบัติเหตุหรือความจงใจของคนพวกนั้น"
"เรื่องมันเกิดเพราะว่าเพนนีไปงานฉลองปิดกล้องกับเพื่อนแล้วเมาค่ะ เขาก็เมา เลยเกิดความพลั้งพลาดขึ้น แต่หลังเกิดเหตุ เขายังคิดด้วยซ้ำว่าเราไปหาทางเกาะเขาเพื่อดัง เพื่อให้เป็นข่าวเยอะๆ จะได้มีงาน"