bc

กับดักรักสุภาพบุรุษมาเฟีย

book_age18+
446
ติดตาม
1.2K
อ่าน
เศรษฐี
เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
แต่งงานตามสัญญา
เย่อหยิ่ง
แบดบอย
สุขนาฏกรรม
ชายจีบหญิง
โลกความเป็นจริง
ยังบริสุทธิ์
seduction
like
intro-logo
คำนิยม

“ณัชชา” เขาเรียกเธอเสียงแหบพร่า มือใหญ่สะกิดตะขอชุดชั้นในลูกไม้แสนหวานแล้วเลื่อนลูบไล้ยอดอกที่เป็นอิสระอย่างเบามือแต่แสนเย้ายวนจนร่างเล็กไม่อาจนั่งนิ่งบนตักของเขาได้

“ได้โปรดเถอะ”

ชายหนุ่มจูบเธออีกครั้งพร้อมส่งลิ้นร้อนๆ ปรนเปรอเธอจนร่างกายเธออ่อนระทวย เมื่อร่างกายของเธอไม่ปฏิเสธสัมผัสของเขา ใบหน้าหวานแดงกล่ำด้วยความเขินอายและอารมณ์รัญจวนที่เขามอบให้ เธออยู่บนตักเขาและรู้สึกได้ถึงความปรารถนาของเขา

“คุณสวยเหลือเกิน สวยเกินกว่าที่ผมคิดไว้มาก”

“อันโตนิโอ...” เธอละล่ำละลักเรียกชื่อเขาเหมือนคนสำลักน้ำ

“ทำใจให้สบายที่รักของผม”

ทุกสิ่งที่เขาทำมันสร้างความรัญจวนให้เธออย่างแสนสาหัส ร่างกายเรียกร้องเขาอย่างที่ธรรมชาติสร้างให้เป็น แต่เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนแม้กระทั่งกับคนรักที่คบกันมาสองปี สิ่งที่รักและหวงแหนไว้ในคืนวันแต่งงานตอนนี้ได้มอบให้เขาอย่างเต็มใจ หากพรุ่งนี้เธอต้องจากเขาไปก็ไม่มีอะไรให้เธอรู้สึกผิดหรือเสียดายอีกแล้ว ร่างกายเธอเหมือนถูกแผดเผาด้วยความร้อนแรงของเขาและเฝ้ารอการเติมเต็มด้วยหัวใจ

“ที่รักของผม”

อันโตนิโอ ซิวีลิอาโน่ เคยคิดว่าหัวใจเขาคงเป็นก้อนหินไม่รับรู้หรือรู้สึกใดๆ อีก แต่เมื่อได้มาพบเธอ ‘ณัชชา’ เธอละลายกัดกร่อนหัวใจหินผาของเขาได้ ณ นาทีนี้เขารู้ชัดแล้วว่าไม่อาจปล่อยเธอไปจากเขาได้อีกไม่ว่าเขาจะมีคนรักหรือไม่ เขาก็จะยอมทำทุกวิถีทางที่จะรั้งเธอไว้

แม้จะเป็นวิธีที่เห็นแก่ตัวที่สุดก็ตามที

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่1. อันโตนิโอ ซิวีลิอาโน่
ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มเอนหลังพิงเก้าอี้ในร้านกาแฟของโรงแรมชื่อดัง แม้จะอยู่ในมุมส่วนตัวแต่กระนั้นเขาก็ยังตกเป็นเป้าสายตาของสาวๆ ที่แอบมองและหวังว่าเขาจะเงยหน้าจากจอสี่เหลี่ยมขนาดฝ่ามือ ไม่กี่นาทีต่อมาชายหนุ่มร่างสูงอายุน้อยกว่าก็เดินเข้ามาใกล้แล้วแตะไหล่เบาๆ เป็นเชิงทักทาย  เขาจึงหยุดความสนใจสิ่งตรงหน้า ถอดแว่นตาสีชาออกเผยดวงตาสีเทาเข้มแล้วยิ้มให้น้องชาย “ไหนลูกน้องผมบอกว่าพี่มาพักผ่อน นี่แค่นั่งรอผมไม่กี่นาทีก็ยังทำงานเลย” ชายหนุ่มวัยสามสิบเก้าหัวเราะในลำคอเบาๆ ท่าทางอ่อนโยนผิดกับน้องชายที่ดูขี้เล่นอารมณ์ดี “ก็นี่ไง กำลังพักผ่อนอยู่” “ผมว่าพี่แค่เปลี่ยนที่ทำงานมากกว่า” น้องชายไหวไหล่น้อยๆ แล้วมองไปในถ้วยกาแฟที่ว่างเปล่า “ไปกินข้าวที่บ้านผม ดีกว่า  จริงๆ เลยนะ บ้านผมก็หลังใหญ่ไม่ต้องมานอนโรงแรมก็ได้ หรือจะไปนอน บ้านฟรานเชสโก้ ก็ได้” “อย่าให้ฉันต้องทำให้พวกนายสองคนต้องลำบากเลย” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนขยับเสื้อให้เข้าที่แล้วเดินตามน้องชายออกมา ราฟาเอล ส่ายหน้าระอาใจแต่สายตาของเขาก็ยังสังเกตเห็นสาวๆ มองพวกเขาทั้งสองคนกันเรียกว่าคอแทบเคล็ด   แต่เป็นเมื่อก่อนเขาคงรู้สึกดีแต่เดี๋ยวนี้เขาเฉยชากับเรื่องแบบนี้เสียแล้ว  อาจเพราะตั้งแต่แต่งงานจนมีลูกชายตัวน้อย มันก็ทำให้เขาละทิ้งนิสัยคาสโนวาไปหมดสิ้น แต่กระนั้นเขาก็เผลอยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงภาพชายหนุ่มสามพี่น้อง ราฟาเอล,ฟรานเชสโก้และอันโตนิโอ แห่งตระกูล ‘ซิวีลิอาโน่’ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นมาเฟียศตวรรษที่ 21 แห่งอิตาลี “ลูกชายพี่อยู่กับจอร์จี้ลูกชายผม ผมว่าพี่น่าจะอยู่เมืองไทยนานๆ หรือไม่ก็ให้อลองโซอยู่กับผมสักระยะก็ได้ เผื่อว่าอาการจะดีขึ้น” ขณะที่มือใหญ่ผลักบานประตูของร้านกาแฟ ร่างเล็กๆ บอบบางก็ยืนมือผลักเข้ามาพร้อมกัน เธอเสียหลักเล็กน้อยแต่ทรงตัวได้ เอกสารหอบใหญ่ในมือเกือบหล่นหลุดมือแต่โชคดีที่ชายหนุ่มรวดเร็วพอจะช่วยประคองไว้ก่อนที่จะหล่นลงมา “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเบาๆ เธอยิ้มให้เขานิดหนึ่งแล้วรีบหอบเอกสารเดินเข้าไปด้านใน  อันโตนิโอเหลียวมองจนเห็นว่าหญิงสาวแปลกหน้าในชุดแสนเชย กระโปรงยาวเลยเข่ากับรองเท้าส้นเตี้ยเดินไปนั่งที่มุมหนึ่งของร้านซึ่งมีชายสูงวัยท่าทางคล้ายอาจารย์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว “รู้จักเหรอ” ราฟาเอลเอ่ยถามเมื่อเห็นพี่ชายหยุดเดิน เขามองตามสายตาของพี่ชาย หญิงสาวที่มีบุคลิก ‘นอกสายตา’ อันโตนิโอไหวไหล่แล้วเดินไปแตะไหล่น้องชายเบาๆ แทนคำตอบว่าไม่มีอะไร เขาอยู่กรุงเทพฯ แค่ไม่กี่วัน จริงๆ เขาแค่มาตรวจสอบและเป็นหูเป็นตาแทนผู้เป็นบิดา ลูกชายคนกลางและคนเล็กแต่งงานย้ายออกมามีครอบครองของตัวเองเป็นอยู่อย่างไร แม้บิดาของเขาจะไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของลูกๆ แต่ด้วยความเป็นพ่อก็อดเป็นกังวลไม่ได้             อันโตนิโอ ซิวีลิอาโน่ หนุ่มใหญ่วัย 39 ปีเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลได้แต่ถอนหายใจหนักๆ เด็กวัยสิบขวบควรจะร่าเริงสดใสแต่สำหรับ อลองโซ ลูกชายคนเดียวของเขากลับนิ่งเงียบแม้กระทั้งผู้เป็นพ่ออย่างเขา            สามปีแล้วที่เป็นอย่างนี้นับตั้งแต่วันที่ภรรยาของเขาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์และในรถคันนั้นมีอลองโซอยู่ด้วย ลูกชายวัยเจ็ดขวบบาดเจ็บสาหัสต้องอยู่ห้องไอซียูนานนับสัปดาห์จึงพ้นขีดอันตรายแต่เมื่ออลองโซฟื้นขึ้นเขากลับกลายเป็นคนไม่พูดไม่จาไม่เล่นซนตามประสาเด็ก เขาพยายามรักษาทุกวิถีทาง หมอที่ว่าเก่งหรือค่ารักษาแพงแค่ไหนเขาก็พาลูกชายไปรับการรักษา  แต่ทุกรายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลกระทบจิตใจของลูกชายอย่างรุนแรงจนกลายเป็นคนเก็บตัวไม่พูดเช่นนั้น ชายหนุ่มฝืนยิ้มเศร้าให้โชคชะตาตัวเอง ขอความเศร้าทุกข์ระทมมารวมที่ตัวเขาเขาก็ยอมได้ เขายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อได้ลูกชายที่น่ารักร่าเริงคนเดิมกลับคืนมา.   .................. บทที่1.  “ศาสตราจารย์เฉลิมชัยค่ะ” “อ้าว มาแล้วเหรอ นั่งลงซิ” “ขอบคุณค่ะ” ณัชชา อาภาภัทร บรรจงวางเอกสารหอบโตที่เธอประคองมาลงบนโต๊ะกาแฟ ชายชราวัยหกสิบช่วยเลื่อนแก้วกาแฟของตนเองและจานใบเล็กที่มีเค้กชิ้นน้อยวางอยู่เพื่อให้บนโต๊ะมีพื้นที่พอจะวางของที่เธอหอบมา เมื่อเธอจัดการวางเอกสารกองโตได้สำเร็จก็นั่งลงที่เก้าอี้ว่างตรงข้าม นิ้วเรียวขยับแว่นสายตากรอบหนาให้ชิดใบหน้าและจ้องมองอีกฝ่ายด้วยใจจดจ่อ     “ต้องขอบใจเธอมากเลยนะที่อุตส่าห์เอามาให้ฉันถึงที่นี่” “ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ “ศาสตราจารย์ตรวจสอบดูก่อนไหมคะ ว่าครบตามที่ต้องการหรือเปล่า” “ไม่เป็นไร” ชายชราท่าทางใจดีโบกมือไปมา “ทำงานกันมาตั้งหลายปีแค่นี้ฉันดูออกว่าเธอคงขนมาหมดที่ฉันต้องการ” “ค่ะ” เธอยิ้มรับคำชม “ฉันไปประชุมที่โตเกียวสองอาทิตย์ ถ้ายังไงก็ฝากรดน้ำต้นไม้ในห้องทำงานฉันด้วยนะ” “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ หนูจัดการให้ได้ไม่มีปัญหาค่ะ” “นั้นซินะ ฉันจะต้องห่วงทำไมมีเธอเป็นผู้ช่วย ฉันสบายตัวขึ้นเยอะ” ศาสตราจารย์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เออ...จริงซิ วิทยานิพนธ์ที่เธอส่งมาใช้ได้เลยนะ มันยอดเยี่ยมมาก ความรู้ความสามารถอย่างเธอเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาได้สบายๆไม่น่าจะเป็นแค่บรรณารักษ์หรือทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยฉันก็ได้” “ศาสตราจารย์ก็รู้ว่าหนูมีปัญหาการสื่อสารกับคนอื่น” ชายชราพยักหน้าเข้าใจ “ฉันหวังว่าการไปเที่ยวอิตาลี่จะเปลี่ยนบุคลิกของเธอได้นะ” “หนูก็หวังอย่างนั้นค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม “หนูต้องขอบพระคุณที่ศาสตราจารย์ช่วยรับรอง ทำให้หนูได้วีซ่าง่ายและเร็วมากค่ะ” “วีซ่าท่องเที่ยวไม่ยุ่งยากอะไรหรอก” ศาสตราจารย์เอื้อมมือไปยกกาแฟขึ้นดื่ม “จะดื่มอะไรสักหน่อยไหม อีกสักเดี๋ยวลูกสาวฉันก็จะมารับไปสนามบินแล้ว” “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหนูขอตัวกลับก่อน” “งั้นก็ตามสบายเลยนะ แต่ฉันอยากให้เธอทบททวนข้อเสนอของฉันอีกครั้ง เอาไว้เธอไปเที่ยวให้สบายใจกลับมาแล้วค่อยให้คำตอบก็แล้วกัน” หญิงสาวอยากจะยืนยันคำเดิมแต่ไม่กล้าปฏิเสธตรงๆ จึงได้แต่ก้มหน้ารับคำ เธอยกมือไหว้อีกครั้งกล่าวลาแล้วเดินออกมาจากร้านกาแฟในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอได้แต่ยิ้มขำให้กับตัวเอง ปกติเธอชงกาแฟกินเองไม่ค่อยได้ใช้บริการร้านกาแฟ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเอาเอกสารสำคัญที่ศาสตราจารย์ลืมไว้มาให้ที่นี่         เธอคงไม่มีโอกาสได้เข้ามาสถานที่แบบนี้หรอก ณัชชาถอนหายใจเบาๆ  เธอมองตัวเองในกระจกเงาหน้าร้านขายของที่ระลึกร้านหนึ่งใกล้ประตูทางออก ภาพหญิงสาวผอมบางผมยาวถักเปียหลวมๆ สวมแว่นตากรอบหน้ากับเสื้อผ้าเชยๆ ดูจะเป็นสิ่งคุ้นตาที่เธอก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง         จะเอาอะไรกับชีวิตเด็กที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ผ่านมาเธอหวังแค่มีข้าวให้กินอิ่ม  มีที่ให้ซุกหัวนอน มีผ้าห่มอุ่นๆ นั้นก็มากพอแล้ว เธอแค่อาศัยที่ตัวเองมีความพยายาม มุ่งมั่นกับการศึกษาได้ทุนเล่าเรียนเสมอมา จนตอนนี้เธอทำงานเป็นบรรณารักษ์ในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เธอเลือกที่จะอยู่กับหนังสือกองท่วมหัวมากกว่าพบปะพูดคุยกับผู้คน มันเป็นนิสัยเสียที่แก้ไม่หายจนเธอเองก็อ่อนใจ เธอเข้ากับใครไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยกล้าพูดคุยกับใคร ทำให้เธอไม่มีเพื่อนสนิท ชีวิตเธออยู่ในห้องสมุดมาตั้งแต่เด็กๆ มันเหมือนเป็นสถานที่วิเศษที่เธอหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก นั้นเป็นเหตุผลให้เธอเรียนมาทางด้านภาษาศาสตร์และเลือกที่จะทำงานในห้องสมุดแต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้ทำงานพิเศษเพิ่มคือการเป็นผู้ช่วยนักวิจัย ชีวิตโดดเดี่ยวอย่างเธอถ้าไม่ทำงานก็ไม่รู้จะเอาเวลาไปทำอะไร เธอไม่ชอบเที่ยวเตร่ ไม่ชอบดูหนัง ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนจะเห็นเธอเหมือนยุ่งตลอดเวลา เพราะถ้าเธอยู่นิ่งเมื่อไหร่ ความเหงาก็จะเข้ามาเกาะกินหัวใจ.   

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
26.4K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.1K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
7.1K
bc

กระชากกาวน์

read
8.0K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
15.3K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
6.2K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook