หลังจากปะทะฝีปากกับเจ้าของไร่วันนั้น...ปารวียิ่งต้องใช้ความพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา เพราะเขามักหาเรื่องมาดักกวนประสาทหญิงสาวได้ทุกวัน แต่หญิงสาวก็รอดมาอย่างหวุดหวิดทุกครั้งเหมือนกัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของเธอ ในการใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่แห่งนี้ ถ้าเจอเขา...มันได้เรื่องทุกทีสิน่า
“พี่กลับก่อนนะน้องรษา” หญิงสาววางมือจากผ้าเช็ดจานที่เธอช่วยใบบัวเช็ด ตั้งแต่รษากลับมา ในครัวก็เป็นเหมือนที่ชุมนุมของเปรี้ยวของสาวๆ
“ทำไมรีบกลับล่ะคะ” รษาร้องถาม
“พี่ไม่อยากเจอหน้าเจ้าของไร่ แค่ในเวลางานก็มากพอแล้ว น้องรษาเข้าใจพี่นะ” หญิงสาวยิ้มอ่อน บอกเสียงนุ่ม
“ค่ะ” รษาพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอกลับมาอยู่เพียงสองวันก็ได้ข้อมูลละเอียดยิบจากใบบัวสาวใช้ เธอก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ปารวีอีก
‘หลบคนปากร้ายให้ทันก็แล้วกัน...ปารวี’
ปารวีบอกกับตัวเองเบาๆ อยู่ในไร่หญิงสาวก็เลี่ยง พอเขาเข้ามาในบ้าน หญิงสาวก็จะออกหลังบ้านทันที เขากลับเร็ว หญิงสาวก็ออกเร็วตาม ปารวีอยู่ที่นี่อย่างเป็นสุขดี ถ้าเธอไม่ได้เจอเขาสักคน แล้วเธอก็คิดถูก...การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดีมันก็เพียงพอแล้ว
ตั้งแต่เมธาวีไปทำงานที่ไร่ชา งานที่มีมากมายผู้จัดการธนินทิ้งให้ทำ จนเธอไม่มีเวลามาสนใจหาเรื่องหญิงสาวมากนัก จะเรียกว่าไม่มีเวลามาสนใจก็ว่าได้ เวลาทั้งหมดเธอแทบจะอยู่ที่ไร่ ก็เป็นผลดีกับปารวีอย่างหนึ่ง
แต่เมธาวีก็รุกพ่อเลี้ยงหนุ่มหนักกว่าเดิมหลังจากได้ยินคำพูดที่ออกจากปากเขาวันนั้น...เธอก็คิดไปไกล
ในโรงงาน...พ่อเลี้ยงธามส์กำลังให้คนงานตรวจเช็กเครื่องจักรก่อนเดินสายจริง ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กันงานตรงหน้า ตัวพ่อเลี้ยงหนุ่มก็มีสีหน้าคร่ำเคร่ง แววตาซ่อนความรู้สึกได้มิดชิด เขาเป็นผู้นำไร่แห่งนี้ ต้องควบคุมดูแลคนงานนับร้อย เขาจะปล่อยให้คนอื่นรับรู้อาการของเขาไม่ได้
“พี่ธามส์คะ เมนี่เอารายการสั่งซื้อมาให้พี่ธามส์ดู” เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกทันที
“ไม่ใช่หน้าที่ของเธอไม่ใช่หรือเมธาวี ทุกทีจะเอาไปวางไว้ที่โต๊ะในสำนักงาน เอามาแล้วก็วางไว้ตรงนั้นแหละ แล้วก็กลับไปทำงานของเธอต่อได้แล้ว ดูเสร็จจะให้คนงานเอาไปให้ที่สำนักงาน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเข้ม เขาไม่ชอบความวุ่นวาย ไร้ระบบ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ระบบงานก็ต้องเป็นระบบเดียวกัน
เมธาวีเก็บความรู้สึกเสียหน้าและไม่พอใจเอาไว้ในใจ เขาหักหน้าเธอต่อหน้าพนักงานในโรงงาน เธอวางแฟ้มเอกสารตามที่พ่อเลี้ยงหนุ่มบอก แล้วเดินออกไป
“คอยดูเถอะ ฉันจะเอาคืนให้เจ็บแสบทั้งพี่ทั้งน้องเลย คนพี่ก็เล่นตัวตั้งแต่หนุ่มยันจะแก่ คนน้องก็เอาแต่ใจ ชอบกดหัวคนอื่น” หญิงสาวบอกกับตัวเองด้วยความมุ่งมั่น
ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำกำลังลับแสงอัสดง เจ้าของไร่ยืนอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ยๆ
“ปารวี” ชายหนุ่มหลุดชื่อหญิงสาวที่อยู่ในโฟกัสสายตาออกมา บ่อยครั้งเขาเห็นเธอมายืนเหม่ออยู่ที่นี่หลังเวลาเลิกงาน แต่ทุกครั้งที่เจอหน้า เขาก็อดปากเสียไม่ได้สักที
พ่อเลี้ยงหนุ่มยืนมองเธอจากมุมสูงของไร่...เขารู้ว่าอีกคนจงใจหลบเลี่ยงเขา แต่เธอมักยืนคุยหัวเราะอยู่กับก้องหล้าผู้จัดการไร่ หรือแม้กระทั่งคนงานในไร่ที่เดินสวนทางมา เธอก็หยุดทักทายด้วยรอยยิ้มเสมอ และนั่นทำให้เขาหงุดหงิดในสายตาทุกครั้งอย่างไม่รู้สาเหตุ
น้องสาวศัตรูที่เขาเกลียดและจงใจกลั่นแกล้งให้เธอทนไม่ไหว แต่เธอกลับหน้าด้านยิ้มระรื่นอยู่ในไร่อย่างมีความสุข คนที่หงุดหงิดกลับเป็นเขาเสียเอง
ที่ผ่านมา...เขาก็รู้ว้าแกล้งแรงไปบ้างในบางครั้ง ทั้งให้อยู่บ้านพักคนเดียวในตอนแรก ที่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรเลย เพียงเพราะต้องการให้เธอเจ็บปวดและลำบาก ให้พี่ชายของเธอจะได้รู้สึกเหมือนเขาบ้าง แต่ก็ไม่น่าเชื่อ...ว่าคนอย่างเธอจะทนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เขาคิดว่าเธอจะเผ่นแน่บตั้งแต่วันแรกเสียอีก
ภาพทั้งหมดของพ่อเลี้ยงธามส์ไม่รอดพ้นสายตาของเมธาวี เธอกำหมัดแน่นอย่างเคียดแค้น
‘เป็นอย่างนี้เอง...ทำเป็นเกลียด แกล้งเขาต่างๆ นานา แต่ก็มายืนแอบมอง’
“หมดมัดมุกคนรักเก่าที่เป็นเสี้ยนหนามไปคนหนึ่งแล้ว ยังเหลือปารวีเป็นมารหัวใจของฉันอีกคนหรือนี่ เห็นทีฉันจะต้องทำอะไรเธอสักอย่างแล้ว ปารวี...คนในไร่ชักจะชื่นชมเธอมากไปแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอมีความสุขได้นานหรอก ฉันจะต้องเอาคนของฉันคืน คนที่ฉันเฝ้ารัก เฝ้ารอตั้งแต่เพิ่งแตกเนื้อสาว...จะไม่มีใครชนะฉันได้”
เมธาวียิ้มร้ายสาวเท้าเข้าไปหาพ่อเลี้ยงหนุ่มทันที
“เย็นมากแล้ว พี่ธามส์ยังไม่กลับบ้านอีกหรือคะ มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ” หญิงสาวเดินเข้ามาทัก สายตาก็มองไปยังเป้าเดียวกับสายตาของชายหนุ่ม
“แล้วเราล่ะ มาทำอะไรตรงนี้ ได้เวลากลับบ้านแล้วไม่ใช่หรือ” ชายหนุ่มตอบกลับ แต่ก็ไม่ละสายตาจากหญิงสาวอีกคนที่มองอยู่ก่อนหน้านั้น หญิงสาวไม่ตอบคำถาม ทว่าเธอเปลี่ยนเรื่องไปอีกอย่าง
“นั่นพี่รวีนี่คะ...น่าอิจฉาจังนะคะ มาอยู่ที่ไร่ได้ไม่นาน ก็มีเพื่อนคุยหลายคน วันก่อนก็เห็นคุยกับหัวหน้าคนงาน หยอกล้อต่อกระซิกเหมือนสนิทกันมานาน ไม่รู้ว่าไปรู้จักมักจี่สนิทสนมกันตอนไหน เธอคงจะไม่เบื่อที่ต้องมาอยู่ที่ไร่อย่างนี้ เห็นปั่นจักรยานทักคนงานไปทั่วไร่ ต่างกับเมนี่...ทั้งที่รู้จักไร่นี้มานาน แต่พอได้มาอยู่จริง หลังเลิกงาน เมนี่กลับไม่มีที่ไป ไม่รู้จักใครมากไปกว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันแล้วก็คนที่บ้าน รษาก็มัวแต่ให้ความสนใจน้องสามีจนลืมเพื่อน เมนี่เลยต้องมายืนเหงาอยู่อย่างนี้”
“อืม!” ชายหนุ่มแค่รับคำเบาๆ แล้วก้าวออกไปจากตรงนั้นทันที
ในใจครุ่นคิดอย่างคล้อยตาม เขาสลัดความรู้สึกบางอย่างออกจากความคิด
‘ไม่ได้! เขาจะมีความรู้สึกแบบนั้น...กับน้องสาวศัตรูเบอร์หนึ่งไม่ได้เด็ดขาด หน้าที่ของเขาคือต้องทำให้พี่ชายของเธอได้รับบทเรียน ได้เจ็บปวดอย่างที่เขาได้รับ’
เมธาวีมองตามหลังอย่างหงุดหงิด หากแต่ก็ยิ้มออกมาอย่างมีแผน เมื่อเห็นอาการพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างเมื่อครู่ เธอก็รู้ว่าจะต้องสุมไฟในหัวใจชายหนุ่มคนนี้อย่างไร
เธอจะทำทุกทางเพื่อกำจัดทุกคน ที่สุดจะหลงเหลือเธอเพียงคนเดียวที่ยืนเคียงข้างเขา ในฐานะของแม่เลี้ยงของไร่ปกรัก