“รษาขอบคุณพี่รวีมากเลยนะคะ ขอบคุณที่ยอมมาช่วย ขอบคุณที่ยอมลำบาก”
ปารวีรับคำพร้อมกับรอยยิ้มที่มีให้พี่สะใภ้อย่างอ่อนโยน... “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ”
“พี่รวีไปทานข้าวเย็นด้วยกันสิคะ” รษาเอ่ยปากชวน เมื่อครู่เธอไม่ได้แวะที่บ้านก่อนเพราะรู้ว่าพี่ชายยังไม่กลับมา ขับรถตรงดิ่งมาหาปารวีที่บ้านพักก่อน
“พี่เรียบร้อยแล้วละจ้ะ ขออยู่ที่นี่สักพัก”
“งั้นรษากลับก่อนนะคะ เรื่องบ้านพักพี่รวีลองคิดอีกทีนะคะ”
ปารวียิ้มรับอย่างอ่อนโยน ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปากของเธอ กระทั่งรษาเดินออกไป
ปารวีเดินเลยไปที่ผาห่มปกท้ายไร่กุหลาบ เธอมาเกือบทุกวันหลังจากเลิกงาน เธอรู้สึกอบอุ่น สบายใจอย่างประหลาดเมื่อมายืนอยู่ที่นี่ ภูผาหินที่ยื่นออกไปในหุบเหวลึก เธอชอบมายืนมองพระอาทิตย์ตกดิน มันคงเป็นที่เดียวที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ไม่ว้าเหว่มากนัก เมื่อต้องมาอยู่ที่ไร่แห่งนี้
ก้องหล้าเพื่อนเพียงคนเดียวที่ไร่ของเธอ เขาก็ดูเงียบไปในพักหลัง ไม่มาคุยกับเธอบ่อยเหมือนอย่างที่เคยเป็น คงจะยุ่งเรื่องโรงงาน เหมือนกับเจ้าของไร่ ใบบัวเคยบอกเธอไว้อย่างนั้น
“นึกว่าจะเอาเวลาไปแต่งตัวยั่วผู้ชายเสียอีก มาทำอะไรตรงนี้ล่ะ หรือว่านัดใครไว้ที่นี่ ลับตาคนดีนะ มาอยู่ไม่นานก็เลือกที่ได้เหมาะดี” ปารวีหันกลับมามองหน้าเขา และเดินออกไปจากตรงนั้นทันที อารมณ์สุนทรีของเธอสั้นหดลงไม่เหลือ ตั้งแต่วินาทีที่เขาโผล่หน้ามาแล้ว คนอย่างนี้...ยิ่งต่อความยาวไปก็ยิ่งมากคำพูด
เมื่อครู่เขาคงคลาดกับน้องสาว ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เจอเขาที่นี่...ในเวลานี้
ทันทีที่ได้เจอหน้าเจ้าของไร่ ความอบอุ่นที่เคยได้รับจากที่นี่ วันนี้มันดูแตกต่างและเปลี่ยนไปในความคิดของเธอ มันคงจะเป็นดวงซวยของเธอมากกว่าสินะ อุตส่าห์หนีออกมาก่อน เพราะไม่อยากเจอหน้า แต่ก็ตามมาเจอจนได้สิน่า
“จะไปไหนล่ะ คุยกับนายจ้างหน่อยไม่ได้หรือไง” คนที่เดินเข้ามาใหม่ถามอย่างยียวน
“ไม่ว่างค่ะ”
“ว่างแต่กับคนอื่นใช่ไหม อาทิตย์หนึ่งที่ฉันไม่อยู่ได้ข่าวว่าจัดคิวไม่ถูกเลยนี่ ทั้งหนุ่มผู้จัดการ ทั้งคนงาน”
“มันเรื่องของฉันหรือเปล่า”
“ฉันแค่อยากเตือนไว้ก่อน ไม่อยากให้คนในไร่มาวุ่นวายเพราะผู้หญิงคนเดียว”
“เก็บปากสุนัขๆ ของคุณไว้เห่าที่อื่นเถอะ! ฉันไม่ใช่ใบตองแห้ง” หญิงสาวตอบกลับ ว่าแล้วเธอก็สาวเท้ายาวๆออกจากตรงนั้นไปทันที ไม่ฟังแม้แต่เขาสั่งให้เธอหยุดเดิน ถ้าคนที่เธอเฝ้าคำนึงมาตลอดหลายปี แต่เขากลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอวาดฝันเอาไว้ เธอก็ควรจะยอมรับความเป็นตัวตนของเขา หรือไม่...ก็ต้องตัดใจ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ กล้าดีอย่างไรมาด่าเจ้าของไร่ หา!...หรือว่าจะรีบไปทำงานถนัด...วันนี้นัดใครที่ไหนอีกล่ะ” คนตัวโตร้องตามไม่วายปากเสีย แต่อีกคนก็ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองสักนิด เขาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ ไม่เคยชนะผู้หญิงคนนี้ได้เลยสักครั้ง
คนที่โดนเรียก กำมือแน่นด้วยความโมโห เธอต้องระงับโทสะไว้ให้ถึงที่สุด หันกลับไปตอบกลับอย่างเจ็บแสบไม่แพ้กัน
“เก่งนี่...รู้ด้วยว่ากำลังด่า...แต่ว่าฉันจะไปนัดผู้ชายไว้ที่ไหนก็ไม่หนักพื้นที่ปลูกผมของใคร เพราะนี่ไม่ใช่เวลางาน” พูดจบหญิงสาวก็สะบัดหน้าพรืดเดินออกไปทันที
“เธอยังไม่รู้จักฉันดีพอใช่ไหม...” ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวบอกตามหลังไป ทว่าอีกคนคงไม่ได้ยินเพราะเธอเดินออกไปไกลลิบ
ชายหนุ่มเดินหัวเสียกลับมาบ้านพัก แต่ทว่าก็เจอน้องสาวยืนกอดอกรออยู่อย่างร้อนใจ พอเห็นหน้าพี่ชาย รษาก็เปิดฉากถามทันที “พี่ทำไมต้องให้พี่รวีไปพักที่บ้านพักคนงาน” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามเดินเลี่ยงเข้าไปในบ้านก่อน
“พี่ธามส์!” คนเป็นน้องขึ้นเสียง
“ใครไปฟ้องอะไรอีกล่ะ...หรือว่าแม่นั่นโทรไปฟ้องพี่ชาย พี่มายังไม่ถึงชั่วโมงเราก็ตามมาถึงนี้”
“พี่รวีเขาไม่ได้เป็นคนอย่างนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าพี่รวีบอก...รษาคงมาจัดการเรื่องให้จบตั้งแต่วันนั้นแล้ว ไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาถึงป่านนี้หรอก” คนเป็นพี่ชายยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“แล้วไง! เจ้าตัวเขายังไม่เดือดร้อนเลย แล้วเราจะมาว่าพี่ทำไม เขาเป็นผู้ช่วยพี่ เขาก็ต้องทำตามทุกอย่างที่พี่สั่ง”
“แต่พี่ให้พี่รวีพักเรือนคนงาน...มันเกินไปหรือเปล่า เมธาวี...พี่ยังให้มาพักที่บ้านได้เลย”
“มันคนละคน...ไม่เกี่ยวกัน แล้วเราไม่ต้องมายุ่งในเรื่องนี้ ปารวีเป็นคนของพี่ ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของพี่ ถ้าทนไม่ไหวก็คงลาออกเอง และพี่ก็ยังยืนยันคำสั่งเดิม”
“พี่อย่าเอาความเกลียดชังไปลงกับคนอื่น พี่รวีมาช่วยให้งานของพี่ง่ายขึ้น”
“เปล่า!” พ่อเลี้ยงธามบอกเสียงสูง “รษาก็รู้ว่าพี่ไม่ต้องการใครนอกจากรษา”
“โอเค จบที่แค่นี้ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก” รษาตัดบท
เมธาวีที่ยืนแอบฟังอยู่ข้างประตูก็เผลอยิ้มออกมา เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกจากปากเจ้าของไร่ พูดออกมาเต็มปากอย่างนี้...เธอก็มีหวัง พ่อเลี้ยงธามส์ไม่พ้นมือเธอแน่นอน
เห็นน้องสาวยอมจบแต่โดยดี พ่อเลี้ยงธามส์พยักหน้าหงึกๆ
“ว่าแต่เรา...จะมาถามแค่นี้ใช่ไหม พ่อคนดีสามีของรษายอมให้มาหรือ”
“รษาจะมาเริ่มทำงานแล้ว และจะมาค้างที่ไร่ด้วย กลับโรงแรมเฉพาะเสาร์กับอาทิตย์”
“อืม” คนเป็นพี่ชายพยักหน้ารับอีกครั้ง เตรียมที่จะเดินต่อเข้าบ้าน
“รษาอยากให้พี่รวีมาค้างที่บ้านด้วย”
“พี่ห้ามไม่ได้อยู่แล้วนี่...ตามใจเราเถอะ ถ้าคนที่เราอยากให้มาเขายอมนะ แต่เท่าที่พี่รู้จัก...คนดีของรษาคงชอบอยู่ที่นั่น จะได้เริงร่ากับผู้ชายในไร่ได้สะดวก” เจ้าของไร่ตอบกลับไป แล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องทำงานไป ไม่เว้นช่องให้น้องสาวได้ถามถึงเรื่องงานของปารวีต่อ
“พี่ไปได้นิสัยปากร้ายมาจากที่ไหนกันนะ” คนเป็นน้องตะโกนถามตามหลังพี่ชาย แต่เธอก็ได้เพียงความเงียบตอบกลับมาแทนเท่าได้