EP 5/4 รักที่ถูกลืม

987 คำ
เครื่องบินลำเล็กๆ ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าในช่วงสายของอีกวัน ทำให้มินตราอดแหงนหน้ามองไม่ได้ ไม่รู้ว่าบนนกยักษ์ลำนั้น จะมีเตชิณหรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะลำนี้ หรือลำไหนที่เขานั่งไป เธอก็ขอให้เขาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ชีวิตใหม่ของเขากำลังเริ่ม ชีวิตเธอก็เช่นกัน การทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศ ช่างต่างกับตอนที่เธอยังฝึกงาน มันไม่ได้สบายเหมือนตอนนั้น งานหนัก ทำจนเหนื่อย หัวหน้างานกดดัน ทว่ายังพอไหว แต่สิ่งที่เกินจะทนได้ นั่นคือเพื่อนร่วมงาน เมื่อสถานะเธอเปลี่ยนไป จากนักศึกษาฝึกงานเป็นพนักงานประจำ ความลำบากใจกายก็ตามมา การแก่งแย่งชิงดี การริษยา มันช่างหนักหนาเหลือเกิน ยิ่งเธอเข้าทำงานด้วยการแนะนำของรุ่นพี่ ทุกคนยิ่งมองว่าเธอเป็นเด็กเส้น สิ่งนี้ห้อยท้ายชื่อเธอ ไม่มีใครมองเธอที่ผลงาน แต่มองว่าที่เธอทำได้ดีเพราะมีรุ่นพี่หนุนหลัง ความสุขเดียวที่เธอมีคือตอนเลิกงาน กลับมาถึงบ้าน กินข้าวแกงที่ซื้อมา และนั่งดูซีรีส์ที่บางแอปฯ เปิดให้ดูฟรี ไม่ต้องเสียเงิน ชีวิตเธอวนเวียนไปเรื่อยๆ อยู่แบบนั้น เงินเดือนออกเดือนแรก เธอซื้อเบาะนอนใหม่ เอามาปูทับอันเดิม ให้มันนุ่มขึ้น ซื้อตู้เย็นหลังเล็กๆ ที่ผ่อนแบบสิบสองเดือน คำนวณทุกค่าใช้จ่ายว่าตัวเองจะผ่อนไหว ชีวิตใหม่ที่ไม่มีเตชิณก็พอจะอยู่ได้ แค่คิดถึงเขามากขึ้นเท่านั้นเอง แต่รู้ไหม โชคชะตามักเล่นตลกกับเราเสมอ ถึงงานจะหนัก ถึงคนที่ที่ทำงานจะทำให้เหนื่อยใจ เธอก็ยังสู้ไหว เธอทนได้ เธอจะขยันให้มากแล้วเลื่อนขั้นในหน้าที่การงาน แต่แล้วความหวังความฝันของเธอก็พังครืน ตอนที่เครื่องตรวจครรภ์มันขึ้นสองขีดจางๆ “ไม่นะ ไม่ใช่ตอนนี้สิ ไม่ใช่!” ช่างเป็นวันหยุดที่แสนหดหู่ เธอกำเครื่องตรวจครรภ์ไว้แน่น ไม่อยากจะเชื่อจนต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล และใช่...เธอท้องเข้าเดือนที่สองแล้ว เธอร้องไห้ต่อหน้าหมอ ความไม่พร้อมทั้งหลายถูกระบายกับคนที่ไม่รู้จัก หมอใจดีมาก หมอบอกว่า ถ้าเธอยังไม่พร้อม สามารถเอาเด็กออกได้ เธอจะทำอย่างไร เธอควรทำเช่นไร ควรจะเก็บเด็กไว้ไหม เธอไม่รู้อะไรเลย ในช่วงเวลาที่กำลังคิดหนักเพราะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ในชีวิต งานที่คิดว่ามั่นคงที่สุด กลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด โควิทมา และบางบริษัทจำต้องปิดตัวลง เธอนั่งอึ้งอยู่หลายชั่วโมง เมื่อพี่ที่ที่ทำงานบอกข่าวร้าย เธอจะได้รับเงินชดเชย แต่มันจะมากอะไร ในเมื่อเธอเพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงสองเดือนด้วยซ้ำ เงินเก็บร่อยหรอ เธอท้อจนอยากฆ่าตัวตาย เศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ห้างร้านปิดตัวลง งานหายาก และส่วนใหญ่ก็ไม่อยากรับผู้หญิงท้องเข้าทำงาน ความคิดที่ว่าจะบอก ผอ. นวลฉวีถูกตัดออกไป ถ้า ผอ. ตัดเธอทิ้งได้ง่ายๆ ลูกของเธอก็คงไร้ความสำคัญ “เอาละ...ต้องตัดสินใจแล้ว เธอเหลือเงินไม่มากแล้วมิน จะเอาไปฝากท้อง หรือว่าจะเอาไปทำแท้ง เธอต้องเลือกสักทาง” น้ำตามากกว่าหนึ่งหยดรินรดใบหน้า นอกเหนือจากเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เธอยังมีค่าห้องที่ต้องจ่ายภายในอาทิตย์หน้า เหมือนว่ายังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่รอให้แก้ไข และเธอก็ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร กระจกบานน้อยที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเตี้ยๆ ข้างผนัง กำลังสะท้อนภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่ใบหน้าซีดเซียว เธอแพ้ท้องหนัก กินอะไรไม่ได้และเอาแต่อาเจียน ใต้ตาเธอลึกโหล ปกติก็ไม่ใช่คนสวย พอกินไม่ได้ นอนไม่หลับ หน้าตาก็ยิ่งกว่าซูบโทรม “เธอยังไม่พร้อมนะมิน อนาคตดีๆ รอเธออยู่ เธอยังไม่พร้อมจะเป็นแม่ใคร เธอต้องเอาเด็กออก” แม้บอกตัวเองอย่างนั้น แต่น้ำตายังไหล แขนเล็กๆ ยังกอดท้องตัวเอง ร่ำไห้ในสิ่งที่ต้องเผชิญ เตชิณจะรู้ไหมว่าเธอกำลังลำบาก เขาจะรู้ไหมว่าได้ฝากเด็กคนหนึ่งไว้ในท้องเธอ มันเป็นเวรกรรมหรืออะไรก็ไม่รู้ แค่คืนนั้นคืนเดียว ทำให้เธอต้องมานั่งร้องระงมในตอนนี้ เธอไม่มีใครให้พึ่งพาแล้วจริงๆ ทำยังไงดี เธอควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี “บอก ผอ. ก็ไม่ได้ บอกพี่เต ยิ่งไม่ได้ใหญ่ มืดแปดด้านไปหมดเลย” มือน้อยปาดน้ำตาป้อยๆ ก่อนที่ใบหน้าของใครคนหนึ่งจะแวบเข้ามาในหัว “เฮียโต? ใช่...ต้องโทรหาเฮีย!” เธอกดโทรศัพท์หาเบอร์เฮีย แต่มันมีเสียที่ไหน นี่มันโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมาใช้ แต่ไม่เป็นไร เธอไปหาเฮียที่บริษัทก็ได้ เธอรู้จักที่ทำงานของเฮียนี่นา พอคิดได้อย่างนั้น ก็ลุกมาล้างหน้าล้างตา แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วออกจากห้องมาพร้อมกับเงินก้อนสุดท้าย เธอจะไปปรึกษาเฮียโตดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกที มินตรานั่งรถเมล์มาลงที่บริษัทที่โตมรทำงานอยู่ ตอนที่อยู่บนรถเมล์ เธอคิดละนะ คิดว่าจะกลับไปหาแม่ ให้แม่ช่วยเลี้ยงลูกให้ แต่พอคิดว่าลูกต้องโตมาเพื่อรับใช้คนพวกนั้นที่ไม่ได้รักแกเลย เธอก็เปลี่ยนใจ เธอไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องไปเป็นทาสรับใช้ใครอีกแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม