EP 1/1 ผู้หญิงของเตชิณ
อย่าเผลอใจ แต่งโดย อัญจรี
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ผู้มีจารีตมิควรหยิบยก คัดลอกแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ รวมทั้งการถ่ายทอด ถ่ายเอกสาร สแกน ถ่ายภาพ ในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ ทั้งปวงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
อย่าเผลอใจ
[1]
ผู้หญิงของเตชิณ
เส้นผมสีชมพูเหลือบทอง ช่างตัดกันกับหมอนสีเทาเข้มที่รองรับศีรษะอยู่ บุรุษที่มีเส้นเลือดเขียวเข้มปูดโปนอยู่บนหลังมือ กดหัวคนที่อยู่ใต้ร่างเขาจนจมหมอน เขากัดฟัน เพื่อดันกายแกร่งแห่งชายเข้าสู่ร่องรูของคนที่อยู่เบื้องล่าง เหงื่อเม็ดใหญ่ๆ ผุดซึมจากข้างขมับหยดย้อยลงที่ปลายคาง ปากหยักบ้างครางกระเส่า บ้างส่งเสียงซี้ดซ้าดระบายความเสียว
กิจกรรมเรียกเหงื่อยามเช้าตรู่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ต้องเป็นคู่ขาที่ถูกใจเขาจริงๆ ถึงจะได้มีโอกาส ‘ซ้ำอีกรอบ’ กับเขาอย่างนี้
กึกๆ กึกๆ กึกๆ
เสียงหัวเตียงชนเข้ากับผนังที่อยู่ข้างหลัง เมื่อ เตชิณ ส่งแรงไปหาคนใต้ร่างจนเตียงสั่น เขาอัดสะโพกโยกเข้าไปถี่ๆ ท่อนลำอวบใหญ่สอดเสยเข้าไปในกลีบร่องสีชมพูคล้ำด้วยเจ้าของใช้งานมันอย่างหนักหน่วง แต่เตชิณไม่ได้แยแส ตราบใดที่มันยังคับแน่นมากพอ เขาก็ยังสนุกกับมันได้ ข้างในโพรงเนื้ออุ่นของแม่สาวผมสีชมพูที่เขายังไม่รู้แม้แต่ชื่อ ยังตอดรัดเขาแน่น แม้ว่าจะสวมถุงยางอนามัยถึงสองชั้นก็ตาม
“โอ้ว! เบาๆ ช่วยเบาๆ ได้ไหม! อ๊า...ซี้ดดด...”
เสียงดังป้าบๆ ดังอยู่ไม่ขาดสาย หนอกเนื้อแห่งบุรุษกระทบกระแทกบั้นท้ายขาวผ่อง แต่กระนั้น เตชิณก็ยังไม่หยุดการกระทำ เขาจะหยุดได้อย่างไร มันหยุดไม่ได้ อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะถึงฝั่งฝัน ต่อให้อีกฝ่ายร้องครวญครางจะเป็นจะตายก็ไม่เป็นผลหรอก ยิ่งร้องดัง เขายิ่งแน่ใจ พวกหล่อนชอบจะตายที่ถูกเอ็นอุ่นๆ ของเขาเสียบเข้าไปอย่างนี้
“อู้ว์...” เขางัดแท่งทวนที่ถูกอาบทาด้วยน้ำหล่อลื่น ออกจากร่องรูแห่งความสาว ก่อนจะกดมันเข้าไปอีกครั้ง เสียบเสยเข้าไปซ้ำๆ ให้จังหวะแห่งการร่วมรัก เร่าร้อนอย่างที่สุด
เวลาเดียวกัน ที่โถงด้านนอกห้อง แสงตะวันยังไม่ขึ้นดี แต่ มินตรา หญิงสาวร่างอวบอิ่มใบหน้าเรียวรี ‘แต่ไร้ซึ่งความสวย’ ยืนถือถ้วยกาแฟอยู่ในส่วนของห้องครัวอย่างเกร็งๆ วันนี้เธอคงตื่นเร็วไป ‘ผู้ชายของเธอ’ เลยยังไม่เสร็จภารกิจยามเช้า หรือไม่ก็ แม่สาวที่เขาหิ้วกลับมาจากผับตั้งแต่เมื่อคืน คงถูกอกถูกใจ เขาเลยกินหล่อนอีกรอบ ก่อนจะลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส บางครั้งเธอก็สงสัยว่าเขาไม่เหนื่อยบ้างเหรอ เขาสามารถทำทุกอย่างทั้งหมดได้อย่างไร ทำไมถึงใช้ชีวิตได้คุ้มค่าอย่างนี้
กึกๆๆๆ
นั่นไง! เสียงนั่นมาอีกแล้ว เสียงหัวเตียงเขาชนผนังถี่ๆ เธอเคยได้ยินมาบ้าง ตอนมาอยู่ที่นี่ช่วงแรกๆ และพยายามอย่างยิ่ง ไม่ให้ตัวเองได้ยินมันอีก แต่ไม่สำเร็จ เพราะผู้หญิงที่ต้องตื่นมาใส่บาตรทุกวันพระ กับผู้ชายที่หื่นกามร่านแรดทั้งตอนก่อนนอนและตอนตื่น มันก็ต้องมีบ้าง ที่จังหวะชีวิตของพวกเธอต้องมาเจอกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
หรือตั้งใจก็ไม่แน่ เพราะเขาชอบทำเสียงดังจริงๆ นะ
อาหารที่เตรียมไว้ในตู้เย็นถูกหยิบออกมาอุ่น ก่อนจะใส่กล่องใส่ถุงแล้วหยิบลงถาดที่เตรียมไว้ เธอไม่ใช่คนอยู่ในศีลในธรรมอะไร ก็แค่รู้สึกว่าชีวิตมันบัดซบเกินไป เลยต้องหาทางสะสมบุญ เผื่อไง เผื่อว่าสวรรค์จะเห็นใจบ้าง เธอไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่ขอให้เรียนจบอย่างราบรื่นก็พอแล้ว และเธอก็กำลังจะทำสำเร็จ อีกไม่นาน เธอก็จะได้ย้ายออกจากที่นี่ ไม่ต้องอยู่ในสถานะประหลาดๆ ที่บางครั้งก็ทำให้เธออึดอัดใจ สถานะอะไรน่ะเหรอ
เอ....อะไรดีนะ...
ขณะที่มินตรากำลังคิดเพลินๆ ผู้ชายของเธอก็เปิดประตูออกมา เขาอยู่ในชุดเสื้อกล้าม มีผ้าผืนเล็กคล้องคอ เม็ดเหงื่ออาบร่างทั้งที่ยังไปไม่ถึงฟิตเนส แต่กระนั้นเขาก็ยังหล่อ หล่อมาก...หล่อแบบลืมหายใจ เขาสูงเกือบร้อยแปดสิบเซ็นฯ เนื้อตัวมีแต่มวลกล้ามเนื้อเพราะชอบออกกำลังกาย โครงหน้าขาวคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งแบบว่าโด่งมาก และเขามีดวงตาที่อาจทำให้สาวๆ ใจละลายเมื่อได้จ้องมอง ขนตาเขายาวและงอน นั่นทำให้ตาเขาสวยสะกดใจ ริมฝีปากเขาก็งาม งามนั่นแหละ มันเกินคำว่าสวยไปแล้ว เพราะสุขภาพเขาดี ปากเขาเลยสีแดงระเรื่ออยู่เสมอ เขาชอบดื่ม แต่ไม่สูบบุหรี่ และส่วนที่สำคัญที่สุด เขาไม่ได้หล่อเปล่าๆ แต่ฉลาดด้วย
ปีนี้เตชิณอายุยี่สิบหกปี จบ ป.โท ทำงานเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมาก บ้านเขาฐานะดี แม้ไม่ได้รวยหมื่นล้านแสนล้าน แต่ก็ยังจัดเป็นครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แม่เขาเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนสอนเด็กอนุบาลซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ค่าเทอมเด็กต่อคนต่อเทอมคือซื้อไอโฟนรุ่นล่าสุดได้อย่างน้อยสามเครื่อง
ส่วนพ่อของเขา นี่อาจเป็นส่วนด่างพร้อยเล็กๆ ในชีวิตก็ว่าได้ พ่อทิ้งเขาไปตอนเขาเรียน ม.ต้น
ทำไมเธอถึงรู้เรื่องพวกนี้น่ะเหรอ เพราะ ‘เฮียโต’ ไง แม่เธอเคยทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านเฮียโต เธอเลยได้รู้จักเฮียโตและเพื่อนอย่างพี่เต หรือเตชิณ บางครั้งแม่ก็กระเตงเธอไปด้วย เอาลูกไปใช้งานน่ะ แต่เธอโชคดีนะ พวกเขาไม่ได้รังเกียจเธอเลย ซ้ำยังเอ็นดูเธออีกต่างหาก บางทีคงจะสงสารละมั้ง เพราะตอนโตเธอขี้เหร่มากเท่าไหร่ ตอนเด็กๆ ก็คูณไปอีกสิบเท่า ตัวเตี้ย อ้วนดำ ดูแทบไม่ได้