24
เขาพลันชะงักทุกสิ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างกระทบกับแก้มของตน ก่อนจะขยับใบหน้าออกห่างดวงหน้าสาว มองหยาดน้ำอุ่นที่ไหลลงมาเคลียแก้มเนียนด้วยความรู้สึกผิด เห็นแล้วเสมือนมีดมากรีดอก
“รังแกเฟิร์นทำไม ทำแบบนี้ทำไม เฟิร์นไปทำอะไรให้ ฮือๆ”
สาวเจ้าร้องไห้ น้ำเสียงเครือเศร้าจนคนฟังใจไม่ดี ไม่รู้ว่าจะตอบเธอว่าอย่างไร คราแรกตั้งใจจะสั่งสอนที่เธอทำไว้ในลิฟต์ พอเขาได้สัมผัสเรือนร่าง กลิ่นหอมจากกายสาว ลิ้มรสหวานอันแสนเยี่ยมยอด ใจของเขาเตลิดไปไกลทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ
“โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะคนดีของลุง” เขาปลอบโยน ซับน้ำตาสาวด้วยริมฝีปากของตน “อย่าร้องนะคะคนดี”
“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลยนะ รังแกไม่พอ ยังจะมาจับล็อคกุญแจมืออีก ฮือ”
สาวน้อยสะอื้นไห้ สะบัดหน้าหนีริมฝีปากหนาที่กำลังซับน้ำใสๆ บนแก้มแดงๆ ของตัวเอง อารมณ์ของภัทรพรเวลานี้กึ่งงอนกึ่งโกรธ
“ก็กำหราบเด็กดื้อมันก็ต้องอย่างนี้แหละ อีกอย่างลุงเอาคืนที่เฟิร์นฝากวีรกรรมไว้ในลิฟต์ไง”
“แล้วเฟิร์นผิดเหรอที่ทำอย่างนั้น โดนผู้ชายไม่รู้จักกอดจูบก็ต้องยอมโดยไม่ปกป้องตัวเองใช่ไหม ผู้หญิงคนอื่นเป็นยังไงเฟิร์นไม่รู้ แต่สำหรับเฟิร์นไม่ใช่ เฟิร์นต้องปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเอง” เธอโต้เขากลับ อีกฝ่ายอึ้งไปอีกรอบ
ที่ภัทรพรพูดมาก็ถูกทุกอย่าง เธอมีศักดิ์ศรี มีเกียรติเป็นถึงลูกสาวของท่านทูต ต้องรักษาหน้าตาของตัวเองมากกว่าหญิงสาวคนอื่น จะคิดจะอ่านทำสิ่งใดต้องคำนึงถึงหน้าที่การงานของบิดาเป็นสำคัญ อีกทั้งแอนโธนี่เป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ผิดหรือที่เธอจะปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเอง ไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว และการที่ภัทรพรทำเช่นนั้นกับแอนโธนี่ก็เป็นสิ่งที่สาสมแล้ว เป็นเช่นนี้เธอจะผิดได้อย่างไร คนที่ผิดน่าจะเป็นเขาถึงจะถูก
“โอเค” เขาพูดเหมือนตัดบท “ลุงยอมรับผิดก็ได้” ยอมรับผิดแต่โดยดีในเรื่องที่ตนเองทำลงไป
“ถ้ายอมรับผิดก็ปล่อยสิ ปล่อยเฟิร์นเดี๋ยวนี้นะ”
เธอตะเบ็งเสียงใส่หน้าคนรูปหล่อ ที่หลุบตาต่ำมองทรวงอกสาวกระเพื่อมไหวเบาๆ ตาพราวระยับ ดวงหน้าหวานยิ่งเพิ่มความแดงมากขึ้น แดงแล้วแดงอีกจนเธอกลัวว่า ร่างกายของตนจะกลายเป็นสีแดงแบบถาวร
“หยุดมองได้แล้ว ปล่อยเฟิร์นเดี๋ยวนี้นะ”
“แหม ก็ของมันน่ามองนี่นา” ปากพูดแต่ทว่าตายังคงจับจ้องจุดเดิม
“แค่นี้ยังรังแกกันไม่พอหรือไง เมื่อกี้ยังบอกว่ายอมรับผิดอยู่เลย ถ้ายอมรับผิดจริงๆ ก็ปล่อยซะทีสิ” เสียงสั่นของสาวร่างเล็กสั่งคนตัวโตอีกรอบ
“ลุงปล่อยแน่ แต่ต้องหลังจากที่ตกลงอะไรกันก่อนนะ”
“ตกลงอะไร” ภัทรพรถามสวน
“ตกลงว่าต่อไปนี้เธอจะต้องเรียกฉันว่า คุณลุงขา เหมือนกับที่กุ๊กเรียกจอนว่า คุณอาขาตกลงไหม แล้วห้ามเรียกแทนตัวเองว่าฉัน ให้เรียกว่าเฟิร์นทุกครั้ง ถ้าไม่ทำตามเธอโดนดีแน่”
แอนโธนี่นึกชอบให้ใครมาเรียกเขาลงท้ายด้วย คะ,ขา เหมือนกับณัฏฐลักษณ์เรียกเพื่อนสนิทของเขาบ้าง ฟังแล้วมันคงจะจักกะจี้หัวใจน่าดู วินาทีนี้ภัทรพรคงจะปฏิเสธความต้องการของชายตรงหน้าไม่ได้ เนื่องจากเขาเป็นต่อเธอทุกทาง
“ก็ได้ค่ะ คุณลุงขา เพิ่มให้เป็นสองขาเลย”
“ไม่เอา พูดเพราะๆ เสียงหวานๆ ยานๆ สิ ไม่ใช่พูดห้วนอย่างนี้” แอนโธนี่ยังไม่พอใจ สั่งเธออีกรอบคนถูกสั่งจึงตกอยู่ในสภาวะจำยอมอีกหนเช่นกัน
“คุณลุงขา” คราวนี้ภัทรพรเรียกเขาตามต้องการเสียงหวานหยด ลากเสียงยาวเสียจนคนฟังขนลุก “แค่นี้พอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อยเฟิร์นสักทีสิ”
“ยังไม่พอใจ มีอีกตั้งหลายข้อที่จะต้องตกลงกัน” พูดจบเขาก็หอมทรวงอกสาวทั้งซ้ายขวา สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ เข้าไปเต็มปอด
“อย่ามาทำลวดลายเยอะไอ้ลุงบ้ากาม แล้วก็เลิกมาทำยุ่มย่ามกับเฟิร์นซะที เฟิร์นไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนนะ” อยู่อย่างนี้นานไปเธอจะยิ่งตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกเขารังแกอยู่ร่ำไป
“ยอมรับนะว่าบ้ากาม ยิ่งได้เจอหลานสาวสวยๆ เนื้อหอมๆ ผิวขาวๆ น่าฟัดอย่างนี้ ยอมบ้ากามไปจนตายเลย” เขาพูดหน้าไม่อาย ยิ้มกริ่มใส่สาวหน้าแดง
“ลามกไม่มีใครเกิน” ภัทรพรต่อว่าเขาพอหอมปากหอมคอ กลัวว่าหากตนต่อว่าเขามากกว่านี้ ตนเองจะหลุดจากพันธนาการนี้ได้ยาก “จะตกลงอะไรก็ว่ามาสิคะ เฟิร์นจะได้กลับบ้านซะที พรุ่งนี้ต้องไปทำธุระกับคุณแม่”
เธอไม่พูดเปล่ายังส่งสายตาอ้อนวอน ทำตาปริบๆ หวังให้เขาเห็นใจซึ่งมันก็ได้ผล แอนโธนี่กลายเป็นคนใจอ่อน แพ้น้ำตาผู้หญิงไปในทันที ทั้งที่เมื่อก่อนต่อให้ผู้หญิงมาร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด หรือว่าส่งสายตาเว้าวอนร้องขอ เขาก็ไม่ใจอ่อน แต่กับภัทรพรมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
“โอเค งั้นเรามาตกลงข้อต่อไปเลยก็แล้วกัน”
“ก่อนจะตกลง คุณลุงขาช่วยใส่เสื้อของเฟิร์นให้มันเรียบร้อยก่อนได้หรือเปล่าคะ” เธอต่อรองกับเขาบ้าง
“อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วนี่ สวยๆ อย่างนี้จะปิดจะบังทำไม”
เขาพูดไปตาจ้องมองก้อนเนื้ออวบไปด้วย ภัทรพรเห็นสายตาหื่นกามของเฒ่าลามกแล้วนึกอ่อนใจ เห็นทีจะขอร้องให้เขาทำตามคงยาก ทว่าจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ เพราะเธอไม่รู้ว่า ผู้ชายมือไวปากไวคนนี้ต้องมายุ่งวุ่นวายกับร่างกายส่วนหน้าของตนอีกแน่