“อ้าว น้องพริกมาด้วยหรอ” พี่เบย์ถามฉันขึ้นทันที
“ค่ะ” ฉันตอบกลับไปแค่นั้นเพราะตอนนี้ฉันกำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่อยู่ในสนามมากกว่า
“กูไม่รู้ว่าน้องพริกมาด้วย เลยบอกให้ส้มโอขึ้นมา”
“ส้มโอ”
“เด็กมึงอะ เด็กคนโปรดของมึง” ฉันยืนฟังบทสนทนาของทั้งคู่
เด็กคนโปรดเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยส้มโอขี้วีน
“พี่ขุนทัพ” เสียงของยัยส้มโอทักพี่ขุนทักขึ้นทันที
“เธอ” ยัยส้มโอเมื่อเห็นฉันก็พูดขึ้นอีกครั้ง ส่วนฉันก็รีบเดินตรงมาหาพี่ขุนทัพเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“ส้มโอมีอะไร”
“เปล่าหรอกค่ะ พอดีส้มโอเห็นว่าพี่ขุนทัพมาเลยจะขึ้นมานั่งด้วย” ยัยส้มโอพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะทำท่ายกมือไปจับแขนพี่ขุนทัพและแน่นอนพี่ขุนทัพขยับตัวหนี
“กลับไปเถอะ” พี่ขุนทัพพูดขึ้นอีกครั้ง
“กลับทำไมละคะพี่ขุนทัพ ส้มโอพึ่งมาเองนะคะ”
“ผู้ชายเขาไล่ก็ไปสิ” ฉันพูดขึ้นทันที ตอนแรกว่าจะยืนเฉยๆแล้วนะแต่เห็นแล้วขอหน่อยเถอะ
หมั่นไส้ !
“ไม่ได้ยินที่พี่ขุนทัพพูดหรอว่าให้กลับไป” ฉันพูดขึ้นอีกครั้ง
“พี่ขุนทัพคะ ยัยนี่มันไล่ส้มโอ” ยัยส้มโอพูดขึ้นพร้อมกับตรงเข้ามากอดแขนพี่ขุนทัพด้วยท่าทางอ้อนๆ
“กลับไปก่อนถือว่าฉันขอ” พูดจบก็แกะมือปลาหมึกของยัยส้มโอออกไปด้วย
“เห็นว่าพี่ขุนทัพขอนะคะ ส้มโอยอมกลับก็ได้” ยัยส้มโอพูดขึ้นแค่นั้นก็จะเดินออกไปด้วยท่าทางไม่พอใจ
ดูก็รู้ว่ายัยส้มโอกลัวพี่ขุนทัพไม่มากก็น้อยเพราะไม่ว่าพี่ขุนทัพเอ่ยปากไล่กี่ทีก็ไปหมดทุกครั้ง
“พี่ขอโทษนะครับที่ส้มโอมาวุ่นวาย” พี่ขุนทัพพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะตรงเข้ามาหาฉัน
“แค่พี่ขุนทัพไม่ไปยุ่งกับเขาพริกก็โอเคแล้ว” เพราะถ้าพี่ขุนทัพไม่เล่นด้วยเกมส์มันก็จบ
“พี่บอกแล้วไงครับพี่จะเป็นเหยื่อของน้องพริกพี่ไม่มีทางไปยุ่งกับใครหรอกครับ”
“น่ารักที่สุดเลยค่ะ”
“พี่ขุนทัพคะนั่นพี่เปอร์” ฉันพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปในสนามที่ตอนนี้พี่เปอร์กำลังยืนเช็ครถ
“รอบต่อไปมันแข่ง” พี่ขุนทัพตอบกลับมาทันที
“ที่พี่ขุนทัพบอกว่ามีเดิมพันกันหรอคะ” ฉันกวาดสายตาไปทั่วๆสนามแข่งก่อนจะหันไปเห็นคนที่อยู่ไม่ห่างกับพี่เปอร์
“พี่ไทป์” ฉันเผลอเรียกชื่อเขาขึ้นทันที
พี่ไทป์คือคนที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้
คนที่ทำให้ฉันเสียใจและกลายเป็นเสือแบบทุกวันนี้
“น้องพริกรู้จักมันหรอครับ” พี่ขุนทัพถามฉันขึ้นอีกครั้ง
“เคยรู้จักค่ะ”
“มีเรื่องอะไรกับมันหรือเปล่าบอกพี่ได้นะ”
“เรื่องมันผ่านมานานแล้ว พริกไม่อยากใส่ใจ” ฉันตอบกลับไปทันที ถึงแม้ในใจจะจำไม่ลืมก็เถอะ
“แล้วเขาเดิมพันอะไรกันคะ” ฉันถามขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
ฉันอึดอัดทุกครั้งเมื่อพูดถึงพี่ไทป์แต่ไม่ใช่ว่าฉันยังไม่ลืมเขาหรอกนะแต่เขาคืออดีตที่ไม่น่าจำของฉันและมันก็เป็นอดีตที่จำจนไม่มีวันลืม
“เงินห้าล้าน”
“ห้าล้านเลยหรอคะ”
“มันมีปัญหากันเลยนัดมาจบที่สนามนี้” ฉันพยักหน้าเป็นอันเข้าใจทันที
“พี่ขุนทัพเคยแข่งไหมคะ” ฉันถามขึ้นต่ออีกครั้ง หลังจากที่พี่ขุนทัพพาฉันมานั่งยังโซฟาเพื่อนั่งดูการแข่งขันของพี่เปอร์เพื่อนของเขากับพี่ไทป์
“บ่อยเลยแหละครับ” พวกเขาเป็นถึงเจ้าของสนามแข่ง แข่งรถไม่เป็นก็เสียชื่อแย่
“แล้วชนะไหมคะ”
“พี่ไม่เคยแพ้เลยครับ ไม่เคยแข่งแพ้ใคร”
“แต่เรื่องหัวใจพี่ดันมาแพ้ให้น้องพริกจนได้” พี่ขุนทัพพูดจบก็ก้มหน้าลงมาหาฉันทันที
“ฮะ…แฮ่ม กูยังอยู่นะเผื่อลืม” เสียงของพี่เบย์ดังขึ้นทำให้ฉันกับพี่ขุนทัพหันไปมอง
“ขัดจังหวะไอ้เวร ลงไปดูไอ้เปอร์เลยมึง” พี่ขุนทัพพูดขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทางหงุดหงิด
เพราะหากเมื่อกี้พี่เบย์ไม่ทักขึ้น ฉันกับพี่ขุนทัพคงจะเกินเลยกันนิดๆ
“ไล่จริง” พี่เบย์พูดขึ้นอีกครั้งแต่ก็ยอมลุกออกไปจากห้อง
“ไม่เห็นต้องไล่พี่เบย์เลย” ฉันพูดขึ้นอีกครั้ง
“มันต้องลงไปดูรถให้ไอ้เปอร์อยู่แล้วพวกพี่สลับกัน” พี่ขุนทัพตอบกลับมาทันที
“อ๋อ” ฉันตอบกลับไปแค่นั้นและหันมาสนใจในสนามต่อ
“มองหน้าพริกทำไมคะ” ฉันถามขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกว่าพี่ขุนทัพกำลังมองหน้าฉันอยู่ตลอดเวลา
“รู้ตัวไหมว่าน้องพริกน่าหลงไหลมากเลยนะ” พี่ขุนทัพพูดขึ้นอีกครั้ง
“หรอคะ”
“ไม่งั้นพี่จะหลงขนาดนี้หรอครับ หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะครับ” ฉันยกยิ้มทันทีกับคำพูดของพี่ขุนทัพ เพราะคำพูดของเขาทำฉันหน้าร้อนมากๆ
“มานั่งนี่” พูดจบพี่ขุนทัพก็ยกตัวฉันขึ้นไปนั่งค่อมเขาทันที
“ไม่หนักหรอคะ” เพราะฉันเองก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงตัวเล็กขนาดนั้นแต่พี่ขุนทัพกลับยกตัวฉันขึ้นมานั่งบนตัวเขาได้อย่างสบายๆ
“ตัวแค่นี้เอาอะไรมาหนัก” ไม่พูดเปล่ามือหนาก็ยกขึ้นมาหยิกแก้มฉันเบาๆ
“เทียบกับพี่ขุนทัพพริกตัวเล็กมากเลยนะ” เพราะตอนนี้ฉันแทบจะจมอกพี่ขุนทัพอยู่แล้ว ร่างกายหนาแสนกำยำของพี่ขุนทัพบังตัวฉันมิด ชนิดที่คนเดินเข้ามาจากข้างหลังก็ไม่เห็น
“มาเป็นแฟนกับพี่สิครับพี่จะขุนให้อ้วนเลย” ฉันใจเต้นไม่น้อยเลยกับคำพูดของพี่ขุนทัพ
“เคลียร์ผู้หญิงให้หมดสิคะพริกถึงจะเป็นแฟนด้วย” ขนาดตอนนี้ยังมียัยส้มโอขี้วีนมาวนเวียนอยู่ด้วยแล้วฉันจะมั่นใจอะไรได้ละ
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ” พี่ขุนทัพพูดขึ้นอีกครั้ง
“พริกคำไหนคำนั้น พี่ขุนทัพคะเหมือนเขาจะแข่งกันแล้วนะคะ” ฉันพูดขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกของฉันเหมือนกันที่ได้เห็นการแข่งรถจริงๆแบบนี้
“พี่เปอร์จะชนะไหมคะ” ฉันถามขึ้นทันที
“พี่ไม่แน่ใจเพราะไอ้ไทป์ก็เก่งพอตัว” พี่ขุนทัพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่สายตาของเราทั้งสองคนจะจดจ่อไปในสนามแข่ง
“ชนะอยู่แล้วค่ะ เห็นไหมพี่เปอร์แซงได้แล้ว” เพราะตอนนี้รถของพี่เปอร์แซงรถของพี่ไทป์อยู่ จนในที่สุดก็ถึงรอบสุดท้ายรถทั้งสองคนยังคงสูสีกัน มีผลัดกันแซงบ้างและโค้งสุดท้ายดูเหมือนรถของพี่ไทป์จะขึ้นแซงรถของพี่เปอร์จนเข้าเส้นชัยไปในที่สุด
“จนได้ พี่คิดไว้อยู่ว่าไอ้เปอร์มันต้องแพ้” พี่ขุนทัพพูดขึ้นทันที
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะเสียแค่เงิน” ฉันตอบกลับไปทันที
“ไม่ใช่แค่นั้นมันมีอย่างอื่นด้วย พี่จะลงไปด้านล่างน้องพริกไปกับพี่ไหม”
“ไปค่ะ” ฉันตอบกลับอย่างรวดเร็วเพราะฉันก็อยากรู้ว่าอยากอื่นที่พี่ขุนทัพพูดคืออะไร
“มึงแพ้ไอ้เปอร์” เสียงของพี่ไทป์พูดขึ้น
“เอาสิกระทืบกู” พี่เปอร์ตอบกลับทันทีก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่ไทป์
“แค่สองนาที” พี่เบย์เป็นคนพูดอีกครั้ง
“กูรู้ แต่สองนาทีเพื่อนมึงจะตายก่อนไหม” พี่ไทป์พูดขึ้นต่ออีกครั้ง
“กูจับเวลาเอง” พี่ขุนทัพพูดขึ้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหวังจับเวลา
อีกอย่างที่เขาว่าคือการกระทืบสินะ
วงการแข่งรถมันเป็นกันอย่างนี้หรอ
“พริกไทย” แต่ไม่ทันที่จะมีอะไรเกิดขึ้นเสียงของพี่ไทป์ก็ทักฉันขึ้นทันที
“อย่ายุ่งกับพริกไทย” พี่ขุนทัพพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะดึงมือฉันให้หลบอยู่ด้านหลังของเขา
“ไม่เจอกันนานเป็นเมียมันไปแล้วหรือไง” คำพูดที่ออกจากปากพี่ไทป์ทำฉันไม่อยากเชื่อ
“พูดอะไรหัดให้เกียรติผู้หญิงบ้างไอ้สัส” พี่ขุนทัพพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
การทักทายแบบนี้ไม่น่ารักเอาเสียจริงๆ
“กูมีข้อเสนอแลกกับที่กูจะไม่กระทืบเพื่อนมึง” พี่ไทป์พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
“กระทืบกูไม่ต้องเสือกเสนออะไร” พี่เปอร์พูดขึ้นต่อทันที
“ฟังมันก่อนไอ้เปอร์” พี่เบย์พูดขึ้นอีกครั้ง
“มึงจะเสนอเหี้ยไรก็พูดมา” มั่นใจแล้วแหละว่าข้อเสนอมันต้องเกี่ยวกับฉันเพราะตอนนี้พี่ไทป์มองหน้าฉันไม่หยุดเลย
“เป็นเดือดเป็นร้อนกันจริงพวกมึง” พี่ไทป์ตอบกลับมาอีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ
“มึงอย่าลีลาจะกระทืบกูก็กระทืบ จะเสนอเหี้ยไรก็พูดมา” น้ำเสียงที่แสนหงุดหงิดของพี่เปอร์ดังขึ้นอีกครั้ง
“ใจเย็นๆดิคนแพ้ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรนะ”
พี่ไทป์เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“ฟังกูดีๆนะไอ้ขุนทัพ” พี่ไทป์พูดขึ้นอีกครั้ง สายตาของเขามองฉันสลับกับพี่ขุนทัพ
“เกี่ยวอะไรกับไอ้ขุนเรื่องนี้มีแค่มึงกับกู” พี่เปอร์พูดขึ้นด้วยท่าทางที่หงุดหงิดกว่าเดิม
เพราะเรื่องของตัวเองกำลังมีเพื่อนเข้ามาเกี่ยว
“ถ้าไม่อยากให้เพื่อนมึงโดนกระทืบก็แข่งรถกับกู” พี่ไทป์พูดขึ้นมาทันที
“ได้” และพี่ขุนทัพก็ไม่รีรอที่จะตอบ
“แต่มีข้อแม้ว่าถ้ากูแพ้ไอ้เปอร์มันรอดตีนแต่ถ้ากูชนะผู้หญิงของมึงต้องเป็นของกู”
❤️