“ถ้าไม่อยากให้เพื่อนมึงโดนกระทืบก็แข่งรถกับกู” ไอ้ไทป์พูดขึ้นทันที
“ได้” ผมตอบกลับไปทันควันเพราะไม่มีอะไรต้องกลัว
“แต่มีข้อแม้ว่าถ้ากูแพ้ไอ้เปอร์มันรอดตีนแต่ถ้ากูชนะผู้หญิงของมึงต้องเป็นของกู” ผมหันไปมองพริกไทยทันที
คำพูดของไอ้ไทป์ทำให้ผมรู้ว่าทั้งสองคนเคยมีอดีตต่อกัน
“พริกไทยไม่เกี่ยว” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะยังไงเรื่องนี้เธอไม่มีเอี่ยวเลยแม้แต่น้อย
“เกี่ยวไม่เกี่ยวอยู่ที่มึง”
“ให้มันกระทืบกู อย่าเอาน้องมาเกี่ยว” ไอ้เปอร์พูดขึ้นอีกครั้ง
ถ้าถามว่าผมกลัวแพ้ไอ้ไทป์ไหมบอกเลยว่าผมไม่กลัว ที่ผ่านมาผมก็ชนะมาทุกแมทช์ดูจากการขับของไอ้ไทป์แล้วฝีมือก็ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่
“พี่ขุนทัพ” พริกไทยเรียกผมขึ้นทันที
“มั่นใจหรือเปล่า” ผมหันมองเธออย่างสงสัยเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่พริกไทยกำลังถาม
“มั่นใจไหมว่าจะชนะ ถ้ามั่นใจก็แข่งเลยค่ะ” พริกไทยพูดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เอาน้องพริกเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา”
“อย่าเสี่ยงเลยไอ้ขุน”
ไอ้เปอร์กับไอ้เบย์บอกผมขึ้นทันที ท่าทางพวกมันก็เป็นกังวลไม่น้อย
“ถ้ากูชนะ มึงต้องเลิกยุ่งกับไอ้เปอร์และพริกไทย” ผมพูดขึ้นทันที
เพราะผมเองก็มั่นใจในฝีมือของผม
“แบบนี้ค่อยน่าสนุกหน่อยแต่อย่าลืมนะถ้ากูชนะพริกไทยไปกับกู” แน่นอนว่าผมไม่ยอมให้มันชนะแน่
“แน่ใจนะไอ้ขุน” เสียงไอ้เปอร์ถามขผมขึ้นอีกครั้ง
“กูเคยแพ้ใครที่ไหน”
“เดี๋ยวกูไปดูรถให้” ไอ้เบย์พูดขึ้นต่อพร้อมกับไปจัดการเรื่องรถให้ผม ตอนนี้ผมจึงหันมาสนใจคนด้านหลังอย่างพริกไทย
“พี่มั่นใจ” ผมพูดขึ้นทันที
“พริกก็มั่นใจในตัวพี่ขุนทัพนะคะ” ผมยกยิ้มขึ้นอีกครั้งกับคำพูดของพริกไทย
เธอไม่เคยดูผมแข่งสักครั้งแต่กลับมั่นใจในตัวผม
น่ารักจริงๆ
“เราโอเคใช่ไหมพี่ตกลงไปแข่งกันมัน” เพราะความรู้สึกไม่ใช่ของเล่นผมเองก็กลัวเธอจะไม่โอเคที่ต้องตัวเธอมาพนันเป็นของเดิมพัน
“เอาเป็นว่าพี่ขุนทัพต้องชนะให้ได้จะได้ช่วยทั้งพริกแล้วก็พี่เปอร์” พริกไทยพูดขึ้นพร้อมกับบีบมือผมเบาๆเป็นการให้กำลังใจ
“ที่จริงน้องพริกไม่ควรทำแบบนี้” ไอ้เปอร์พูดขึ้นอีกครั้ง
ผมว่ามันคงรู้สึกไม่ดีที่ผมทำแบบนี้แต่ผมก็ไม่อยากให้มันโดนกระทืบอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนกัน ถึงเวลาจะสองนาทีแต่โดนยำตีนแบบนั้นก็คงเจ็บใช่เล่น
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เปอร์ มั่นใจในตัวเพื่อนพี่หน่อยสิคะ”
“เดี๋ยวพริกจะยืนให้กำลังใจตรงนี้นะคะ พี่ขุนทัพไปเช็ครถก่อนไหมพี่เบย์เอาออกมาแล้ว” คันที่ไอ้เบย์เอาออกมาก็เป็นลูกรักของผมซะด้วย
“ขอบคุณที่มั่นใจในตัวพี่” ผมปล่อยให้พริกไทยยืนอยู่กับไอ้เปอร์ก่อนจะเดินมาหาไอ้เบย์ทันที
“ทุกอย่างโอเคอีกสิบนาทีจะเริ่ม”
“กูคิดถูกใช่ไหม” พอใกล้ถึงเวลาก็เริ่มกังวล ต่อให้ผมมั่นใจในฝีมือตัวเองขนาดไหนแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในสนามแข่ง
“ต่อให้คิดผิดมึงก็ทำอะไรไม่ได้ตั้งแต่ตกลงกับไอ้ไทป์ไปแล้ว”
“มึงเห็นตอนไอ้เปอร์แข่งหรือเปล่า รอบสุดท้ายไอ้ไทป์มันเบารถเพื่อขึ้นแซงตอนไอ้เปอร์เผลอ” แน่นอนว่าผมเห็นและจำการขับของมันได้แม่น
ผมยิ้มให้กับพริกไทยที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างสนามกับไอ้เปอร์และไอ้เบย์ เธอยืนชูสองนิ้วให้ผมส่วนผมก็ยิ้มกว้างก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไป ผมมองเวลาที่ตอนนี้กำลังนับถอยหลังเรื่อยๆ จนเคาน์ดาวน์สามวิสุดท้าย
สาม
สอง
หนึ่ง
ทันทีที่ธงเขียวประจำสนามสะบัดลง ผมก็เหยียบคันเร่งจนมิด ผมกับไอ้ไทป์เราออกตัวพร้อมกัน รถทั้งสองคันที่วิ่งอยู่ในสนามสูสีกันมากและไม่มีทีท่าว่ามันจะเบารถและผมเองก็เช่นกัน
ผมเหยียบหมดไมค์จนผ่านรอบที่หนึ่งและผ่านรอบที่สองจนถึงรอบสุดท้ายคือรอบที่สาม ผมกับไอ้ไทป์ต่างไม่มีใครยอมใคร จนไอ้ไทป์ก็ผ่อนแรงรถลงมันยังคงใช้สไตล์เดิมในการแข่ง ผมจึงเริ่มทำการหักพวงมาลัยไปทางซ้ายทีทางขวาทีเพื่อไม่ให้ไอ้ไทป์มีโอกาสในการแซง
จนถึงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ไอ้ไทป์พยายามตีขึ้นมาให้แซงผมทางด้านขวาแต่โชคดีที่ผมหันมองกระจกหลังได้ทัน ผมจึงหักพวงมาลัยไปทางขวาอีกครั้ง จากนั้นก็เข้าโค้งสุดท้ายด้วยการดริฟเพื่อให้ไม่ให้รถเสียจังหวะ หลังจากพ้นจากทางโค้งผมก็เหยียบมิดไมค์ตรงเข้าเส้นชัยทันที
กรี๊ด !
เสียงกรี๊ดจากสองฝั่งข้างสนามดังขึ้นพร้อมพริกไทยที่วิ่งเข้ามากอดผม
กอดแรกของผมและเธอ
“พี่ขุนทัพเก่งมาก เก่งมากจริงๆ” พริกไทยพูดขึ้นพร้อมกับซบลงมามาที่หน้าอกของผมด้วยความดีใจ
“ขอบใจ” ส่วนไอ้เปอร์ก็เดินตรงมาทางผมพร้อมกันพูดขึ้น ผมไม่ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่พยักหน้าให้มันเท่านั้น
“เก่งดี” ไอ้ไทป์พูดขึ้นทันที
“หวังว่าจะจำคำพูดกูได้นะ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้ผมชนะ
“กูจะไม่กระทืบเพื่อนมึง พริกไทยก็ไม่ต้องไปกับกู”
“ถ้าจำได้ก็ไปการแข่งจบแล้ว”
“ไว้ครั้งหน้ากูจะมาแข่งกับมึงใหม่และหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะพริกไทย” ไอ้ไทป์พูดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ต้องเจอกันดีกว่า” ผมยกยิ้มขึ้นทันทีกับคำพูดของพริกไทย
“พริกไทยที่แสนอ่อนโยนของพี่ไปไหนแล้วละ” ผมปัดมือของไอ้ไทป์ออกทันทีเมื่อมันเอื้อมมาหาพริกไทย
“อย่ายุ่งกับผู้หญิงของกู”
“ผู้หญิงของมึง”
“ผู้หญิงของกูต่อให้เป็นอดีตของมึงแต่ตอนนี้พริกไทยเป็นของกู”
“เปลี่ยนไปเยอะเลยนะพริกไทย” ไอ้ไทป์พูดขึ้นอีกครั้ง
“ไปกันเถอะค่ะพี่ขุนทัพ” พริกไทยหันมาพูดกับผมก่อนจะจับมือผมเดินออกมา
“อยากกลับไหม”
“ยังไม่อยากกลับค่ะ กลับไปก็อยู่คนเดียว”
“เพื่อนไม่อยู่หรอ” เพราะอย่างที่รู้มาเพื่อนอีกสองคนของเธออยู่คอนโดเดียวกัน
“ไปคลับค่ะ” พริกไทยตอบกลับมาอีกครั้ง
“อยากดื่มไหมดูเหมือนน้องพริกจะไม่ค่อยสบายใจ” ผมถามขึ้นทันทีเพราะผมเองก็ดูออกว่าเธอแปลกๆไป
“ดื่มกับพี่ขุนทัพหรอคะ” พริกไทยถามผมขึ้นอีกครั้ง
“ครับดื่มกับพี่”
“จะมอมพริกหรือปล่า” ผมแทบจะหลุดขำกับคำพูดของพริกไทย
“พี่เคยบอกไปแล้วไง ว่าจะไม่ทำจนกว่าจะอนุญาต” ผมยังยืนยันในสิ่งที่ผมพูด
“น่ารักที่สุดเลยค่ะ” พริกไทยบอกขึ้นพร้อมหยิกแก้มผมเบาๆ
“น้องพริกดื่มอะไรครับ พี่จะให้คนไปซื้อมาให้”
“เบียร์ค่ะ”
ภายในเวลาไม่นานเบียร์ยี่ห้อดังก็ถูกนำมาส่งที่ห้องทำงานของผมพร้อมกับของกินเล็กน้อย ตอนนี้ผมรับบทเป็นคนรินเบียร์ให้กับพริกไทยและตัวเอง เราสองคนนั่งดื่มเบียร์มองบรรยากาศข้างล่างที่ยังทำการแข่งรถอยู่
“พี่ขุนทัพเคยมีแฟนไหมคะ” พริกไทยถามผมขึ้น
“ไม่เคยครับ” ผมไม่เคยมีสถานะให้กับใครเพราะผมไม่ชอบการผูกมัด
“พี่ถามน้องพริกบ้างได้ไหมครับ”
“ว่ามาเลยค่ะ”
“น้องพริกเคยมีแฟนไหมครับ” เพราะผมก็ไม่มั่นใจระหว่างพริกไทยกับไอ้ไทป์มันเป็นยังไงกันแน่
“พี่ไทป์เป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของพริก”
“คบกันนานไหมครับ” ผมถามขึ้นอีกครั้งด้วยความอยากรู้
“ครั้งนี้พริกต้องถามพี่ขุนทัพสิคะ” เหมือนตอนนี้เรากำลังเล่นเกมส์กันอยู่ ผลัดกันถามคนละคำถาม
“ว่ามาเลยครับ”
“คู่นอนที่พี่ขุนทัพควงนานที่สุดใครหรอคะ” พริกไทยถามผมขึ้นอีกครั้ง
“ส้มโอครับ”
“พี่ขุนทัพถามพริกได้เลยค่ะ” เมื่อได้คำตอบแล้ว พริกไทยก็พูดขึ้นทันที
“แล้วทำไมน้องพริกถึงไม่มีแฟนละครับทั้งที่น้องพริกทั้งสวยทั้งแซ่บขนาดนี้”
“ตอนแรกยังไม่เจอคนที่ถูกใจแต่ตอนนี้เหมือนว่าพริกจะเจอแล้ว” พริกไทยตอบกลับมาทันทีพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่ม
“พี่ขุนทัพคะ”
“อยากได้พริกเป็นแฟนหรือแค่คู่นอน” พริกไทยถามผมขึ้นต่อทันที
“แฟนครับ” เพราะผมก็อยากได้เธอมาเป็นจริงๆ
“น่ารักจังเลยค่ะ” พูดจบก็เอื้อมมือมาจับแก้มผมเบาๆ จากที่สังเกตเมื่อไหร่ที่พริกไทยชมผมว่าน่ารักเธอมักจะจับแก้มผมอยู่เสมอ
“แล้วน้องพริกละคะอยากได้พี่เป็นแฟนหรือแค่...” ผมถามขึ้นพร้อมเว้นว่างคำหลังไว้
“อยากได้เป็นแฟนค่ะ รีบทำให้เห็นสิคะว่าตอนนี้ไม่มีผู้หญิงคนอื่นแล้ว”
“พี่ไม่ได้ไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนแล้วนะครับมีแต่เขามายุ่งกับพี่”
ขอโทษที่ผมโกหกนะครับผมไม่อาจเลิกนิสัยนี้ได้
แต่กลับกันผมก็อยากได้คนตรงหน้าเป็นแฟนเพราะผมชอบจริงๆ
“คำถามสุดท้ายนะคะ”
“พี่ขุนทัพอยากได้พริกไหมคะ”
❤️