ตอนที่ 8 แสงแห่งความหวังริบหรี่ลง

1128 คำ
“เฮ้ออ บางทีข้าคงคิดเรื่องพวกนี้มากเกินไปนะเจ้าคะ” ร่างบางถอนหายใจคล้ายเหนื่อยกับความคิดฟุ้งซ่าน “พะ...พักเสียบ้างเถอะ พะ พะ...พี่ปะ...เป็นห่วงเจ้านะฮะ...ฮูหยิน” อวี่ถงเป็นคนควบคุมม้าปล่อยให้คนงามนั่งสบาย ๆ อยู่ข้างใน เขาพยายามเลือกเส้นทางที่คิดว่าปลอดภัยมากที่สุด แม้จะใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้นหลายวันแต่ก็ดีกว่าเส้นทางตัดผ่านป่าทึบซึ่งอาจถูกกลุ่มโจรดักปล้นระหว่างทางได้ หากเกิดโดนปล้นจริงเกรงว่าพวกเขาคงเป็นฝ่ายเสียเปรียบเป็นอย่างมาก หวังกุ้ยฉินนั้นสู้กับพวกโจรไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเขาก็มีเพียงสองมือกับกระบี่ที่เอาไว้ป้องกันตัวเพียงเล่มเดียวจะเอาอะไรไปต่อกรกับกลุ่มโจรอาวุธครบมือได้ ระหว่างทางพวกเขาผ่านเมืองเล็ก ๆ ตรงเชิงเขาจึงตัดสินใจแวะพักกันที่นี่ก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ตอนฟ้าสาง โฉมสะคราญจึงอ้อนให้สามีพาไปร้านสุราซึ่งชายหนุ่มก็ตามใจฮูหยินของตนมาก หากเป็นฮูหยินใหญ่นางคงถูกไม้ฟาดจนขาลายไปหมดแล้วที่ริอ่านดื่มสุราจนเมามายระหว่างเดินทางเช่นนี้ “ฮะ...ฮูหยิน พะ...พี่ว่าพอก่อนไม่ดีระ...หรือ พะ พะ...พรุ่งนี้เรายังต้องดะ...เดินทางอีกไกลนะ” คนตัวโตพยายามปรามแม้จะไม่ค่อยได้ผลก็ตาม เนื่องจากนางเมาแล้วต่อให้เขาพูดไปนางก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างอยู่ดี “อารายเจ้าค้า ข้าเพิ่งกินไปนิดเดียวเอง ท่านพี่อย่าเพิ่งห้ามสิเจ้าคะ” เสียงถามกลับยืดยาวมองจากหน้าประตูเมืองยังรู้เลยว่าเมาแล้ว แต่ที่เป็นเช่นนี้เพราะนางอยากปลดปล่อยความรู้สึกอึดอัดที่มีมาเนิ่นนานจากการถูกน้องสาวต่างมารดารังแก “มะ มะ...หมดจอกนี้พะ...พอแล้วนะ” ได้ยินดังนั้นคนเมาก็พยักหน้าหงึกหงักตามสติสัมปชัญญะที่ยังพอมี มองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้คนและแสงไฟสว่าง ไหนจะอาหารอร่อยและสุรารสเลิศ ช่างต่างจากในจวนหวังเสียจริง ๆ นางชักจะชอบเมืองนี้เสียแล้วสิ หากอยู่ในจวนคงไม่มีโอกาสดื่มสุราจนเมามายอย่างนี้ เมื่อสุราหมดจอกกุ้ยฉินก็ยอมรามืออย่างที่สัญญาเอาไว้กับชายหนุ่ม กายหอมกรุ่นยอมให้เขาประคองเดินกลับขึ้นโรงเตี๊ยมในสภาพโซเซไปมาไม่อาจเดินด้วยตนเองได้ กว่าคนเมาจะหลับก็เล่นเอาอวี่ถงถึงกับปาดเหงื่อ เพราะนางเอาแต่จะลวนลามเขาท่าเดียว แม้ปัดมือออกเท่าไรก็ไม่ยอมหยุด ใช่ว่าเขาไม่ชอบเสียเมื่อไหร่ แต่กลัวจะอดใจเอาไว้ไม่ไหวเสียมากกว่า… ร่างสูงสมส่วนข่มตานอนอยู่เคียงข้างภรรยาผู้เมาหลับไม่รู้เรื่อง เขาชอบนอนมองนางด้วยความรักใคร่กว่าจะหลับตาลงได้ก็ปาเข้าไปค่อนคืน รุ่งสางพวกเขาออกเดินทางอีกครั้งเพื่อออกจากเมืองเล็ก ๆ นี้ไป คนหนึ่งมีสติเต็มร้อยทว่าอีกคนยังนั่งตาปรือในรถม้าอยู่เลย เส้นทางถัดจากนี้ไม่มีทางลัดหรือทางอ้อมอื่น เป็นจุดเดียวที่ต้องตัดผ่านภูเขาชายหนุ่มพยายามเดินทางอย่างมีสติ เขาบังคับม้าไปด้วยและมองรอบข้างอย่างระแวดระวัง ทว่าเมื่อเข้าใกล้ทางเดินชายป่ามากเท่าไรผู้คนก็ยิ่งน้อยลงจนแทบไม่มีเลย เขาได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากตัดผ่านป่ามุ่งมาทางนี้ ไม่นานนักรถม้าก็ถูกล้อมเอาไว้ “พวกเจ้าจะรีบเดินทางไปไหนกัน ส่งทรัพย์สินมีค่ามาเสียดี ๆ!” กลุ่มชายฉกรรจ์โพกผ้าสีดำปิดครึ่งหน้าจนไม่อาจเห็นใบหน้าที่แท้จริง พวกมันจ่อคมดาบเข้าหาอวี่ถงพร้อมทั้งขู่เข็ญเอาข้าวของมีค่าคล้ายว่าเป็นโจรปล้นชิงทรัพย์ รถม้าที่หยุดกะทันหันและเสียงตะคอกจากภายนอกทำให้คนงามตื่นเต็มตา นางนั่งอกสั่นขวัญแขวนอยู่ด้านในไม่กล้าแม้จะแง้มบานหน้าต่างดูเสียด้วยซ้ำด้วยเกรงว่าหากพวกมันเห็นตนที่เป็นสตรีแล้วจะทำให้สถานการณ์อันตรายยิ่งกว่าเดิม “ขะ ขะ...ข้าเป็นเพียงนักเดินทะ...ทางพเนจรกะ...ก็เท่านั้น มะ มะ...ไม่มีทรัพย์สิน อะ...อันใดให้พวกท่านปะ...ปล้น เมตตะ...ตาให้ข้าผะ...ผ่านไปเถิด” คำอ้อนวอนเหมือนขลาดกลัวของอวี่ถงทำให้พวกมันหัวเราะร่ากันใหญ่ “ฮ่าๆ พวกข้าเป็นโจรหาใช่นักบวชที่ร้องขอความเมตตาแล้วจะปล่อยไป ค้นดูข้าวของมีค่าในรถม้า!” หัวหน้ากลุ่มโจรประกาศก้อง ทั้งหมดรีบเปิดดูในรถม้าตามคำสั่งทันทีก่อนจะตาโตเมื่อพบกับสตรีรูปงามที่อยู่ภายใน แม้นางจะไม่ได้สวมอาภรณ์หรูหราเป็นผ้าเนื้อดีแต่พวกมันก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายหาใช่ชาวบ้านทั่วไป ผิวพรรณเนียนละเอียดเช่นนี้ย่อมเป็นลูกเศรษฐีสักจวนไม่ผิดแน่... “ท่านหัวหน้า ข้าเจอสตรีแล้วขอรับ!” ลูกน้องโจรคนหนึ่งตะโกนเสียงดังจนร่างบางตกใจ ในขณะที่อวี่ถงมิอาจขยับตัวได้เนื่องจากมีดาบของหัวหน้าโจรจ่ออยู่ตรงลำคอ “ดีสิวะ หญิงงามถึงเพียงนี้ จะปล่อยไปได้อย่างไร” หัวหน้าโจรมองโฉมสะคราญด้วยสายตาพึงพอใจ แม้คำสั่งที่ได้รับมาจะบอกให้ฆ่าทิ้งอย่างเดียวก็ตามที แต่ไหน ๆ จะตายแล้วก็ขอใช้ร่างกายขาวผ่องมาเสพสมปลดเปลื้องกำหนัดหน่อยคงมิเป็นไร เมื่อหัวหน้าโจรผละจากชายหนุ่มเพื่อเดินเข้าหาหญิงสาว อวี่ถงจึงสกัดอีกฝ่ายไว้ด้วยกระบี่ที่ซ่อนไว้ใต้ที่นั่ง ทว่าพอกลุ่มโจรเห็นหัวหน้าถูกทำร้ายก็รีบเข้าตะลุมบอนเพื่อช่วยเหลือทันที แม้อวี่ถงจะเก่งสักเพียงใดก็ตาม แต่หนึ่งคนหรือจะสู้กลุ่มคนเป็นสิบได้ ไม่นานนักชายหนุ่มก็บาดเจ็บและดูเหมือนว่าหากฝืนสู้แบบนี้ไปเรื่อย ๆ อาการคงจะสาหัสแน่นอน กุ้ยฉินมองจากรถม้าด้วยความเป็นห่วง แต่จะให้ลงไปช่วยสู้นางก็ไม่อาจทำได้เช่นกัน เพราะคงกลายเป็นตัวถ่วงให้สามีห่วงหน้าพะวงหลังจนบาดเจ็บมากขึ้น แสงแห่งความหวังริบหรี่ลงแทบมืดสนิท เมื่อหัวหน้าโจรจะลงดาบใส่อวี่ถงท่ามกลางเสียงกรีดร้องของนางอันเป็นที่รัก ...................................................................................... โอ้ยยย กลุ่มโจรนี่มันกลุ่มเดียวกับที่สังหารท่านพ่อใช่มั้ย! อวี่ถงสู้มันเข้าลูก!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม