ความไม่มั่นใจ ความลังเล หรืออะไรก็แล้วแต่มันยังคงประเดประดังเข้ามาปั่นป่วนจนหยาดฟ้าเอาแต่นั่งตัวเกร็งอยู่ภายในรถสุดหรูของเพื่อนรัก แน่ล่ะ...พอรุ่งเช้าคุณหนูอิสตรีก็ลากเธอออกจากบ้านแล้วก็เฝ้าพูดเฝ้าบอกให้เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้นายรอสส์ รชต สเตอร์ลัมล์คนนั้นลุ่มหลง ถึงแม้ว่าเธอจะสวย จะเพียบพร้อม จะเซ็กซี่และดูดีทุกกระเบียดนิ้ว เรียกว่าสาวๆ นางแบบหรือดาราต่างก็ชิดซ้ายตกเวทีกันหมด แต่ว่า...รูปร่างสวยๆ จะช่วยให้หมอนั่นหน้ามืดตาถั่วจนถึงขั้นยกเงินสามร้อยล้านให้ฟรีๆ โดยที่ไม่เสียอะไรเลยน่ะหรือ น้ำหน้าอย่างเขาคงไม่ปล่อยให้คนสวยๆ อย่างเธอหลุดลอยจากเงื้อมมือไปง่ายๆ แน่
“ถึงแล้วจ้ะ”
คำบอกกล่าวพร้อมกับเรียวแขนที่ถูกเขย่าทำเอาร่างบางสะดุ้ง ดวงตากลมโตได้แต่มองอาคารยักษ์ใหญ่ตรงหน้าตาแทบไม่กะพริบ ผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ด้านใน รถบรรทุกวิ่งเข้าวิ่งออกเป็นว่าเล่น ป้ายตั้งตระหง่านว่าสเตอร์ลัมล์ที่กระทบสายตากำลังทำให้รัมย์สุดาได้แต่ลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก นี่เธอต้องลงมืออ่อยเจ้าของเหล้ายี่ห้อนี้จริงๆ น่ะหรือ
“เรามาถึงเป้าหมายแล้วนะเพื่อนเลิฟ” อิสตรีบอกพลางยิ้มกว้างอย่างมุ่งมั่น
“เราต้องทำจริงๆ หรือเดหลี...ถ้าเขาจับได้ว่าเราหลอกเขาล่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะเอาคืนอย่างไรบ้าง”
“ไม่ต้องห่วงหรอก...เพราะเขาไม่มีวันรู้ทันผู้หญิงสวยๆ อย่างหยาดฟ้าแน่...มั่นใจหน่อยนะจ๊ะเพื่อนรัก”
อิสตรียิ้มให้กำลังใจเพื่อน ก่อนจะบอกเล่าคร่าวๆ “เราไปสืบเรื่องผู้ชายคนนี้มาบ้างแล้ว เขาเป็นนักธุรกิจผู้เคร่งขรึม ชอบทำงาน และก็ไม่สนใจใคร ผู้หญิงที่เขาจะมีสัมพันธ์ด้วยต้องผ่านการเลือกสรรจากคนสนิทเท่านั้น แต่เราคงเข้าทางนั้นไม่ได้ ตอนนี้...ความบังเอิญเท่านั้นที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย นายคุณรอสส์จะเข้ามาที่บริษัทเวลาเก้าโมงตรง ด้วยรถเอสยูวีคันใหญ่ มีคนสนิทสองคน เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปโดยเร็วที่สุดก็ต้องยอมเสี่ยงนะจ๊ะเพื่อนรัก”
“ยังไงหรือเดหลี” คิ้วเล็กสวยได้แต่ย่นเข้าหากัน
“เดินลงไปให้รถหมอนั่นชนซะ! หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ”
“หะ! เดหลีจะให้หมอนั่นฆ่าเราหรืออย่างไร”
“เอาน่า...เจ็บตัวนิดหน่อยเอง ลองหน่อยเถอะนะ ถ้าจะทำให้เขาตกหลุมพรางของเรามันก็มีวิธีนี้เท่านั้นแหละ เวลาเรามีน้อยนะหยาดฟ้า...ถ้าจะรีรอตั้งแต่โยนผ้าเช็ดหน้าให้เก็บน่ะมันต้องสายไปแน่ๆ เจ็บตัวนิดหน่อยให้เขาดูแล รับรองว่าความสัมพันธ์จะก้าวล้ำไปไกลมาก” หว่านล้อมเพื่อนรักไปแล้ว ก็เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือพร้อมทำตาโต “ตายแล้ว....อีกไม่กี่นาทีก็จะเก้าโมงแล้ว รีบๆ ลงจากรถ แล้วก็เดินเหมือนคนจะเป็นลมไปที่หน้าบริษัทของหมอนั่นได้แล้วเพื่อน เดี๋ยวไม่ทันการ...” ว่าพลางเร่งเร้าเพื่อนรัก แต่เมื่ออีกฝ่ายยังนั่งแข็งทื่อ ก็เป็นฝ่ายก้าวลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้ มือบอบบางประคองแก้มนุ่มทั้งสองข้างเพื่อเรียกสติเพื่อน “ท่องไว้นะหยาดฟ้า...ว่าต้องอ่อย ยั่วยวน ยิ้มสวยๆ ทำหน้าเซ็กซี่ๆ เข้าไว้ เพื่อให้ผู้ชายคนนั้นอยู่ใน
กำมือ แล้วหยาดฟ้าก็จะสมหวังในทุกๆ เรื่อง”
“แต่...
“สู้ๆ นะจ๊ะ”
บอกไปแล้วก็โบกมือบ๊ายบายให้ แต่เมื่อเพื่อนสาวสุดเลิฟยังยืนตัวแข็งทื่อพอๆ กับรถของใครบางคนกำลังแล่นเข้าสู่อาณาจักรสเตอร์ลัมล์ อิสตรีก็สูดหายใจเข้าปอดลึก แล้วผลักเพื่อนรักเบาๆ ให้หล่นจากฟุตปาธ หลังจากนั้นเสียงเบรกรถก็ดังอื้ออึงจนไม่กล้าหันไปมอง ได้แต่วิ่งกลับขึ้นรถแล้วเหยียบคันเร่งออกไปด้วยท่าทีเร่งรีบ ตลอดเวลาก็คอยภาวนาให้เพื่อนรักปลอดภัย จากระยะที่ออกแรงผลักมันก็ไกลพอ เชื่อว่ารถคันนั้นคงไม่ชนเพื่อนของเธอจนสมองเละแน่ เมื่อเหลือบมองกระจกก็ได้แต่ถอนใจ เพราะตอนนี้ร่างของเพื่อนรักกำลังถูกใครบางคนประคองไว้ ไม่ผิดแน่...เพราะผู้ชายคนนั้นคือ รอสส์ รชต สเตอร์ลัมล์ เจ้าพ่อน้ำเมารายยักษ์ใหญ่ของโลก
“ขอโทษนะหยาดฟ้า...สู้ๆ นะเพื่อนรัก”
พึมพำขึ้นเพียงเท่านั้น ก็เอาแต่กลอกตาไปมาอย่างกลุ้มๆ ไม่รู้ว่าการตัดสินใจเมื่อครู่จะผิดพลาดหรือเปล่า แต่จะให้เธอกลับไปแก้ไขมันคงไม่ทันการเสียแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าคุณหนูหยาดฟ้า รัมย์สุดา ฤทธิกรวดีจะประสบความสำเร็จ ในการยั่วนักธุรกิจผู้หล่อเหลาให้ตกอยู่ภายในกำมือได้ในเร็ววัน อย่างน้อยๆ ก็ภายในหนึ่งเดือนเถอะ!
ส่วนคนที่ต้องแบกรับหน้าที่อ่อยผู้บริหารหนุ่มแห่งสเตอร์ลัมล์น่ะหรือ ตอนนี้ร่างบางกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน นอกเสียจากรู้ว่าเขาคือเป้าหมาย คือผู้ชายที่จะทำให้ฐานะแห่งบ้านฤทธิกรวดีกลับมามั่งคั่งเหมือนเดิม แต่สภาพของเธอซึ่งไร้สติอยู่ตอนนี้คงไม่มีปัญญาจะลุกขึ้นมายั่วยวนให้เขาลุ่มหลงได้หรอก นอกเสียจากสลบเหมือดโดยมีอ้อมอกอุ่นๆ ให้ซุกซบเท่านั้น
นาทีนี้รอสส์ รชต สเตอร์ลัมล์ นักธุรกิจหนุ่มผู้คร่ำหวอดในวงการน้ำเมาวัยสามสิบห้าปี กำลังจับจ้องเจ้าของดวงหน้าสะสวยซึ่งหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนด้วยท่าทีแปลกๆ เมื่อสักครู่ภาพที่เขาเห็นก็คือ จู่ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็ถูกผลักให้ตกจากฟุตปาธ โชคดีไม่น้อยที่รถของเขาไม่ชนร่างเล็กบางจนมีเลือดตกยางออก เท่าทีสำรวจดูคร่าวๆ ก็แค่หมดสติไปเพราะความตกใจเท่านั้น ก็ได้แต่หวังว่า ทันทีที่พาขึ้นไปพักบนห้องทำงานของเขา เธอจะฟื้นคืนจากอาการที่เป็นอยู่
ตั้งแต่อุ้มร่างบางขึ้นมานอนนิ่งๆ อยู่บนตัก จนตอนนี้รถเคลื่อนเข้ามาจอดสนิทบริเวณหน้าอาคารยักษ์ใหญ่ นัยน์ตาคมกล้าสีน้ำข้าวก็ยังคงจับจ้องเรียวปากอิ่มชื้นอยู่ไม่วาง เครื่องหน้าทรงผมของเธอก็ไม่ได้ถูกตกแต่งจนเกินงามเลยสักนิด ออกจะดูเป็นธรรมชาติมากด้วยซ้ำ ร่างกายบอบบางที่เขาสัมผัสได้ในเวลานี้ก็ดูมีน้ำมีนวลจนชวนให้หัวใจแกร่งสั่นคลอนอย่างประหลาด แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่มีวันลุ่มหลงผู้หญิงที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรองจากสองบอดี้การ์ด ดังนั้นขอเพียงเธอฟื้นคืนสติเขาจะส่งเธอกลับบ้านทันที
ทันทีที่ลูกน้องมือซ้ายนามมาตัน เคิร์ก ในวัยสามสิบปีเปิดประตูรถให้ ชายหนุ่มก็กระชับร่างแน่งน้อยในอ้อมแขนให้แน่น แล้วก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เพียงนัยน์ตาคมกล้าตวัดมองเหล่าบรรดาพนักงานและคนที่หยุดชะงักกับการเห็นชายหนุ่มอุ้มสตรีก็เริ่มอันตรธานหนี ทิ้งให้รอสส์อุ้มร่างบางก้าวเข้าสู่อาณาจักรสเตอร์ลัมล์ได้โดยง่ายดาย
“ให้ผมเรียกหมอมาดูอาการคุณผู้หญิงคนนี้ไหมครับ” บอดี้การ์ดมาดเข้ม ครองตำแหน่งมือขวาคนสนิทก้าวมายืนตรงหน้า กาสัน เคิร์ก วัยสามสิบหกปีก้มหน้าอย่างรอรับคำสั่ง
“ไม่ต้องหรอก เธอก็แค่เป็นลม ให้นอนพักสักครู่ก็คงจะหายดี...หลังจากนั้นค่อยส่งเธอกลับบ้าน”
กล่าวจบก็นำพาร่างกายสมบูรณ์แบบราวกับเทพบุตรกรีกเดินเข้าสู่ลิฟต์ ซึ่งมุ่งตรงขึ้นสู่ชั้นสูงสุดของอาคาร ที่แห่งนี้คือดินแดนส่วนตัวห้ามใครบุกรุกเป็นอันขาด เพราะมันเป็นทั้งห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ห้องอาหาร และก็ห้องนอนในตัว แปลกเหลือเกินปกติชายหนุ่มไม่ให้ใครเข้าไปเยือนง่ายๆ โดยเฉพาะกับสตรีที่ไม่ผ่านการประเมิน ดังนั้นคนในอ้อมอกจึงเป็นคนแรกในรอบหลายปี
ก้าวเท้าเข้ามาในห้องส่วนตัวได้ รอสส์ก็ค่อยๆ วางร่างเล็กไว้บนโซฟาตัวใหญ่ ร่างกระเปี๊ยกเดียวของเธอช่างน่าขำยิ่งนัก ดูอะไรก็เล็กไปหมด ทว่าความขาวนวลเนียนทำเอาตาพร่าไปทีเดียว ไหนจะหน้าอกไซส์มินิแต่ดูคัดตรึงซึ่งชวนให้น่าสัมผัส แต่เด็กก็ยังเป็นเด็ก และคนอย่างเขาไม่มีวันกินเด็กตัวน้อยๆ ดูไร้เดียงสาคนนี้เด็ดขาด
ร่างแกร่งหยัดยืนเต็มความสูง ผละห่างจากร่างแน่งน้อยช้าๆ ก้าวไปยังโต๊ะทำงานทิ้งสะโพกแนบกับขอบโต๊ะ นัยน์ตาสีน้ำข้าวจับจ้องร่างบางผู้หมดสติอยู่ไม่วาง ปลายนิ้วยาวขยับลูบไล้ปลายคางสากได้รูปอย่างพินิจพิเคราะห์ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร มันเป็นเพียงความบังเอิญ หรือการจงใจของใครบางคน ทำไมจู่ๆ ผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้ประวัติมาก่อนถึงมาโผล่หน้าอาณาจักรสเตอร์ลัมล์ของเขา จะว่าไปเธอคงไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุนี้หรอก เพราะถ้าจังหวะผิดพลาดเพียงนิด เธออาจจะกลายเป็นศพไปเลยก็เป็นได้
ความคิดของผู้บริหารหนุ่มหยุดชะงักลง เมื่อประตูถูกเปิดเข้ามาด้วยน้ำมือของมาตัน เคิร์ก หมอนี่ทำตัวไร้มารยาทเหมือนเคยนั่นแหละ หนำซ้ำยังทำหน้ายิ้มๆ ชวนให้อยากจะซัดด้วยกำปั้นสักหมัดสองหมัด
“มีอะไร?” เสียงกร้าวกระด้างร้องถามขึ้น นัยน์ตาคมกล้าจับจ้องท่าทีของคนสนิทตาไม่วาง
บอดี้การ์ดหน้าหล่อขี้เล่น แต่ฝีมือระดับพระกาฬฉีกยิ้มกว้างๆ เอาใจ พร้อมกับยกชามแก้วใบโตกับผ้านุ่มสีขาวให้ดู
“ผมว่า...เช็ดหน้าเช็ดตาให้คุณผู้หญิงสักหน่อย อาการเธอคงจะดีขึ้นครับ” บอกไปแล้วก็ก้าวดุ่มๆ เข้าใกล้คนหมดสติ ทว่ายังไม่ทันได้ซับผ้านุ่มไปตามดวงหน้า มาตันก็ต้องเสียวสันหลังวาบๆ เมื่อเจ้านายบังเกิดเกล้าขยับมายืนซ้อนหลัง
“เอ่อ...มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ออกไป! ฉันจะจัดการเอง”
“จะดีหรือครับ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ให้ผมทำเองก็ได้”
การ์ดหนุ่มตอบด้วยท่าทีซื่อๆ แต่ต้องถอยออกจากห้องแทบไม่ทันเมื่อเจอดวงตาเอาเรื่อง ซึ่งชวนให้หัวใจแทบวายในไม่ช้า ออกมาแล้วก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าทำไมจู่ๆ ท่านประธานผู้ไม่เคยสนใจใคร ถึงได้ขอดูแลผู้หญิงร่างเล็กคนนั้น
ทันทีที่ภายในห้องเหลือแค่เพียงตัวเองกับคนหมดสติ กายแกร่งก็ค่อยๆ หย่อนสะโพกลงนั่ง ด้วยขนาดโซฟาที่ร่างบางยึดไปมากกว่าครึ่งทำให้รอสส์ต้องเบียดก้นใหญ่นั่งเคียงข้างเอวคอด นัยน์ตาคมกล้าหันไปจับจ้องผ้าเช็ดหน้าเจ้าปัญหา ซึ่งเขาไม่เคยใช้มันเพื่อดูแลใครมาก่อน เมื่อจับมันและบิดให้น้ำแห้งหมาดก็ดูเก้ๆ กังๆ ยิ่งเวลาซับผ้าลงกับดวงแก้มขาวซีดก็ดูจะหนักมือไปบ้าง สิ่งที่กระทำในตอนนี้ดูไม่เหมือนกับผู้กุมบังเ**ยนเครื่องดื่มมึนเมาแห่งสเตอร์ลัมล์เอาเสียเลย
ครั้นสิ้นสุดการซับหน้าให้กับคนหลับใหล ปลายจมูกโด่งเป็นสันก็พรูลมหายใจทิ้งหลายระลอก แถมยังจ้องผ้าซับหน้าสีขาวตาไม่วาง มุมปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มขำอย่างไม่เชื่อว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรงี่เง่าแบบนี้ แต่น่าประหลาดใจเหลือเกิน ที่เธอทำให้คนยิ้มยากอย่างเขามีรอยยิ้มตลกๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้เขาน่าจะนั่งหน้าเครียดอยู่กับงานอันกองพะเนิน
เมื่อคิดถึงงาน ช่วงขาแข็งแรงก็นำพาร่างสูงในชุดสูทสุดหรูก้าวกลับไปยังเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ มือและดวงตาคมกล้าหันกลับมาสนใจเอกสารที่ต้องสะสางให้เสร็จ ก้มหน้าก้มตาทำงานได้เพียงไม่กี่นาที ก็ต้องส่ายหน้าให้กับตัวเอง เพราะว่างานตรงหน้ามันไม่น่ามองเท่ากับหุ่นเล็กๆ ตัวขาวๆ น่าทะนุถนอมอย่างคนเบื้องหน้าเลย ดังนั้นเพื่อยุติอารมณ์บางอย่างในกายให้สงบลง ชายหนุ่มจึงหมุนเก้าอี้หันหลังให้กับร่างบาง แล้วมองผ่านกระจกบานกว้างออกไปไกลอย่างไร้จุดหมาย
หารู้ไม่ว่า คนที่สลบมานานมีสติฟื้นคืนตั้งแต่ถูกผ้าเย็นๆ ซับหน้าตั้งแต่หนแรก ทว่าที่เธอไม่ยอมลืมตาขึ้นมานั่นก็เป็นเพราะไม่รู้จะจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไรต่อไปดี นึกเคืองเพื่อนรักนัก ทำไมถึงได้ผลักเธอลงไปให้รถของเขาเกือบชนเช่นนั้น ดีนะ! ที่รอดมาได้ ไม่ได้แขนขาหักพิกลพิการหรือตายไป ไม่อย่างนั้นละก็ การกอบกู้ตระกูลฤทธิกรวดีต้องมีอันจบเห่ไปแน่