เสียงนาฬิกาที่ตั้งเอาไว้ตอนตีห้าแผดเสียงร้องขึ้น ทำให้ร่างเล็กที่นอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบางๆ สะดุ้งลุกขึ้นนั่ง
ดอกแก้วในวัยย่างยี่สิบปีรีบลงจากเตียงอย่างรีบร้อน เพราะหน้าที่ของตัวเองก่อนที่จะไปโรงเรียนนั่นช่างมากมายเหลือเกิน
ทั้งหุงข้าว เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเช้า และก็ต้องเตรียมอาหารเช้าเมนูยากๆ ที่ภูวดลต้องการกินก่อนไปทำงานให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนที่เขาจะลงมาจากห้องนอน
ภูวดลเกลียดขี้หน้าหล่อน...
หากเขาฆ่าหล่อนได้คงทำไปแล้ว...
แต่เขาไม่ผิดหรอก...
คนที่ผิด คนที่บาปคือพ่อของหล่อนต่างหาก ถ้าพ่อไม่ทรยศ เรื่องพวกนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น และหล่อนก็คงไม่ต้องมารองรับอารมณ์ร้ายๆ ของภูวดลแบบนี้
น้ำตาแห่งความโศกเศร้าไหลคลอขอบตาทั้งสองข้าง แต่หญิงสาวก็รีบป้ายทิ้ง และก็รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำ
หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว หล่อนก็รีบออกจากห้องนอนเล็กๆ ซึ่งเล็กที่สุดในเรือนคนรับใช้ มุ่งหน้าไปยังตึกใหญ่เพื่อเตรียมตัวทำอาหาร
คนรับใช้ของที่นี่มีมากมาย แต่ทุกคนไม่กล้าช่วยเหลือหล่อน เพราะหากภูวดลจับได้ จะต้องถูกไล่ออกสถานเดียว
แต่หล่อนชินกับการกลั่นแกล้งให้ทำงานหนักๆ แบบนี้จากภูวดลแล้วล่ะ
ก็จะไม่ให้ชินชาได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อหล่อนเผชิญหน้ากับความใจร้ายของเขามาตั้งเกือบสิบปีแล้วนี่นา
กลีบปากอิ่มคลี่ยิ้มหยันให้กับโชคชะตาที่อาภัพของตัวเอง ขณะเปิดประตูห้องครัวเข้าไปเตรียมอาหาร
หล่อนต้องอดทน...
อดทนต่อความใจร้ายของภูวดลจนกว่าเขาจะยกโทษให้กับพ่อ และเมื่อวันนั้นมาถึง หล่อนคงได้พบกับอิสรภาพเสียที
หลังจากเตรียมอาหารเช้าให้กับภูวดลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดอกแก้วก็ต้องรีบขึ้นไปบนห้องนอนของภูวดลเพื่อเตรียมชุดทำงานให้กับเขา
ก๊อก ก๊อก
หล่อนเคาะประตูสองครั้ง แต่กลับไม่มีเสียงเจ้าของห้องตอบกลับมา
หญิงสาวยืนลังเลอยู่ชั่วอึดใจก็ผลักประตูไม้ให้เปิดออก และก้าวเข้าไปข้างใน
บนเตียงนอนกว้างว่างเปล่า...
ดอกแก้วเลื่อนสายตามองไปรอบๆ ห้อง ก็ไม่พบภูวดล จึงเดาว่าเขาน่าจะกำลังอาบน้ำอยู่
หล่อนรีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านหลังประตูบานสไลด์ หยิบกางเกง เสื้อเชิ้ต เสื้อสูท เข็มขัด เนกไท และถุงเท้าสีดำมาวางไว้บนเตียง
พอทำทุกอย่างเสร็จแล้วก็จะรีบออกไปจากห้องนอนของภูวดล แต่เขาก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาเสียก่อน
ภูวดลมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบสะโพกเพรียวเอาไว้เท่านั้น
ดอกแก้วหน้าแดง และก็รีบก้มหน้างุดด้วยความกระอักกระอ่วนใจ
ภูวดลยิ้มหยัน เมื่อเห็นศัตรูตัวน้อยยืนตัวสั่นอยู่ข้างเตียง เขาขยับเท้าเข้าไปหยุดตรงหน้า และเอานิ้วบีบคางเล็กแรงๆ เพื่อให้หล่อนเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตา
“เด็กใจแตกอย่างเธอ อายเป็นด้วยหรือ ดอกแก้ว”
ดอกแก้วเจ็บระบมที่คางมาก แต่ก็ไม่กล้าที่จะสะบัดหน้าหนี ดวงตาของหล่อนแดงระเรื่อเพราะกำลังจะร้องไห้
“พี่ภู... ปล่อยคางแก้วเถอะค่ะ แก้วเจ็บ...”
“หึ เจ็บอะไร จับแค่นี้เจ็บ เวลาเธอถูกไอ้พวกนั้นรุมกระแทก ไม่เห็นร้องว่าเจ็บเลยล่ะ”
น้ำตาเม็ดโตๆ ไหลออกมาจากสองดวงตาของดอกแก้ว หล่อนมองคนพูดอย่างขอความเห็นใจ
“พี่ภูก็รู้ว่าแก้วไม่ได้เป็นแบบนั้น”
“หึหึ มันจะไม่เป็นแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อภาพของเธอมันว่อนไปหมดน่ะ”
“พี่ภูวางยาแก้ว แล้วก็จัดฉากพวกนั้นขึ้นมา อย่าคิดว่าแก้วไม่รู้นะคะ”
ภาพพวกนั้นที่ภูวดลถ่ายเอาไว้ มันทำให้ชีวิตของหล่อนดำดิ่งลงสู่นรกเลยทีเดียว เพราะเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยเชื่อภาพพวกนั้นทั้งหมด ทุกคนตราหน้าว่าหล่อนร่าน เป็นผู้หญิงไม่ดี
ภูวดลหัวเราะชอบใจ ไม่สะทกสะท้านกับคำกล่าวหาที่ดอกแก้วพูดเลยสักนิด
“ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ ก็ตายตามพ่อเธอไปซะสิ ดอกแก้ว”
ดอกแก้วพูดไม่ออก พอภูวดลเอ่ยถึงบิดาขึ้นมา หนี้ชีวิตที่ติดค้างเขาเอาไว้ก็กลับมาครอบงำจิตใจจนมืดมิด
“พี่ภูจะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ยังไงแก้วไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์อยู่แล้ว”
“รู้ตัวก็ดีแล้วนี่”
ภูวดลมองหล่อนด้วยสายตาดุดันเต็มไปด้วยไฟแค้น
เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่ไฟแค้นในดวงตาของเขาจะดับลงเสียที
“วันนี้ไม่ต้องเรียน”
“มะ ไม่ได้นะคะ แก้วมีสอบ”
“อย่าขัดคำสั่งของฉัน ดอกแก้ว”
“แต่ว่า... ถ้าแก้วไม่ไปสอบ คะแนนตอนปลายภาคก็จะไม่ดีนะคะ”
“นั่นมันปัญหาของเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉัน”
ดอกแก้วร้องไห้สะอึกสะอื้น และก็คุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ภูวดล
“แก้วรู้ว่าพี่ภูเกลียดแก้วแค่ไหน... แต่ครั้งนี้แก้วขอร้องนะคะ ให้แก้วไปเรียนเถอะค่ะ แก้วจะรีบกลับมา...”
ภูวดลเบือนหน้าหนีใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาของดอกแก้ว
ใจแข็งไว้ไอ้ภู...
อย่าใจอ่อนกับลูกสาวของไอ้คนทรยศเด็ดขาด!
“พี่ภู... ให้แก้วกราบก็ได้ค่ะ”
เขาหันกลับมาแล้วก็พบว่าดอกแก้วก้มลงกราบที่พื้นเรียบร้อยแล้ว
ภูวดลรีบชักเท้าหนี ก่อนจะเดินห่างออกไป
“จะไปไหนก็ไป รีบไปให้พ้นหน้าฉันเลย ดอกแก้ว”
“พี่ภู... ยอมให้แก้วไปสอบใช่ไหม” ดอกแก้วยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
“ไสหัวไป ไปให้พ้น!” เขาแผดเสียงสั่งดังลั่น
ดอกแก้วสะดุ้งตกใจ รีบลุกขึ้นและวิ่งหนีออกไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่ออยู่ตามลำพังภายในห้องนอน ภูวดลก็ถอนใจออกมาแรงๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองไปมา
“ทำไมมึงต้องใจอ่อนวะ ไอ้ภู!”
ชายหนุ่มรู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกินที่ใจอ่อนกับดอกแก้ว
“ถึงเธอจะเรียนจบ แต่คนอย่างเธอก็ไม่มีวันได้ทำงานดีๆ หรอก ดอกแก้ว”
ภูวดลคลี่ยิ้มร้ายกาจ เพราะตอนนี้เขาได้วางแผนชีวิตที่โรยด้วยหนวดหนามเอาไว้ให้ดอกแก้วเรียบร้อยแล้ว