“อวดดี!” เคลย์ริกตะคอกใส่เสียงเหี้ยม ใบหน้าดุดันน่ากลัว
“ไอ้บ้า ไอ้เลว ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามาตะคอกใส่ฉัน” มธุรายกมือขึ้นมาทุบตีกายแกร่งแบบไม่เลือกที่ ขอเพียงได้ล้างแค้นที่เขาบีบแขนเธอจนแทบหัก
ปากหยักร้ายกระตุกยิ้มนิดๆ เมื่อเจ้าของความนุ่มนิ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาขุ่นขวาง
“เนื้อนมไข่ดีแบบนี้นี่เอง ผู้ชายถึงได้ชอบ” เคลย์ริกหลุบตามองอกอวบ มธุราหน้าเห่อร้อนเมื่อถูกจดจ้อง
“ไอ้คนลามก โรคจิต เลิกมองฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“เคยชินแต่ให้ทำล่ะสิ” เขาขยับปากยิ้มอย่างดูแคลน
“พูดบ้าอะไร” มธุราโต้กลับเสียงเขียว ขยับมือที่ถูกรวบไว้หยุกหยิกๆ แต่ก็ไม่หลุดจากพันธนาการเสียที จนเธอชักหงุดหงิดคนปากเสียไม่ได้
“ฉันชอบจริงๆ ผู้หญิงปากเก่งอย่างเธอ แต่อย่างเธอ...คงไม่ได้เก่งแค่ปาก” เคลย์ริกหยุดพูดแล้วขยับตัวออกห่างเล็กน้อย แล้วใช้สายตามองสำรวจร่างเล็ก ประหนึ่งกำลังจ้องมองสินค้า อึดใจปากหยักก็เผยยิ้มที่คนเห็น เกลียดแสนเกลียด เพราะเธอไม่เข้าใจเลยว่าไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้โกรธเคืองตอนไหน เขาถึงได้มากล่าวหา ว่าเธอเป็นผู้หญิงแพศยา แล้วยังมามองเธอ เหมือนเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ด้วยเงิน
“หยุดมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ซะทีไอ้คนเฮงซวย แล้วก็พูดมาว่าฉันไปทำอะไรผิด หรือทำอะไรให้ไม่พอใจตอนไหน ทำไมจะต้องจับฉันมาขังไว้ด้วย”
“ก่อนจะบอก เรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันสักรอบสองรอบก่อนดีไหม” แววตาเขาไม่ได้พูดเล่น แต่คิดจะทำจริง
“ไม่!” มธุราปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดทบทวนให้เปลืองรอยหยักในสมอง ขณะที่คนตัวโตก็กดยิ้มมุมปาก และยังคงใช้สายตาจดจ้องร่างเล็กไม่เลิก ความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้น
“แต่เรื่องสนุกที่ว่าเป็นงานที่เธอถนัดนะ”