Chapter 1 สายตาแห่งความชัง
เสียงดนตรีดังกระหึ่มในผับวีไอพีที่เป็นอันรู้กันว่าผู้มีอันจะกินเท่านั้นที่เข้ามาเที่ยวที่นี่ได้ ‘อามันต์’ ก็เช่นกัน
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดูดุดันที่ใครเห็นก็จำได้ว่าเป็นพระเอกละครตบจูบหลายเรื่อง แถมยังดังทุกเรื่อง! เขานั่งอยู่บนโซฟาท่ามกลางแสงไฟกะพริบในผับ จิบบรั่นดีด้วยมาดตัวโกงมากกว่าจะเป็นพระเอกหนัง จนสาว ๆ ในผับต้องสะกิดกัน แอบกรี๊ดอยู่ไกล ๆ
“นั่นพี่อุ่นใช่มั้ยมึง หล่อฉิบหาย หล่อวัวตายควายล้ม หล่อจนกูน้ำเดินย้อยถึงตีนแล้วเนี่ย”
“เออ มึงจะพูดเสียงดังทำไม เดี๋ยวพี่เขาก็ได้ยินหรอก”
“โอ๊ยยย กูอยากให้เขาได้ยิน ก็อยากได้เขา คืนเดียวก็ได้ กูอยาก ๆ ๆ ๆ อะมึง”
สาวสวยที่เขย่าแขนเพื่อนด้วยสีหน้าสุดเซ็กซี่ทำให้อามันต์หัวเราะหึ ๆ ในคอ เขาได้ยินหมดนั่นแหละเพราะหล่อนนั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ไม่ไกลจากเขามาก
แต่อามันต์ไม่ชอบพวกผู้หญิงที่แล่นมาอ้าขาให้ เขาจะเลือกเอง แทงเอง เฉพาะสาวที่ถูกใจ
ไอ้วันไนท์สแตนด์น่ะมันแน่อยู่แล้วแหละ
ใครมันจะไปโง่ผูกคอตัวเองด้วยแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงานวะ เขาคนหนึ่งล่ะไม่มีวันเอาผู้หญิงคนเดียวซ้ำ ๆ ไปจนตาย มันน่าเบื่อ!
อามันต์กรอกเหล้าเข้าปากไปอีกแก้ว คิดว่าวันนี้เขาคงเฟล ไม่ได้แม่สาวเนื้ออุ่นไปนอนกอดเหมือนเคย แต่เมื่อกำลังเดินผ่านเวทีที่พวกนักท่องราตรีกำลังเต้นกันเมามันส์ ร่างอรชรร่างหนึ่งในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ สวมหมวกปกปิดใบหน้าที่กระโดดขึ้นไปบนเวทีก็ทำให้เขาชะงัก
ไม่ใช่เพราะหล่อนสวยหรอกนะ เขายังไม่เห็นหน้า
แต่เฮ้ย! นี่มันผับวีไอพี ใคร ๆ เขาก็ใส่แบรนด์เนมกันมา แต่ทำไมยัยนั่นถึงสวมเสื้อผ้าไม่มีแบรนด์เลยสักชิ้น แต่เข้ามาที่นี่ได้ล่ะ
อามันต์สงสัยจนต้องหยุดยืนมอง ท่ามกลางเสียงเชียร์ของนักเต้นทางด้านล่าง ดูเหมือนชายหนุ่มจะไปล่าเหยื่อผับอื่นเสียนาน จนไม่รู้ว่าผู้หญิงไร้แบรนด์เนมนั่นกลายเป็นคนดังของผับนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“เม่ยเหม่ย เอาเลย วู้!”
คนดังนามว่าเม่ยเหม่ยถอดหมวกออก เผยให้เห็นแก้มป่อง ๆ ดวงตากลมโต ปากอิ่ม จมูกโด่ง รวมทั้งใบหน้าแล้วดูเป็นสาวน้อยเอาแต่ใจ น่ารักกรุบกริบ ไม่ได้สวยผุดผาด แต่ก็หยาดเยิ้มในแบบเด็กวัยรุ่นไม่เบา
หล่อนโยนหมวกขึ้นจนมันหมุนติ้ว ๆ ร่างบางโยกย้ายไปตามจังหวะเพลง ก่อนจะหมุนตัวรับหมวกที่ร่วงลงมา แล้วเล่นลีลากับหมวกนั่นในแบบอาร์แอนด์บี
อามันต์ยืนมองตาค้างไปเลย
โอ้โฮแฮะ เขาไม่ได้เห็นใครเต้นอาร์แอนด์บีมานานแล้ว พวกผู้หญิงที่กระโดดขึ้นไปบนเวทีส่วนใหญ่เต้นแหกขาแหวกนม ถ้ามีเสาบนเวทีพวกหล่อนก็คงรูดเสาโชว์เพราะคิดว่ามันเซ็กซี่ แต่อามันต์มองว่ามันไม่แพง
เด็กสาวนามว่าเม่ยเหม่ยที่อามันต์มองด้วยสายตาแล้ว อดคิดไม่ได้ว่าอายุถึงเข้าผับได้หรือยัง? หล่อนหมุนตัวอย่างคล่องแคล่วบนเวทีจนชายเสื้อลอยขึ้น เผยให้เห็นเอวคอดกิ่วเล็กนิดเดียว...
อื้อหือ แบบนี้สิ เซ็กซี่!
อามันต์เลียริมฝีปาก มองหล่อนแบบเสือจ้องเหยื่อ รอจนกระทั่งเพลงจบและสาวน้อยกระโดดลงจากเวที หล่อนไฮไฟว์กับเพื่อนหลายคน ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าเขา เพราะชายหนุ่มไม่หลบทางให้
ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมอง สบตากับเขา
อามันต์ยิ้มหว่านเสน่ห์แบบที่หญิงคนไหนเห็นเป็นต้องอ้าขาให้เขาทุกราย ถึงจะระแวงอยู่นิดหน่อยว่าจะพรากผู้เยาว์มั้ยวะ แต่เอาน่า! หล่อนเดินเข้ามาในผับนี้ได้ก็แปลว่าอย่างน้อยอายุสิบแปดปีแล้วล่ะ
ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปใกล้ใบหูของหล่อน เพราะในผับเสียงดังมาก กลัวหล่อนจะไม่ได้ยินเสียงทุ้มของเขาที่สาวไหนได้ฟังก็ต้องสยบระทวยทุกราย!
หืม... กลิ่นกายของหล่อนหอมจัง
มีกลิ่นแป้งเด็กอ่อน ๆ ด้วย จากที่จะทำให้หล่อนเคลิ้ม เขาชักจะเคลิ้มเองแล้วสิ
“ไปต่อกับพี่มั้ย”
ไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวอะไรให้ยุ่งยากมากความ ที่นี่ประเทศไทย ใครจะไม่รู้จัก ‘อุ่น อามันต์’ นักแสดงดาวรุ่งชื่อดังบ้าง!
แต่เมื่อชายหนุ่มยืดกายยืนตรงมองสบตาหล่อน เขากลับได้เห็นสิ่งที่คาดไม่ถึง
นั่นคือสายตาแห่งความเกลียดชังที่สาวน้อยมอบให้เขา หล่อนกำมือแน่น ตัวสั่นเทาเหมือนพยายามระงับอารมณ์โกรธ ก่อนผลักอกเขาให้พ้นทาง แล้วเดินหนีไป
“...”
อามันต์ยืนงงในดงนักเต้น
เขาโดนปฏิเสธ?
เหย... ไม่จริงหรอกน่า
คนอย่างอามันต์เนี่ยนะ ไม่มีทาง! คอยดูสิ หล่อนก็แค่เล่นตัว พอเขาไม่เดินตาม อีหนูนั่นต้องเดินกลับมากระชากเขาไปจูบ แล้วจบคืนนี้กับเขาอย่างเร่าร้อนในโรงแรมชั้นสูงแน่นอน
นับหนึ่งถึงสาม หล่อนต้องเดินกลับมา
หนึ่ง!
สอง!
สาม!
“กรี๊ดด พี่อุ่นจริง ๆ ด้วย ขอถ่ายรูปหน่อยค่า”
ไม่ใช่สาวน้อยคนนั้นที่วิ่งมากอดแขนเขา แต่เป็นกลุ่มสาวน้อยวัยสิบแปดเกือบสิบนางที่มะรุมมะตุ้มขอเขาถ่ายรูปด้วย โดยที่เม่ยเหม่ยอะไรนั่นเดินออกจากประตูทางออกของห้องนี้ไปเฉยเลย
อามันต์ยืนงงกลางดงแฟนคลับ
นี่มันอะไรกันวะ...
เด็กนั่นปฏิเสธเขาเหรอ! ไม่จริงอะ... ไม่มีทางเป็นความจริงโว้ยยยยย!!!
ตริ๊ง!
ตริ๊ง! ตริ๊ง! ตริ๊ง! ตริ๊ง!
อามันต์ตื่นมาเช้านี้เพราะเสียงเตือนของโทรศัพท์ระรัวจนชายหนุ่มต้องควานมือไปทั่วใต้หมอน หาที่มาของเสียง เขาหยีตาสู้แสงแดดยามหกโมงเช้า ทั้งที่เพิ่งกลับถึงบ้านตีสอง เห็นโทรศัพท์มือถือสีดำกำลังสั่นอยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียงต่างหาก ไม่ใช่ใต้หมอนที่เขาชอบวางเสียหน่อย
ตริ๊ง! ตริ๊ง! ตริ๊ง!
โธ่เว้ย! ส่งข้อความมารัวๆ ขนาดนี้ ต้องมีคนตายแน่ ๆ ต้องเป็นเรื่องใหญ่ งานช้าง ระดับก๊อตซิล่าบุกกรุงเทพ ฯ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะโทรกลับไปด่าเสียให้เข็ดเลย
ชายหนุ่มเปิดดูโปรแกรมไลน์ที่เด้งเตือนไม่หยุด ก่อนชะงัก เมื่อเห็นชื่อของคนส่ง