ร่างสูงภูมิฐานสูดหายใจเข้าปอดหนักๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ อย่างหนักใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า การที่เขาหวังดีกับลูกสาวและทำเพื่อธุรกิจของครอบครัวโดยการตอบตกลงยกมนต์นรีให้แต่งงานกับทาคุมิเป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่เขาก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว และยังไม่คิดจะเปลี่ยนใจ
“มีอยู่หนทางเดียวที่พ่อพอจะแนะนำได้ คือให้คุณทาคุมิเป็นคนยกเลิกงานหมั้นหมายและงานแต่งงานด้วยตัวของเขาเอง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงอาทิตย์ ทางครอบครัวของคุณทาคุมิก็จะเดินทางมาเมืองไทยเพื่อสู่ขอลูกแล้ว”
อันที่จริงเรื่องการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถต์มิตซูบิชิจะต้องปิดฉากลงยังไม่หนักใจเท่าการเสียคำพูดสำหรับคนที่ยึดถือสัจจะมากกว่าสิ่งใดอย่างท่านเจ้าสัวอนันต์เลย
เวลาไม่ถึงอาทิตย์เธอจะแก้ปัญหาได้อย่างไร มนต์นรีพยายามหายใจเข้าปอดลึกๆ อย่างพยายามควบคุมอารมณ์ร้อนรุ่มที่พวยพุ่งลุกท่วมกาย เพราะมันรวดเร็วแบบนี้นี่เอง มิน่าเล่า...บิดาของเธอถึงได้รีบร้อนเรียกตัวเธอกลับบ้านอย่างกะทันหันทั้งที่เธอยังไม่หมดเวลาพักร้อน มนต์นรีรู้สึกเสียใจไม่น้อยที่อดคิดไม่ได้ว่า บิดาของเธอไม่ถามความสมัครใจของเธอเลยสักคำ ท่านรักธุรกิจของครอบครับมากกว่าที่จะแคร์ความรู้สึกของเธอเสียอีก
“เตี่ยใจร้าย”
“มินนี่ เตี่ยรักและหวังดีกับลูกจริงๆ นะ”
“ไม่จริง เตี่ยไม่ได้รักหนูมากไปกว่าธุรกิจของเตี่ยหรอกค่ะ”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะมินนี่ เตี่ย...”
คนเป็นพ่อรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยที่จะต้องอธิบายบางอย่างที่ฟังดูเหมือนเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่เพราะคิดตรึกตรองทุกอย่างมานานแล้ว เขามั่นใจว่าถ้ามนต์นรีได้แต่งงานกับผู้ชายอย่างทาคุมิ มนต์นรีจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ
“ถ้าเตี่ยรักหนู เตี่ยก็โทรไปบอกยกเลิกการหมั้นหมายสิคะ”
“ไม่ได้หรอกลูก เตี่ย...เตี่ยได้ลั่นวาจาไปแล้ว ยังไงลูกก็ต้องได้แต่งงานกับคุณทาคุมิ ตามที่เตี่ยกับพ่อของคุณทาคุมิได้ตกลงกันเอาไว้”
ความจริงแล้วมันมีเหตุผลที่ละเอียดอ่อนมากกว่านั้น ที่ทำให้ผู้ที่เป็นแกนนำขับเคลื่อนธุรกิจของพิบูลชัยอย่างท่านเจ้าสัวอนันต์ไม่สามารถที่จะอธิบายเป็นคำพูดให้ลูกสาวฟังได้ทั้งหมด ทั้งที่เขาเองก็ปวดใจไม่น้อยที่ต้องบังคับฝืนใจลูกสาวสุดที่รัก แต่ที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อทุกคนในครอบครัว
มนต์นรีน้ำตาคลอหน่วย แอบน้อยใจบิดาลึกๆ แต่ไหนแต่ไรมาบิดาของเธอตามใจเธอมาโดยตลอด อยู่ๆ ท่านก็มาบังคับให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รักเสียอย่างนั้น เธอทำใจไม่ได้จริงๆ
“หนูไม่แต่ง ยังไงหนูก็ไม่แต่ง”
“ไม่แต่งไม่ได้นะลูก” ร่างระหงหันขวับไปทางต้นเสียงอ่อนโยนนั้นทันที
“คุณแม่! นี่คุณแม่ก็เห็นด้วยกับเตี่ยเหรอคะ” เธอถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ในเมื่อมารดาของเธอตามใจเธอมาตลอดเช่นกัน เรียกว่าแทบจะไม่เคยขัดใจเธอเลยก็ว่าได้
“ใช่ลูก แม่เห็นด้วยกับคุณพ่อ หากลูกไม่เห็นแกพ่อแม่ ก็ให้เห็นแก่ปู่กับย่าที่เป็นทั้งโรคความดันและโรคหัวใจนะลูก หากท่านทั้งสองต้องมารับรู้ว่าธุรกิจที่พวกท่านก่อตั้งมาเป็นสามสิบสี่สิบปีต้องปิดฉากลงในอีกสองสามเดือนข้างนี้ พ่อแม่กลัวว่า...กลัวว่า...”
“หนูพอเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นบอกหนูได้ไหมคะ ว่าอีกกี่วันญาติผู้ใหญ่ของคุณทาคุมิจะมาบ้านเรา” มนต์นรีรู้ว่ามารดาจะพูดอะไรต่อ เธอรักและเป็นห่วงปู่กับย่ามาก พอมารดาเอาท่านทั้งสองมาอ้าง เธอก็คงต้องทำตามคำสั่งอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
“อีกประมาณสามวันจ้ะลูก” คุณมินตราบอกลูกสาวด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เพราะรู้สึกสงสารเห็นใจลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเธอไม่น้อย
นี่หรือคือชีวิตของหงส์ฟ้าที่ใครๆ หลายคนบอกว่าเธอช่างโชคดี สูงส่ง เติบโตขึ้นมาบนกองเงินกองทอง เป็นคุณหนูที่เลิศเลอเพอร์เฟ็คต์ แต่ใครบ้างจะรู้ว่าเวลานี้ เธอกำลังจะเป็นเหมือนหงส์ที่ถูกจับล่ามโซ่ในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ช่างน่าสมเพชตนเองสิ้นดี แต่หงส์อย่างเธอตราบใดที่ยังไม่ถูกเด็ดปีก เธอก็จะขอบินอย่างอิสระตราบเท่าที่ยังมีเวลา
“ถ้าอย่างนั้นสามวันต่อจากนี้ หนูขอใช้ชีวิตอย่างอิสระนะคะเตี่ย คุณแม่” จบคำร่างอรชรก็หันหลังเดินลิ่วๆ ตรงไปยังรถพาหนะคู่ใจสีแดงโฉบเฉี่ยวทันที
“เดี๋ยวมินนี่! ลูกจะไปไหน” คุณมินตราตะโกนไล่หลังลูกสาวเพียงคนเดียวไปด้วยความเป็นห่วง แล้วก็ก้าวฉับๆ ตามไปจนถึงรถ
“มินนี่ ลูกจะไปไหน บอกแม่มาก่อน” ร่างระหงที่กำลังจะก้าวขึ้นรถหันมามองมารดาแล้วบอกด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจว่า
“หนูจะไปหาวิธีที่จะทำให้ธุรกิจของคุณปู่คุณย่าที่ก่อตั้งมาสามสิบสี่สิบปีไม่ต้องปิดฉากลงน่ะสิคะ”
“ยังไง” ร่างสูงภูมิฐานที่ก้าวตามหลังภรรยามาติดๆ ถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมระคนเป็นห่วง
“ตอนนี้หนูยังคิดไม่ออกหรอกค่ะ แต่ไม่เกินสามวัน หนูคิดออกแน่นอน”
จบประโยคเน้นหนัก คนดื้อรั้นที่ถูกตามใจมาจนชินก็ก้าวขึ้นรถปิดประตูแล้วสตาร์ทรถออกไปทันที ปล่อยให้คนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลัง ต้องหันหน้ามาสบตากันด้วยความหนักใจ เพราะพอจะรู้จักนิสัยของลูกสาวดี ว่ามนต์นรีมักจะทำอะไรที่ไม่คาดฝันเสมอๆ และมักจะไปทางด้านลบเสียด้วยสิ
อีกไม่กี่วันทางครอบครัวของทาคุมิก็จะเดินทางมาเมืองไทยเพื่อทำการสู่ขอมนต์นรีอย่างเป็นทางการแล้ว ‘หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น และไม่มีข่าวหน้าหนึ่งออกมาให้พ่อกับแม่ปวดหัวอีกนะ’