คณะอักษรศาสตร์
เป็นอีกวันที่ฉันมีเรียนทั้งเช้าและบ่ายทำให้กระเป๋าผ้าใบน้อยอัดแน่นไปด้วยชีทเรียนแน่นปึกที่พี่รหัสนำมาให้ตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมพูดถึงพี่รหัสแล้วยังไม่ตอบแชทพี่แกเลยเมื่อคืนพี่น้ำอิงพี่รหัสคนสวยทักมาชวนไปเลี้ยงสายแต่ฉันยังไม่ตอบตกลงเพราะพี่แกชอบพาไปเลี้ยงที่ผับซึ่งเธอไม่อยากไป
“อ้าวพินอินมานั่งด้วยกันไหม”
เสียงใสเรียกทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองเมื่อมองไปตามเสียงก็เห็นสองแฝดแตงโมและแตงกวาเพื่อนร่วมสาขาของฉันเอง
“ขอนั่งด้วยคนนะเหมือนที่จะเต็มหมดแล้ว”
“นั่งเลยๆ ยังว่างอยู่”
พวกเธอยิ้มให้ก่อนจะตบเก้าอี้ข้างตัวให้ฉันนั่งพวกเรารู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่งแต่เพราะสองแฝดไม่ได้ให้ความสนิทสนมกับใครและฉันก็ไม่สนิทกับใครพวกเธอเท่าไหร่เราเลยถือว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นแต่ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกัน
แต่ฉันว่าสองคนนี้น่าคบหามากเลยนะเวลาพวกเธอชวนฉันนั่งด้วยหรือบางทีชวนไปกินข้าวฉันเลยสะดวกใจไปไม่ใช่ไม่อยากไปไหนแต่กลัวพวกเธออายเพราะใครต่างก็เรียกฉันว่า ยัยแว่น ไม่ก็ ยัยเนิร์ด
หลังจากเรียนช่วงชาวเสร็จสองสาวฝาแฝดก็ชวนฉันไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วยและฉันก็ตอบตกลงระหว่างทางพวกเธอก็สลับชวนฉันคุยไม่หยุดจนถึงโรงอาหารเราแยกย้ายกันไปซื้อข้าวแล้วกลับมารวมตัวกันที่โต๊ะ
“นี่แตงโมพี่เห็นข่าวนี่รึยัง”
“ข่าวอะไรอ่ะ”
“ก็ข่าวที่ต้าร์โดนติน่าเทไง..ไม่อยากจะเชื่อเลยอ่ะว่าคนแบบพี่ต้าร์เนี่ยหรอจะมาชอบยัยติน่าไม่ใช่แค่คู่ควงหรอ”
“แต่คนแถวนั้นเห็นเยอะเลยนะตอนที่ติน่าควงจัสตินต่อหน้าต่อตาพี่ต้าร์แล้วพี่เขาดูโมโหขนาดนั้น”
“ยังไงฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดี”
“แล้วแต่พี่เลยฉันอุตส่าห์บอกด้วยความหวังดีติ่งคนไหนก็มีแฟนหมดน่าสงสารพี่สาวจังเลย” แตงกวาทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่แตงโมที่ทำหน้ามุ่ยอยู่
ระหว่างที่นั่งกินข้าวไปและฟังสองแฝดคุยกันไปด้วยฉันก็รู้สึกตงิดกับเรื่องที่พวกเธอเล่าขึ้นมาเลยเอ่ยปากถาม
“เอ่อ ฉันขอถามได้ไหม”
“ได้สิพินอิน มีอะไรหรอ”
“เรื่องที่พวกเธอเล่าเนี่ย เกิดขึ้นเมื่อวานหรอ”
“อืมใช่ แล้วข่าวนี้ดังมากเลยนะคนพูดกันให้แซดว่าพี่ต้าร์หนุ่มฮอตแห่งคณะวิศวะโดนเท”
“อืม คนชื่อต้าร์เขา..ย้อมผมสีแดงเพลิงรึเปล่า”
“ใช่แล้ว มีคนเดียวแหละที่ย้อมผมสีแดงแล้วหล่อแบบเกรี้ยวกราดถึงใจน่ะ”
“เว่อร์มากแตงโม เรื่องความหล่อต้องพี่เสือสิ” แตงกวาพยายามจะแย้งแฝดพี่ของเธอ
“แล้วเราจะหาเขาเจอได้ที่ไหน”
“หืม/ห๊ะ” สองแฝดหันมามองอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ม..มีอะไรหรอทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นกัน”
“ก็แปลกใจที่เธอถามถึงพี่ต้าร์ปกติพวกเราไม่เห็นเธอจะสนใจใครเลยอย่าบอกนะว่าชอบพี่ต้าร์อีกคน…ฉันบอกแล้วแตงกวาว่าพี่ต้าร์ฮอตสะบัดใครก็ชอบขนาดพินอินยังชอบเลย..เนอะพินอิน!”
แตงโมแฝดพี่ร่ายยาวก่อนจะหันมาพยักพเยิดกับพินอินที่นั่งหน้าหดเหลือสองนิ้วอยู่ไม่อยากจะบอกเลยว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำจะไปชอบได้ยังไง
“คือไม่ใช่อย่างนั้น..เรื่องเป็นอย่างนี้” หลังจากนั้นฉันก็เล่าให้ฟังว่าตัวเองผ่านไปแถวนั้นและบังเอิญเจอเกียร์ของวิศวะที่คาดว่าอาจจะเป็นของคนชื่อต้าร์เลยอยากจะเอาของไปคืนเพียงเท่านั้น
“อร๊าย นี่มันนิยายที่แกชอบอ่านเลยกวา”
“นั่นสิ พินอินเราขอดูได้ไหม”
“อืม ได้สิ”
ฉันล้วงหยิบเกียร์พร้อมสร้อยออกมาจากกระเป๋าให้กับสองแฝดดูเมื่อพวกเธอรับไปดูและเห็นตัวอักษรด้านหลังก็ฟันธงว่าใช่แน่นอนถึงจะไม่มีใครรู้ก็ตามว่าตัวอักษร T ด้านหลังจะย่อมาจากชื่อเขารึเปล่า
“แกเอาไปคืนพี่เขาเลยพินอิน พี่ต้ารก็คงจะอยู่คณะวิศวะแหละ” แตงโมบอกพร้อมยืนเกียร์คืนมา
“ไม่นะ ได้ยินว่ารุ่นพี่ปีสุดท้ายจะทำโปรเจคกันที่ช็อปของสาขา”
“แล้วแกรู้ได้ยังไงแตงกวา”
“ก็เคยคุยกับพวกรุ่นพี่วิศวะน่ะสิ”
“ทำไมฉันไม่รู้ โกหกรึเปล่า”
“บ้าจะโกหกทำไม”
ฉันอมยิ้มและได้แต่ส่ายหน้าให้กับสองสาวก่อนจะก้มลงกินข้าวต่อเพราะคิดไว้ว่าหลังจากเรียนเสร็จจะเอาไปคืนเขา
คณะวิศวกรรมศาสตร์
แค่เพียงย่างกายเข้าไปในบริเวณคณะนี้ก็เหมือนตัวเองหลุดเข้าไปในโลกที่มีแต่ผู้ชาย ผู้ชาย และผู้ชาย!!
ถึงจะมีผู้หญิงอยู่บ้างแต่ก็เพียงประปรายเท่านั้นร่างบางตัวเล็กตัวน้อยในชุดนักศึกษาถูกระเบียบผมรวบเป็นหางม้าและใส่แว่นตาหนาเตอะดูเฉยในยุคนี้แต่ถ้ามองดีๆ จะเห็นความน่ารักซ่อนอยู่เธอเดินทอดน่องไปบริเวณตึกคณะก่อนจะถามคนแถวนั้นว่าทางไปช็อปวิศวกรรมโยธาไปทางไหน
เชี้ย ผู้หญิงว่ะตัวเล็กปุ๊กปิ๊กจัง
ดูเชยไป ฮ่า ฮ่า
สาวแว่นน่ารักจะตาย
โห ถ้าจะใส่แว่นแล้วดูป้าแบบนี้มึงก็เอาเหอะ
ไม่เว้ย ฮ่า ฮ่า
เสียงสนทนาตลอดทางทำให้ฉันเม้มริมฝีปากแน่นมือก็กำกระเป๋าแน่นไม่ใช่ไม่เคยโดนวิจารณ์นะแต่ว่าระยะเผาขนแบบนี้ทำให้เธอรู้เสียความมั่นใจไปทันที
เฮ้อ!
เพราะทุกวันนี้ใครต่างก็มองคนที่หน้าตา ฐานะส่วนจิตใจก็เอาไว้ทีหลังทำให้เธอดูแตกต่างจากคนอื่นเพียงเพราะเธอไม่ได้ขวนขวายทำหรือเป็นในสิ่งที่ทุกคนเป็น..ดูโหดร้ายจัง
ตุบ
“อ่ะ..ขอโทษค่ะ”
เพราะมัวแต่เดินก้มหน้าทำให้ร่างบางเดินชนกำแพงมนุษย์อย่างแรงจนตัวเธอล้มกระเด็นแต่เมื่อคิดได้ก็รีบลุกขึ้นเอามือปัดกระโปรงและขอโทษขอโพยอีกฝ่ายที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม..ขอโทษอีกครั้งนะคะ”
“ไม่..เธอล่ะ”
“หนูไม่เป็นไรค่ะ”
ฉันเงยหน้ามองรุ่นพี่ผู้ชายตรงหน้าเขาตัวสูงมากใบหน้าหล่อเหลานิ่งสงบเหมือนรูปปั้นในวิหารเรือนผมสีดำเทาทำให้ดูเข้าถึงยาก
เอ๊ะ พี่เขาใส่เสื้อช็อปสีแดงด้วย
“อืม ไม่เป็นไรก็ดีงั้นฉัน”
“ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ พี่พอจะรู้จักพี่ต้าร์ไหมคะ”
นักรบเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อผู้หญิงที่เดินชนเขาถามหาเพื่อนของเขาไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็ต้องแปลกใจเข้าไปใหญ่เพราะเธอดูไม่เหมือนผู้หญิงที่ต้าร์ควงเลย
ไม่ใช่สเปค..แล้วมาหาทำไม
“พี่เขาทำของตกหนูเลยเอามาคืนค่ะ”
พินอินรีบชิงพูดก่อนเมื่อรุ่นพี่ตรงหน้านิ่งเงียบไปนานเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่
“อยู่ทางนู้น ตรงไปเลี้ยวขวา”
“อ่า ขอบคุณมากค่ะ”
นักรบมองตามร่างบางที่ฉีกยิ้มให้และรีบวิ่งไปตามทางที่เขาบอกอย่างร่าเริงทั้งที่ดูกลัวเขาแต่กลับยิ้มให้เขาอย่างสดใส..แปลกคน
เสียงเครื่องจักรและการทำงานดังมาเป็นระยะเมื่อเดินเข้ามาบริเวณช็อปโยธาทุกคนต่างสนใจงานของตัวเองจนไม่ได้สังเกตคนมาใหม่
พินอินเดินมาจนถึงช็อปแล้วแต่ไม่กล้าถามใครเพราะแต่ละคนดูวุ่นวายกับการทำงานมาก จากตอนแรกคิดว่าจะรีบคืนรีบกลับหรือว่าเธอค่อยมาใหม่หางตากลับมองเห็นสีแดงโดดเด่นจากที่ไกลๆ
นั่น..พี่คนที่เธอคุยด้วยเมื่อวาน..พี่ต้าร์
เธอจำแผ่นหลังของเขาได้
คนตัวเล็กวิ่งสี่คูณร้อยเพื่อตามเขาไปโดยที่ไม่รู้ว่าพี่เขาจะเดินไปไหนกันแน่
เธอวิ่งจากอาคารของวิศวะจนตอนนี้พึ่งสังเกตว่าบริเวณนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นอาคารสูงแลดูเก่ามากและที่เธอวิ่งเข้ามาคือตรอกที่ทั้งมืดและแคบมาก
น่ากลัวจัง…
ตึก ตึก
เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังใกล้เข้ามาทำให้เธอยืดตัวขึ้นมือกำแน่นและรวบรวมความกล้าก่อนจะหันไปมองตามเสียง
หมับ!!!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”