บทที่ 4 ศัตรูตัวฉกาจ

1543 คำ
⚠️Trigger Warning⚠️ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงมีการใช้ภาษาคำพูดหยาบคายมีบรรยายฉากอีโรติก มีการบรรยาฉากการทำร้ายร่างกายโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม “ฮึก น..นาย” “หึ ทีนี้ยังจะกล้าลองดีกับฉันไหมยัยจืด” วาโยเอ่ยอย่างย่ามใจเมื่อเห็นเธอตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวยิ่งเห็นเธอกลัวยิ่งทำให้จิตใจของเขามันรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่โดนเธอถ่มน้ำลายใส่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครกล้ากับเขาแบบนี้ดังนั้นเขาต้องปราบพยศเธอไม่งั้นอย่าเรียกเขาว่า วาโย!!! “เอาไงต่อพี่ ผมว่านังนี่ก็ใช้ได้อยู่นะ ดูสิตัวขาวจั๊วะเลย” ลูกน้องอีกคนที่ยืนจ้องพินอินอยู่รีบออกความคิดเห็นทันทีถึงปกติวาโยจะไม่เคยข่มเหงผู้หญิงแต่คนนี้อาจจะมีความสัมพันธ์กับศัตรูตัวฉกาจของวาโยบางทีเขาอาจจะทำก็ได้ “อย่าเสือก!กูไม่ได้ขอความคิดเห็นมึง” “ขอโทษครับพี่” ลูกน้องตอบเสี่ยงอ่อยเมื่อโดนลูกพี่ตวาดใส่จนมันหน้าหดเหลือสองนิ้ว พินอินที่ยืนนิ่งเธอกำลังพยายามคิดหาวิธีหนีออกไปจากตรงนี้แต่ดูเหมือนว่ามันจะริบหรี่เหลือเกิน แต่ถ้ายืนอยู่เฉยก็ไม่รอดเสี่ยงดูแล้วกัน! มือบางค่อยๆ เอื้อมมือลงไปหยิบรองเท้าผ้าใบที่ถอดออกโดยที่ไม่มีใครเห็นอย่างที่บอกเธอตัวเล็กสูงแค่ 159 เองเลยไม่มีใครสังเกตเห็นคนตัวเล็กแบบเธอว่ากำลังทำอะไรเมื่อหยิบได้รองเท้าแล้วเธอก็เอามาซ่อนไว้ใต้กระเป๋าผ้าไว้ไม่ให้คนเห็น นับหนึ่งถึงสามในใจและเล็งไปที่..หัวของไอ้คนชื่อวาโย..เอาละพินอินแกใจเย็นๆ นะ มือกำรองเท้าไว้แน่น!! หนึ่ง….สอง…สาม โป๊ก!! “โอ๊ย!!!ไอ้สัสใครว่ะ” อ้าวใคร? ไม่ใช่เธอนะรองเท้ายังอยู่ในมืออยู่เลย วาโยยกมือกุมหน้าผากที่ตอนนี้มีของเหลวสีแดงไหลลงมาอย่างโมโหหมาตัวไหนมันลอบกัดเขากันก่อนจะตวัดสายตามองยัยหน้าจืดที่ยืนโง่โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำเขาหรอก! เขาสะบัดหน้าหนีท่าทางขี้กลัวแบบนั้นจะมีปัญญาทำอะไรได้และทิศทางของก้อนหินก็มาจากทางออกซอกตึก “โทษทีมันหลุดมือ” น้ำเสียงยียวนแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ไอ้ต้าร์ ศัตรูตัวฉกาจของเขาวาโยกัดกรามแน่นพลางยกมือกุมปากแผลไม่ให้เลือดมันไหลไปมากกว่านี้ “ไอ้สัสมึงลอบกัดกู!” “เปล่า ก็บอกว่ามันหลุดมือไง” วาโยคิ้วกระตุกทันทีนี่แหละเพราะมันเป็นแบบนี้เขาเลยเกลียดมันยิ่งท่าทางอ้อนมืออ้อนตีนของมันยิ่งน่าตบก่อนที่เขาจะคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมไอ้ต้าร์มันได้มาทั้งที่ตอนแรกบอกจะไม่มาเขาเหลือบตามองยัยจืดก่อนคว้าเธอมาใกล้ “อ่ะ..น.นาย.จะทำอะไร” แรงกระชากของเขาทำให้ตัวเธอเซถลาเข้ามาชนอกแกร่งจนเกิดเสียงดังปั๊ก!ไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็ใช้แขนอีกข้างกอดรัดตัวเธอไว้แน่นจนแทบขยับไม่ได้ ไอ้บ้าท่านี่มันล่อแหลมเกิน! “เงียบไปแล้วอยู่นิ่งๆ อย่าดิ้น!” วาโยก้มลงมากระซิบริมฝีปากเขาแทบชิดใบหูของเธอ “แล้วมึงมาทำอะไร ไหนบอกจะไม่มาแล้ว” “แค่ผ่านมา” ต้าร์ยกยิ้มมุมปากจ้องมองศัตรูต่างสถาบันที่เวลามันว่างจะให้คนมาท้าเขาต่อยตีอยู่เรื่อยโคตรไร้สาระวันนี้ก็เหมือนกันเขามารอนานแล้วแต่เจอกับยัยเด็กนั่นพอดีเลยลืมนัดและกลับไปที่ช็อปแต่นึกขึ้นได้ก่อนเลยกลับมาที่นี่อีกครั้ง ไม่นึกว่ามันจะกล้าเล่นงานคนอื่นจริงๆ พร้อมส่งสายตาคาดโทษไปให้เธอที่ยืนตัวสั่นอยู่พินอินที่เห็นรุ่นพี่หนุ่มทำจ้องอย่างนั้นก็งุนงงว่าเธอทำอะไรผิด “อาฮะ ก็นึกว่าจะมาช่วยคนแต่ถ้ามึงแค่ผ่านมามึงก็ไปซะสิกูจะได้เล่นกับยัยนี้ให้สมใจ” “อย่านะ” พินอินย่นคอหนีเมื่อเขาก้มหน้าลงมาใกล้ซอกคอจนเธอขนลุกพลางมองพี่ต้าร์อย่างขอร้องให้เขาช่วยแต่กลับได้รับเพียงสายตาว่างเปล่า ดวงตากลมโตมองเขาผ่านแว่นสายตาริมฝีปากเม้มแน่นอย่างใช้ความคิดในเมื่อเขาไม่ช่วยเธอคงต้องพึ่งตัวเองพลางเหลือบตามองรองเท้าผ้าใบที่ซ่อนไว้ใต้กระเป๋าผ้า “ยังไม่ไสหัวไปอีก..อยากดูคนเล่นหนังสดหรอวะ”วาโยตะโกนเสียงดังพอให้คนหน้าตึกได้ยินแต่เขาก็ยังนิ่งด้วยความอยากเอาชนะมือหนาของวาโยกระชากพินอินเข้ามาใกล้ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาเพื่อชิมริมฝีปากอวบอิ่ม กึก “โอ๊ยย!!!” พินอินรวบร่วมแรงที่มีผลักวาโยออกหลังจากที่เขาพยายามจะจูบเธอเลยกัดปากเขาไปทีหนึ่งและเหตุชุลมุนวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อคนที่ไม่คิดว่าจะช่วยเหลือกันตามมาถีบวาโยและกระชากแขนฉันออกมา ผลัวะ ผลัวะ! “ไปเร็ว” ต้าร์ดึงแขนคนตัวเล็กให้วิ่งไปด้วยกันตอนนี้พวกมันกำลังวุ่นวายกันอยู่ “พวกมึงจะยืนทำเหี้ยไร..ตามมันไป” “ไปพวกเรา” หลังจากทุกคนตั้งสติได้จะรีบเข้าไปดูวาโยแต่โดนลูกพี่ตะคอกให้รีบตามมาสองคนนั้นไปพวกลูกน้องทั้งหลายก็วิ่งตามคนสองคนไปทันทีโดยที่วาโยยืนหัวเสียอยู่ทั้งเจ็บหัวทั้งเจ็บปากเขาคาดโทษสองคนนั้นไว้เรียบร้อยแล้ว!!! แฮก แฮก! ฉันหอบหายใจอย่างแรงตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยวิ่งหนักแบบนี้มาก่อนไม่รู้ว่าวิ่งมาไกลขนาดไหนแต่ดีแล้วดีกว่าโดนคนพวกนั้นทำอะไรก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้วิ่งมาคนเดียว “ขอบคุณนะคะ” “ขอบคุณทำไม” “ก็พี่ช่วยหนูไว้” “เออ กองไว้ตรงนั้นแหละ” ต้าร์ยืนพิงกำแพงตึกและชะโงกหน้าออกมาไปดูสถานการณ์ว่าพวกมันไปกันรึยัง ดีนะยัยนี้ไหวพริบดีเขาเลยมีจังหวะให้ได้เล่นงานไอ้วาโยไม่งั้นคนที่จะโดนเล่นน่ะมันเขาแน่ เขาไม่ใช่ยอดมนุษย์นะที่เจอสิบยี่สิบตีนแล้วจะไม่เป็นอะไร “เอ๊ะ แล้วแบบนี้พวกเขาจะตามมาอีกไหมหมายถึงหลังจากนี้เพราะตอนที่โดนจับพวกเขาพูดเหมือนเข้าใจผิดเลย” “เข้าใจผิด?” “ใช่ค่ะ เขาพูดว่าหนู..เอ่อ..เป็นแฟนพี่” “ห๊า!ฉันกับเธอเนี่ยนะ..จิ!คิดกันได้ยังไงใครจะเอายัยแว่นแบบเธอเป็นแฟนกัน” คำก็แว่น สองคำก็แว่น เธอก็ไม่อยากได้ผู้ชายผมสีแดงเพลิงโดดเด่นเป็นแฟนเหมือนกัน!! “อะไร มองฉันแบบนี้หมายความว่าไงว่ะ” ต้าร์ขมวดคิ้วเมื่อเจอเธอทำสีหน้าใส่แล้วยังเหลือบตามองสีผมเขาอีกอย่าคิดว่าไม่เห็นนะ “เอ่อ เปล่านะคะ” “ดี อย่าให้รู้ว่าแอบนินทาฉัน…พวกมันคงไปแล้วแหละไปเถอะ” “ขอบคุณนะคะ งั้นเราแยกกันตรงนี้นะ” พินอินหันมายกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้งหลังจากที่ก้มสวมรองเท้าผ้าใบที่โชคดีที่ระหว่างทางไม่มีเศษอะไรบาดเท้าเพราะวิ่งเท้าเปล่ามาข้างหนึ่งคงเพราะสถานการณ์บังคับเลยลืมว่าถอดรองเท้าออกอีกข้าง เธอเดินออกไปยังถนนใหญ่เพื่อหาป้ายรถเมล์แต่ต้องชะงักเมื่อรู้สึกเหมือนคนเดินตามเธอเลยหันกลับไปมอง “พี่ก็กลับทางนี้หรอคะ” เป็นพี่ต้าร์ “เปล่า” “แล้ว” “จะไปส่งแต่เธอไม่ฟังฉันพูดก็เดินออกมาก่อนแล้วฉันเลยเดินตามมา” “อ่า ไม่เป็นไรหรอกหนูกลับได้ค่ะ” “จะ-ไป-ส่ง” เขาย้ำคำเดิมก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอที่ยืนเอ๋ออยู่ทำไมพี่เขาต้องไปส่งด้วย “แต่วะ” “บ้านเธออยู่ไหน” “หนูอยู่หอไม่ไกลจากมหาลัยค่ะ” “งั้นก็มาจะไปส่ง” “ก็ได้ค่ะ” เขาพาฉันมายืนรอรถอยู่ริมฟุตบาทแต่ไม่ใช่ป้ายรถเมล์อะไรเลยรอสักพักก็มีรถยุโรปคันหรูขับเข้ามาจอดเทียบก่อนจะมีคนขับรถลงมาเปิดประตูให้พี่ต้าร์เดินเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างเคยชินส่วนฉันก็ยืนนิ่งไม่กล้าขยับ “เธอจะให้ฉันปูพรมให้หรอว่ะ ทำไมไม่ขึ้นมา” “เอ่อ..” “เร็วๆ ยัยแว่น” “ค่ะๆๆ” พินอินรีบขึ้นมานั่งข้างเขาทันทีด้วยความตื่นเต้นจะไม่ใช่เธอเกร็งได้ยังไงนี่มันรถ Rolls-Royce เลยนะชาตินี้ทั้งชาติเธอไม่คิดว่าจะได้มานั่งรถหรูแบบนี้หรอกถ้าไม่ใช่เพราะคนผมแดงนั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่ข้างกันน่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม